[SIZE="3"]เป็นเมลล์ที่ได้รับมาค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก
อ่านแล้วจะได้ระวังกันนะคะ!!!

[SIZE="4"]เรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 23 มีนาคม 2548
ช่วงสายของวันข้าพเจ้าได้ไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลราชวิถีและคุณหมอ
ได้สั่งยาลดคลอเลสเตรอลในเส้นเลือดให้ซึ่งเป็นยาราคาเม็ดละ 68 บาท
คุณหมอสั่งยาราคาแพงให้เนื่องจากข้าพเจ้าสามารถนำไปเบิกได้
จากนั้นก็ได้นำใบสั่งยาไปชำระเงินทั้งหมดประมาณห้าพันกว่าบาท
และไปรับยาที่ช่องจ่ายยา นับว่าเป็นโชคดีของข้าพเจ้าเนื่องจาก
ข้าพเจ้าเห็นว่าจำนวนยามากเกินไปเกรงว่าจะมีผลข้างเคียง
จึงได้นำยาตัวนั้นกลับไปพบคุณหมอที่จ่ายยาให้เพื่อขอคำปรึกษาในการรับประทานยา
เมื่อคุณหมอเห็นตัวยานั้นคุณหมอได้ขอดูใบเสร็จรับเงินซึ่งเป็นราคาค่ายา
ที่คุณหมอสั่งจ่ายเม็ดละ 68 บาท แต่ยาที่ข้าพเจ้าได้รับนั้นเป็นยาที่ราคาเม็ดละ
8 บาทซึ่งมีสรรพคุณต่ำกว่าตัวยาที่คุณหมอสั่งจ่าย
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากและเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในโรงพยาบาลที่รักษา
คนไข้เลยทางคุณหมอจึงแจ้งให้นางพยาบาลนำยาที่ข้าพเจ้าได้รับไปเปลี่ยน
ที่ช่องรับยาและให้แจ้งกับหัวหน้าเภสัชให้ทราบด้วย
เนื่องจากคุณหมอแจ้งว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เป็นครั้งนี้ครั้งแรกแต่เกิดขึ้นหลาย
ครั้งแล้วซึ่งทางคุณหมอไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากคนไข้เยอะมากและ
คุณหมอจะไม่ทราบเลยว่าใบสั่งยาที่คุณหมอเขียนสั่งไปนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลง
โดยทางเภสัชจ่ายยา ข้าพเจ้ายังคงข้องใจว่าแล้วทางผู้ที่
กระทำผิดจะได้อะไรและนำยาที่ราคาแพงไปทำอะไร ซึ่งเมื่อถามคุณหมอ ๆ
ก็ได้ชี้ไปที่ร้านขายยาซึ่ง ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาล ก็เป็นที่รู้ๆ
กันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไรจึงขอแจ้งให้ทราบและ
ระวังตัวเวลารับยาควรเช็คให้ดีว่าตรงกับที่คุณหมอสั่งในใบสั่งยาหรือไม่

แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังงัยอ่ะคะว่าได้รับยาตรงตามที่สั่งหรือเปล่า
เพราะชื่อที่เค้าเรียก บางทีบอกแค่ประเภทยา ไม่ได้เป็นยี่ห้อยาน่ะค่ะ
เว้นแต่จะทำแบบที่คุณดิวบอก คือเอายากลับไปให้หมอดูว่าใช่หรือเปล่า

นั่นสิเนอะ! ดิวว่าถ้าเป็นโรงพยาบาลของรัฐ เช่น ศิริราช จุฬา รามา ฯลฯ
ต้องระวังนิดนึง ต้องถามชื่อยาที่หมอสั่งมาเลย แล้วตอนรับยาก็ต้องเช็คชื่อยาอีกที

แต่พวกเอกชนไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้ที่ห่อยา เค๊าจะพิมพ์ชื่อยามาเลย

สังเกตุว่า บางทีไปหาหมอเก่ง แต่ทำไมยาที่หมอให้มา กินแล้วไม่หาย
อาจเป็นเพราะโดนเปลี่ยนยา จากยานอกราคาแพงเป​็นยาราคาถูกก็ได้นะ

ยังไงก็ขอฝากคุณหมอหลายๆคนในนี้ด้วยค่ะ:)

