รบกวนถามพี่ๆน้องๆในนี้หน่อยนะคะ หนูกำลังจะไปเรียนที่อังกฤษประมาณ1ปีค่ะ
เลยอยากทราบว่าเราควรเตรียมอะไรไป มากน้อยแค่ไหน
อย่างเช่นของใช้ส่วนตัวค่ะ (สบู่ ยาสระผม), อาหาร, ยารักษาโรค, เสื้อผ้า
เสื้อกันหนาว, รองเท้า, และอื่นๆที่หนูนึกไม่ออก
หนูอยากทราบว่าเราควรเตรียมอะไรไป จำเป็นหรือป่าว หนูเตรียมตัวไม่ถูกจิงๆค่ะ
แล้วมือถือควรไปซื้อที่นั่นเลยมั้ยค่ะ แล้วก็ซื้อซิมที่นั่นโทรกลับไทยจะถูกกว่ามั้ย
แล้วเรื่องปลั๊กไฟที่นั่นใช้เหมือนบ้านเราป่าวค่ะ เพราะหนูอยากเอาไดร์ ที่ม้วนผมไปอ่าค่ะ
หนูอยู่แบบโฮมสเตย์ มีครายเคยอยู่แบบนี้ป่าวค่ะ มีข้อดี ข้ดเสียยังไง
ช่วยแนะนำหนูด้วยนะคะ หนูไปตัวคนเดียวเลย เหงาแน่นอน คิดแล้วก็เศร้า
ขอบคุณพี่ๆน้องๆล่วงหน้านะคะ
ของกินล่ะคะ เตรียมไปบ้างมั๊ย เอาพวกอาหารแห้งติดไปบ้างก็ได้ ความจริงก็ซื้อได้ที่นู่นแต่ถ้าอยากประหยัด ขนไปเองจะดีกว่าค่ะ
ยาก็น่าเอาไปนะคะเผื่อไว้ ยาธาตุน้ำแดง ยาทาร้อนใน อะไรพวกเนี้ย (คือพี่เป็นพวกชอบเป็นร้อนในอ่ะค่ะ)
มือถือเอาไปก็ได้แล้วไปซื้อ sim ที่นั่น แต่บัตรโทรศัพท์จะถูกกว่าเวลาโทรกลับไทย
ปลั๊กที่ Uk เป็นแบบ 3 รูต้องซื้อหัวเสียบเพิ่มไปด้วยนะคะ
คิดไม่ออกแล้ว รอเพื่อนๆ มาช่วยตอบอีกทีแล้วกันนะคะ อดทนหน่อยนะคะ เหงาหน่อยแต่ได้ประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ อีกเพียบใน 1 ปี โชคดีค่ะ :D
ปลั๊กไฟของเขาจะเป็นสามขานะครับผม
แนะนำไปซื้อแบบต่ออะครับที่ใช้ได้ทั่วโลกอันละ 250-300 อะครับ
ตามห้างอะครับ
ของกินไปซื้อที่โน้นก็ได้ครับอาหารแบบไทยๆของให้ของกิน ขายแถว China Town เยอะอะครับ
ประมาณนี้ และ ร่ม ต้องเอาไปด้วยนะครับอย่าลืมเลยอยู่ดีดีเดินๆๆอยู่
ฝนก็ตกแบบนี้ตลอดอะครับ
อย่างเช่นของใช้ส่วนตัวค่ะ (สบู่ ยาสระผม), อาหาร, ยารักษาโรค, เสื้อผ้า
เสื้อกันหนาว, รองเท้า, และอื่นๆที่หนูนึกไม่ออก << I would suggest bring some essential medicine na ka, especially if you have chronic disease e.g. asthma (cuz most medicine, inhalors, and antibiotics require doctor's written prescription) , and some coats to keep you warm ka (then when u re settled, just buy more here ha).
