มีใครพอทราบเรื่องกฎหมายมรดกบ้างคะ ขอความรู้เบื้องต้นหน่อยค่ะ ตอนนี้กำลังสับสน งงไปหมดแล้ว
เรื่องมีอยู่ว่าที่ดินนี้เป็นของแฟนค่ะ คือสมัยก่อนคุณยายเค้าป่วยเป็นอัมพาต ทีนี้ในหมู่ป้า น้า ลุงแล้วก็แม่ของเค้าก็ตกลงกันว่าใครลาออกจากงานมาดูแลยายก็ให้คนนั้นได้ที่ดินนี้ไป (ที่ดินนี้มีบ้าน 2หลังค่ะ เป็นหลังใหญ่ที่คุณยายของแฟนอยู่ กับของน้าผู้หญิงคนเล็ก พาครอบครัวมาสร้างบ้านในที่ดินนี้ตั้งแต่เค้าแต่งงาน) ปรากฏว่าแม่แฟนตัดสินใจลาออกจากราชการมาดูแลยายกว่า 10 ปียายจึงเสีย ก่อนยายเค้าเสียก็ทำเรื่องโอนที่ดินผืนนี้ให้เป็นชื่อแม่แฟนไปเรียบร้อย ต่อมาเมื่อปี 47 แม่แฟนเสียด้วยโรคมะเร็งค่ะ ตอนนั้นแฟนก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่ดินเพราะต้องทำงานต่างจังหวัดตลอด
มาเริ่มมีปัญหาตอนนี้แหละเพราะเราจะแต่งงานกัน เราก็กะว่าจะเอาที่ดินผืนเนี้ยไว้เป็นบ้านตากอากาศ (เป็นที่ดินติดแม่น้ำ) แฟนก็กะว่าจะยกให้เป็นสินสอดอยู่แล้ว พอเค้าไปบอกญาติ ๆ ซึ่งประกอบด้วยลุง ป้า น้ารวม 5 คน ปรากฏว่ามีน้าชาย 1 คนกับน้าผู้หญิงคนเล็กที่เค้ามีบ้านอยู่ในที่เนี้ยเค้าบอกลูกของยายทุก ๆ คนต้องได้แบ่งเท่า ๆ กัน เรากับแฟนก็งงเพราะเข้าใจมาโดยตลอดว่ามันสามารถเป็นของแฟนเราได้คนเดียวเพราะหลังโฉนดเป็นชื่อแม่เค้าและเค้าก็เป็นลูกคนเดียว
ทำไมมันโอนให้แฟนไม่ได้ล่ะคะ ญาติ ๆ คนอื่นก็ไม่มีปัญหาเพราะรักษาสัญญาที่ทำไว้ก่อนที่ยายจะเสีย แต่น้า 2 คนเนี้ยเค้าบอกว่าเค้าสามารถคัดค้านไม่ให้แฟนเราโอนกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของได้
....ถ้าเรื่องนี้ยังไม่เรียบร้อย สงสัยต้องเลื่อนกำหนดแต่งไปก่อนแล้วล่ะ ดูท่าจะยาวด้วย
ใครพอทราบกฎหมายช่วยชี้แนะด้วยค่ะ เครียดเลย
ตามมาตรา 1629 วรรค 4-5 ทายาทลำดับแรกที่มีสิทธิรับมรดกคือแฟนของคุณ ทั้งนี้แฟนคุณเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกก่อนลุง ป้า น้า ซึ่งอยู้ในลำดับถัดไป อันไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกเลย ตามมาตรา 1630 วรรคแรก
ประมาณนี้น่ะค่ะ :]]]
ใช่ค่ะ เราก็เข้าใจอย่างนั้นแต่ทางน้าเค้ายืนยันว่าเค้าสามารถค้านได้เพราะตอนนั้นไม่มีลายเซ็นลุง ป้า น้ายินยอมสละสิทธิ์การรับมรดกให้ยายยกให้แม่แฟนได้คนเดียว เหมือนว่ายายกับแม่แฟนไปงุบงิบกันเอง น้าเค้าพูดแบบมั่นใจมากด้วยนะคะ เราก็เลยลังเลว่ามันมี trick รึเปล่าที่เราคนทั่วไปอาจไม่ทราบเพราะมันเป็นที่ดินมรดก ไม่ใช่ที่ดินซื้อขาย
ไม่มีความรู้เรื่องกม.แต่ มาให้กำลังใจค่ะ
สิทธิในกองมรดกต้องถือเอาเจตนาของเจ้ามรดกเป็นสำคัญค่ะ เมื่อคุณยายทำการโอนให้คุณแม่แฟนแล้ว เท่ากับว่าเป็นการยกให้ (ณ ตอนนั้นยังไม่ใช่มรดก เพราะเจ้ามรดก (คุณยาย) ยังไม่เสียชีวิต)
