วันนี้เป็นวันที่เซ็งมาก ๆ เรามีเพื่อนอยู่คนนึง(ไม่ค่อยสนิทมากเลย) หลังจากเรียนจบก็ไม่เคยติดต่อกันเป็น 10 ปี วันนี้เธอคนนี้กลับมาหาเราที่บ้านเพื่อขายประกันชีวิตให้ เราก็บอกเค้าไปว่าเรามีแล้วเค้าก็ยังตามให้เราซื้ออีก (ขอโทษทีนะคะ วงเงินประกันที่เธอเสนอมาเนี่ยมากกว่าหกหลักอีก ) พอเราปฏิเสธเธอก็บอกเราว่าไม่เห็นชีวิตมีค่าเลยเหรอ ประมาณถ้าตายก็ตายฟรี เราก็คิดนิดนึงนะว่า ทำไมชีวิตคนเราต้องตีค่าเป็นเงินด้วยเหรอ น่าเบื่อจริง ๆ เธอคงคิดว่าถ้าขายได้คงจะกินเปอร์เซนต์ได้เป็นปีกระมัง มีเพื่อนอีกคนพอเราช่วยทำ
เธอก็หาว่าเราทำน้อย (ทั้ง ๆ ที่ทำเพราะไม่ได้เต็มใจเลย) มาวันนี้มาอีกคนแล้ว เราหละเซ็งจริง ๆ
ขอบคุณ sbn ที่ให้ระบายนะคะ
เฮ้อ..แย่จังเลยนะเพื่อนแบบนี้ ของพี่ไม่มาขายประกันค่ะแต่ว่าให้ช่วยสมัครสมาชิกอาหารเสริมหรืออะไรประเถทเพื่อสุขภาพความงามนี่แหล่ะ เพื่อเค้าจะได้ทำยอดอะไรอย่างนี่มากกว่า อย่างนี้นะน่าเบื่อที่สุด :confused:
เห็นใจคุณ metaporn ที่เจอเพื่อนแบบนี้แย่จังเลย
เขามาเสนอขายประกัน เพราะเขาคงคิดว่า ตัวเขาเองหวังดีกับคุณ
แต่จริงๆ แล้วก็มีเจตนาแอบแฝง แอบหวังผลประโยชน์จากเราด้วยนั่นแหละ
หากเพื่อนมาเสนอขาย แล้วเราบอกปฏิเสธเพราะมีเหตุผลส่วนตัว
แต่เขาก็ยังพูดว่า "เห็นชีวิตไม่มีค่าเหรอ ตายก็ตายฟรีๆ นะ"
โอ้แม่เจ้า! พูดน่าเกลียดมากค่ะ (พวกประกันมักจะพูดแบบนี้แหละ)
บอกเขาไปเลยค่ะว่า ชีวิตเรามีค่ามากมาก มากกว่าที่คุณคิด ที่คุณพูด
เพราะฉะนั้นเราขอเลือกที่จะตัดสินใจเองว่า ทำประกันกับใคร เท่าไหร่ เมื่อใด
จริงๆ แล้ว เพื่อนที่ดีต้องยอมรับคำปฏิเสธได้ค่ะ ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะฟังขึ้นหรือไม่ก็ตาม
เพราะคำตอบนั้นเป็นสิทธิของเรา และเขาก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเราด้วย
เขาไม่ควรมาต่อความ ตัดพ้อ หรือพูดให้เรารู้สึกแย่
บอกเพื่อนไปเลยว่า อย่าทำให้เรารู้สึกแย่ไปกว่านี้เลย
การที่เพื่อนหายไปตั้งนานแล้วกลับมาติดต่อเพื่อขายประกับแบบนี้
ก็ทำให้เราก็รู้สึกแย่พอแล้ว อย่าพูดอะไรให้เรารู้สึกแย่แย่แย่มากไปกว่านี้เลย
หากเขาโกรธ คุณก็ไม่ต้องสนใจเพื่อนแบบนี้หรอกค่ะ
เขาอาจจะหายไปจากชีวิตคุณเลยค่ะ เพราะเห็นว่า
คุณหมดประโยชน์ หาผลประโยชน์ไม่ได้แล้ว
ซึ่งก็ดีนะคะ การเป็นเพื่อนกัน ควรคบกับ คุยกัน ห่วงใยกันอย่างจริงใจดีกว่าค่ะ
อย่าคิดหาวิธีที่จะหาผลประโยชน์จากกันเลย แนวนี้เสียเพื่อนกันมานักต่อนักแล้วแหละ
เคยโดนเหมือนกันเลยค่ะ เป็นเพื่อนที่โกรธกันเป็นปีๆ
อยู่ๆกลับมาจะขายประกันเราซะงั้น ไอ้เรื่องที่โกรธกันก้อยัง
ไม่เคลียร์ เราก้อลืมๆไปแล้ว
แต่กลับมาเพื่อขายประกันเนี่ย...เซ็งจิตค่ะ!!