U need a plug converter ka, go department store and ask for UK plug ka (50-150 baht)
มือถือควรไปซื้อที่นั่นเลยมั้ยค่ะ แล้วก็ซื้อซิมที่นั่นโทรกลับไทยจะถูกกว่ามั้ย << generally contract mobile phone is 18 months contract ka. You can get really good mobile by signing contract ja. 3 mobile usually offers shorter contract ka (6 months)
For the international call, I use VOIP ka, I know that there are some sim cards offer cheap international calls ka. should be around 10p per min na ka (talkmobile)
If you want more detail, pm me ka, I'm in Uni's lib right now so I cannot type thai ka
เครื่องใช้ไฟฟ้าไปซื้อที่โน้นเถอะค่ะ เพราะเคยเอาไปแล้วใช้ไม่ได้ เหมือนว่าใช้ไฟมันไม่เท่ากันอะไรซักอย่าง ซื้อที่โน้นราคาไม่แพงอย่างที่คิด เรื่องโทรศัพท์ซื้อบัตรโทรเอาถูกกว่าเยอะเลย เค้าเรียกว่าอะไรหว่า แบบว่ามีรหัสให้เรากดและตามด้วยเบอร์โทรอ่ะ (แอบโง่) ถูกมาก ๆ
พวกเสื้อโค๊ท เอาแค่ตัวสองตัวก็พอ ไปซื้อที่โน้นถูกกว่า และก็อุ่นกว่า(คิดเอาเอง) แต่ของกินพวกของแห้งเอาไปเยอะ ๆ ถ้าทำอาหารเองแนะนำ คนอนร์ เราพกไปกินได้ทั้งปีเลย ฮ่า ๆ
แต่ลองฟังความคิดเห็นเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนดูน้า
และสุดท้ายตั้งใจเรียนน้าจ้า :D:D
ปล อยู่แถวไหนเอ่ย เผื่อจะอยู่ใกล้ ๆ กัน
ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะที่ช่วยแนะนำหนู
หนูอยู่แถวโซน5ค่ะ
ครายมีความคิดเหนเพิ่มเติม แสดงความคิดเหนเลยนะคะ หนุจะเข้ามาดูบ่อยๆ
พวกของแห้ง มาซ์้อเอาที่นี่ก็ได้คะ อาหารแห้งมีขายเยอะ แต่ถ้าจะให้ดีนำพวกยามาดีกว่านะคะ
พวกแก้หวัด ทิฟฟี่ คอลาเจน ยาแก้คัน โบโนเวท เพราะเวลาหน้าร้อนบางคนแพ้อากาศ และบางทีก็ร้อนๆหนาวๆ ทำให้เป็นหวัดง่าย ร่มมาซื้อเอาที่นี่ก็ได้คะ อากาศที่อังกฤษเปลี่ยนบ่อย วันละสามฤดูคะ พวกเสื้อกันหนาวก็เอามาแค่ตัวสองตัว แล้วค่อยซื้อที่นี่เอาคะ เพราะผ้าที่นี่จะอุ่นกว่าบ้านเรา โทรศัพท์มาซื้อเอาแบบเติมเงินก็ได้คะ โนเกียถูกๆเยอะ แล้วใช้การ์ดโทรกลับบ้านเอาถูกกว่ากันเยอะ การ์ดซื้อได้ตามร้านไทยคะ เพราะเป็นเด็กนักเรียนไม่ทราบว่าเขาจะยอมให้ใช้โทรศัทพ์แบบจ่ายรายเดือนหรือเปล่า เพราะบางทีต้องมีเอกสารหลายอย่างประกอบในการเซ็นสัญญาคะ
