เรื่องมีอยู่ว่า..เราคบกับแฟนมา 6 ปีเขาดีมากในสายตาเรา ไม่เคยนอกรู้นอกทางให้เห็น....จนกระทั่งเมือ 2 เดือนที่แล้ว เราจับได้ว่าเขาคุยกะญ.อื่นซิ่งอายุอ่อนกว่า8ปี (เขา31) แถม ญ.คนนี้ทำงานอาบ อบ แนบ เราเสียใจแบบว่าเสียสติไปเลย ไม่รู้ทำไงก็โทรคุยกะเด็กนั่นซะ สรุปได้ว่ามีไปหมำข้าวกันกะโทรคุยกันแบบทั้งวัน เราบอกให้เลิกซะ แฟนเราก็สัญญาว่าจะเลิกคุยแต่เราก็จับได้ว่าเขาโกหก โกหก2 ครั้งด้วยกันแบบจับได้ติดๆ สัญญาวันนี้ พรุ่งนี้โกหก สัญญาครั้งที่2 อีก1 อาทิตย์โกหก(จับโกหกได้เพราะเราแอบเช็คทางศูนย์มือถือ55) เจ็บปวดใจสุดๆ แต่เราก็ให้อภัยและกลับมาคบกันใหม่ ความระแวงกะการกลัวตัดสินใจผิดพลาดก็ตามหลอกหลอนตลอด..จนผ่านไป2 เดือนนึกว่าทุกอย่างจะจบเพราะเขาพยายามอย่างเต็มที่ (เรารับรู้จริงๆนะ) แต่เมื่อวานสดๆร้อนๆไปนั่งเล่นคอมเขาดันเปิดไปเจอข้อมูลที่เขาเคยคุยm กะเพื่อนๆ ซึ่งเป็นข้อมูลประมาณกลางปี07 (ไม่รู้จะเซฟทำไม)ได้ความแบบเจ็บจี๊ดได้ว่า
เรื่อง1.เขาชอบไปนวดกษัยมาก(อาบอบแนบ)มีวิจารณ์ให้เพื่อนฟังว่าคนนี้นวดดีแต่นมเล็ก จะไปส่งน้องเขาที่บ้านด้วย แต่พอดีเราโทรมาก่อน
เรื่อง2.เขาสั่งกำชับเพื่อนว่าอย่าบอกเพื่อนอีกคนว่าเขาเอา"แฟนเก่า"ไปนั่งร้านเพื่อนเขา เพราะโกหกเราอยู่
เราเสียใจมากแต่ก็รักเขามากเช่นกัน เราโง่รึเปล่าที่ให้อภัยเขาอีกแล้ว ทั้งที่ข้อเสียของเขามันน่ากลัวมาก"โกหก ไม่ซื่อสัตย์ เที่ยวผู้หญิง"แต่ข้อดีเขาดูแลเราดีมาก ความคิดความอ่านทุกอย่างไปในทางเดียวกะเรา แถมสนิทกะครอบครัวเรามากด้วย...เราตาบอดรึเปล่าที่ให้อภัยผู้ชายแบบนี้ ตอนนี้เรามีโครงการณ์จะแต่งงานกะเขาปีหน้าด้วยสิ ..เราตัดสินใจถูกรึเปล่าเนี้ย...
[SIZE="3"]ใจเย็น ๆ นิดนึงก่อนนะคะ ถ้าอยากให้เค้าปรับปรุงตัว ต้องมีระยะเวลาให้เค้าค่ะ บอกปุ๊บ เลิกปั๊บไม่ได้หรอกค่ะ เหมือนสารเสพย์ติดค่ะ ที่สำคัญ ต้องคุยกันมาก ๆ ค่ะ นั่งคุยเปิดใจเลยค่ะ สู้ ๆ นะคะ
เข้ามาเห็นใจครับ
เรื่องของคุณ 2 คนผมคงไป Judge ไม่ได้เพราะมีปัจจัยอื่นๆที่ผมไม่รู้อีกมากมาย
แต่ในความเห็นผมนะ ผู้ชายโกหกเนี่ยไม่น่ารักเอาซะเลยครับ
เลิกกะมันเลย -"-
(พูดจริงๆ แบบว่าเรารับไม่ได้เรื่องเห็นขี้ดีกว่าไส้ ถ้าเสียเรื่องอื่นๆเนี่ย รับได้ แต่เรื่องผู้หญิงเนี่ย ไม่ได้เด็ดขาด ถึงจะเป็นแค่ผู้หญิงหากินก็เหอะ)
มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้คิดเย่อะๆน่ะค่ะ เพราะว่าถึงขั้นจะแต่งงานกันแล้วคิดเสียว่ารู้ตอนนี้ดีกว่าพอแต่งงานไปแล้วรู้ทีหลังน๊าเพราะว่าแต่งงานไปแล้วเนี้ยะน๊ามันจะกลายไปเป็นอีกstepนึงเลย ใจเย็นๆๆน่ะค่ะ
2 เดือนที่แล้ว ที่รับรู้ถึงข้อเสียของคนรักก็ร้องไห้ทุกวัน ร้องทั้งวันเป็นเวลา2อาทิตย์(น้ำหนักลดไป4 โล) ไอ้เราก็ดีใจว่าเรามีภูมิต้านทานโรคนอกใจได้แล้ว น้ำตาคงไม่มีเหลือให้กะสิ่งเลวร้ายแบบนี้อีก ที่ไหนได้...ตั้งแต่เมื่อคืนยังนอนไม่หลับเลยร้องไห้ตั้งแต่ตี2 จนถึง8โมง..ก็มานั่งระบายในsbn นี้ต่อ...จะปรึกษาป๋าแม่ ก็กลัวจะเกลียดพี่เขา หากอนาคตเราต้องแต่งงานกะพี่เขา จะระบายให้เพื่อนฟัง ก็กลัวเพื่อนเบื่อ แถมความคิดเพื่อนก็หลากหลายเหลือเกิน... เรารู้ว่าความคิดของเราเป็นสิ่งที่ดีที่สุด...แต่มันจะกลับมาฆ่าเรารึเปล่าก็ไม่รู้
แต่งไปแล้ว คนแบบนี้(ชอบเที่ยวและโกหก)เค้าจะเห็นว่าเรากลายเป็นของตาย แล้วจะยิ่งลำบาก เลิกๆๆๆ
ในขณะเดียวกัน ผู้หญิง ถ้าแต่งงานไปแล้ว ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาแล้ว จะยอมได้เหรอกับสามีไปยุ่งหญิงอื่น?
อ่านแล้วโมโหแทนหนิ-"-
[SIZE="5"]เอาข้อดีกับข้อเสียเค้าลองมาชั่งกันดูค่ะ ที่เหลือคุณตัดสินใจเอาเอง
[SIZE="5"]ถ้าคุณรักเขามากให้อภัยก็แล้วและกำลังจะแต่งงานกัน นั่นก็แสดงว่าคุณต้องยอมรับสิ่งไม่ดีในตัวเขาได้บ้างแล้ว ชีวิตการแต่งงานไม่เหมือนกับการเป็นแฟนกันธรรมดาค่ะ และทุกอย่างต่อจากนี้คุณก็ต้องยอมรับมันให้ได้ บททดสอบยังมีอีกเยอะยังไงก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ เห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกัน
ป.ล.แต่ในความคิดของเราแค่ "โกหก" ทุกอย่างก็จบแล้วค่ะ
[SIZE="3"]อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกจริงๆค่ะ
แต่สำหรับเรา เราคิดว่าอย่าคาดหวังว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงนิสัยหลังแต่งงานนะคะ
คนเราเคยเป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น สำหรับเรา ถ้าถึงขั้นแต่งงาน
มันคือการยอมรับอีกฝ่าย ถ้าเขาเป็นแบบนี้ตอนเป็นแฟนกับคุณ
หลังแต่งงานก็จะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปค่ะ ไม่มีวันเลิกได้หรอก
เรายกตัวอย่างให้ดูเพื่อนแฟนเราคนนึง
เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี สูบบุหรี่ กินเหล้า เล่นการพนัน แถมมีกิ๊กเยอะมาก
เที่ยวอาบอบนวด แล้วก็นวดกษัยบ่อยมากเช่นกัน
และในขณะเดียวกัน เขาก็รักแฟนเขามาก คบกันนานถึง 13 ปี แต่ปกปิดเรื่องทุกอย่าง
แต่ผู้หญิงรู้นิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่ทั้งหมด ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน ยังมีได้ เก่งจริงๆ
(ผู้หญิงเขารู้แค่เรื่องกินเหล้าเมาหัวราน้ำ สูบบุหรี่ ไม่รู้เรื่องมีกิ๊กกับเที่ยวอาบอบนวด)
ก่อนแต่งงาน เพื่อนคนนี้เคยบอกแฟนเราว่า หลังแต่งงานจะเลิกทุกอย่าง
อยากกลับตัวเป็นคนดี ... พอหลังแต่งเป็นงัยรู้มั้ยคะ เหมือนเดิมทุกประการค่ะ เพราะว่าหลังแต่งภรรยาก็ท้อง
แถมตอนท้องยังไม่สามารถมาตามได้บ่อยๆเหมือนตอนเป็นแฟนกันอีก
สรุปให้อย่างง่ายๆ
ถ้าคุณรักเขาคุณต้องทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วคิดเสียว่าธรรมดาผู้ชายส่วนใหญ่เขาเป็นกัน
