ขำๆ พอดีวันนี้อยู่บ้านคนเดียว เพราะว่ากลัวปิดถนน เลยลาป่วย (อ่ะนะ ) เอาเสื้อผ้าบางตัวมาใส่ ใส่ไม่ได้เลยค่ะ

เกริ่นมาแล้วก็ขอเริ่มเล่าเลยละกันว่าทำไมใส่เสื้อผ้าไ่ม่ได้

นิดนึงนะคะ ท้าวความ เมื่อห้าปีก่อนนี้ เรา เป็นคนผอมเพรียวมากๆ หนัก 53 สูง 168 เราก็ว่าผอมอ่ะ

ตอนนั้นมีแต่คนอิจฉาในหุ่นอันเพรียวลม กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แล้วก็ ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ดูดี(คิดไปเองเปล่าก็ไม่รู้นะ)

สี่ปีก่อนนี้ เราเรียนต่อ เราเลยต้องอ่านหนังสือ และไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย อีกอย่างคือ ช่วง อกหัก

น้ำหนักเลยค่อยๆเพิ่มขึ้นมา จาก 53 เป็น 67 กิโล โดยที่เราเองไม่ได้สนใจ และคิดว่าเป็นเรื่องปกติ

เพราะว่า ก็ค่อยๆขึ้นมาเรื่อยๆ นอนน้อย ไม่ได้ออกกำลังกาย มีตังค์ก็กินอาหาร ตามใจปาก

ส่วนมากจะเลือกกินพวกแป้งๆเนี่่ยหล่ะ ช่วงดึกๆอ่านหนังสือ ก็ กินๆๆๆๆ

ปีใหม่ที่ผ่านมา เราก็เลย ไปงานวันปีใหม่ บ้านญาติ ไปสวัสดีอาจารย์อาวุโส ของสถาบันเก่า

ไปที่ๆในอดีตเราเคยทำงาน

ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า :!:[SIZE="5"]ทำไมอ้วนแบบนี้

ก็เลยเริ่ม คิดจะชั่งน้ำหนัก รู้สึกว่า ตกใจมากกกกกกกกกกกกกกก

น้ำหนักหกสิบเจ็ด ก็ไม่กล้า ชั่งน้ำหนักอีกเลยยยยยยยยยยยย

เครียดมาก(แต่กินเท่าๆเดิมนะ อาหารสี่มื้อ) อิอิ

มีอยู่วันนึง พี่คนงานที่ทำงาน เข้ามาทักว่า "[SIZE="5"]คุณคะ คุณอย่าล้มนะเนี่ย คุณตัวใหญ่ ล้มแล้วจะเจ็บ:evil:"

โอ้ว ไม่นะ

เราเลยเริ่มคิดชั่งน้ำหนัก แล้วก็ลดอย่างจริงๆจังๆ ตอนแรกก็ใช้วิธีอดอาหาร แล้วก็ ใช้สูตรของคนนู้นคนนี้ เวป ladytip--> http://www.ladytip.com/main/content/view/4/75/

แล้วก็ทำไม่ได้ค่ะ มันโหยเกินไปแล้วเราต้องทำงานทุกวันอ่ะ

เลยไปที่สถาบัน M ที่โด่งดัง ก็ ไม่เห็นจะลดเลยอ่ะ

ไปซื้อยา ที่คลินิกมากิน ลดน้ำหนัก ผลคือ นอนไม่หลับค่ะ เลยเลิก ไม่ลดด้วยอ่ะ

ต่อมา น้องชาย (ลดได้ สามสิบกิโลในหกเดือนนะคะ จาก 107 เหลือ 77 kg

ได้แนะเราว่า การลดน้ำหนัก ไม่ใช้การอดอาหาร มันคือการสร้างนิสัยในการรับประทานอาหารใหม่

