"ไม่มีใครอยากแก่"
ไม่มีใครอยากป่วย
ไม่มีใครอยากอายุสั้น
ไม่มีใครอยากป่วย
ไม่มีใครอยากอายุสั้น
แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อมันเป็นกลไกธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้น ให้มนุษย์จำได้ ว่า..การได้มีชีวิตอยู่ ด้วยกัน ก่อนที่จะต้องพลัดพรากจากกันตลอดกาล "นั้นมีค่าแค่ไหน" ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย จึงเป็นสัจจะนิรันดร์ ให้มนุษย์ได้เผชิญ
แต่ในเมื่อทุกคน "ไม่อยากเผชิญ" อยากจะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ค้านกับกฏของธรรมชาติ สิ่งที่เราทำได้ คือ หา "ตัวช่วย" ที่ทำให้เรา "แก่ช้า" ได้จริง ที่ปลอดภัยแก่ชีวิตที่สุด จริงๆ
คลอเรลล่า จึง เป็นอาหารจากธรรมชาติ ที่ถูกค้นพบ และ ขนานนามให้เป็น "น้ำพุแห่งความเยาว์วัย" (Alice, 2018, https://goo.gl/gkhN7X)
เป็นน้ำพุ ที่พรั่งพรูความเยาว์วัยให้แก่ ผู้ที่บริโภคเป็นประจำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าผู้นั้นจะสิ้นอายุขัย
นอกเหนือจากคุณสมบัติ ในการขับพิษโลหะหนัก ที่เป็นภัยมหันแก่ร่างกายมนุษย์ ที่ไม่มีอาหารใด ทำได้เท่ากับคลอเรลล่า ที่เรากล่าวและบอกเล่าไปหลายคราแล้ว หรือ ในหน้าประวัติศาสตร์โลกที่บันทึกถึง หลายครั้งแล้ว
คลอเรลล่า คือ อาหาร ที่มีปริมาณ"กรดนิวคลีอิก"ต่อน้ำหนัก "มากที่สุดในโลก" มีโปรตีนมากถึง 60% ต่อน้ำหนัก (ซึ่ง เนื้อสัตว์มีไม่เกิน 30%) และมีกรดอะมิโนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ จนเรียกได้ว่า เป็นอาหาร ที่เกิดขึ้นมาเพื่อกอบกู้ความอยู่รอดให้แก่มนุษย์ ในยามยาก หรือ แม้แต่ ในอวกาศ
นั่นก็เพราะด้วย ปริมาณกรด นิวคลีอิกต่อน้ำหนัก "มากที่สุดในโลก" จึงทำให้ผู้ที่ทานคลอเรลล่าเป็นประจำ จะมีกรดนิวคลีอิก อันเป็น วัตถุดิบที่สำคัญที่สุด ในการซ่อม DNA และ RNA ของเซลมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม
...."เราแก่" เพราะ DNA โดยทำลายมากถึง วันละหมื่นครั้ง !! ต่อเซลล์ ต่อวัน (ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยเซลล์ 80 – 100 ล้านล้าน)
ร่างกายมนุษย์คนใดที่ "ไม่มีกรดนิวคลีอิกอย่างเพียงพอไปซ่อม" จึงแก่ก่อน แก่กว่า และ อายุสั้นกว่า มนุษย์ที่ DNA สมบูรณ์
อ้างอิงจาก
รูป หนังสือ No-Aging Diet เขียนโดย นายแพทย์ Benjamin S. Frank ชาวอเมริกัน
(ขอบคุณรูปจาก http://www.paperbackswap.com/Dr-Franks-Aging-Benjamin-S-Frank/book/0803753497/)
รูป หนังสือ No-Aging Diet เขียนโดย นายแพทย์ Benjamin S. Frank ชาวอเมริกัน
(ขอบคุณรูปจาก http://www.paperbackswap.com/Dr-Franks-Aging-Benjamin-S-Frank/book/0803753497/)
และ นี่คือ ที่มา ของคำว่า "น้ำพุแห่งความเยาว์วัย" เพราะ คลอเรลล่า ให้วัตถุดิบในการซ่อม DNA แก่ เซล ได้ดีที่สุดในโลก ผู้ที่ทานคลอเรลล่า เป็นประจำ จึงพบว่า เมื่อ DNA ได้รับการซ่อมแซม เป็นประจำ ใบหน้า และ ผิวพรรณ จึงดูอ่อนเยาว์ลง และ ร่างกาย มีกำลังมากขึ้น แข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ "คลอเรลล่า" ถูกขนานนาม ว่า เป็น น้ำพุแห่งความเยาว์วัย ที่ยืดอายุขัยมนุษย์ได้อย่างแท้จริง
คลอเรลล่า คือ พืชธรรมชาติ ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการ ชะลอความแก่ และ การมีอายุยืน (Longevity) ในต่างประเทศ แนะนำให้ทาน (ส่วนหนึ่งตามภาพด้านล่าง)
จากลิงค์ http://www.secrets-of-longevity-in-humans.com/chlorella-facts.html
จากลิงค์ https://www.journalofnaturallongevity.com/2017/04/24/purify-with-chlorella/
จากลิงค์ http://www.secrets-of-longevity-in-humans.com/chlorella-facts.html
จากลิงค์ https://www.journalofnaturallongevity.com/2017/04/24/purify-with-chlorella/
เลือกคลอเรลล่าผิด = นำสารพิษใส่ตัว
ทำไม การทานคลอเรลล่า จึงจำเป็นต้องเลือก "คลอเรลล่า ที่ปลอดภัย" เท่านั้น
คลอเรลล่า เป็นพืชน้ำเซลล์เดียว ที่มีความสามารถในการดักจับโลหะหนักสูง ดังนั้น คลอเรลล่า ที่เลี้ยงในแหล่งน้ำที่มีการปนเปื้อนของโลหะหนัก ก็จะดักจับโลหะหนัก ในแหล่งน้ำนั้นๆ มาเก็บไว้ที่ตัวเอง
ดังนั้น เมื่อทานคลอเรลล่า ที่มีการปนเปื้อน โลหะหนัก ก็เท่ากับร่างกายได้รับพิษโลหะหนักเพิ่มจากคลอเรลล่า แทนที่คลอเรลล่าจะมาขับล้างพิษโลหะหนักในร่างกายออกไป
โดยหลักการนี้ การทานคลอเรลล่า ที่ไม่สามารถการันตี "ความปลอดภัย" ได้ จะยิ่งทำให้ร่างกายสะสมพิษมากขึ้น จึงเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง ไม่ว่าจะในสถานการณ์วิกฤติหรือไม่ ก็ตาม
การทานคลอเรลล่า จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องเลือก คลอเรลล่า เป็นออร์แกนิกส์ 100% เพื่อการันตี ว่า จะไม่มีสิ่งพิษปนเปื้อนเข้ามาสู่ร่างกายเรา แทนที่จะมาช่วยร่างกายขับพิษ
โดยที่ คลอเรลล่า ที่ได้รับการการันตีว่า เป็น ออร์แกนิกส์ 100% นั้น ถือว่าเป็นอาหารจากธรรมชาติ ที่สะอาด ปลอดภัย สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย และ สามารถทานต่อเนื่องได้ ตลอดชีวิต