คิดในแง่ดีว่า ดีกว่าเขาไปมีกิ๊กเป็นตัวเป็นตนนะคะ
แต่ถ้ารักตัวเองมากกว่าต้องยอมเจ็บให้ได้ เหมือนผ่าตัดแผลใหญ่ ก็ให้เลิกเสียดีกว่า
เพราะหลังแต่งก็คงมีปัญหาแบบนี้ถ้าเลิกก่อนแต่ง
คุณยังสาว ยังสามารถเจอคนดีๆที่เขาจริงใจกับเรา รักเรามากกว่านี้นะคะ
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร ก็ขอให้คุณโชคดีกับความรักค่ะ
เห็นใจคุณจขกทมากๆค่ะ ข้อเสียของแฟนคุณจขกทเป็นข้อเสียข้อใหญ่มากๆสำหรับผู้หญิงเสียด้วยซิ พอดีว่าเราแต่งงานแล้วก็เลยรู้ว่าก่อนแต่งงานกับหลังแต่งงานสถาณการณ์มันแตกต่างกันอย่างไร ก็เลยได้แต่แนะนำให้คุณจขกทคิดเย่อะๆและตัดสินใจดีๆ คิดถึงอนาคตว่าถ้าแต่งงานไปแล้วต้องเจอแบบนี้อีกคุณจะให้อภัยเขาได้มั้ยและอดทนได้หรือเปล่าเพราะเราเชื่อว่าผู้ชายเขาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ตลอดอ่ะค่ะ เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ
ก็คงเหมือนเพื่อน ๆ หลายคนบอกน่ะค่ะ ว่าไม่มีใครที่จะรู้ใจเราดีไปกว่าตัวเรา ไม่ว่าจะมีใครแนะนำอย่างไร มันก็อยู่ที่ตัวเราอยู่ดีว่าจะตัดสินใจยังไง มีเยอะแยะไปค่ะที่แฟนหาความดีไม่ได้เลย แต่ก็ยังรักและยังอยู่ด้วยกัน แต่ไม่รู้เพราะอะไร นั่นก็เพราะเขารับได้ เขาถึงอยู่ได้
"ต้องถามตัวคุณเองน่ะค่ะ ว่าคุณจะทนเรื่องแบบนี้ หรือตัวเขา ไปได้ตลอดชีวิตหรือไม่ ถ้าคุณจะแต่งงานกับเขา"
ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่คุณและเขาเท่านั้น
เรื่องนี้เกี่ยวกับจขกทกับแฟนแค่ 2 คนค่ะ ไม่อยากเกี่ยวอ่ะค่ะ
แต่ลองใจเย็นๆแล้วคุยกับตัวเองก่อนนะคะ เหมือนเคยอ่านที่ไหนจำไม่ได้อ่ะค่ะ ที่เค้าบอกให้ลองเขียนข้อดีกับข้อเวียของเค้าออกมานะคะ ว่าอันไหนมันมากกว่ากันค่ะ แล้วลองคิดดูนะคะ ว่าเรารักเค้ามากแค่ไหน แล้วเราจะเลิกกับเค้าได้มั๊ย
เป็นกำลังใจให้ค่ะ:p
[SIZE="5"]มันเป็นเวรกรรมค่ะ แต่ของน้องเนี่ยเป็นการพอใจในทุกขเวทนา
รู้ว่าทุกข์แต่ก็มีความพอใจในทุกข์น้ัน เพราะยังไม่หมดเวรกรรมกัน
หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตาให้เค๊าและตัวเองเยอะๆ จะได้จากกันง่ายๆ
เพราะผู้ชายประเภทนี้ ไม่มีดีขึ้นหรอกค่ะ มีแต่แย่ลง
ขอให้หมดกรรมไวๆนะคะ
ก็ต้องถามใจคุณเองอ่ะค่ะ
ว่ารับได้มั๊ย เพราะเค้าต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตการแต่งงานของคุณแน่ๆ
คุณสามารถทนผู้ชายนิสัยแบบนี้ไปได้ตลอดรึเปล่า
และยังจะเสี่ยงกับการติดโรคทางเพศสัมพันธ์อีก
ติดเราคนเดียวยังพอว่า ถ้าติดไปถึงลูกด้วยนี่....สงสารลูกนะคะ
อยู่ที่ตัวคุณเองว่าแต่งแล้วจะให้เป็นแค่สามี หรือพ่อที่ดีของลูก
[SIZE="4"]
คิดดีๆนะคะ ถ้าจะถึงขั้นแต่งงาน
ก็ต้องทำใจ ปลงให้ได้ว่าเค้าเป็นแบบนี้
รับได้ ขอแค่เค้าทำหน้าที่สามีให้ดีก็พอ
เรื่องอื่นไม่รับรู้ ไม่สนใจ
คุณก็มีความสุข
แต่ถ้ายังทำใจ ปลงไม่ได้
มันก็จะมีแต่ความระแวง
คนเราพอไม่เชื่อใจกันแล้ว ก็คิดไปได้เรื่อยเปื่อยล่ะค่ะ
เค้าทำอะไรอยู่นะ กลับบ้านดึก ไปเที่ยวล่ะสิ
คุยโทรศัพท์..คุยกะผู้หญิงรึเปล่า
ซื้อของขวัญมาให้คุณ.. แล้วซื้อให้ยัยนั่นรึเปล่าเนี่ย
ฯลฯ
ถ้าเป็นแบบนี้มันจะเครียดมากเลยนะคะ
บรรยากาศในบ้านก็จะอึมครึม
คุณก็จะไม่มีความสุขในชีวิต
คุณกับเค้าคบกันมานาน
อยู่ๆมีคนบอกจะให้เลิกเหอะ..มันยากนะ
อยากให้ลองคิดดูดีๆนะคะ
ยังไงก็ขอให้โชคดีนะคะ
มีอะไรก็มาปรึกษาเพื่อนๆใน sbn ได้ค่ะ
ได้ระบายอะไรออกมาบ้าง จะได้รู้สึกดีขึ้น
เข้ามาช่วยเป็นกำลังใจให้ค่ะ...ตัดสินไม่ได้หรอกเง้อ ว่าคุณ จขกท.คิดถูกคิดผิด
เพราะถูกของเราใช่ว่าจะถูกของคนอื่น ต้องเลือกเองค่ะ....ก่อนเราจะแต่งงาน
แอบเจอคล้ายๆคุณ จขกท. เหมือนกันทำเอาเอ๋อๆไปเหมือนกันแฮะ (ผู้ชาย
แบบนี้มีอยู่จริงด้วยยเรอะ อ่ะโห ) เลือกแต่งงานกับคนที่ทำให้เราหัวเราะค่ะ
ไม่ใช่คนที่ทำให้เราร้องไห้ อาจจะเป็นเวรกรรมจริงอย่างคุณดิวว่า แต่เราเลือก
ได้ค่ะ สวยไม่สวยก็เลือกได้ ต่อให้มีผู้ชายเหลือคนเดียวในจักรวาลนี้ก็เลือกได้
เลือกที่จะ รับ หรือ ไม่รับ ผู้ชายคนนี้ไว้ในชีวิตเราค่ะ ธรรมชาติของคนเราน๊า
ไม่มีใครเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครหรอก ถึงทำได้ก็แป๊บๆ ลงท้ายก็กลับมาเป็นตัว
เองอยู่ดี ขึ้นอยู่กับคุณ จขกท.ค่ะ สู้ๆน๊า ไม่สิ เข้มแข็งต่ะหาก ใจเย็นๆค่ะ
เป็นกำลังใจให้จร้า
ลองตั้งสติและใจเย็น ๆ นะคะแล้วถามตัวเองให้แน่ ๆ ใจเลยแบบไม่ต้องคำนึงถึงความดีของเค้าที่ผ่านมาหรือเสียดายเวลาที่ผ่านมาน่ะ เอาความผิดที่นอกใจคุณและโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่าล้วน ๆ เลยว่าเรารับ (สำหรับเรามันคือการทน) ได้ไหม อย่าหวนนึกถึงความดีของเค้านะคะเพราะผู้หญิงเราชอบสงสาร ให้นึกถึงตอนเค้าทำร้ายจิตใจเรา
ถ้าแต่งงานไปมี 2 ทางให้คุณเลือกเท่านั้นค่ะ...ไม่ได้ซ้ำเติมนะ คือไปวัดดวงเอาว่าเค้าจะเลิกเป็นอย่างนี้ไหม (ขนาดยังไม่แต่งงานยังเป็นอย่างนี้เลยน๊า...) กับอีกทางคือถ้าเค้าไม่เปลี่ยนนิสัยก็ทนกันไปจนกว่าใครจะตายก่อน (จะติดโรคมาจากผู้หญิงอย่างนั้นรึเปล่าก็ไม่รู้)
ถ้าคุณยังรักเค้าอยู่ อยากรู้ไหมว่าเค้ารักคุณไหม ลองบอกเลิกกับเค้าสิคะ ไม่มีการต่อรองหรือให้โอกาสอะไรอีกแล้ว ให้เค้ามาจีบคุณใหม่ล้มกระดานเริ่มต้นมันใหม่ตั้งแต่ต้นเลย ไม่เสียหายหรอกค่ะแค่เสียเวลาเพิ่มอีกนิด แข็งใจอีกหน่อยเอง แลกกับการที่เราจะได้รู้ว่าเค้ารักเราจริงหรือเปล่า 69 ไม่ได้ดีแต่พูดลอย ๆ เพราะเคยทำมาแล้วและไม่เคยเสียใจเลยที่วิธีนี้ทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ ผู้ชายคนนี้เป็นยังไง
ลองอ่าน reply ของเพื่อน ๆ ด้านบนที่เป็นผู้ชายประกอบด้วยก็ดีค่ะ ผู้ชายด้วยกันเองยังรับไม่ได้เลย
... เอาใจช่วยค่ะ ...