ที่เราอ้วนบางทีอาจจะเิกิดจากการกิน ไม่เลือก

มีการตั้งกฏกับตัวเองเป็นข้อๆ ดังนี้

1.ห้ามกินอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งมาก หรือเรียกง่ายๆว่างดนั้นเอง
2.ออกกำลังกายทุกวัน วันละสามสิบนาที (ไม่หักโหมนะคะ)
3.งดกินอาหารหลังหกโมงเย็น
4.อาหารมื้อเย็น เป็นผลไม้(ถ้าเป็นแอปเปิ้ลจะดีมากๆ)

ช่วงแรกของวิธีนี้ น้ำหนักจะลดอย่างรวดเร็ว(เดือนละสามถึงสี่กิโลได้)

ต่อมาจะไม่ค่อยลดแล้ว เราก็เลยใช้วิธีค่อยๆ Titrate แป้งด้วย คือกินแป้งด้วย

แล้วก็ค่อยๆลดอาหารลงเล็กน้อย ไม่กินหวาน เลิกกินพวกกาแฟเย็นน้ำอัดลม

สามเดือนผ่านไปตอนนี้ลดลงมาแล้ว สิบกิโลค่ะ จริงๆก็เหลืออีกสี่กิโลนะ แต่ไม่ได้ตั้งใจมากแล้วหละ

ตอนนี้ก็อายุไม่น้อย (แต่ไม่แก่นะคะ) ลดมากเดี๋ยวเหี่ยว หน้าตอบไม่มีราศีอ่ะ

เข้ามาเล่าให้ฟังกันค่ะ เผื่อว่า บางคนอยากลดน้ำหนัก

มีใครมีประสพการณ์ลองมาแชร์กันนะคะ ใครอยากถามอะไร ถามมาได้เลยค่ะ

ขอบคุณ SBN ที่มีเวบบอร์ดดีๆ ให้พูดคุยกันค่ะ:D

:D [SIZE="3"]ก้อมีปันหาแบบนี้เหมือนกัน แต่เราจะลดได้ง่ายหนอ่ย พอลดแล้วก็กินต่อ เลยเสียนิสัยอ่ะ ก็เราอดใจไม่ไหวนิ ใช่มะ :D

[SIZE="2"]มีปัญหานี้เหมืิอนกันค่ะ

เหนื่อยที่จะลดแล้ว อยู่อยู่ก็เพิ่มเอง ทำไมไม่ลดเองบ้าง:D:D

ขออนุญาตเสริมให้นิดนึงนะครับ
1. ห้ามกินอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งมาก หรือเรียกง่ายๆว่างดนั้นเอง
ขอให้งดน้ำตาลร่วมด้วยนะครับ
ถ้าอดแป้งและน้ำตาลไม่ไหว...ขอเป็นอย่าเกินเที่ยงวันแล้วกันนะครับ
2. ออกกำลังกายทุกวัน วันละสามสิบนาที (ไม่หักโหมนะคะ)
ข้อนี้สนับสนุนเต็มที่ครับ
การออกกำลังกายถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการลดน้ำหนัก รวมถึง anti-aging ด้วยนะครับ
แต่ผมขอเพิ่มเวลาให้เป็นอย่างน้อย 45 นาทีดีกว่าครับ แต่อย่าเกิน 90 นาที
นาทีที่ 31 เป็นต้นไป กระบวนการในร่างกายจะเริ่มดึงไขมันสะสมออกมาเป็นพลังงาน
ก้อเท่ากับเราจะเริ่มเบิร์นสิ่งที่ตกค้างในร่างกายเราได้อย่างเต็มที่ครับ
ไม่ควรน้อยกว่า 30 นาที เพราะร่างกายแทบจะยังไม่ได้เบิร์นของเก่าทิ้งเลย
ไม่ควรเกิน 90 นาที เพราะร่างกายจะเครียดครับ
3. งดกินอาหารหลังหกโมงเย็น
เห็นด้วยครับ
4. อาหารมื้อเย็น เป็นผลไม้(ถ้าเป็นแอปเปิ้ลจะดีมากๆ)
ข้อนี้ผมอยากจะเสนอให้กินเป็นผักดีกว่าครับ
เพราะผลไม้ที่กินมีค่าดังนี้ครับ
เนื้อผลไม้ = แป้ง
รสหวาน = น้ำตาล
แม้จะเป็นแป้งและน้ำตาลจากธรรมชาติ แต่ก้อส่งผลต่อระดับไขมันในร่างกายได้เช่นกันครับ
กินพวกสลัดผักน้ำใสดีกว่าครับ