[SIZE="2"]มือถือ ถ้าไม่รีบ เอาเครื่องของเมืองไทยไปค่ะ
พวกยี่ห้อมาตรฐานทั่วไปเอาไปใช้ได้ค่ะ เพราะกว่าจะเปิดแบํงค์แล้ว
ซื้อเครื่องรายเดือนได้คงกินเวลาพักนึงค่ะ ไปถึงถ้าบินไปถึงเช้า
ก้อให้ไป โซน 1 เลสเตอร์สแควร์ค่ะ ไปซื้อบัตรโทสับกลับไทยชื่อ call thai
มั้งคะ ถ้าจำไม่ผิด จะค่าโทรถูกหน่อยค่ะ
ของที่จำเป็น แนะนำว่ายานะคะ เอาไปเป็นกระตั้กเลยค่ะ
แต่ว่าอาหารนี่ ในโซโหมีขายเกือบทุกอย่างที่เป็นพื้นฐานค่ะ
มาม่านี่มีแทบจะทุกรส ขนมพวกป๊อกกี้ยังมีขายเลยค่ะ
คิดถึงค่าน้ำหนักกระเป๋าเกินจะโดนปรับ บวกลบกันแล้วไปซื้อเอาดีก่าค่ะ ><"
เสื้อผ้า เอาไปแค่พอประมาณ เดี๋ยวไปถึงนู่น อดใจช๊อปไม่ไหวแน่นอนค่ะ
จะเป็นภาระเอาขากลับได้ .... สบู่ แชมพู ก้อเอาไปใช้แค่ชั่วคราวก้อพอค่ะ
ไปซื้อเอาที่นู่น จะได้ไม่หนักค่ะ
เครื่องใช้ไฟฟ้า กำลังไฟเท่าไทยนะคะ แค่ต้องซื้อหัวไปเผื่อเปลี่ยนค่ะ
รูปติดบัตรเอาเผื่อไปก็ดีนะคะ ไซส์เท่ากับที่ทำพาสปอต ประมาณนั้นอ่ะค่ะ เพราะค่าถ่ายที่นู่นแพงอยู่ เผื่อไว้ทำบัตรรถค่ะ
อยู่โซน5 นั่งรถไฟแป๊บเดียวก็ถึงในเมืองค่ะ ไม่เหงาหรอก ที่นู่นคนไทยเยอะมากกกกกกกกค่ะ
ออกจากบ้านทีไร ต้องเจออย่างน้อยซักคนทุกที ^^,
ของกินไม่ต้องมากค่ะ หาซื้อใหม่ได้ไม่ยาก จริงๆแล้วเค้ามีขนมน่ารักน่ากินเยอะกว่าบ้านเราอีก, ยา (สามัญประจำบ้าน แก้ปวด แก้ไข้ แก้ไอ ยาลดความสวย), แป้งฝุ่น (อิอิ อันนี้เราขาดไม่ได้), เสื้อผ้าไม่ต้องเยอะ เพราะเห็นของใหม่ อดใจไม่ไหว ได้ซื้อใหม่แน่ๆค่ะ แต่ที่เราอยากให้เอาไปคือชุดชั้นใน :) , มือถือ (ปลดลอกด้วย), เงิน และน้องกระเป๋างามๆค่ะ
นอกนั้น ซื้อใหม่โลด :D
..
ไปเรียนมาหลายปีแล้วนะคะ คำตอบอาจจะไม่ update ค่ะ
จากประสบการณ์แนะนำให้ซื้อปลั๊กต่อแบบ international ไปอันนึงค่ะ แล้วก็ปลั๊กเปลี่ยนหัวจาก international ให้เป็นอังกฤษอีกอัน ทีนี้ก็จะสามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทั้งซื้อจากโน่นแล้วก็ที่หอบไปค่ะ สมัยเราหอบไดร์เป่าผม กะหม้อหุงข้าวใบเล็กๆ ไปค่ะ
เรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว ไม่ต้องหอบไปเยอะค่ะ เพราะพอไปถึงก็อยากจะช้อบที่นั่นมากกว่า แต่ถ้าชอบใส่พวกต่างหู กำไล ที่มัดผมอะไรเงี้ย ของไทยถูกกว่า สวยกว่าเยอะค่ะ