อยู่ที่ใจเจ้าของกระทู้นะคะ ว่าจะตัดสินใจยังไง เพราะถ้าแต่งงานกันไปแล้วนั่นหมายเรายอมรับทุกอย่างที่เค้าเป็นนะคะ เพราะจริงๆ แล้วคนเราปรับปรุงตัวได้แต่นิสัยบางอย่างก็เปลี่ยนไม่ได้จริงๆ ถ้าผู้ชายเจ้าชู้ยังไงก็ไม่หายเจ้าชู้ คิดในแง่ดี เราทราบจุดเสีย ของแฟนตอนนี้ทำให้เรามีเวลาปรับตัวหรือทบทวนก่อนแต่งงาน เพราะแต่งไปแล้วมารู้ที่หลังจะเสียใจยิ่งกว่านี้อีกค่ะ เพราะมันจะเปลี่ยนแปลงอะไรยากยิ่งมีลูกด้วยก็ยิ่งไปกันใหญ่เลยค่ะ ลองคิดดูดีๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
Originally Posted by LookKaeW78
[SIZE="3"]อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกจริงๆค่ะ
แต่สำหรับเรา เราคิดว่าอย่าคาดหวังว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงนิสัยหลังแต่งงานนะคะ
คนเราเคยเป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น สำหรับเรา ถ้าถึงขั้นแต่งงาน
มันคือการยอมรับอีกฝ่าย ถ้าเขาเป็นแบบนี้ตอนเป็นแฟนกับคุณ
หลังแต่งงานก็จะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปค่ะ ไม่มีวันเลิกได้หรอก
เรายกตัวอย่างให้ดูเพื่อนแฟนเราคนนึง
เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี สูบบุหรี่ กินเหล้า เล่นการพนัน แถมมีกิ๊กเยอะมาก
เที่ยวอาบอบนวด แล้วก็นวดกษัยบ่อยมากเช่นกัน
และในขณะเดียวกัน เขาก็รักแฟนเขามาก คบกันนานถึง 13 ปี แต่ปกปิดเรื่องทุกอย่าง
แต่ผู้หญิงรู้นิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่ทั้งหมด ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันก่อนแต่งงาน ยังมีได้ เก่งจริงๆ
(ผู้หญิงเขารู้แค่เรื่องกินเหล้าเมาหัวราน้ำ สูบบุหรี่ ไม่รู้เรื่องมีกิ๊กกับเที่ยวอาบอบนวด)
ก่อนแต่งงาน เพื่อนคนนี้เคยบอกแฟนเราว่า หลังแต่งงานจะเลิกทุกอย่าง
อยากกลับตัวเป็นคนดี ... พอหลังแต่งเป็นงัยรู้มั้ยคะ เหมือนเดิมทุกประการค่ะ เพราะว่าหลังแต่งภรรยาก็ท้อง
แถมตอนท้องยังไม่สามารถมาตามได้บ่อยๆเหมือนตอนเป็นแฟนกันอีก
สรุปให้อย่างง่ายๆ
ถ้าคุณรักเขาคุณต้องทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วคิดเสียว่าธรรมดาผู้ชายส่วนใหญ่เขาเป็นกัน
คิดในแง่ดีว่า ดีกว่าเขาไปมีกิ๊กเป็นตัวเป็นตนนะคะ
แต่ถ้ารักตัวเองมากกว่าต้องยอมเจ็บให้ได้ เหมือนผ่าตัดแผลใหญ่ ก็ให้เลิกเสียดีกว่า
เพราะหลังแต่งก็คงมีปัญหาแบบนี้ถ้าเลิกก่อนแต่ง
คุณยังสาว ยังสามารถเจอคนดีๆที่เขาจริงใจกับเรา รักเรามากกว่านี้นะคะ
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร ก็ขอให้คุณโชคดีกับความรักค่ะ
เห็นด้วยกับคุณ LookKaeW78 คับ ผู้ชายที่เจ้าชู้หรือชอบมีกิ๊กหรือมักมากในเรื่องพวกนี้
มีน้อยคับที่จะเปลี่ยนแปลงได้ (อันนี้มองในฐานะผู้ชายด้วยกันที่รู้เช่นเห็นชาติกันแล้วนะคับ)
ซึ่งผมวิเคราะห์ว่าเป็นผลอันเนื่องมาจาก sexual drive หรือ libido ที่มากเกินไป ซึ่งจะมีมากเป็นปกติในเพศชาย
ทำให้ผู้ชายไม่พอในเรื่องพวกนี้ซักที และผู้ชายจะรู้สึกตื่นเต้นเวลามีอะไรลับ ๆ เหมือนการได้ผจญภัยคับ
แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าพวกเราที่เป็นมนุษย์มีสมองส่วน cerebrum ซึ่งเจริญสูงสุด
มากกว่าสัตว์อื่น ๆ เพื่อให้เราสามารถควบคุมสันชาตญาณดิบ ๆ เช่น sexual drive เอาไว้ได้ ดังนั้นผมเห็นว่า
การห้ามผู้ชายไม่ให้เจ้าชู้ ถ้าแค่เค้ามอง ญ คนอื่นเวลาไปเดินเที่ยว หรือ พูดคุยหยอกล้อเล่น ๆ กับคนรู้จักหรือ
ในที่ทำงาน ผมก็ว่าอย่าไปเอามาใส่ใจเลยคับ แต่ถ้าเกินเลยมาก ๆ อย่างที่คุณ จขกท เล่ามาอันนี้ไม่ไหวนะคับ
ผมว่าแต่งงานกันไปยิ่งมีปัญหา ถ้าหากคุณ จขกท ยังต้องการที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ก็ต้องยื่นคำขาดแบบเด็ดขาด
ไปเลยคับว่าจะเลือกคุณ จขกท หรือเลือก พนง อาบ อบ แนบ แล้วก็ผมแนะนำว่า (อันนี้อาจโหดไป)
ตอนแต่งงานทำสัญญาเลยคับว่าหากเค้ามีภรรยาน้อย หรือนอกใจแล้ว คุณจขกท ทนไม่ไหว มีการเลิกลากันไป
ต้องได้รับค่าเสียหายยังไงบ้าง อาจดูเหมือนธุรกิจไปหน่อย แต่เรื่องแบบนี้ ญ เป็นผู้เสียเปรียบคับ ต้องอดทน
ทุกอย่าง ซึ่งถ้าลองคุณ จขกท มีกิ๊กดูสิคับ ผมรับรองว่า คุณแฟนอาละวาดโวยวาย ไม่เงียบ ๆ เหมือนที่
คุณ จขกท ทำแน่ ๆ ผู้ชายเป็นเพศที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวและโลกทัศน์แคบในเรื่องแบบนี้คับ
เขียนมาซะยาว บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมผมถึงเข้าข้างผู้หญิง เพราะว่า ผมเคยทำวิจัยทางด้านสตรีมาก่อนคับ
เจอ case study มาเยอะ น่าสงสารมาก ๆ เป็นเพราะว่าความมักมากและเห็นแก่ตัวของผู้ชายเท่านั้น พอเจอคนแบบนี้
ก็จะรู้สึกไม่ไดด้วยมาก ๆ คับ
เลิกค่ะ
อยูกับคนที่เค้ารักเรา และเห็นความสำคัญเรา
ดีกว่าอยู่กับคนที่เรารัก
ลองชั่งน้ำหนักและไตร่ตรองระหว่างผลดี-ผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากเลือกแต่ละทาง
รับได้กับทางไหนมากกว่า ก็เลือกทางนั้นค่ะ
-------------------------------------------------------
แต่สำหรับเรา
เรื่องที่รับไม่ได้เลย คือ นอกใจนี่แหละค่ะ ขาดเป็นขาด ไม่ทนแน่นอน
ในความเห็นเรา อยากให้ จขกท. ถามตัวเองก่อนว่า
เรารับไม่ได้ ที่เค้า
1. โกหกเรา หรือ
2. ไปเที่ยวผู้หญิงหากิน และติดต่อกับผู้หญิงคนอื่น ๆ
หรือ
3. ทั้งคู่
ถ้าเป็นข้อแรก ที่เค้าโกหกเรา ก็อยากให้จขกท. ชั่งน้ำหนักดูว่า เรายังรักเค้ามั้ย
ถ้ายังรักอยู่ ก็ลองคุยแบบเปิดใจกับเค้าว่า ไม่อยากให้โกหกกัน ถ้าจะไปทำอะไร
ยังไง ขอให้บอกกันด้วย เพราะเป็นการ respect ซึ่งกันและกัน และเป็นการเอา
ใจเค้ามาใส่ใจเรา ถ้าคุณโกหกได้ ชั้นก็โกหกได้ใช่มั้ย นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องการรึป่าว
อยู่กันแบบหลอกลวงกัน เพื่ออะไร?
(ซึ่งส่วนตัวเรา เรารับไม่ได้ถ้าแฟนเราโกหกค่ะ แฟนเรา ณ ตอนนี้ มีบางครั้งที่จะ
ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ตามเลาจน์ นาน ๆ ที เค้าก็จะบอกเราก่อน เราก็โอเคนะ ไป
นั่งมองสาว ๆ คนอื่นบ้างก็คงจะกระชุ่มกระชวยดี แต่มองอย่างเดียวนะแก!!)