ยินดีด้วยนะครับที่ลดน้ำหนักได้จนสำเร็จ...

เคยเจอเหมือนกันค่ะ แต่พอพยายามเลิกกินอาหารหลัง 6 โมง ก้อขยับเป็น 5 โมง เพื่อนบางคนกินเหมือนพระค่ะ คือเที่ยงมื้อเดียวเลย แต่ทำไมได้ แต่ที่เห็นผลเลย คือ โยคะร้อนค่ะ ช่วยได้จิงๆ ประมาณ 3 ครั้งต่อ อาทิตย์ ค่ะ และทำให้เป็นนิสัยว่าทุกครั้งกินข้าวต้องสั่งน้ำเปล่าเท่านั้น :)

มีปัญหาเหมือนกันคะ เป็นคนตัวใหญ่ เมื่อก่อนก็ไม่อ้วนมาก แต่พอหลังจากไปผ่าตัด คือไปตรวจพบว่า เป็นนิ่วในถุงน้ำดี หมอต้องเอานิ่วในถุงน้ำดีออก และต้องตัดถุงน้ำดีทิ้ง และตัวถุงน้ำดีนี้แหละคะที่ช่วยในการย่อยสลายไขมัน ตอนนี้เราไม่มีถุงน้ำดีแล้ว และ ร่างการเกิดเอฟเฟ็คกับน้ำเกลือด้วย น้ำหนักขึ้นมากเลย บวมๆด้วย กินแป้งก็ไม่ได้ ท้องจะอืดมาก ตอนนี้เลยหันไปกินมังสะวิรัติแทน แต่ก็อยากให้รูปร่างเดิมคืนมากมากๆ เครียดจัง ต้องลดด้วยวิธีของคุณ จขกท ได้มั้ยคะ

เหมือนกันค่ะ ตอนนี้กำลังร่าเริง กินเท่าไหร่ก็ไ่ม่อ้วนนนนนนน แต่ ออกกำลังกายนะคะ



อิอิ อันนี้อารมณ์นี้เป็นบ่อย



เห็นด้วยเลยค่ะ ปกติ พอดีไม่กินหวาน โชคดีไป ไม่ค่อยลำบาก

แต่ต้องสร้างนิสัยเรื่องน้ำเปล่าเนอะ อิอิ






่อ่อ จริงๆด้วยค่ะ แต่คุณแม่บอกว่า กินมังสวิรัตก็น้ำหนักยิ่งขึ้นเพราะว่ามักจะมีแป้งยอะค่ะ

ตอนนี้ก็หันมาผลไม้มากขึ้นแล้วก็ น้ำเปล่าจริงๆหล่ะ

ขอให้คุณ i_am_dracula หายไวๆนะคะ เดี๋ยวลองหาวิธีดีๆมาให้จ้า

[SIZE="4"]อยากลดน้ำหนักมากกเลยค่ะ เพราะว่าเป็นคนที่ช่วงบนใหญ่ (ไม่มีเอว)
แต่ว่าไม่มีแรงบันดาลใจอ่ะค่ะ สามีก็อ้วนมากเหมือนกัน ก็เลยเลยตามเลยค่ะ;)

เอ้ยยยยย.ยยย

จาก 41 ตอนนี้ จะ 50 โลแล้วอ่าาาา ว้าก.กกกกกก !!