[SIZE="4"]ได้ยินอย่างงี้ เซ็งแทน จขกท เลยค่ะ
ถ้ามีเพื่อน (ไม่สนิท) ไม่เคยติดต่อกัน มาขายประกันเรา เราก็คงปฏิเสธไปเหมือนกันแหล่ะค่ะ
(ยกเว้นว่าเรายังไม่ได้ทำประกันนะ แล้วตอนนั้นเกิดอยากทำขึ้นมา + ข้อเสนอของเพื่อนก็ต้องแบบน่าสนใจมากๆ ถึงจะโป๊ะเชะคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว)
ถ้าเพื่อนมาตอกกลับเรา "เห็นชีวิตไม่มีค่าเหรอ ตายก็ตายฟรีๆ นะ"
อารมณ์ตอนนั้นคงของขึ้นเหมือนกัน ถ้าหงุดหงิดๆ อยู่คงสวนกลับ "เรื่องของกรู"
แล้วคงเลิกคุยกันอย่างถาวรไปเลยมั๊ง
5555555
[SIZE="3"]เราแอบเบื่อพวกขายประกันอย่างหนึ่ง
ตอนจะขายให้ก็มาหาทุกวัน พูดจาเพราะๆหวานๆตลอด
แต่พอซื้อไปละ หายหัวทุกราย จะมาอีกที่ก็ตอนอยากขายเพิ่มนี้แหละ:mad:
[SIZE="3"]ถือว่าเราโชคดีรึป่าวไม่รู้ แต่ยังไม่เคเยจอเพื่อนมาขายประกันให้เลยค่ะ
เคยเจอแต่เพื่อนมาขายพวกAmway อะไรประมาณนั้น ก็รู้สึกไม่ค่อยชอบเหมือนกัน
เพระเหมือนโดนยัดเยียด ที่สำคัญคือ ทำไมเพื่อนเราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้:confused:
อย่าว่าแต่ประกันเลยคะ พวก เซลล์ทั้งหลายก็ไม่ชอบเหมือนกัน ทั้งมาขายเครื่องซักผ้า เครื่องรีดผ้า
หนังสือเด็กน้อย ของกระจุกกะจิก โอ้ยและอีกจิปาฐะ เบื่อเหมือนกันคะ ไม่ชอบเลยชอบมายัดเยียด
คนเราอ่ะนะถ้าอยากได้จะซื้อเองไม่ต้องมาบังคับขายกันหลอก แล้วประกันนะคะ พอถึงเวลาเกิดเรื่อง
จริงจริง เอายากมากคะ ตรวจสอบโน้นตรวจสอบนี้ โอ้ย เบื่อ
ส่วนตัวไม่เคยเจอพวกที่เซ้าซี้มากๆ เลยค่ะ โชคดีจัง ไม่ค่อยเจอด้วยล่ะค่ะ
ถ้าเป็นประกันชีวิต ก็จะบอกปัดไป ว่าซื้อจนครบจำนวนที่หักภาษีได้แล้ว คงไม่ซื้อแล้ว และอธิบายไปตรงๆ ว่า ระยะนี้เศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีเงินสดที่จะไปซื้อจมไว้กับประกัน ยิ่งถ้าเป็นพวกประกันแบบฝากเงิน ยิ่งไม่ทำ เพราะจะได้ดอกเบี้ยคุ้มเมื่อฝากครบนานๆ (หกสิบปีมั้งคะ จำไม่ค่อยได้) ก็เท่ากับเงินไปจมอยู่หกสิบปี ในขณะที่จริงๆ แล้วเราสามารถเอาเงินจำนวนนั้นไปทำอย่างอื่น ได้กำไรเยอะกว่า และอีกอย่าง บริษัทที่เราทำงานอยู่ ก็มี health care banefits ให้อยู่แล้ว ไปโรงพยาบาลก็เบิกได้อยู่แล้ว เท่าที่เห็น พออธิบายให้เค้าฟังอย่างนี้ เค้าก็จะเงียบๆ และเลิกพูดไป เพราะที่เราพูดมันก็จริงน่ะค่ะ