ถ้าเป็นข้อสอง ก็คงต้องเลิกกัน เพราะคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ละ เจ้าชู้ยังไงก็คง
จะเลิกไม่ได้หรอก
ถ้าข้อสาม ก็ต้องเลิกกันอีกนั่นแหละ
เอาใจช่วยนะคะ เราต้องรักตัวเองให้มากที่สุดค่ะ อะไรที่จขกท. คิดว่าดีกับตัวเอง
ที่สุด ก็ตามนั้นเลยค่ะ
ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเรา มีอย่างเดียวค่ะ เลิก!!!
ขนาดเป็นแฟนยังแบบนี้ ถ้าแต่งกันไป มีลูกเข้ามานัวเนียอีก เราเป็นผู้หญิงได้แต่ทนอย่างเดียว จะตัดขาดหรือจะอยู่ต่อ ต้องตัดสินใจก่อนแต่งงานนะคะ ไม่งั้นผู้หญิงเสีย กับเสีย ค่ะ
เคยโดนเหมือนกันค่ะ แต่ต้องถามตัวเองว่าขาดเขาแล้วเราโอเคไหม ถ้าไม่ก็คบต่อ ให้โอกาสค่ะ;)
โกหกนี่ไม่ไหวนะค่ะแล้วก็คงเปลี่ยนยากแล้วอีกหน่อยเอาโรคมาติดยิ่งไปกันใหญ่
เปิดใจลองมองคนอื่นดูบ้างอาจเจอดีกว่า เจ็บตอนนี้คงเจ็บไม่นานหรอกค่ะดีกว่า
ทนไปตลอดชีวิต
แนะนำว่าให้ใช้สติคิดทบทวนก่อนดีกว่าค่ะ ว่าถ้าหลังจากนี้เราต้องใช้ชีวิตร่วมกับเขา เราจะรับสภาพแบบนี้ได้อีกรึป่าว เพราะการที่เราแต่งงานกับใครสักคนแล้ว นั่นก็คือคนที่เราเลือกแล้วนะคะ เค้าจะต้องดีและมีคุณธรรมพอที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว ความซื่อสัตย์คือสิ่งที่ผู้หญิงต้องการจากคนรัก พอๆกับการที่ดูและเอาใจใส่ อยากให้จขกท. คิดทบทวนดีๆค่ะ บางทีอาจจะมีคนอื่นที่ดีกว่า พร้อมกว่าที่เรายังไม่เคยพบเจอก้ได้นะคะ สุ้ๆ
เหอ..เหอ...ฉันผ่านมาแหละ
แฟนเราก้อเป็นลักษณะเหมือนคุณ จขกท. เรื่องมันเยอะอย่าไปใส่ใจเอาเป็นว่า
ตอนคิดว่าตัดสินใจดีไหม เพราะอดีต เหลวร้ายน่าดู ปัจจุบันก้อยังทำอยู่บ้าง.....
เอาหวะแต่งก้อแต่ง ความดีก้อมี อันคนนี้แหละมันต้องดูแลเราได้ (คงรักเราบ้าง)
เพราะจากการศึกษากันมาคิดว่าก้อเป็นคนดีระดับหนึ่ง เอาเลยแต่งงาน แรกๆ ก้อดี
สัก 5 ปี มีกิ๊ก (ก่อนแต่งก้อมีนะ) จับได้เลิกไป 2 ปี จากนั้น มีลูก 1 คน ทุกวันนี้
ไม่รู้อนาคต แค่เรามีครอบครัวที่เห็นอกเห็นใจกัน เข้าใจกัน เอื้ออาทรต่อกัน และ...
รักลูกที่เกิดจากเราสองคน แค่นี้เราก้อพอใจที่สุดแล้วค่ะ วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ไม่อยากคาดเดาทำวันนี้ให้ดีที่สุด เป็นพอค่ะ " ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน "
คนเรามีกรรมติดตัวกันมาทุกคน ทำบุญทำทานตามกำลังศรัสทา
และโอกาส ทุกวันนี้เราอยู่กันก็มีแต่กินบุญเก่า ชดใช้บาปเก่ากันอยู่ เผื่อว่า..
เกิดชาติหน้าหนใดเราจะได้เจอแต่เรื่องดีๆ นะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
โชคดีนะค่ะ:D:D:D
Originally Posted by ap_ap
เราเสียใจมากแต่ก็รักเขามากเช่นกัน เราโง่รึเปล่าที่ให้อภัยเขาอีกแล้ว ทั้งที่ข้อเสียของเขามันน่ากลัวมาก"โกหก ไม่ซื่อสัตย์ เที่ยวผู้หญิง"แต่ข้อดีเขาดูแลเราดีมาก ความคิดความอ่านทุกอย่างไปในทางเดียวกะเรา แถมสนิทกะครอบครัวเรามากด้วย...เราตาบอดรึเปล่าที่ให้อภัยผู้ชายแบบนี้ ตอนนี้เรามีโครงการณ์จะแต่งงานกะเขาปีหน้าด้วยสิ ..เราตัดสินใจถูกรึเปล่าเนี้ย...
Originally Posted by ap_ap
2 เดือนที่แล้ว ที่รับรู้ถึงข้อเสียของคนรักก็ร้องไห้ทุกวัน ร้องทั้งวันเป็นเวลา2อาทิตย์(น้ำหนักลดไป4 โล) ไอ้เราก็ดีใจว่าเรามีภูมิต้านทานโรคนอกใจได้แล้ว น้ำตาคงไม่มีเหลือให้กะสิ่งเลวร้ายแบบนี้อีก ที่ไหนได้...ตั้งแต่เมื่อคืนยังนอนไม่หลับเลยร้องไห้ตั้งแต่ตี2 จนถึง8โมง..ก็มานั่งระบายในsbn นี้ต่อ...จะปรึกษาป๋าแม่ ก็กลัวจะเกลียดพี่เขา หากอนาคตเราต้องแต่งงานกะพี่เขา จะระบายให้เพื่อนฟัง ก็กลัวเพื่อนเบื่อ แถมความคิดเพื่อนก็หลากหลายเหลือเกิน... เรารู้ว่าความคิดของเราเป็นสิ่งที่ดีที่สุด...แต่มันจะกลับมาฆ่าเรารึเปล่าก็ไม่รู้
เสียใจด้วยนะคะ ที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นกับเจ้าของกระทู้ ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ ก่อนอื่นคุณต้องเรียกความมั่นใจในตัวเองกลับมาก่อนนะคะ คุณไม่ได้โง่ ไม่ได้ตาบอดหรอกค่ะที่ให้อภัยเค้า รักกันก็ให้อภัยกัน ไม่แปลกค่ะ และคุณก็ทำดีของคุณอยู่แล้ว ไม่ต้องโทษตัวเองนะคะ... ถ้าอึดอัดมากๆ ก็ปรึกษาคนรอบๆ ตัวก็ดีค่ะ อย่างเช่นพ่อแม่ ไม่ต้องกลัวว่าพ่อแม่จะเกลียดแฟนคุณหรอกค่ะ เพราะยังไง ถ้าใครได้ทราบเรื่องนี้ ก็ต้องโกรธแทนคุณอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ทำใจไว้เลยค่ะ (โทษทีพูดตรงไปหน่อย แต่ก็เป็นความจริงที่เลี่ยงไม่ได้ค่ะ) แต่คุณก็คงเข้าใจว่า ที่พ่อแม่โกรธแฟนคุณ เพราะพ่อแม่รักคุณ อย่างน้อย พ่อแม่พี่น้อง ก็ทำให้เราอุ่นใจได้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ยังไงก็ตามการตัดสินใจก็อยู่ที่คุณอยู่ดีค่ะ
แล้วพอปรับอารมณ์ให้นิ่งๆ ได้แล้วคุณก็ค่อยคิดว่า สิ่งที่คุณต้องการจากชีวิตคู่คืออะไรบ้าง และสิ่งที่คุณรับไม่ได้เลยคืออะไร และมีจุดไหนที่พอจะอะลุ้มอะหล่วยไปได้บ้าง แล้วก็มาดูว่าแฟนคุณตอบโจทย์หรือเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้คุณต้องคิดเองทั้งหมดเลยค่ะ เพราะแต่ละคนก็มี list สิ่งที่ต้องการต่างๆ กันไป ไม่มีใครเหมือนใครค่ะแล้วก็... (ถ้าเรื่องนี้คุณได้คิดไปแล้ว ก็อ่านผ่านๆ ไปนะคะ) อาจจะต้องลองคิดดูด้วยนะคะ ว่าคุณมีอะไรบกพร่องที่แฟนคุณไม่ชอบหรือเปล่า อาจจะมี แต่ไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ หรือไม่แฟนคุณก็ไม่กล้าบอก ถ้ามี ก็เปิดใจคุยกัน อะไรปรับได้ก็ปรับ ปรับตัว และปรับใจด้วยค่ะ แต่ปรับยังไง ก็ควรจะต้องให้เป็นตัวของตัวเองที่สุดค่ะ อย่าเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นในสิ่งที่คุณไม่ได้เป็นค่ะ รักตัวเองให้เยอะๆ นะคะ... ขอให้คุณผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ... :)