ช่วยด้วยคะ +_+ ลดไม่ได้ซะที เครียดจัง ว่าแล้วแล้วก็มานั่งหม่ำต่อดีกว่า..... 55+

แบบนี้สงสัยจะยากส์นะเนี้ยะ :D

ยินดีด้วยค่ะ กลับมาสวยเหมือนเดิมแล้ววววว!
ของเราอยากอ้วนซักอีกซัก3-4โล
แต่ทำยังไงก็ไม่ขึ้นซักที ตอนนี้หนัก55 สูง 173
ผอมไปหน่อยเนอะ:(

แหะ แหะ แฟนเราอ้วนมากกกกก

ตอนแรกก็บอกห้ามลด แต่เราแอบลดหล่ะ

ตอนนี้บอกว่า ผอมไปอ่า น่าเกลียด(หุ หุ)



เคยเป็นเหมือนกันค่ะ ประมาณว่า อ้วนแล้วเครียด ขอกินหน่อย อิอิ ช่วงนั้นก็ลดไม่ได้เหมือนกัน

ตอนนี้ก็กำลังจะเป็นอีกแว้วววววว



ผอมไปนิดนึงอ่ะ แต่ก็แล้วแต่โครงสร้างค่ะ พอดีเราก็กระดูกใหญ่มากมาย เลยต้องอ้วนๆหน่อย

ไม่งั้นเดี๋ยวมันน่าเกลียดค่ะ

ถ้าโครงเล็ก(พี่ทีทำงานอ่ะ) ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะว่าผอมดีกว่า อ้วนเดี๋ยวกระดูกเล็กๆรับน้ำหนักไม่ไหว

ขอบคุณ จขกท ที่ทำให้เรามีกำลังใจ ฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง

มาเข้าสมาคมคนอ้วนด้วยคนค่ะ... แบบว่าอ้วนจนลดไม่ลงแล้วหมดกำลังใจปล่อยมันพองๆแบบนี้แหละ...

อยากลดซัก 3-4 กิโลให้เหมือนเมื่อสามปีก่อนก็คงดีอะค่ะ... รู้สึกว่ายิ่งอายุมากขึ้นน้ำหนักมันขึ้นมาทุกปีเลยค่ะลดก็ยากกว่าตอนวัยรุ่นด้วยอ่าจิแถมหุ่นก็ดูหย่อนๆย้วยๆไงไม่รู้แต่ก่อนน้ำหนักขนาดนี้ดูฟิตกว่านี้ตั้งเยอะอะ

ก่อนมีลูกน้ำหนัก 43

ตอนคลอด น้ำหนัก 70

คลอดเสร็จ น้ำหนัก 65

กว่าจะควมคุมการกินได้ ใช่เวลานานมาก

อดแป้ง น้ำตาล ของหวาน ออกกำลังกาย เห็นผลภายใน 1 อาทิตย์ ลดได้ ประมาณ 2 กก.

ทุกวันนี้ ทำอยู่ เล่นโยคะ ร้อน ตอนเย็น เหงื่อออกดีมาก

สูตร ที่ให้ เคยทำ ลดได้จริงค่ะ แต่แรกๆ อาจหงุดหงิด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ;)

