“..ฉันหวง ฉันมาทวงของฉันคืน…”

เสียงเพลงยอดนิยมของนักร้องหญิงผู้หนึ่งดังขึ้น ขณะที่ฉันกำลังนั่งอยู่บนรถโดยสาร..

มันทำให้ฉันสะดุดและเงี่ยหูฟังต่อไป...

“ ฉันไม่เคยแย่งของคนอื่น..ผู้หญิงเจ้าชู้ เมื่อรู้อย่าฝืน ช่วยอายสักหน่อยไหม...”


ฉันตั้งใจฟังต่อไปจนเพลงจบลง.. บทเพลงๆนี้ กำลังให้อะไรดีๆกับฉันอีกแล้ว

คงมีใครหลายคน ที่ชื่นชอบในบทฟังเพลง
ไม่ว่าจะเป็นเพลงประเภทใดก็ตาม ..
แต่นอกจากจะฟังเพื่อความบันเทิงหรือสนองอารมณ์ที่ตรงกับตนเองในช่วงนั้นๆแล้ว
เคยนำบทเพลงเหล่านั้นมาคิดพิจารณาถึงความเป็นจริงของชีวิตและสอนใจตัวเองบ้างไหม..

เช่นบทเพลงๆนี้..
“ ..ฉันหวง ..ฉันมาทวงของฉันคืน...”
ผู้หญิงคนนี้กำลังทวงอะไร และอะไรกันนะ ที่เป็นของๆเธอ..

ลองคิดดูดีๆสิ ว่าเรามีอะไรที่เป็นของเราจริงๆบ้าง
อย่าปล่อยให้เนื้อเพลงที่ลอยผ่านหูเรามา ทำให้ใจเรายึดติดว่า..ของนั้นๆ เป็นของเราจริงๆ
เราเกิดมามีอะไรติดตัวมาบ้าง มีสร้อย มีแหวนเพชร มีโฉนดที่ดิน หรือมีคนรักติดตัวมาด้วยหรือ
จึงจะต้องมาทวงคืน

เราเกิดมาไม่ได้มีอะไรติดตัวมาด้วยเลย..
นอกจากอริยทรัพย์และบุญวาสนาที่เคยได้ทำมาแล้ว
ทุกสิ่งที่เรามีในตอนนี้..
ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ แก้วแหวน เงินทอง..
หรือแม้กระทั่งคนรัก
เราได้มาในภายหลังทั้งสิ้น...ซึ่งถือว่าเป็นกำไรชีวิต
ทุกคนเริ่มต้นชีวิตที่ศูนย์เท่ากัน
สิ่งที่หามาได้ทุกอย่างถือเป็นกำไร..เพราะ ไม่ใช่ของๆเราจริงๆ
แม้แต่ตัวเราเอง...เลือดเนื้อที่มีอยู่นี้ ใครสร้างมา
เราสร้างมันมาเองได้หรือ...และมันใช่ตัวเรา ของเราหรือเปล่า

กลับมาที่บทเพลงๆเดิมนี้...
หากตั้งใจฟังดีๆแล้วนำมาเป็นบทเรียนสอนใจ
ไม่ปล่อยให้มันมาปลุกเร้าอารมณ์ อยากทำในสิ่งที่ไม่สมควร
แต่ให้มองในมุมที่สอนให้เรารู้ว่า...
ไม่มีอะไรที่เป็นของเราเลยจริงๆ.. และเราก็ไม่ควรจะยึดติด
หากมีใครมาแย่งคนรักไป
ก็ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น และเราเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทวงอะไรคืน
แต่ให้เข้าใจว่า..
นี่แหละคือธรรมชาติ เป็นธรรมะที่วิเศษที่สุด ซึ่งสอนให้เราเข้าใจถึงความไม่ถาวร
หากสิ่งที่เคยมีอยู่ กลับจะต้องจากลากันไป...
ก็เป็นความจริงอยู่แล้ว.. เพราะทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงเสมอ

แล้วเราล่ะ.. กำลังฝืนความจริงของธรรมชาติอยู่รึเปล่า


ต่อจากนี้ไป หากฟังเพลง...
ก็อย่าปล่อยให้บทเพลงนั้นผ่านเข้ามากระทบหู แล้วผ่านเลยไปอย่างไร้ประโยชน์...
พยายามเก็บเล็ก ผสมน้อย ฝึกคิดพิจารณา และรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ
ชีวิตนี้จะมีความหมายขึ้นมาก...
และความทุกข์ก็จะน้อยลงมากเช่นกัน

ขอบคุณบทความจาก ธรรมะไทย

ขอบคุณและอนุโมทนาบทความดี ๆ ครับ ^__^

จขกท มาทวงอะไรคืนค่ะ ขอบคุณ สำหรับบทความดีที่เอามาฝากนะคะ

อนุโมทนาสาธุนะคะ

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะคุณฮัท

ขอบคุณคุณ hut ค่า เรื่องแบบนี้มันต้องคิดเผื่อและทำใจให้พร้อมก่อนเกิดนะจะได้ไม่เศร้าหมองมากนัก มีภูมิคุ้มกันไว้บ้างจะดีมาก
เราเคยบอกแฟนไปถ้ายูมีกิ๊ก กั๊ก กุ๊ก กึ๊ก ไอก็เซย์กู๊ดบายนะจ๊ะ
ขี้เกียจใช้ผู้ชายร่วมกับหญิงอื่น ถ้ายูอยากไปอยู่กับเขาและเขาอยากได้ยูนะ ยูไปกับเขาได้เลยแบบสะดวกโยธิน ขอแค่มาบอกเราให้รู้เท่านั้นอย่าปิดบังและอย่าอ้างว่าไม่อยากให้เราเสียใจซึ่งมันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือยูอยากไปอยู่กับคนอื่นก็ทำให้ถูกต้อง
แฟนงงค่ะ ถามกลับว่ายูไม่เสียใจไม่อะไรเลยหรือ
เราก็ตอบว่าเสียใจแต่ทำไงได้หละ เราต้องจากตายกันวันยันค่ำ ก็คิดเสียว่ายูจากไปเร็วกว่ากำหนดแต่ไปแบบเป็นๆ แล้วถ้ายูอยากจะไปก็ไม่มีใครห้ามได้นอกจากยูจะไม่ไปเอง
เค้าก็เงียบๆไป ไม่รู้เราไปชี้โพรงให้กระรอกตัวอ้วนๆหรือเปล่า:eek:

อนุโมทนาคุณhut2211ด้วยนะคะ

อย่าไปหลงว่าของฉันดูแล้วเขลา
มันของเราที่ไหนให้สงสัย
ทรัพย์สมบัติที่ท่านเห็นเป็นของใคร
เห็นทิ้งไว้ทุกรายเมื่อตายลง

เห็นด้วยค่ะน้องเจต ยังไงก็ต้องจากกัน ไม่จากเป็น ก็จากตาย
บอกเค๊าว่า ชั้นก็คิดว่าเธอตายไปเร็วกว่าที่คิดไว้ก็เท่านั้น สาธุ หมดเวรกันไป1ชาติ:D

ขอบคุณคุณฮัทนะคะ และขอบคุณความเห็นของเพื่อนๆ ที่มาโพสต่อด้วยค่ะ เพราะอ่านแล้วก็ได้แนวคิดเพิ่มอีกค่ะ

เห็นด้วยค่ะ พี่ดิว คิดแบบนี้แล้วสบายใจ

555 ดีใจค่ะน้องbarumbum
พระท่านว่าถ้าเราคิดดีเราจะมีสุข:)
ถ้าเรามีทุกข์เมื่อไหร่ แสดงว่าเราคิดไม่ถูกแล้ว
ต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ เพราะความคิดมันร้ายมากเลย
มันสามารถฆ่าเราได้ แบบตายทั้งเป็นเลยนะ
อยากให้ทุกคนมีความสุขค่ะ:)

อิอิ เป็นการบอกอย่างเบาะๆๆ แต่แอบแฝงไปด้วยความแรงงงงง นะคะคุณดิว เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ...

ได้ข้อคิด และ เปิดมุมมองใหม่ ๆ คะ
ขอบคุณมาก ๆ นะคะ อยากขออนุญาตินำข้อความนี้ไปforwardเมล ให้เพื่อนอ่านด้วย
ถ้าอนุญาตินะคะ :)