ลองคิดอย่างนี้ดีไหมคะ ว่าปัจจุบันนี้ทุกข์มากกว่า หรือว่าถ้าเลิกแล้วจะทุกข์มากกว่า
ถ้าคิดว่าเลิกแล้วทุกข์มากกว่า ก็อดทนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย
แต่ขณะเดียวกันก็หาทางแก้ไขไปด้วย แต่ในใจลึก ๆ ให้ทำใจไปพร้อม ๆ กัน (ในกรณีว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้จริงๆ)
แต่เห็นด้วยนะว่าถ้ายังไม่แน่ใจอย่าไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง เพราะว่าถ้าเคลียร์กันได้แล้ว
ผุ้ชายจะติดลบในสายตาพ่อแม่เราตลอด แล้วต่อไปเกิดแต่งงานกัน
ทั้งสองฝ่ายจะไม่สนิทใจกันค่ะ
ส่วนเรื่องในคอมพ์น่ะ มันตั้งแต่ปี 07 ก้อทำใจลืม ๆ ไปก่อนดีมั้ย เพราะมันนานแล้วอ่ะ
ลองให้โอกาสและนับเริ่มจากวันนี้ดูดีกว่าค่ะ
เข้ามาให้กำลังใจค่ะ ต้องคิดให้ดีนะคะ เรายังไม่แต่งเราลือกได้ แต่ถ้าแต่งแล้วเลิกมันแย่กว่านะคะ
ยังไม่แต่งยังโกหกได้ขนาดนี้ ถ้าแต่งแล้วจะขนาดไหน
เราคิดว่าเค้าอาจจะเปลี่ยนแปลงได้เลิกยุ่งกับคนอื่น เลิกโกหกได้เพื่อเรา แต่นี่คือการที่เราคาดหวังไว้ให้เขาเปลี่ยน แล้วถ้าเกิดเขาไม่เปลี่ยนหล่ะ เราจะทำอย่างไร ถ้าเกิดมีลูกด้วยกันแล้วเจอหนักกว่าเดิมหล่ะค่ะ แบบมีเมียน้อยไปเลยจะรับได้ไหม
ต้องถามตัวเองอ่ะค่ะว่ารักมากขนาดรับเรื่องพวกนี้ได้ แต่ถ้าต้องฝืนใจทนเรื่องพวกนี้ก็คงไม่ไหวอ่ะค่ะ
เราอาจจะคิดในแง่ลบนะ แต่แง่ลบนี่ย จะเปลี่ยนเป็นแง่บวกได้ง่ายกว่า เพราะการคิดแง่ดีไว้ มองทุกอย่างสวยงามแล้วเกิดทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่เราอยากให้เป็น มันจะเป็นการผิดหวังมากนะค่ะ
ปรึกษาพ่อแม่ดีกว่าค่ะ เพราะพ่อกับแม่คงไม่โกหกเรา และพ่อกับแม่เป็นคนที่รักเราโดยไม่มีเงื่อนไขค่ะ
ขอโทษนะค่ะที่อาจจะเขียนแรงไปหรือว่าอาจจะไม่ถูกใจ
สุดท้ายอยากจะบอกว่ารักตัวเองให้มากๆนะค่ะ
เข้ามาให้กำลังใจเหมือนกันคะ..พอดีแต่งงานแล้ว แล้วสำหรับตัวเองนะคะ
ถ้าแฟนเป็นแบบนี้เรายอมเจ็บครั้งเดียวคือตัดไปเลยอะคะ
ก็เขาไม่น่ารักเลยนะคะ....
คนเราไม่เปลี่ยนกันง่ายๆ หรอกค่ะ
ถ้ารับได้ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ก็แต่งค่ะ
ถ้ารับไม่ได้ แต่จะแต่ง ก็ต้องคอยจับผิด คอยระแวงอีกตลอดชีวิตนี้ ... ก็แล้วแต่ค่ะ
อย่าว่าตัวเองว่าโง่เลยนะคะ ความรักคือการให้อภัยค่ะ
แต่ว่า ที่ว่าจะแต่งงาน ก็ทำเป็นว่า ไม่อยากแต่งแล้ว เพราะเรื่องที่คุณว่าแฟนนอกใจ โกหก ปิดบัง
ลองดูนะคะ
อยากให้คิดดีๆ เพราะว่าความรักคือการให้อภัยก็จริง แต่อยากให้เค้าปรับปรุงตัวก่อนแต่งงานค่ะ
เพราะก่อนแต่งยัง .... เป็นแบบนี้
หลังแต่งแล้ว ... จะยิ่งเป็นแบบไหน
เอาใจช่วยค่ะ
ใจเย็นๆนะจ้ะ ค่อยๆคิด ค่อยๆพิจารณา ฟังหัวใจตัวเองดีที่สุดนะจ้า
ไม่มีใครโง่หรอกกับความรัก มีแค่รักกับไม่รักแค่นั้นแหละจ้า
รักนะ จุ๊บ จุ๊บ
ถ้าเป็นหนู เลิกแน่นอนค่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ)
ยังไงก็เอาใจช่วยค่ะ :)
[SIZE="4"]ต้องถามตัวคุณเองอะคับ ว่าคำว่า"ความรัก"ของคุณมีนิยามแบบไหน ถ้าความรักของคุณคือได้อยู่กับผู้ชายคนนึง แล้วคุณมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับเค้า ก้อแสดงว่าผู้ชายที่คุณคบอยู่ไม่ใช่ความรักที่คุณมองหา
แต่ถ้าความรักของคุณคือได้อยุ่กับชายคนนึงที่คุณรู้สึกดีๆให้กับเค้าไม่ว่าเค้าจะทำให้คุณเศร้า ทุกข์ หรือว่าเสียใจกี่ครั้ง ผู้ชายที่คุณคบอยู่ก้อคือความรักของคุณ ถามตัวเองดีๆนะคับ
ถามใจตัวเองดูนะคะ ว่าถ้าเค้าไม่โกหกเราแล้วเค้าขอเราตรงๆๆ ว่าไปเที่ยวเรารับได้มั้ยด้วยน๊า
การที่เค้าไม่บอกเพราะถ้าบอกเค้าไม่ได้ไปเที่ยว แต่พอเค้าไม่บอกเรารู้ตอนหลัง อันไหนเจ๊บกว่ากัน อันนี้ต้องลองคิดดูดีๆๆๆๆๆๆๆๆ น๊า
ถ้าเราคิดว่ารับได้ เพราะเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย ที่ต้องการหาความแปลกใหม่ แล้วเค้าบอกเราว่าวันนี้ขอไปเที่ยว เราโอมั้ย ลองคิดว่าถ้าเราโอ....เค้าก็จะไม่โกหก เราไม่ต้องมาระแวงระวัง แต่ต้องไม่มีการผูกพัน ผูกมัดใดๆๆ เกิดขึ้น
อ่านข้อความนี้ และส่งให้แฟนคุณอ่าน แล้วลองมองหน้าคิดว่าต้องใช้ชีวิตร่วมกัน คนทั้งคู่ทำให้แค่ไหน อย่ารีบตอบ เพราะทุกอย่างต้องผ่านสมองก่อนน๊า ค่อยๆๆ คิด
“ข้อคิดเพื่อครอบครัว” อ.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
1. ข้อสำคัญของการเลือกคู่ คือ เราไม่ได้เลือกใครเพราะเขาสมบูรณ์แบบ แต่เพราะเขามีจุดดีหลัก ๆที่เราประทับใจ ส่วนจุดอ่อนด้อยนั้นเป็นส่วนปลีกย่อยที่เราสามารถยอมรับได้อย่างไม่ยากเย็น
2. ในความเป็นจริง ไม่มีใครดีเลิศสมบูรณ์แบบ ถ้าเรามองไม่เห็นจุดอ่อนด้อยของเขาเลย นั่นแสดงว่า เรายังไม่รู้จักเขาอย่างแท้จริง หรือไม่ เราก็กำลังตกอยู่ในความหลงใหล .จนไม่ลืมหูลืมตา
3. การแต่งงาน คือ การผูกพันกันด้วยหัวใจ ไม่ใช่เพียงร่างกายและยิ่งไม่ใช่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เชิงธุรกิจ
4. คนที่แต่งงานเพราะความเหงา จะยิ่งเหงาหนักเป็น2 เท่า แต่งงานแบบคลุมถุงชน ก็มีแนวโน้มว่า ชีวิตจะมืดมนไปอีกนาน
5. ความสุข ความทุกข์ ครึ่งหนึ่งอยู่ที่ชีวิตหลังแต่งงาน คิดให้ดีก่อนที่จะเลือกใคร มาเป็นคู่ชีวิต ...
6. บ้านจะเล็กหรือใหญ่ ไม่สำคัญ แต่ "ความรัก" ต้องใหญ่ที่สุดในบ้าน
7. คำว่า "รัก" พูดมากไป ย่อมดีกว่า พูดน้อยไป...
8. เมื่อเรา ทำผิด....จง "ขอโทษ" เมื่อเขา ทำผิด ....จง "ให้อภัย"
9. ชีวิตแต่งงาน คือ ชีวิตแห่งการปรับตัว ถ้าไม่คิดจะปรับตัวเข้าหาใคร อยู่เป็นโสดไป ก็ดีกว่า...
10. ยอมเป็นผู้แพ้ ดีกว่า เป็นผู้ชนะที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากชีวิตสมรสที่หักพัง...
11. "แก้ตัว" .... ช่วยอะไรไม่ได้ "แก้ไข" .......ช่วยได้ทุกอย่าง...
12. เมื่อมีปัญหาในครอบครัว อย่าลืมใช้ความรักและหลักเหตุผลเป็นกรรมการตัดสิน ไม่ใช้ อารมณ์ หรืออาวุธ..