แต่เป็นพวกขายตรง ส่วนมากก็จะดูที่สินค้าค่ะ ถ้าสินค้าดีจริงๆ ก็ซื้อ ถ้าจะสมัครสมาชิก ก็เพราะได้ส่วนลด อย่างแอมเวย์สินค้าดีๆ ก็เยอะ แต่บางอย่างก็แพงเกินคุณภาพ แต่ถ้ามาชวนไปสมัครขายนี่ก็บอกปัดไปค่ะ
เคยโดนเหมือนกัน เพื่อนอยู่ดี ๆ ก็ไปขาย amway นี่แหละไม่รู้ไปขายได้ไง แล้วก็มาหาเราเอาของมาให้ดูที่บ้าน บังคับให้เราสมัครสมาชิก โทรมาทีไรก็คุยแต่เรื่อง amway จะบ้าตาย ตอนนั้นกลัวไปเลยเพื่อนคนนั้นค่ะ มีบางคืนพาหัวหน้าหน่วยเค้ามาที่บ้าน มาตอน 4 ทุ่ง เฮ้อ จะบ้าค่ะ อยู่ดี ๆ ก็พามาไม่ได้บอกว่าจะมาเจอ หรือเราอยากจะซื้อไรเล้ย เวรกรรม
แต่ตอนนี้เค้าเลิกทำแล้วค่ะ ค่อยยังชั่ว
ขอระบายด้วยคนครับ ทำไมเด๋วนี้ขายประกันทางโทรศัพท์เยอะมากวันนึงต่ำๆๆก็ 3 ราย ถ้าวันไหน peak 5 รายอัพ เราก็พยายามพูดดีไปก็หลาย แต่พอเจอเจ้าเดิมๆๆ (เปลี่ยนคนโทร) เริ่มทนไม่ไหวแล้ว เด๋วนี้ไม่คุยเรย พอบอกว่าเป็นบริษัทประกัน ผ้มวางสายทันทีทันใด
Originally Posted by Ryu
ขอระบายด้วยคนครับ ทำไมเด๋วนี้ขายประกันทางโทรศัพท์เยอะมากวันนึงต่ำๆๆก็ 3 ราย ถ้าวันไหน peak 5 รายอัพ เราก็พยายามพูดดีไปก็หลาย แต่พอเจอเจ้าเดิมๆๆ (เปลี่ยนคนโทร) เริ่มทนไม่ไหวแล้ว เด๋วนี้ไม่คุยเรย พอบอกว่าเป็นบริษัทประกัน ผ้มวางสายทันทีทันใด
โดนเหมือนกันคะ วันนึง 3 หนเห็นจะได้ คุยยาวมากกก จนเราต้องบอกว่าติดประชุมแล้วขอวางเลย
ตอบไปเหมือนคุณ Meesook ค่ะ คนขายฟังแล้วส่วนมากเกิดอาการอึ้ง เงียบไปเลย แล้วก้ไม่เซ้าซี๊อีก ได้ผลค่ะ
Originally Posted by Ryu
ขอระบายด้วยคนครับ ทำไมเด๋วนี้ขายประกันทางโทรศัพท์เยอะมากวันนึงต่ำๆๆก็ 3 ราย ถ้าวันไหน peak 5 รายอัพ เราก็พยายามพูดดีไปก็หลาย แต่พอเจอเจ้าเดิมๆๆ (เปลี่ยนคนโทร) เริ่มทนไม่ไหวแล้ว เด๋วนี้ไม่คุยเรย พอบอกว่าเป็นบริษัทประกัน ผ้มวางสายทันทีทันใด
Originally Posted by catdojo
โดนเหมือนกันคะ วันนึง 3 หนเห็นจะได้ คุยยาวมากกก จนเราต้องบอกว่าติดประชุมแล้วขอวางเลย
เห็นด้วยค่ะ โทรมาทุกวัน หลังๆเห็นเบอร์ขึ้นด้วย 02 ลงท้ายด้วยเลขเบิ้ล
แรกก็รับสายแล้วปฏิเสธไปดีๆ แต่หลังๆเราไม่รับสายเลย เพราะบางคนก็เซ้าซี้มากเกิน พอเราไม่ซื้อก็หาเรื่องว่าเรามั่งล่ะ เสียเวลาแล้วยังมาเสียอารมณ์อีก