เมื่อกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามทะเบียนเป็นของผู้ใด (ในที่นี่ก้อคือ คุณแม่แฟนคุณ) เมื่อเจ้ากรรมสิทธิ์ถึงแก่กรรม บ้านหลังนี้นับว่าเป็นกองมรดกของเจ้ามรดก (คุณแม่แฟนคุณ) ไม่ใช่ของคุณยายอีกต่อไป (ตั้งแต่ที่มีการโอนให้คุณแม่แฟนคุณก้อไม่ใช่กรรมสิทธิ์หรือมรดกของคุณยายแล้วค่ะ เพราะว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่) ดังนั้น เมื่อเจ้ามรดก (คุณแม่แฟนคุณ) ถึงแก่ความตาม ให้ดูตามที่คุณ thomas กล่าวมาค่ะ นั่นคือ ถ้าทายาทในลำดับแรกไม่มี ต้องยกให้เป็นของทายาทลำดับถัดไป (การรับมรดกแทนที่) ในเมื่อแฟนคุณเป็นบุตรซึ่งเป็นทายาทลำดับแรกยังมีชีวิตอยู่ จึงมีสิทธิ์ในกองมรดกของคุณแม่ค่ะ
คนอื่นอดหมดจ๊ะ ไม่มีสิทธิ์คัดค้าน ถ้าจะคัดค้านก้อปล่อยไป ยังไงศาลก้อจะตัดสินให้บ้านหลังนั้นและกองมรดกของเจ้ามรดกสืบต่อให้แก่ทายาทตามลำดับขั้นค่ะ
เว้นแต่ว่า คุณแม่แฟนคุณทำพินัยกรรมไว้ นั่นก็ต้องไปดูว่า ท่านมีความประสงค์จะยกให้ใครบ้าง ถ้ากรณีไม่มีพินัยกรรม ก้อเป็นไปตามที่แป้งว่าข้างบนค่ะ
หวังว่า พอจะเข้าใจนะคะ
ถ้าไม่เข้าใจ เขียนมาถามอีกได้นะคะ อาจจะใช้ภาษษกฎหมายมากไปหน่ย (รึเปล่าฝ) กลัวคนอื่นอ่านแล้วงงๆ ค่ะ แหะๆ
ขอบคุณเพื่อนที่ให้กำลังใจและขอบคุณความรู้จากคุณแป้งค่ะ เดี๋ยวจะได้ไปดำเนินการต่อไปค่ะจะได้จบ ๆ ซะที
ด้วยความยินดีค่ะ จะได้ไม่ลืมวิชาฟามรู้ด้วย อุอิ
บ้านน้าที่ปลูกอยู่ในที่ดินของแฟนคุณ เราว่าก็ต้องตกเป็นของแฟนคุณด้วย(จำได้ลางๆ ว่าสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บนที่ดิน เจ้าของที่ดินได้อ่ะ) ใช่ป่าวคะ?
ญาติอาจคิดว่าเป็นการครอบครองแบบ ปรปักษ์ (ครอบครองปรปักษ์คือ ต้องเป็นการเข้าไปครอบครองที่ดินโดยสงบเปิดเผยและมีเจตนาเป็นเจ้าของ เกิน 10 ปี )
แต่จะยึดครองเป็นของเจ้าของไม่ได้เพราะ ยังรับรู้สิทธิของเจ้าของอยู่
ชอบกระทู้นี้ค่ะ มีสาระ และ เรียบร้อย ดี
เราก็คิดว่าคุณน้าสาวอาจจะหัวหมอยกสิทธิครอบครองปรปักษ์มาอ้างแน่เลยค่ะ
แต่กรณีนี้ ยังไงๆ คุณน้าสาวก็ไม่อาจได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้นะค้า ^^
ป.ล. คุณแป้งอธิบายดีจังค่ะ ฟื้นความรู้เก่าๆที่หลบอยู่ในซอกหลืบของเราเช่นกัน ขอบคุณนะคะ
ใช่เลยค่ะ เค้าบอกเค้ามาปลูกบ้านตั้งแต่เค้าแต่งงาน ยังไง ๆ ก็ต้องแบ่งที่ตรงที่เค้าอยู่ให้เค้าด้วย
เดี๋ยวต้องรีบไปจัดการ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่รักษาสัญญาที่ตกลงกันไว้ในหมู่พี่น้อง จะโกงหลาน (แฟนเรา) กันซะงั้น
ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนเลยค่ะ
เท่าที่นิวจำได้นะคะ
เค้าอาจะฟ้องแพ่งได้ตรงกรณีที่บ้านเค้า อยู่ในที่ดินของเราน่ะค่ะ
เค้ามีสิทธิ์ที่จะซื้อที่ตรงที่บ้านเค้าปลูกอยู่ได้(ถ้านิวจำไม่ผิดนะคะ)
หรือไม่ เราก็ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อบ้าน(เฉพาะตัวบ้าน ไม่รวมที่ดิน)ที่เค้าปลูกในที่ของเรา
แต่ไม่มีทางที่เค้าจะได้ที่ดินตรงนั้นไปฟรีๆแน่ๆค่ะ
แต่ถ้าบ้านยังเป็นชื่อคุณยายอยู่เนี่ยสิคะ ถึงจะฟ้องได้(ใครฟ้อง คนนั้นได้ส่วนแบ่ง)
เพราะกรณีนี้นิวโดนมาแล้ว...