13. งอนแต่พองาม...ก็งามดี แต่งอนเกินพอดี ก็เกินงาม...
14. ต่างคนต่างแข็ง ไม่มีใครยอมอ่อนข้อต่อกัน...บ้าน...ก็คงไม่ต่างอะไรกับสนามรบ
15. เมื่อสามีอ่อนแอ ไม่รับบทบาทผู้นำ ความสับสนวุ่นวาย ก็ตามมา หรือเมื่อภรรยา พยายามแย่งบทบาทการนำจากสามี ชีวิตครอบครัวก็รอดยาก
16. ความไม่ซื่อสัตย์ ต่อกันเพียงครั้งเดียว ก็อาจสั่นคลอนความไว้วางใจที่มีให้กันได้ท้ายที่สุด ชีวิตคู่ก็จบลงด้วยความแตกร้าว ยากเยียวยา
17. ความเห็นแก่ตัว สนใจแต่ปัญหา อารมณ์ ความรู้สึก และความสนใจของตัวเองชีวิตคู่ ก็อยู่ด้วยกันยาก
18. ก่อหนี้สินจนล้นพ้นตัว ครอบครัวก็มีแต่ความตึงเครียดทุกเช้าเย็น
19. เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือทั้งสองฝ่ายเรียกร้องและคาดหวังจากกันและกันมากเกินพอดี ปัญหาก็จะมีเรื่อยไป…ไม่สิ้นสุด
20. ควรตระหนักว่า...ภรรยา ไม่ใช่ผู้ปรนนิบัติรับใช้สามี แท้จริงแล้ว สามีภรรยา ควรเอาใจใส่ดูแลกันและกันอย่างดีที่สุด ...ย่อมดีกว่า
21. ไม่มีอะไร ทำให้ภรรยาปวดร้าวใจ มากเท่าการค้นพบว่า สามีมีหญิงอื่นในหัวใจ
22. รักเดียว...ใจเดียว ไม่ใช่เรื่องเชย แต่เป็นเรื่องดีที่สามีทุกคนในโลกควรกระทำ
23. การขอโทษภรรยาเมื่อทำผิด ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี แต่เป็นศักดิ์ศรีของสามี...ที่แท้จริง
24. ไม่ควรมองว่า งานดูแลบ้าน เป็นความรับผิดชอบของภรรยา สามีควรมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระอย่างสุดความสามารถเสมอ
25. สรีระรูปร่างหน้าตา ที่เปลี่ยนไปของภรรยา ไม่ควรเป็นเหตุให้ความรักในหัวใจของสามีจืดจางลงแม้แต่น้อย
26. ควรระลึกอยู่เสมอว่า...การนำครอบครัวนั้น คือ การนำโดยเห็นผลประโยชน์ของครอบครัวเป็นหลักไม่ใช่ เพื่อความสุข ความพึงพอใจของตนเอง
27. ภรรยาที่ดี ควรสนับสนุนสามีให้ก้าวไกลในชีวิต ไม่ใช่ดึงรั้งให้หยุดอยู่กับที่ หรือถอยหลัง
28. ภรรยาที่ดี ไม่ควรใช้วิธีการบีบบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้สามีตัดสินใจตามความคิดของตน
29. ในสถานการณ์หน้าสิ่ว หน้าขวาน สามีต้องการภรรยาที่สงบนิ่ง ช่วยกันคิดหาทางออก ไม่ใช่ภรรยาที่เอาแต่โวยวาย ตีโพย ตีพายหรือร้องไห้ฟูมฟาย โดยปล่อยให้เขาต้องแบกภาระหนักอึ้งเพียงลำพัง
30. การไม่ตีลูก เพราะกลัวลูกเจ็บ เมื่อยังเป็นเด็ก กลับจะทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สร้างปัญหา และถูกลงโทษ ... จากสังคม
31. ช่องว่างระหว่างวัย..ระหว่างรุ่น...ย่อมไม่มี ถ้าพ่อแม่ตระหนักถึงความสำคัญ และใช้ความพยายามที่มากพอ วิธีที่ดีที่สุด คือ พ่อแม่ควรวางแผนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับลูก ไม่ใช่ตามแก้ปัญหาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว
32. พึงตระหนักว่า ลูกไม่ใช่ดินน้ำมัน ที่พ่อแม่ อยากจะปั้นให้เขาเป็นอะไรก็ได้ตามใจชอบ เขาย่อมมีจิตใจที่มีเอกลักษณ์แห่งความชอบ ความสนใจที่แตกต่างไปจากพ่อแม่ได้เสมอ
ระวังแฟนติดโรคนะคะ ว่างๆ ให้แฟนไปตรวจกับคุณหมอบ้างเน้อ
ชีวิตคนเราสั้นนะคะ คิดจะทำให้อะไรก็ทำให้ดี และเต็มที่ที่สุด.............
ทำอะไรกับวันแรกของวันที่เหลืออยู่ในชีวิตเรา ให้มีค่าสำหรับเรา และครอบครัว (พ่อ แม่ ..................) ที่เค้ารักเราด้วยนะคะ
คนเรามีกรรมติดตัวมาทุกคน อะไรที่เจอ ที่ผ่านเข้า ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ไม่ต้องโทษใคร เพียงทำใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามีวิธีการแก้ไขได้อย่างไรบ้าง ต้องนึกว่าวันนี้เราโชคดีที่เราได้รัก และได้รับการรักตอบจากคนที่เรารักเค้า ดีกว่าไม่เคยได้ลองรักเลยนะ คิดบวก ชีวิตบวกนะคะ......................
ไม่มีอะไรที่แก้ไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ใจจจจจจจ ของเราเองนะคะ
ผู้ชายใฝ่ต่ำอย่างนี้อย่าเก็บเอาไว้ทำ "ปั๋ว" เลยค่ะ หนอยแน่ะชอบของสดของคาว :confused:
ไม่รู้จะแนะนำอะไร คนอื่นๆพูดไปหมดละ แต่สุดท้ายแล้วก้อขึ้นอยู่กับตัวคุณเองค่ะ
แต่ ... จะบอกว่าถ้าคิดจะแต่งกับคนนี้จริงๆ ก่อนแต่งก้อต้องตรวจเลือดให้แน่ใจก่อนนะคะ
เพราะว่าเดี๋ยวนี้โรคเยอะมากๆค่า ยิ่งเค้าทำตัวเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงด้วยแล้ว ...
ขอให้โชคดีค่ะ:rolleyes:
Originally Posted by @ลาสเวกัส@
[SIZE="5"]แต่ในความคิดของเราแค่ "โกหก" ทุกอย่างก็จบแล้วค่ะ
[SIZE="5"]เห็นด้วยกับประโยคนี้มากค่ะ ไม่มีอะไรดีไปกว่าความสามารถไว้ใจคนที่เรารักได้ เพราะว่าถ้าไว้ใจไม่ได้ ก็เห็นจุดจบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มแล้วค่ะ
[SIZE="4"]เจอเหมือนกัน
แต่ของจิยังไม่แต่งค่ะ
และยังไม่ยอมเลิกเพราะรักมากกกกก
โกหกอยู่ตลอดต้องจับให้ได้คาหนัง(ติดมือมา)คาเขาอ่ะค่ะถึงจะรับและยังทำโวยวาย
แต่เรื่อง อาบ อบแนบนี่โชคดีไม่มีค่ะแค่ก้อร้อก้อติดกะผู้หญิงที่ทำงาน
เอ หรือเราคิดไปเอง
แต่มันเคยมีกรณีแบบคุณน่ะค่ะกะแฟนเก่าเขาเราเลยไม่ไว้ใจ 80 ไว้ใจ 20 ค่ะเผื่อไว้
[SIZE="6"]ให้กำลังใจน่ะค่ะขนาดจิยังไม่แต่งยังเลิกยากของคุณนี่ต้องคิดให้หนักๆๆหน่อยน่ะค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ถ้าเป็นตัวเหวยเองเลิกคะ
แต่ในลายละเอียดของคุณ จขกท คนอื่นก็ไม่อยุ่ในเหตุการณ์ก็ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรได้มากคะ
ต้องลองคิดทบทวน ว่าเรารับได้มั๊ย ถ้าต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้เสียใจอีก เรื่อยๆ
หรือจะทนเจ็บครั้งเดียวคือตัดใจเลิก ไม่แน่อนาคตอาจเจอคนที่ดีกว่า อาจจะไม่ได้ดีกว่าในทุกด้าน
แต่ด้านที่ไม่ดีก็อาจเป็นไปในแบบที่เรารับได้ ไม่ต้องมานั่งเสียใจคะ
แต่ถ้าคิดว่ารักเค้าเลิกไม่ได้ก็ต้องทำใจยอมรับในตัวตนของเค้า คนเรานิสัยไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆนะคะ
ดูเหมือนเปลี่ยน แต่จริงๆแล้ว มันยังอยู่ในตัวคน คนนั้นคะ(เรื่องนี้เจอมากับตัวคะ ปัจจุบันก็เริ่มทำใจได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่หมดคะ) เหนื่อยใจมันหนักกว่าเหนื่อยกายคะ
เอาใจช่วยนะคะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
รักตัวเอง ทำให้ตัวเองมีความสุข
สู้ๆนะค่ะ
ปล นวดกษัย คืออะไร อ่ะ ค่ะ ???