ล่าสุด เด็ดมาก เบอร์ประกันเจ้าเดิมโทรมาเข้ามือถือ เรารู้แกวก็ไม่รับสาย
ซักพัก เล่นโทรเข้าเบอร์ออฟฟิศ โอ้.... เรารึก็นึกว่าสายเรื่องงานปกติก็รีบรับ ที่ไหนได้..... โทรมาขายประกัน
ขอโทษนะคะ เบอร์ที่ทำงานเอาไว้ติดต่อเรื่องงาน มาโทรจิกขายประกันนี่มันละเมิดสิทธิกันมากเกินไปรึเปล่า
Originally Posted by Meesook
ส่วนตัวไม่เคยเจอพวกที่เซ้าซี้มากๆ เลยค่ะ โชคดีจัง ไม่ค่อยเจอด้วยล่ะค่ะ
ถ้าเป็นประกันชีวิต ก็จะบอกปัดไป ว่าซื้อจนครบจำนวนที่หักภาษีได้แล้ว คงไม่ซื้อแล้ว และอธิบายไปตรงๆ ว่า ระยะนี้เศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีเงินสดที่จะไปซื้อจมไว้กับประกัน ยิ่งถ้าเป็นพวกประกันแบบฝากเงิน ยิ่งไม่ทำ เพราะจะได้ดอกเบี้ยคุ้มเมื่อฝากครบนานๆ (หกสิบปีมั้งคะ จำไม่ค่อยได้) ก็เท่ากับเงินไปจมอยู่หกสิบปี ในขณะที่จริงๆ แล้วเราสามารถเอาเงินจำนวนนั้นไปทำอย่างอื่น ได้กำไรเยอะกว่า และอีกอย่าง บริษัทที่เราทำงานอยู่ ก็มี health care banefits ให้อยู่แล้ว ไปโรงพยาบาลก็เบิกได้อยู่แล้ว เท่าที่เห็น พออธิบายให้เค้าฟังอย่างนี้ เค้าก็จะเงียบๆ และเลิกพูดไป เพราะที่เราพูดมันก็จริงน่ะค่ะ
แต่เป็นพวกขายตรง ส่วนมากก็จะดูที่สินค้าค่ะ ถ้าสินค้าดีจริงๆ ก็ซื้อ ถ้าจะสมัครสมาชิก ก็เพราะได้ส่วนลด อย่างแอมเวย์สินค้าดีๆ ก็เยอะ แต่บางอย่างก็แพงเกินคุณภาพ แต่ถ้ามาชวนไปสมัครขายนี่ก็บอกปัดไปค่ะ
สงสัยต้องขอยืมมุขคุณ Meesook มาใช้บ้างแล้วละค่ะ
ชัดเจนขนาดนั้น ถ้ายังฟังไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
ถ้าคิดว่าทำแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็ปฏิเสธไป
ถ้าเค๊าเป็นเพื่อนดีต้องเข้าใจเราค่ะ ถ้าเค๊าบอกให้ช่วย
ก็บอกเค๊าว่าให้ช่วยอย่างอื่นดีกว่า แบบนี้20ปี ช่วยไม่ไหวอ่ะ:D
เคยเจอเช่นกันค่ะ เป็นเพื่อนตอนเรียนมหาลัย ก็จบมา8ปีแล้ว
ซึ่งไม่สนิทกัน และไม่เคยคุยกันด้วย เค้าทักเรา เราก็ยังงงๆ
แล้วก็ขอเบอร์เราไป หลังจากนั้นโทรมาหาเรา
บอกว่ามีบัตรสอนแต่งหน้าฟรี ให้เราไป เราไม่ว่างเลยบอกว่าขอโทษนะ
เค้าเลยบอกว่างั้นมาเป็นแบบให้หน่อย จะแต่งหน้าเราเพื่อเป็นการส่งงาน
เราเกรงใจเลยไม่ปฏิเสธ แถมอยากช่วยเพื่อนด้วย
หลังเลิกร้านก็ไปส่งพ่อกับแม่ที่บ้าน แล้วให้แฟนมารับ
ปรากฎรถติดมาก จะสองทุ่มก็ยังไม่ได้ทานข้าว