เรื่องอาหาร หอบไปพอสมควรค่ะ จริงๆ ที่นั่นก็มีขายเยอะ หาซื้อได้ไม่ยาก ยิ่งลอนดอน ยิ่งซื้อง่าย ถ้าอยากหอบไป ก็น่าจะหอบของที่ชอบทานไปค่ะ เพราะบางอย่างอาจจะหาไม่ได้ ตอนนั้น หอบทาโร่ ไปเยอะเหมือนกันค่ะ
เรื่องยา อันนี้เตรียมยาสามัญไปให้เยอะๆ เลยค่ะ แล้วก็ยาประจำตัวด้วยค่ะ สำคัญมั่กๆ
เครื่องใช้ ส่วนตัวแล้ว หอบเครื่องเขียนไปเยอะเหมือนกัน เพราะราคาเครื่องเขียนที่โน่น แพงอยู่ค่ะ ส่วนพวกแชมพู สบู่เนี่ย ใช้ของที่นั่นก็ได้ ยกเว้นแต่ว่า ติดยี่ห้อไหนเป็นพิเศษก็อาจจะต้องหอบไปให้พอใช้ค่ะ คือ พวกของใช้เนี่ย ราคาก็แพงกว่าของไทยนะคะ แต่พอซื้อได้ค่ะ เว้นแต่ว่าอยากประหยัดก็หอบไปก็ได้ เพราะไปเรียนน่าจะได้น้ำหนักเยอะอยู่แล้วค่ะ ซึ่งตอนเราไปก็หอบไปเยอะนะ ทั้งของใช้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าอนามัยค่ะ แหะ แหะ
เรื่องโทรศัพท์ สมัยเราไปสามารถทำ contract แบบ 12 เดือนได้ (แต่ตอนนี้ไม่รู้นะคะว่าต้องยาวกว่า 12 เดือนรึเปล่า) เพราะงั้น ก็ไปทำ contract ที่นั่นก็ได้ แต่ถ้าจะให้เซพหน่อย ก็เอาโทสับที่ใช้ที่นี่ไปด้วยแหละค่ะ เพราะอังกฤษใช้ระบบเหมือนของไทย เอาโทรศัพท์ของไทยไปใส่ซิมที่นั่นก็ได้ แล้วก็ค่อยซื้อซิมแบบเติมเงินใช้ก็ได้ค่ะ
อ้อ.....อย่าลืมหนังสือเรียนที่อาจจะต้องใช้นะคะ อย่างเราหอบดิคไทย-อังกฤษ แล้วก็อังกฤษ-ไทย ไปด้วยค่ะ เผื่อฉุกเฉิน ^^"
ไม่ต้องคิดเตรียมอะไรมากมายหรอกค่ะ ที่นู่นมีขายหมดทู๊กอย่างค่ะ อิอิ โดยเฉพาะเสื้อผ้าอ่ะค่ะเอาไปแต่ไม่ต้องขนไปมากหรอก ที่นั่นก็ไม่ได้แพงอะไรค่ะ เราว่าถูกด้วยซ้ำไปสำหรับของ High-st. ธรรมดาๆ
ก็ยาบางชนิดอ่ะค่ะที่ไม่มีเพราะเค้าต้องจ่ายด้วยแพทยือ่ะ ประเภท ยาแก้อักเสบ ยาลดน้ำมูกบางชนิด
ส่วนของทานก็เอาไปนิดๆหน่อยๆก็พอจ้า
ที่เราขนอ่ะ หม้อหุงข้าว 55 , Notebook อันนี้ไม่มีคงตาย ไดร์ก็เอาไปค่ะ แต่สุดท้ายไปซื้อใหม่ที่นู่น แบบแก้ไฟฟ้าสถิตย์อ่ะ