เมื่อก่อนก้อเคยอ้วนคะ ตอนนี้ก้อยังอ้วนอยู่ เอ๊ะ ยังไง แต่รู้สึกว่าที่ช่วยได้อีกทางคือการดื่มน้ำเยอะๆอ่ะคะ น้ำเปล่าๆนี่ละคะ ไม่ต้องมีสารเจือปน ทุกวันนี้ดื่มวันละอย่างน้อยสามลิตรอ่ะคะ บางวัน ขวดสองลิตรใหญ่ๆดื่มหมดทั้งขวดภายในครึ่งชม ที่กลับถึงบ้านหลังเลิกงานเลย รู้สึกว่าไขมันหายไปเยอะมาก หน้าท้องก้อแฟ่บ อันนี้แนะนำอ่ะคะ น้ำเปล่าๆนี่ดีที่สุดจริงๆ
สำหรับคนที่จะลดความอ้วน ขอให้งดน้ำผลไม้อ่ะคะ เพราะน้ำผลไม้จะมีน้ำตาลสูงมากอ่ะคะ แล้วก็ทานเอาแค่รู้สึกว่าพออิ่มอ่ะคะ ถ้าหิวก้อทาน ฟ้าเป็นพวกไม่แนะนำให้อดไปเลยอ่ะคะ เพราะมันจะเป็น rebound effect ที่ว่าคราวนี้พอจะกิน ก้ออยากจะกินเยอะๆตุนเอาไว้ ทานน้อยๆแต่หลายๆครั้งจะกระตุ้น metabolism อยู่ตลอดอ่ะคะ

ขอบคุณที่เอาสิ่งดีๆมาแชร์ให้อ่านคะ ^-^

แหะ แหะ ช่วยกันค่ะ เป็นกำลังใจให้กันต่อไป



อื่ม อันนี้เห็นด้วยมากมายค่ะ เพราะว่าตอนวัยรุ่น ยี่สิบอ่ะ ก็ลดง่ายมาก กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน

ตอนนี้ก็ต้องออกกำลังค่ะ ช่วยได้น้า จะได้ฟิต (ตอนนี้แขนเริ่มมีกล้ามแล้วอ่ะ อิอิ)




ใช้แล้วค่ะ เราก็เล่นโยคะ(บ้าง)ส่วนมากจะวิ่งกับออกกำลังทั่วๆไปค่ะ

เชียร์อัฟกันทุกคนเลยค่ะ



น้ำเปล่าดีที่สุดค่ะ เห็นด้วย แต่ก่อนอ่ะ ชอบน้ำผลไม้ทิปโก้มาก เพราะว่า ที่บ้านจะซื้อแบบ

กินแทนน้ำเลยค่ะ ตอนนี้ ลดละเลิก(เหลือแยะเลยค่ะ)

[SIZE="5"]สู้ๆนะคะทุกคน ขอให้ลดน้ำหนักได้คะ

เข้าใจค่ะ เราก็เคยอ้วน เคยหนัก 70 สูง 160

ลดมาเหลือ 53 สูง 168

ทำมาหลายอย่าง ยกเว้นล้วงคอ กะกินยาลดความอ้วน และเข้าพวกคลีนิคลดน้ำหนัก

แรกๆเราอดอาหาร ไม่ออกกำลังเลย ผอมมาก แต่ผิวเหี่ยวมาก แถมไม่สดใส ดูอมโรคๆ

แล้วก็มีปัญหาสุขภาพอ่ะค่ะ

เลยเปลี่ยนมาออกกำลังแทน สดใสขึ้นมาก หุ่นก็ดีขึ้นมากค่ะ ไม่เหี่ยวๆแล้ว

เราคนนึงนะเคยอ้วน แต่แบบว่า ตั้งใจค่อยๆลด สรุปลดมาได้ประมาณ 20 Kg ก่อนเคยหนัก 63 ปัจจุบัน 43 ใช้เวลาประมาณ 7-8 ปี แต่ไม่ได้ซีเรียสอาราย แบบว่า ระยะแรกๆ อาจจะเร่งๆ ลดบ้าง แต่พอคงตัวแล้ว ก็จะพยายามควบคุม

