น้องเอสคะ พี่สงสัยนิดนึงว่า ถ้า lypo spheric vit c มันดูดซึมได้ดีมากเท่าการฉีด ก็เท่ากับว่าคนที่กินก็จะได้ mega dose vit c
แล้วนานไป มันจะมี side effect ไหมคะ หรือว่ากินนานเท่าไหร่ควรหยุดพักดี
แต่มันก็ผ่าน FDA เมกาเนอะก็น่าจะปลอดภัย
อันนี้พี่สงสัยเองนะ http://en.wikipedia.org/wiki/Vitamin_C ลองช่วยอ่านดูหน่อยนะคะ
แค่หัวข้อ Therapeutic use กับ Adverse side effect ก็พอค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

อย่างแรกต้องขอบคุณสำหรับอีเมลจากคุณหมอค่ะ เพราะถือเป็นอีเมลที่เป็นประโยชน์มาก และเป็นคำถามที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากๆเลย


ในเรื่องของ โดสของไลโปนี้ต่ำกว่าที่ตามคลีนิกผิวหนังใช้ฉีดกันค่ะ(2000-3000mg)
และสำหรับการใช้ในการรักษาโรคแล้ว ใช้โดสสูงกว่านี้อีกมาก


Although vitamin C can be well tolerated at doses well above the RDA recommendations, adverse effects can occur at doses above 3 grams per day though overload is unlikely.


หลายงานวิจัยจะสรุปว่าร่างกายปกติคนเรา รับ Vit C ได้มากกว่า RDA มาก
และจะมี adverse side effect เมื่อรับโดสสูงตั้งแต่ 3000mg ขึ้นไป ซึ่งกรณีนี้ กล่าวถึง พวกเมก้าโดส จนไปถึงกลุ่ม IV injection เลยค่ะ
ส่วนโดสที่สูงระดับเป็นพิษต่อร่างกาย คือ 11.9 grams or 11900mg
( '"Safety (MSDS) data for ascorbic acid". Oxford University. October 9, 2005. Retrieved 2007-02-21.')


แต่ไลโปนั้นมีโดสเพียงแค่ 1000mg และโดยปกติ วิตซีถือเป็นวิตามินกลุ่มที่ มี low toxicity มาก
แล้วผลข้างเคียงจึงมีเพียง อาการอย่างเช่น ท้องเสีย ท้องร่วง ปัสสาวะขัด อันนี้เป็นอาการข้างเคียงทั่วไปจากเมก้าโดสเป็นเม็ด ที่ขายอยู่ทั่วไป
แต่ถึงกระนั้นเอง กลับไม่พบอาการเหล่านี้ในผู้ที่ทานวิตซีของไลโป (กรณีนี้ลองสังเกตจากตัวเองหรือทุกคนที่เคยรับประทานดูได้ค่ะ ว่าวิตซีเม็ดที่โดสพันมิลขึ้นไป เวลารับประทานช่วงแรกๆจะมีอาการปัสสาวะขัด หรือระคายเคือง แต่ ยังไม่มีรายงานว่ามีใครทานวิตซีไลโปแล้วปัสสาวะขัด หรือผลข้างเคียงเลย)


ส่วนโดสที่สูงระดับเป็นพิษต่อร่างกาย คือ 11.9 grams or 11900mg ( '"Safety (MSDS) data for ascorbic acid". Oxford University. October 9, 2005. Retrieved 2007-02-21.')


นอกจากนี้ ก็มีความกังวลกับ kidney stone ซึ่งหลายงานวิจัยกล่าวว่ากระแสเลือดที่มี high dose Vit C อยู่
จะพบ kidney stone ได้น้อยกว่าคนทั่วไปที่มีระดับวิตซีน้อยในกระแสเลือด


ส่วนเรื่องการรับประทานเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกัน หากสอดคล้อง กับข้อมูลที่ให้ข้างต้น และ ไม่เกินปริมาณที่ได้อธิบายไป
ถือว่าไม่ส่งผล adverse side effect ต่อร่างกาย

และทางแลบแนะนำให้เป็นวิตามิน ที่รับประทาน ทุกวันไปตลอด และทานอย่างน้อยวันละ 1-2 sachet เลยค่ะ


แต่อย่างไรก็ตาม กรณีที่แนะนำให้หลีกเลี่ยง คือผู้ป่วยโรคไตค่ะ
เพราะอันนี้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆที่เกิดขอบเขตความรู้ที่เรามี
อาจจะต้องให้แพทย์ที่ชำนาญเกี่ยวกับโรคไตเป็นผู้แนะนำค่ะ


นอกจากข้อมูลที่ให้มานี้ เดี๋ยวทางทีมงาน ss-secret จะติดต่อ กับทางแลบเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
และสอบถามไปถึงงานวิจัย และการศึกษาทางวิชาการ เพื่อสนับสนุน และ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค

และหากมีงานตีพิมพ์ เช่น วารสารการแพทย์ของอเมริกา หรือหนังสือที่เกี่ยวข้อง ก็จะแจ้งให้ทราบค่ะ

เดี๋ยวทางเราจะนำเข้ามาให้ได้ (และจะจำหน่ายให้ในราคาต้นทุน)
เพราะถือว่าเป็นการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วย และ ผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นเจตนารมณ์ที่ดีของทางคลีนิก
ที่ทางเราขอชื่นชมในการทำงานของคุณหมอ ในฐานะคุณหมอที่ดีที่รักษาจรรยาบรรณแพทย์ในการหาสิ่งที่ปลอดภัยให้คนไข้
ทางเราจึงยินดีให้การสนับสนุนให้อย่างเต็มที่ค่ะ


เมื่อได้รับคำตอบจากทางแลบ จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ
ขอบคุณมากๆค่า

[SIZE="4"]โปรชุดนี้ฮิตสุดของเพื่อนหญิง SBN และพิเศษชุดนี้ มีชุดทดลองหนึ่งสัปดาห์ ให้ไปทดลองกันค่ะ

ตอนนี้ สินค้ามีไม่อั้นพร้อมส่งแล้วคร้า

รู้หรือไม่ !!!! การเริ่มต้นด้วย เหตุผล ตรรกะที่ ถูกต้อง จะทำให้การทานอาหารเสริมของเราที่ผ่านมาครบถ้วน และ สมบูรณ์

และการ "สะสางสารพิษ ที่สะสม ก่อนจะเริ่มทานสารอาหารไปเสริม" เป็นเหตุผลตรรกะ ที่ถูกต้อง ในการเริ่มทาน อาหารเสริม ทั้งผู้ที่เริ่มต้นทานอาหารเสริม และ ทานอาหารเสริมมานานแล้วก็ใช้เหตุผลตรรกะพื้นฐานที่สำคัญนี้เช่นกัน

ตรรกะและเหตุผลที่ถูกต้อง "สะสางสารพิษ ที่สะสม ก่อนจะเริ่มทานสารอาหารไปเสริม" นี้นอกจาก จะทำให้คุณประหยัดและปลอดภัย แล้ว

การสะสางสารพิษ จะทำให้ร่างกายใช้สารอาหารที่เราเสริมเข้าไปได้ง่ายขึ้น และโดยเฉพาะการสะสางสารพิษที่ติดค้างในระบบลำไส้ ที่ใช้สำหรับการดูดกลืนสารอาหารนั้น สำคัญมากเพราะจะทำให้ เรามั่นใจ ได้ว่าร่างกายของเรา ตอนดูดกลืนสารอหารในช่วงของระบบลำไส้ ไม่ดูดกลืน สารพิษ เข้ามา

การทำงาน เพื่อช่วยให้ระบบลำไส้ทำงานได้สมบูรณ์ ได้ดีตั้งแต่ครั้งแรกในการทาน เป็นอีกหนึ่ง คุณสมบัติหนึ่ง ของ “Super Food” ORGANIC CHLORELLA ของ FEBICO

และ ยังมีโปรตีนอีกกลุ่ม ที่เรียกว่า Metal Binding Protein (โปรตีน ที่สามารถจับโลหะหนักได้) ซึ่ง โปรตีนกลุ่มนี้ จะเปรียบเหมือนกาว ที่สามารถจับโลหะหนัก และ อนุพันธ์ ของโลหะหนัก (อย่างเช่น กลุ่มยาฆ่าแมลง ยาปราปศัตรูพืช ฯลฯ) ไม่ให้ไปรบกวนการทำงานของร่างกาย จนถูกขับออกจากร่างกายในที่สุด

คุณสมบัติการป้องกัน ร่างกาย "ได้รับสารพิษ" ในแบบนี้ เป็นคุณสมบัติ ที่คลอเรลล่ามี ที่ยังไม่เคยพบ ในอาหารเสริมตัวอื่นมาก่อน!!!

นอกเหนือจาก การป้องกัน และ กำจัดพิษ จากโลหะหนักแล้ว คลอเรลล่า ยังมี สารพิเศษเฉพาะตัว ที่เรีกว่า "คลอเรลลิน" สารพิเศษเฉพาะตัวนี้ พอเข้ามาอยู่ในร่างกายเรา จะทำหน้าที่ ส่งเสริมแบคทีเรียที่ดีกับร่างกายให้สามารถเจริญเติบโตได้ดี ในทางกลับกัน สารนี้กลับ กำจัดแบคทีเรียที่สร้างพิษต่อร่างกาย

จนนักวิทยาศาสตร์ขนานนาม สารพิเศษนี้ว่า "ปฏิชีวนะตามธรรมชาติ (Natural Antibiotic)" ที่หาได้ ในคลอเรลล่าเท่านั้น!!!

ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ล้างพิษดีที่สุด ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด ต้องยกให้ ORGANIC CHLORELLA ของ FEBICO