เราเคยอยู่ Family มันคือ Home Stay แหละคิดว่า ประมาณสามเดือนได้ ตอนเช้าเค้าให้แค่ นม กะ ซีเรียล (คิดละอนาจ) ตอนเย็นก็อาหารบ้าไรไม่รู้อ่ะ กระเดือกไม่ลง ต้องไปซื้อ Take Away ร้านจีนกินอ่ะ แต่ก้ดีนะคะ ได้พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็ว่าไม่ได้ช่วยเราเท่าไหร่อ่ะ เพราะเป็นภาษาแบบที่เราก็น่าจะพูดๆกันได้อยู่แล้ว คือภาษาในชีวิตประจำวันอ่ะ ไม่มีอะไร complicated
สุดท้ายออกมาเช่าบ้านเอง สะดวก สบาย กว่ากานเยอะเรยค่ะ :D
อ่อลืมมือถือไปซื้อเอาใหม่เรยค่ะถูกค่ะไม่แพง
แรกๆพี่ก้อยู่โซนห้าค่ะ แต่เข้าลอนดอนกลางเมืองมันทุกวีคเอน เลยย้ายเข้ามาโซน 1 เลยค่ะ 55
เดี๋ยวนี้มือถือเปิดคอนแทรคได้นะคะ แต่ว่าเค้าเอาค่ามัดจำค่ะ สำหรับพวกนักเรียน แล้วไม่มีบัตรเดบิตของธนาคารที่นั่นอ่ะจ้ะ แต่ถ้ามีบัตรเครดิต หรือ เดบิตของที่นั่นจะเปิดง่ายหน่อยค่ะ
โชคดีนะคะ :D
ขอบคุณพี่ๆทุกคนเลยค่ะ ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นมาเพียบ
ตอนนี้หนูอ่านไปก็นั่งลิสต์สิ่งที่ต้องเตรียมไปค่ะ
รู้สึกว่า sbnอยู่กันอย่างพี่น้องจิงๆค่ะ
ช่วยแนะนำทุกอย่าง ดีใจที่ได้รู้จัก SBN
^__________^
Originally Posted by Keeki
ไม่ต้องคิดเตรียมอะไรมากมายหรอกค่ะ ที่นู่นมีขายหมดทู๊กอย่างค่ะ อิอิ โดยเฉพาะเสื้อผ้าอ่ะค่ะเอาไปแต่ไม่ต้องขนไปมากหรอก ที่นั่นก็ไม่ได้แพงอะไรค่ะ เราว่าถูกด้วยซ้ำไปสำหรับของ High-st. ธรรมดาๆ
ก็ยาบางชนิดอ่ะค่ะที่ไม่มีเพราะเค้าต้องจ่ายด้วยแพทยือ่ะ ประเภท ยาแก้อักเสบ ยาลดน้ำมูกบางชนิด
ส่วนของทานก็เอาไปนิดๆหน่อยๆก็พอจ้า
ที่เราขนอ่ะ หม้อหุงข้าว 55 , Notebook อันนี้ไม่มีคงตาย ไดร์ก็เอาไปค่ะ แต่สุดท้ายไปซื้อใหม่ที่นู่น แบบแก้ไฟฟ้าสถิตย์อ่ะ
เราเคยอยู่ Family มันคือ Home Stay แหละคิดว่า ประมาณสามเดือนได้ ตอนเช้าเค้าให้แค่ นม กะ ซีเรียล (คิดละอนาจ) ตอนเย็นก็อาหารบ้าไรไม่รู้อ่ะ กระเดือกไม่ลง ต้องไปซื้อ Take Away ร้านจีนกินอ่ะ แต่ก้ดีนะคะ ได้พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็ว่าไม่ได้ช่วยเราเท่าไหร่อ่ะ เพราะเป็นภาษาแบบที่เราก็น่าจะพูดๆกันได้อยู่แล้ว คือภาษาในชีวิตประจำวันอ่ะ ไม่มีอะไร complicated
สุดท้ายออกมาเช่าบ้านเอง สะดวก สบาย กว่ากานเยอะเรยค่ะ :D
อ่อลืมมือถือไปซื้อเอาใหม่เรยค่ะถูกค่ะไม่แพง
แบกหม้อหุงข้าวไปเหมือนกันเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้มีขายตามห้างหรือยัง เห็นมีแต่พวก slow cook ไม่แน่ใจว่าจะใช้แทนกันได้หรือเปล่า