เรื่องให้ยาผิดไม่ตรงกับที่เราต้องการเราสามารถเขียนเรื่องร้องเรียนก้บผู้อำนวยการเขาได้เลยค่ะ แต่ส่วนใหญ่ต้องระบุชื่อจริงเบอร์ที่ติดต่อและที่อยู่จริง เพราะส่วนใหญ่เรื่องนี้เกิดเพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีจรรยาบรรณ ทางโรงพยาบาลไม่รู้เห็นด้วยแน่ เขาจะได้มีการสอบสวนความผิดและออกระเบียบและจัดระบบงานใหม่ไม่ให้เกิดขึ้นอีก จะช่วยได้มาก ถ้ามีจดหมายร้องเรียนก็จะมีคนคอยตรวจสอบเฝ้าดู เขาก็จะไม่กล้าทำ เราก็จะไม่ได้ถูกโกงอีก นี่เป็นการให้ยาผิดแบบเจตนาเพราะต้องการผลประโยชน์ แสดงว่าทางโรงพยาบาลมีการรับรู้ข้อมูล แต่ไม่มีการแก้ไขเพราะเจ้าหน้าที่ไม่เอาใจใส่ เรื่องจึงไม่ถึงผู้บริหารและไม่ได้รับการจัดการ เมื่อเจอต้องรีบร้องเรียนค่ะ แต่มีการให้ยาผิดอีกแบบนึงที่ให้ยาผิดเป็นเพราะเจ้าหน้าที่จัดยาให้ผิดเนื่องจากชื่อคล้ายกันก็พบบ่อย ใครเจอก็โชคร้ายหน่อย เช่น สั่งยาแก้แพ้ ได้ยากันชักมา ดีว่ามีความรู้เรื่องยาอยู่บ้าง และที่ซองก็พิมพ์ชื่อยามาเลยรู้ทันเอาไปเปลี่ยนเขาขอโทษใหญ่และแจ้งหัวหน้าเขาให้เขาตรวจสอบให้ดีก่อน ที่เคยเจออีกเรื่องคือพาเพื่อนไปตรวจเพราะมีไข้ และเขาแพ้ยาเพนนิซิลิน ตอนแรกเขาก็ถามตามระบบแล้วว่าแพ้ยาอะไรไหมเราก็แจ้งให้ทราบเรียบร้อย แต่พอแพทย์สั่งยาให้กลับให้ยาตระกูลเพนนิซิลินมาดีว่าเรามีความรู้อยู่บ้างเลยทราบและรีบไปแจ้งให้แพทย์เปลี่ยนยาให้ หมอก็น่าเสียไปแต่ไม่ขอโทษไม่พูดอะไรสักคำ ถ้าคนไม่รู้กลับไปบ้านทานยาเข้าไปก็แย่เลย หมอเองยังขาดความรอบคอบเลย เราเองต้องรอบคอบ สำคัญเวลาไปรับยาจากห้องยาจะมีเภสัชกรเป็นคนแจกยาและอธิบายการใช้ยาและเขาก็จะถามเราว่าแพ้ยาอะไรไหมอีกครั้ง เราสงสัยอะไรก็ถามเขาได้เลยเกี่ยวกับยาชื่อยาต่าง ๆ ว่าถูกต้องตรงตามที่หมอให้หรือเปล่า ไม่ต้องกลับไปถามหมอนอกจากยานั้นหมดจริง ๆ ต้องใช้ตัวอื่นแทนเขาก็จะบอกให้เรารู้ก่อนว่าจะใช้ตัวอื่นแทนที่แทนกันได้

ของเราเจอกับลูกอะค่ะ

แต่เป็นเรื่องโดสของยาที่ให้รับประทาน รพ.มีชื่อทีเดียวอะ แถวๆพระรามเก้า เป็นยาแก้อักเสบ ซึ่งยาตัวนี้ก็เคยได้รับมาทานแล้ว ครั้งก่อนคุณหมอให้ลูกทาน 2.5 ซีซี แต่พอคราวนี้เห็นฉลากเป็น 5 ซีซี ตอนแรกก็ให้ทานตามฉลากเพราะจะของเก่าไม่ได้ว่าเคยทานเเท่าไหร่ หลังจากที่ลูกทานไปได้ ครึ่งชั่วโมง ก็อาเจียนออกมาเยอะมาก ก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องทานยาเกินขนาด พออีกวันก็ให้ทานอีก แต่ด้วยความเคยชินว่าส่วนใหญ่ลูกจะทานยาแค่ 2.5 ซีซี เป็นส่วนใหญ่ ก็เลยให้ไปแค่ 2.5 ซีซี

แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ฉลากเขียนไว้ 5 ซีซี นี่นา เลยจะไปเอาให้ทานเพิ่ม บังเอิญเจอขวดเก่ายังไม่ได้ทิ้งเลยดูที่ฉลาก ปรากฎว่า แค่ 2.5 ซีซี ซึ่งเป็นของที่พึ่งไปหามาไม่ถึงเดือนเอง เท่านั้นแหละ!!! รีบโทรหา รพ.ทันที เลยทราบว่า อาการของลูกที่ อาเจียน+งอแงมากๆ เมื่อวานเป็นเพราะยาเกินขนาดนี่เอง ตอนแรกนึกว่า ห้องยา รพ.พิมพ์ฉลากผิด แต่ไม่ใช่...ดันเป็นคุณหมอเองที่คีย์ข้อมูลผิด โชคดีที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตนะเนี่ย

คุณหมอก็ได้แต่ขอโทษเท่านั้นอะ...

เพื่อนๆก็อย่าลืมสังเกตุ ยาที่ลูกทานนะค่ะ ถ้ามีตัวใหม่ หรือ เปลี่ยนปริมาณก็ต้องถามหมอก่อนนะค่ะ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะค่ะ

อืม ขอบคุณมากค่ะ พี่ดิว

อันนี้คุณพ่อเคยเจอกับตัวเองเลยคับ ตอนแรกแค่ไม่สบายนิดหน่อย
แต่เพราะได้รับยาที่จ่ายมาผิด เลยทำให้คุณพ่อต้อง
นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลต่ออีกเกือบสองอาทิตย์
ที่สำคัญทางโรงพยาบาลพูดได้แค่ ขอโทด
แต่เรื่องค่าใช้จ่ายอาไรทั้งหลายเราเองยังต้องเป็นคนจ่าย
เป็นโรงพยาบาลเอกชน ที่ไม่คิดและไม่กล้าเยียบไปอีกเลยคับ

แม่แฟนเราก็เคยเจอค่ะ เกือบเอาชีวิตไม่รอด แม่เค้าเป็นเบาหวาน และเลือดออกในตา หมอดันสั่งยาผิด เอายาสลายลิ่มเลือดให้กิน แม่แฟนเรากินยานี้ไปเกือบ 2 อาทิตย์ ก็มีอาการตามัว มองไม่ค่อยชัด จนมีญาติคนนึงมาเห็นยา ซึ่งเค้าเป็นโรคหัวใจ เค้าก็บอกว่า ยาที่กินอยู่เป็นยาที่เค้ากินอยู่มันคือ ยาสลายลิ่มเลือด ซึ่งคนที่มีเลือดออกอยู่กินไม่ได้เลย ..ช็อคกกันสิคะ คราวนี้ รีบบึ่งไปหาหมอ อยากด่าเลยค่ะ หมอพูดง่ายๆ ว่า อ๋อ หมอสั่งยาผิด ชื่อทางยามันคล้ายๆ กัน แหม หมอแก่แล้วก็ต้องมีหลงๆ ลืมๆ บ้างสิ แต่ก็ดีนะ ไม่ได้กินจนหมด ...เลวมั๊ยเนี่ย มานั่งคิดว่าถ้าญาติอีกคนไม่มาเห็นเข้าแม่แฟนเราคงเลือดออกตาไปหมดแล้ว ทีแรกก็กะว่าจะไปฟ้องร้อง แต่แม่แฟน เค้าไม่อยากมีปัญหา ทุกวันนี้ยังเจ็บใจคำพูดหมอไม่หายเลย

แย่จังเลยค่ะ

ทั้งๆที่เป็นเรื่องสำคัญมาก อันตรายถึงชีวิตแท้ๆ

แต่กลับไม่ค่อยใส่ใจกันเลย น่าเศร้าใจ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ปกติไม่เคยได้เช็คเรยยย -..-"""