[SIZE="5"]ถ้าผู้ชายรู้จักคำว่าพอ ก็จะไม่เกิดเรื่อง แต่...เค้า....ไม่รู้จักพอ
Originally Posted by Tinuviel
เลิกกะมันเลย -"-
(พูดจริงๆ แบบว่าเรารับไม่ได้เรื่องเห็นขี้ดีกว่าไส้ ถ้าเสียเรื่องอื่นๆเนี่ย รับได้ แต่เรื่องผู้หญิงเนี่ย ไม่ได้เด็ดขาด ถึงจะเป็นแค่ผู้หญิงหากินก็เหอะ)
อิอิ มาให้GIVEค่ะ คุณTinuviel
อ่านปุ๊บก็คิดแบบนี้เล้ย แต่รู้ว่าไม่ง่าย เพราะ คงจะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอยู่ในเรื่องราวของคุณสองคนเต็มไปหมด ดังนั้นมาให้กำลังใจค่ะ ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แอบให้คำแนะนำว่าควรจะคุยกับคุณพ่อคุณแม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่เทวดาของลูกค่ะ
ให้กำลังใจนะคะ
อย่างงี้ไม่ควรให้อภัยอย่างแรงค่ะ
ส่วนตัวนะค่ะ รับไม่ได้ทั้ง 2 อย่างเลิกแน่นอนค่ะ เรื่องแต่งงานล้มโครงการไปได้เลย เพราะความกังวัลและความไม่ไว้มจจะตามมาหลอกมาลอนตัวเราเองค่ะ เพราะถ้ารักกันจิงคงไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่ต้น และไม่คิดที่จะลองทำด้วย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะค่ะ อนาคตยังอีกยาวไกล รักตัวเองให้มากๆ รักพ่อ รักแม่ ให้มากๆค่ะ :D
Originally Posted by Oan_Klom
16. ความไม่ซื่อสัตย์ ต่อกันเพียงครั้งเดียว ก็อาจสั่นคลอนความไว้วางใจที่มีให้กันได้ท้ายที่สุด ชีวิตคู่ก็จบลงด้วยความแตกร้าว ยากเยียวยา
21. ไม่มีอะไร ทำให้ภรรยาปวดร้าวใจ มากเท่าการค้นพบว่า สามีมีหญิงอื่นในหัวใจ
22. รักเดียว...ใจเดียว ไม่ใช่เรื่องเชย แต่เป็นเรื่องดีที่สามีทุกคนในโลกควรกระทำ
3 ข้อเนี่ย ชัดๆเลยค่ะ แต่งงานไปมีลูก จะยิ่งเศร้ากว่านี้ ตัดตอนนี้ได้ก็ตัดซะค่ะ คนนี้เพิ่งเข้ามาอยู่ในชีวิตเราแค่5-6 ปี ทำให้เราเสียใจได้ขนาดนี้ ถ้าต้องอยู่กับไปอีก 10 ปี ไม่ต้องช้ำใจตายเหรอค่ะ
แนะนำว่า
1 อาจจะเป็นในช่วงที่เผลอรึเปล่าคะ ผู้ชายเป็นแบบนี้เกือบทุกคนค่ะ
2 ลองถามเค้าว่าอยากเลิกกับกันมั้ย ถ้ายังรักอยู่ขอให้เลิกนิสัยแบบนี้ แล้วปรับปรุงตัว เราก็พร้อมที่จะให้อภัย
3 ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองดูค่ะ แต่งตัวให้มันสวยๆๆๆๆสุดๆๆๆๆ
4 อย่าไปตามจิกเค้ามากค่ะ ถ้าเค้าเป็นคนดี รักเราจริง เค้าจะเกรงใจ และกลับมาเองค่ะ
5 เรื่องที่นานมาแล้วอย่าไปคิดมากค่ะ จิตตกเปล่าๆ
ถ้าลองทำแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นมา ก็อย่าทนต่อไป ลองห่างๆกันก่อน ถ้าเค้าไม่มาตื๊อเรา
แสดงว่าเค้าไม่สนใจเรา ก็ปล่อยเค้าไปค่ะ แฟนคนก่อนมุกคบมา 8 ปี แค่เค้าหูเบาไม่เชื่อใจเรา
มุกก็เลิกเลยค่ะ
มีไรก็ pm มาคุยกันได้นะคะ
อยากบอกว่าโลกนี้ไม่มีคนดี 100 % หรอกค่ะ
ขึ้นอยู่กับว่าส่วนที่เค้าดี มันมากพอที่เราจะรับส่วนที่ไม่ดีของเค้าหรือเปล่า
การที่ผู้ชายจะบอกเลิกกะผู้หญิง อาจต้องใช้เวลาสักพัก ให้เค้าปรับตัวค่อยห่าง (หรือเปล่า)
เราคิดว่าบางคนอาจเลิกได้ทันทีวันนั้น แต่บางคนต้องใช้เวลา
อย่างน้อยก็คบกับเค้ามาตั้ง 6 ปี ก็น่าจะเป็นคนที่รู้จักเค้าดีที่สุด
ที่เค้าทำไปเพราะคุณอยู่ในฐานที่ยังทำให้ไม่ได้หรือเปล่า (คิดในแง่ดี)
บางทีการโกหกเพราะเค้าไม่อยากทำร้ายคุณก็ได้
เราแค่คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายยังไม่ได้แต่งงานจะทำได้
ส่วนใหญ่คงไม่มีใครมาบอกแฟนตรงๆว่าจะไปทำอะไรเพื่อให้แฟนเสียใจหรอก
อย่างไรก็แล้วแต่ เป็นกำลังใจให้ตัดสินใจในทางที่ดีสำหรับตัวเอง
อย่างน้อยก็เลือกในสิ่งที่ไม่ทำให้เสียใจภายหลังนะคะ;)
เวอร์ชั่นเสียงในฟิล์ม ---> ต่ายแหล่วน้องเอ๊ย ย่าไป่เอ้ามันพื้ด คนขี้หกพั่นเนี้ย สั้นดอนคุดด้าย สั้นดานคุดหยากเน้อน้องเน้อ
เวอร์ชั่น subtitle ---> ตายแล้วคุณน้องขา อย่าไปเอามันเลยค่ะ คนโกหกอย่างงี้ สันดอนขุดได้ สันดานขุดยากนะคะคุณน้องงงง
เห็นด้วย...กับหลายๆกระทู้ ว่า เลิกเหอะน้อง
ยังไม่แต่งงานยังกลับลำทันนะจ๊ะ เพราะว่าแต่งงานไปแล้วผู้หญิงก็เสียเปรียบกว่าผู้ชาย จะเลิกที่หลังแล้วไปหาใหม่มันก็ไม่เหมาะอะ
พี่ว่า...เท่าที่อ่านๆเรื่องมา อยู่กันไปก็มีแต่ช้ำ เสียน้ำตา เปลี่ยนใจไปรักคนที่เค้ารักเรายังง่ายกว่า ให้เค้าเปลี่ยนมารักเราแค่คนเดียวนะ
ลองค่อยๆคิดนะ เรื่องอย่างนี้ต้องใช้เวลาตัดสินใจ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
สู้..สู้ (อกหักไม่ตายหรอก...เดี๋ยวก็หายเอง)
[SIZE="5"]นิสัย โกหก [SIZE="4"]รับมะได้ค่ะ ถ้าเปนเรา คงขอเลิกอะค่ะ เพราะไม่อยากเจ็บซ้ำซาก
ก็ให้โอกาสเค้าอีกครั้งนึงค่ะ
หากเกิดจับได้อีกครั้งว่ายังทำอีก
ก็ต้องมานั่งตอบคำถามตัวเองแล้วค่ะ
ว่าถ้าแต่งงานไป แล้วมีลูก
เจอปัญหาแบบนี้อีก เราจะสามารถรับได้หรือเปล่า
เพราะเราว่าถึงเวลานั้นจะยิ่งตัดสินใจยากกว่าที่ปัจจุบันเป็นอีกหลายเท่าค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ
เพื่อนเราก็เจอปัญหาแบบนี้ค่ะ
คือแฟนยังผูกพันกับแฟนเก่าอยู่
ซึ่งผู้หญิงคนนั้นตอนที่คบกับแฟนเพื่อนเราอยู่ก็ไปแต่งงานกับผู้ชายอีกคน
พอเลิกกันก็กลับมาติดต่อกันใหม่ในขณะที่มีเพื่อนเราเป็นแฟนแล้ว
เพื่อนก็น่าสงสารมาก เพื่อนคนนี้เรารู้จักตอนที่ทำงานบริษัท
เพื่อนคนนี้เป็นคนตรงและก็เข้มแข็งมาก
แต่บางทีก็โทรมาร้องไห้ ว่าไปเจอบันทึกรัก
เป็นสมุดไดอารี่ที่แฟนพร่ำพรรณนาถึงผู้หญิงคนนั้น
แล้วก็ไปเจอเทปลับแบบคลิปหลุดดาราประมาณนั้นเลย
เพื่อนเราคิดว่ามันอยู่ในช่วงเวลาที่ได้คบกันแล้ว
ไม่ใช่อดีตก่อนที่เพื่อนเราจะเจอกับแฟน เลยยิ่งเฮิร์ทเข้าไปใหญ่
เรื่องแต่งงานก็ยังไม่มีการเริ่มต้นพูดคุย เราก็สงสารเพื่อนว่า
เฮ้อ แล้วจะคบกันต่อไปยังไงเนี่ย