แนะนำอย่างแรงคือยาค่ะ โดยเฉพาะยาแก้อักเสบทั้งหลาย ถ้าป่วยหาหมอที่อังกฤษจะยุ่งยากมากค่ะ เตรียมยาให้พร้อมจะดีที่สุด เพราะยาเฉพาะทางเนี่ยเค้าต้องมี prescription อย่างเดียวเลย
พวกยาสามัญต่างๆเตรียมไปให้พร้อมค่ะ บางอย่างบ้านเค้าแทนกันไม่ได้ (ที่บ้านติดยาธาตุกระต่ายบิน 55)
ถ้าใส่ contact lens ก้อเตรียมไปให้พอเลยค่ะ ที่โน่นซื้อเองไม่ได้ ต้องให้จักษุแพทย์ออกให้ น้ำยาล้างเลนส์ก้อแสนจะแพง แต่ถ้าใส่แว่น เอาแว่นสำรองมาด้วยนะคะ
เสื้อผ้าต่างๆ มาหาเอาที่อังกฤษเลยค่ะ ไม่แพง ไม่ต้องเสียแรงแบกมาด้วย
ปลั๊กของอังกฤษ เป็นสามขา ซื้อ adapter ติดมาด้วยหลายๆอันก้อดีค่ะ
มือถือ เอาของไทยมาใช้ด้วยได้ค่ะ แล้วค่อยมาซื้อ sim ที่นี่ จะเลือกแบบระยะยาว sign contact แถมมือถือ หรือ เอาแบบ top up pay as you talk ก้อแล้วแต่เราค่ะ ถ้าโทรกลับไทยก้อซื้อ calling card เอา ไม่แพงค่ะ
น้องอยู่ลอนดอนไม่ลำบากหรอกค่ะ ไม่ต้องกลัวเรื่องอาหารการกินเลย พี่อยู่บ้านนอก ได้ฝึกการทำอาหารไปในตัว เพิ่งจะรู้ว่าเราก้อมีฝีมือในการทำอาหารก้อตอนลำบากนี่แหละ(ทำเอง กินเอง ชมเอง คริคริ)
อ่อ ก่อนมาจัดการตัดผม ทำฟัน หาหมอ ให้เรียบร้อยนะคะ พี่ว่าดูแลเรื่องสุขภาพก่อนสำคัญสุดค่า นอกนั้นขาดยังพอหาซื้อได้เนอะ
Enjoy life & best of luck na ka :D
เครื่องไฟฟ้า ที่สมควรเอาไปที่สุด คือหม้อหุงข้าวค่ะ
ทานคนเดียว เล็กๆก็พอ เรื่องกำลังไฟ ไม่ต้องห่วง ใช้ 220 เหมือนบ้านเราค่ะ แค่ซื้อห้วปลั๊ก สามขามาใส่เพิ่มเท่านั้นคะ เสื้อผ้า ไม่ต้องขนไปเยอะ เสื้อกันหนาวไปหาเอาที่โน้นดีกว่า โดยเฉพาะแบบกันน้ำ ไปซื้อที่โน้นดีกว่าคะ จำเป็นคะ ดีกว่าหอบร่มเยอะ โชคดีนะคะ
ของกินของใช้จำเป็นต่างๆเพื่อนๆพี่ๆบอกน้องกันไปหมดแล้ว...ตามนั้นเลยค่ะ
ที่เหลือก็เตรียมตัว...เตรียมใจ...พบกับสิ่งใหม่ๆในชีวิตนะคะ
culture shock เป็นแน่ๆ แล้วจะผ่านมันไปได้เองค่ะ
เตรียมร่างกายให้แข็งแรงเพราะต้องเรียนหนัก อ่านหนังสือเยอะ เที่ยวเยอะด้วย อิอิ
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตดีดีให้เต็มที่นะคะ
:)
[SIZE="3"]เรื่องปลั๊กเนี่ย แนะนำให้ซื้อแบบที่เสียบได้ทีละหลายๆปลั๊ก คือ ที่มันมีหลายๆsocket อ่ะค่ะเหมือนแบบปลั๊กสามตาบ้านเรา