พอไปถึง เค้าก็พาเราเดินทะลุห้างเซ็นทรัลชิดลม ไปยังตึกหนึ่ง
โดยเข้าด้านหลังตึก ขึ้นลิฟต์ไป ก็มีห้องที่เค้ากำลังอบรมอยู่ด้วย
เราก็งง ดึกๆแล้วอบรมไรกัน
เค้าก็นั่งแต่งหน้าให้เรา เราก็ถามว่าไม่ถ่ายรูปส่งอาจารย์หรอ
เค้าบอกว่าไม่เป็นไร แล้วไปตามพี่มาคนนึง มาอธิบายวงจรธุรกิจ
ถูกแล้วค่ะ Amwayเลย นั่งฟังนานมากทั้งๆที่บอกเค้าไปแล้วว่ายังไม่ได้ทานข้าวเย็น
รู้สึกว่าเหมือนโดนหลอกอย่างแรง เฮ้ย ตูโง่ใช่มั้ย เค้าโกหกเรา เอาน้ำใจเราไปใช้กับธุรรกิจเค้าซะงั้น
แถมขากลับเดินมาเอารถที่เซ็นทรัลก็กำลังเดินฝนก็ตกหนัก ไม่มีหลังคา ต้องเดินลุยฝนอีก
หลังจากนั้นเค้าโทรมานัดว่าจะมานำเสนออีก เราก็ยังเกรงใจปัดว่าไม่ว่างนะ
เค้าบอกว่าวันเสาร์จะโทรมาใหม่ พอโทรมาอีกบอกว่าจะไปหาที่ร้านเลย
เราเลยตัดปัญหา บอกไปตรงๆว่าไม่ต้องมาหรอกนะ ตัวเราเองคงไม่ซื้อของหรอก
เดี๋ยวเธอเสียเวลาเปล่าๆ แต่แอบเสียงแข็งด้วย เค้าเลยไม่กล้าโทรมาอีก
เจอจังๆกับตัว จากการกระทำของอดีตเพื่อนรักของเราเองค่ะ เค้าเที่ยวโทรไปหาเพื่อนของเราจากอีกกลุ่ม ซึ่งเคยเจอกันครั้งเดียวเมื่อนานมาก อยู่ดีๆบอกว่าคิดถึง อยากเจอ กินข้าวกันมั๊ย เพื่อนเรางงอย่างแรงโทรมาถามเราแบบรู้ทันว่า เฮ้ยถามจริง!! เค้าจะมาขายประกันใช่มั๊ย เราก็งง พูดไม่ออก เพราะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
แค่นั้นยังไม่พอ โทรไปขายประกันกับเพื่อนของแฟนเรา และบรรดาเพื่อนของแฟนเพื่อนอีกหลายๆคน ซึ่งไม่ได้สนิทสนมอะไรกันเลย พูดจาทำนองเดียวกัน ทุกคนงง สับสน แถมยังด่าสาดเสียเทเสียซะจนไม่มีดี เพราะรู้อยู่แก่ใจ ว่าเค้าทำไปเพื่ออะไรค่ะ
ตอนนั้นมีแต่เราที่กล้าที่จะเตือนเค้า ด้วยความรัก ปราถนาดี และจริงใจ ไม่อยากให้ใครมาด่าเพื่อนเราลับหลัง ซึ่งคนที่เป็นคนด่าลับหลังตัวดี แต่ไม่ยอมพูดต่อหน้าตรงๆ ก็คือเพื่อนในกลุ่มกันเองนี่แหละ
ของอย่างนี้ บางทีก็ไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไร ยังไงเหมือนกันกับสิ่งที่ทำ หรือมีแรงจูงใจอะไรค่ะ คงต้องให้มารับรู้ ได้ยินเอาเองกับหู เค้าถึงจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร คนอื่นเค้าคิดกันยังไง และการแสดงออกต่อหน้ากับลับหลัง มันต่างกันยังไง
สังคม กับการสร้างมิตรภาพจอมปลอม บางทีมันก็พรางได้ไม่มิดนะคะ