ระยะแรกๆ จะเลือก ทาน มากๆ ของมัน ของทอด น้ำจะดื่มน้ำเปล่าแทน จะกินอะไรที คิดแล้วคิดอีก ตอนเย็นไม่ทานข้า (มีคนบอกมาว่าทานข้าวดึกแล้วแก่) จะอ่านนิตยาสาร ชีวจิต บ่อยมากๆ ที่สำคัญคือ ออกกำลังกาย และ ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ เพราะน้ำเปล่าจะทำให้เราหิวน้อยลง
ทำจนเป็นนิสัยอ่าคร่า ไม่เคยทานยา ค่ะ แต่เราว่าวิธีนี้เนียนสุดนะ
พอรับสิ่งดีๆ เข้าร่างกาย (ตื่นเช้ามาดื่ม AppleCider ) ดีค่ะ จะรู้สึกดีกะตัวเอง ผิวจะดีมากๆค่ะ ปกติเราก้อไม่ใช่คนขาว แต่ก้อไม่ได้ดำ แต่เราว่าถ้ารักษาสุขภาพนะจะทำให้ผิวเราดู Healthy หน่อย ผิวจะดีก้อต้องมาจากอาหารที่เราทานนะคะ แรกๆ อาจจะฝืนๆ หน่อยๆ แต่พอชินๆ ไป จะรูสึกว่าสนุกกะมัน
และ มีวินัย กะตัวเองมากขึ้น ทำให้ไม่อ้วนง่ายนะคะ

อาหารที่แนะนำ
ทานอาหารเช้าด้วย โฮลวีท ข้าวกล้อง ซีเรียล
นมแพะ ช่วยให้ผิวสวย
น้ำ AppaleCider
น้ำ แครอท สกัด
แอปเปิ้ลเขียว ช่วย detox ร่างกายได้
yoghurt ค่ะ

อิอิ พร่ามเยอะ เจง
เอาใจช่วยทุกท่านคร่าาาาาาา ใครมี เคล็ดลับสุขภาพ แลกเปลี่ยนความเห็นกานบ้างนะคะ

[SIZE="3"]ก่อนไปเมกา นน. 55
ตอนกลับมาจากเมกา หนัก 67
ปัจจุบันนี้ลดลงเหลือ 50 ค๊า
เราออกกำลังกายวิ่ง 30 นาที ว่ายน้ำต่ออีก 20 รอบค๊า
แล้วก้อเปลี่ยนจากกินข้าวเป็นวุ้นเส้น ไม่กินของทอด 2 เดือนเหลือ 55 กิโล
ตอนนี้เหลือ 50 กิโลค่ะ แล้วก้อเลิกลดแล้วอ่าค่ะ ไม่ไหวๆๆ เป็นช่วงชีวิตที่ลำบากจิงๆค่ะ

จริงๆค่ะ ถ้าไม่ออกกำลังกายมันจะเหี่ยวมากมายเลยอ่ะ

ดีใจด้วยค่ะที่เลิกวิธีเดิมซะ เพราะว่า หมอบอกว่า อาจจะเป็นโรคซึมเศร้าได้เลยนะ



น้องสาวก็ทำค่ะ แอปเปิ้ลไซเดอร์ เราก็ชอบนะ แอบเปิ้ลธรรมดาก็ดีค่ะ ลดๆๆๆ

สู้ๆ



กลับกันแฮะ เราไปเมกาน้ำหนักลดค่ะ (กินไม่ได้ค่ะ) ต้องทำอาหารไทยกินเองเกือบทุกวันเลย

น้ำหนักลดไปสามโลได้อ่ะ เห้อ

ยังไงก็แล้วแต่ ออกกำลังกายเนอะดีที่สุดค่ะ

สูง 160 เคยหนักสุด 54 kg
แต่โชคดี...เป็นคนชอบเล่นฟิตเนสมากค่า
5-6 วัน/สัปดาห์
เหมือนติด Serotonin(Happy hormone) ที่มันหลั่งระหว่างเล่น
วันไหนไม่ได้เล่นจะหงุดหงิด...รู้สึกอืด ๆ ไม่ค่องแคล่ว
อาหารก็กินเท่าเดิม
แล้วมันก็ค่อย ๆ ลดเอง ลดเอง จนตอนนี้ 45 (หายไป 9 kg)
และมีทีท่าว่าจะลงอีก โดยไม่ได้พยายามอะไร
^_^