มันจะมีรุ่นที่แบบเสียบได้ทั้งของไทยและของอังกฤษ แล้วแต่ละ socket ก็จะมีสวิตตัดไฟอ่ะค่ะ อันนึงจะยาวๆประมาณฟุตนึงได้ แล้วก็มีประมาณ 3-6 socket แล้วแต่เราเลือกค่ะ
จากประสบการ์ณแบบนี้เวิร์คสุดเลย
เพราะอย่างโต๊ะทำงานอาจจะมีที่ให้เสียบปลั๊กแค่ socket เดียว แต่พอใช้จริงๆใช้ประมาณสี่ห้าปลั๊กอ่ะ ไหนจะแลปทอป ลำโพง โคมไฟ และอื่นๆจิปาถะ ยิ่งถ้าอยู่หอพัก ทั้งห้องพัก มีปลั๊กอยู่ สองsocket เอง เวลาจะใช้ต้องถอดเข้าออก วุ่นวายค่ะ ใช้แบบนี้ดีกว่าเยอะ แถมถ้าเป็นเครื่องไฟฟ้าที่ซื้อที่นู่ก็ใช้กับปล๊กแบบนี้ได้เหมือนกันค่ะ ไม่เสียเปล่าดี เรียนจบกลับมาไทย เอากลับมาใช้กับปลั๊กไทยได้อีก 5555
แต่ยังไงเสีย แบบที่คุณนิคแนะนำก็ควรติดไปซักอันค่ะ เอาไว้เวลาเดินทางไปเมืองอื่นๆก็ดีค่ะ สะดวกในการพกพา
ส่วนเรื่องอื่นๆ เพื่อนๆ ตอบไปหมดแร้วค่ะ ครบแล้วล่ะเราว่า
[SIZE="3"]เอารูปมาให้ดูว่าเป็นแนวๆแบบนี้ค่ะ แต่ว่าให้เลือกอันที่สามารถรับได้ทั้งปลั๊กไทย และ uk ค่ะ และแต่ละช่อง ก็จะมีสวิตช์ตัดไฟแต่ละตัวด้วยค่ะ ลองถามแผนกไฟตามห้างใหญ่ๆดูค่ะ รู้สึกว่าโลตัสก็มีนะ ไม่แน่ใจ ราคาประมาณ สามร้อยกว่า หรือ ห้าร้อยกว่าเนี่ยแหละค่ะ จำบ่ได้
ปล แต่ในรูปที่เป็นsocket แบบนี้ใช้กับปลั๊กอังกฤษไม่ได้นะจ๊ะ และไม่มีสวิตตัดไฟของแต่ละ socket ด้วย ระวังอย่าซื้อผิดนะคะ ว่าไปแบบในรูปก็ไม่รู้จะทำสามรูมาไมอ่ะ ใช้กับปลั๊กอังกฤษก้อมะได้ งง เหอๆๆ
ขอถามต่อด้วยคนค่ะ ถ้าปลั๊กไฟสำหรับใช้ที่ ฝรั่งเศส,อิตาลี,สวิส ล่ะคะ? เป็นหน้าตาแบบไหน(สามรูกลมหรืเปล่า) แล้วใช้ไฟเท่าไหร่คะ?
Originally Posted by Tinuviel
ขอถามต่อด้วยคนค่ะ ถ้าปลั๊กไฟสำหรับใช้ที่ ฝรั่งเศส,อิตาลี,สวิส ล่ะคะ? เป็นหน้าตาแบบไหน(สามรูกลมหรืเปล่า) แล้วใช้ไฟเท่าไหร่คะ?
คุณ Tinuviel ไปที่นี่นะคะ คลิ๊กตามประเทศเลยค่ะ
http://kropla.com/electric2.htmจริงๆ แบบหัวเดียวใช้ได้ 50-70 กว่าประเทศ อันละประมาณ 70 กว่าบาทก็ใช้ได้แล้วค่ะ
แต่เราซื้อแบบนี้ที่เซ็นทรัล ราคาประมาณ 300 กว่า หัวเปลี่ยนได้ตามแบบและกำลัง voltage เลยค่ะ



^
^
^
ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวเอากระทู้ให้สามีดู ^___^