เพื่อนเราบอกอยากเลิก แต่ติดตรงที่มีหมาที่รักมากและต้องดูแลเอาใจใส่ถึงสองตัว
เราก็ขอภาวนาว่าอย่าให้เจอผู้ชายเจ้าชู้เลย เพราะเราคงไม่เข้มแข็งแบบนี้แน่นอน
[SIZE="5"]ไม่ได้อ่าน คคห ทั้งหมด อ่านแค่ ของคุณ หน้าแรก
คิดแบบนี้นะ
ขนาดยังไม่แต่ง ยังเห็นเราเป็นของตายซะขนาดนี้
โกหก กะล่อน ปลิ้นปล้อน ได้ขนาดนี้
แต่งไป เขาจะเลิกได้เหรอ
อยากอยู่แบบนี้ตลอดไป ทั้งชีวิต ก็เลือกแต่งกับเขา
เป็นเรา ยอมเจ็บตอนนี้ ดีกว่าไปผูกติดกับคนแบบนี้
เผลอๆ เป็น HIV หรือเปล่าก็ไม่รู้
อย่าไปแคร์สังคม อย่าไปแคร์คนรอบข้าง
อย่าไปคิดว่าเขาจะว่า จะอับอายถ้าเลิกกันแฟน
มีเหตุผลแบบนี้ บอกใครหน้าไหน เขาก็เข้าใจล่ะนะว่า
เพราะอะไรเราถึงเลิก
รักตัวเองมากๆนะ เป็นห่วง
กลัวติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ชอบไปอาบ อบ แนบแบบนั้น โอกาสติดโรคมากโขอยู่ป้องกันยังไงก็เถอะ แค่คิดก็ขยักแขยงแล้วค่ะ เขาชอบนอนกับหญิงที่มีอาชีพนอนกับผู้ชายตลอดแล้วเราต้องมาร่วมเตียงเดียวกับเขาเนี่ยนะ...โอกาสใช้สามีร่วมกับหญิงอื่นๆมีสูงค่ะ ยี้!เภาขอเป็นโสดจนลงโลงดีกว่าค่ะ รักได้ก็เลิกรักได้
คนโกหก ปลิ้นปล้อน สับปรับนี่ถ้าไม่คั้นให้ตายไล่จับยากค่ะ ถ้าแต่งกันไปเขายังไม่ยอมเลิกเห็นเมียเป็นของตาย จะไปจุ๊กกรูกะหญิงอื่นเด็กกว่าสาวกว่าเราซะอย่างจะทำไม หากไม่ยอมก็แค่เลิก เพราะได้เราแล้วนี่ แบบนี้หรือคะที่คุณจขกท.อยากเสี่ยง เป็นเภาเอาเวลากลับไปเป็นโสดเผื่อเจอผู้ชายที่เห็นคุณค่าเราเหนือกว่าเนื้อหนังมังสากามราคะ คนที่พร้อมและเต็มใจจะอยู่ดูแลกันและกันไม่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจดีกว่าเป็นไหนไหน
มีโหวตให้เลือกหรือเลิกไหมคะ เภากดโหวตเลิกค่ะ!
เราว่า เค้าไม่ทางเปลี่ยนนิสัย ได้อย่างแน่นอน...
ถ้ายังไม่แต่ง...ก็เลิกดีกว่า ถ้ารับตรงนี้ไม่ได้
เพราะถ้าปล่อยไว้ จนแต่งงานกันไป จะกลายเป็นปัญหาครอบครัวแน่ๆ
ทำไมนะทำไม.. ผู้ชายสมัยนี้เป็นกันซะอย่างนี้ไปหมด...:-(
เราก็เคยจับว่าแฟนมีกิ๊กได้2คนภายในวันเดียว
จะเป็นลมเหมือนกันค่ะ
แต่ยังงัยก็คิดดูดิๆนะค่ะ ตัดสินใจดีๆเน้อ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ขอให้ จขกท ชั่งใจดูดีๆนะค่ะ พีเคเข้าใจค่ะว่าอยู่อย่างหวาดระแวงมันเลวร้ายและเจ็บปวดมาก (ไม่มีความสุข) เราจะทำร้ายจิตใจตัวเองหรือค่ะ แฟนคุณ จขกท ยอมเลิกทุกอย่างไหม ก่อนที่จะแต่งงานกันอ่ะค่ะลองคุยกันหรือยัง แฟนพีเคเป็นคนที่เที่ยวเก่งมาก( อาบ อบ นาบ) เลยค่ะ แต่หลังจากที่เค้ามาคบกับพีเคและแต่งงานกัน เค้าก็เปลี่ยนไป เลิกเที่ยวเลิกสังสรรค์ จนเพื่อนแซวว่ากลัวเมีย แต่เค้าก็ไม่อาย เค้าภูมิใจที่มีเมีย คอยดูแล มากกว่าค่ะ คุณ จขกท ต้องตัดสินใจดีๆนะค่ะ นะวันนี้เราเป็นแฟน เค้าต้องแคร์เราเป็นเรื่องธรรมดา แต่ ถ้าเราแต่งงานเป็นผัวเมียกันแล้ว มันก็ไม่ต้องเฟคอีกต่อไป ธาตุแท้มันจะออกมา ยิ่งถ้าเราท้อง เค้าสามารถดูแลเรา รองรับอารมย์ต่างๆนาๆที่คนท้องเป็นได้ไหม และ ถ้าเราท้องแล้วเค้าต้องการ...แล้วเราให้ไม่ได้เค้ายอมเข้าใจเราไหม หรือ เค้าต้อง ออกไป อาบ อบ นาบ และ จุดๆนี่เอง อาจจะทำให้เค้ากลับไปติด น้องคนนั้นอีกก็ได้ ไอ้สาวๆที่ผ่านมาผ่านไปเราก็ปวดหัวจะแย่ แต่ ถ้าเลี้ยงเป็นตัวเป็นตนเราจะเครียดกว่านะค่ะ พีเคไม่ได้อยากให้ คุณ จขกท เลิกกับแฟนนะค่ะ แต่อยากให้ถ้อยออกมาตั้งหลักก่อนดีไหม อย่าเพิ่งแต่งงานในระยะอันใกล้นี้ การที่เราคบกับใครมันย่อมมีความรู้สึกดีๆที่ผ่านเข้ามา มันอยากที่จะลืม ลองใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และ อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ดูนะค่ะ อาจจะช่วยเราได้ และ ที่สำคัญควรที่จะป้องกันตัวเอง หรือ ตรวจเลือดก่อนแต่งงานนะค่ะ เราคิดว่าเราไว้ใจตัวเองเชื่อในตัวเอง แล้ว อีกคนละในแต่ละครั้งที่เค้าออไปเที่ยว เค้าเซฟตัวเองได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ มันสำคัญมากนะค่ะ ( การที่ผู้ชายออกไปเที่ยว...มันไม่ได้จะโชคดีทุกๆครั้งนะค่ะ ) คุณจขกท ลองถามใจตัวเองดูนะค่ะว่า คุณรักตัวเองหรือเปล่าและยอมรับในอนาคตข้างหน้าได้ไหมว่าจะดีหรือจะร้าย ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ สุดท้าย จงเชื่อมันในตัวเองนะค่ะ
ไม่อยากให้โทษตัวเองว่า "โง่" หรือว่า "ผิด" นะคะ
ก่อนที่จะตัดสินใจว่า "จะเลิก" ดีมั้ย
อยากให้ลองคุยกับเค้าแบบเปิดใจ (แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะเปิดใจกะเรารึป่าว) ถามไปเลยค่ะ ว่าเค้ายังรักเรา เหมือนเดิมรึป่าว
เราคือคนที่เค้าอยากจะแต่งงาน อยากอยู่ด้วยกันตลอดไปรึป่าว
เราบกพร่อง หรือดูแลเค้าไม่ดีตรงไหน ที่ทำให้เค้าต้องเบนเข็มไปพึ่งพาสาวๆเหล่านั้น หรือเป็นเพียงแค่การรักสนุก หรืออะไร เผื่อจะได้นำมาใช้ปรับจูนให้ตรงกันค่ะ
แล้วก็บอกเค้าไปเลยค่ะ ว่าสิ่งที่เค้ากะลังทำอยู่ ทำให้เรารู้สึก "ไม่ไว้ใจ" รู้สึก ระหว่างเรา "ไม่เหมือนเดิม"
บอกเค้าไปเลยค่ะ ว่าคุณพร้อมที่จะ "ให้อภัย" (ถ้าคุณยังจะให้โอกาส) สำหรับการกระทำที่ผ่านมาของเค้า ถ้าเค้าพร้อมจะปรับปรุง เพราะคุณ "ยังรักเค้ามาก" และอยากแต่งงานใช้ชีวิตอยู่กะเค้า (คนเดิมที่ไม่ใช่คนนี้) ตลอดไป
ก็คิดว่าน่าจะเตือนสติ และช่วยดึงสติเค้ากลับมาได้นะคะ (ถ้าเค้าทำเพราะแค่รักสนุก)
ส่วนตัวคิดว่าถ้าได้พูดคุยกันอย่างเปิดใจ และได้คำตอบแล้ว หลังจากนี้ถ้าเค้ายังเป็นเหมือนเดิมอีก คุณก็ต้องตัดสินใจเองแล้วค่ะ ว่านี่แหละ "ตัวตนที่แท้จริง" ของเค้า คุณยังจะรับเค้า ที่เป็นเค้าแบบนี้ ได้ตลอดไปหรือป่าว
คิดให้เยอะๆ ถามความรู้สึกตัวเองให้มากๆค่ะ โชคดีนะคะ