ไม่รู้ว่า ที่นี่ มีคนชอบกินแกงส้ม กันไหม ผมชอบกินแกงส้ม โดยเฉพาะแกงส้มใต้
ที่ชอบไม่ใช่เพราะผมเป็นคนใต้ แต่ ที่ชอบกิน เพราะมันมีเสน่ห์ ตรงน้ำแกง
แกงส้มภาคใต้ จะใส่ขมิ้นลงไปผสมตอนที่โขกเครื่องแกง และมีรสเผ็ดของพริก นับสิบ
ถ้าส่วนผสมออกมาลงตัว ก็อร่อยเหาะ ใครได้ลองกิน จะติดใจ
วิธีกินให้อร่อยเหาะ ต้องมีข้าวสวยร้อนๆ เหมาะมากถ้าเป็น ข้าวหอมมะลิ
ราดน้ำแกงส้ม ให้ท่วมข้าว แล้วก็ กิน อร่อยมากๆ ครับ
เอารูปนึงมาให้ดูกันครับ รูปนี้เป็น แกงส้มปลาแซลมอน ครับ
ผมไปกินบุฟเฟร์ที่ห้องอาหารชั้น 33 โรงแรมลีการ์เด้นท์ หาดใหญ่
ใครไปหาดใหญ่ ลองไปแวะทานกันนะครับ
ถ้าอร่อย ไม่ต้องเหาะ ลงมานะครับ อันตราย
10 มี.ค. 53
มาลงรูปเพิ่มเติมครับ นี่ซิครับ แกงส้มของแท้
ขออนุญาต คุณ แม่เจเจ เจ้าของรูป นำรูปแกงส้มมาเผยแพร่นะครับ
เพื่อนๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมผลงานของคุณแม่เจเจ ได้ที่เวบไซต์นี้ครับ
http://www.pantown.com/board.php?id=10764&area=4&name=board1&topic=2177&action=view
เพื่อนๆ สมาชิกทราบกันไหมครับว่า เขาทำแกงส้มกันยังไง ผมเอามาให้ดูที่นี่แล้วครับ
แต่ขอบอกว่า นี่เป็นสูตรของแกงส้มภาคกลางนะครับ ไว้วันหน้า ผมจะหาสูตรที่เป็นแกงส้มใต้
มาให้ได้ลองทำกันนะครับ
ส่วนผสม
พริกขี้หนูแห้ง 15-20 เม็ด
กระเทียม(ไทยกลีบเล็ก) 10 กลีบ
หอมแดง 2-3 หัว
ขมิ้นแก่ ยาวประมาณ 1 นิ้ว 1 ชิ้น
กะปิ 1 ช้อนกินข้าว
เกลือ 1 ช้อนกินข้าว
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนกินข้าว
น้ำมะนาว 1/2 - 1 ลูก
ข้าวสาร 1 ช้อนกินข้าว
เนื้อปลา 3 ขีด
หน่อไม้ดอง 3 ขีด
ซอสปรุงรส พอประมาณ
วิธีทำ
1. พริกขี้หนูแห้ง กระเทียม หอมแดง ขมิ้น เกลือ ข้าวสาร 1 ช้อนกินข้าว
โขลกให้ละเอียดดี ใส่กะปิโขลกต่อให้เข้ากัน
2. ละลายพริกแกงด้วยน้ำเปล่า ตั้งไฟพอเดือดใส่น้ำมะขามเปียก
ซอสปรุงรสใส่หน่อไม้ดองที่ล้างสะอาดดีแล้ว ตั้งไฟให้เดือดสักครู่
3. ใส่ปลา พอปลาสุกลดไฟลง ใส่น้ำมะนาว แล้วยกลง
หมายเหตุ
1. ส่วนผสมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ เช่น ชอบรสจัดก็เพิ่มส่วนผสมต่างได้
2. ใช้ส่วนผสมอื่นๆ แทนกันได้ เช่น ใช้หมูย่าง ปลาย่าง ปลาทอด กุ้ง หรือโปรตีน
อื่นๆ แทนเนื้อปลาได้ ใช้ผักต่างๆ แทนหน่อไม้ดองได้ตามชอบ
หรือใช้ผลไม้ที่มี รสเปรี้ยว แทนน้ำมะขามเปียกและน้ำมะนาวได้
3. ข้าวสารจะช่วยให้น้ำแกงมีสีสวยและลดกลิ่นคาวปลาได้
(ขอขอบคุณ หมอนิต เจ้าของบทความ “แกงเหลือง” ครับ เพื่อนๆ เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ที่นี่ครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=moph-nit&month=02-2008&date=12&group=2&gblog=2 )
แม่ครัวแต่ละคน ก็มีสูตรในการปรุงเครื่องแกงต่างกัน ของคุณหมอนิต เป็นแบบนึง
ของคนอื่นอาจแตกต่างจากนี้ได้ครับ บางคนใช้พริกแห้ง บางคนใช้พริกสด
บางคนไม่ใส่หอมแดง ส่วนเนื้อสัตว์กับผัก ก็ปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ
แม่ครัว SBN ทั้งหลาย ถ้านึกอยากกินแกงส้ม ลองทำดูที่บ้าน ก็ได้ครับ
คราวหน้าจะเอาประโยชน์ของแกงส้มมาฝากกันครับ
12 มี.ค. 53
เคยสังเกตไหมครับ คนใต้ชอบกินแกงส้มมาก
นอกจากรสชาติที่เข้มข้น เผ็ด เปรี้ยว หวาน แล้ว
แกงส้มยังมีประโยชน์จากเครื่องแกงที่ใส่ลงไปด้วยนะครับ
โดยเฉพาะขมิ้นที่เป็นตัวเด่นและเป็นเสน่ห์ของแกงส้ม
ขมิ้น ดูแลเราสารพัดโรค
(ที่มาของรูป : http://www.cmlifes.com/images/stories/p.golf/55391.jpg)
ขมิ้นเป็นส่วนประกอบของอาหารหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นตะวันตก หรือตะวันออก
โดยเฉพาะในอินเดีย นิยมใช้ขมิ้นในการปรุงอาหารหลายชนิด มีสรรพคุณ
ช่วยบรรเทาอาการของโรคอันเนื่องมาจากความเสื่อมโทรมของประสาทไม่ให้ทรุดลงได้
อย่างเช่น โรคอัลไซเมอร์ มีความสัมพันธ์กับการเกิดแผ่นแป้งในสมองที่เรียกว่า amloidplaques
นักวิจัยพบว่า ขมิ้นสามารถลดแผ่นดังกล่าวลงได้ราวครึ่งหนึ่ง และ
สารเคมีในขมิ้นช่วยลดอาหารอักเสบของเนื้อเยื่อในสมองที่เป็นผลมาจากโรคอัลไซเมอร์ได้
ผลการวิจัยยังพบว่า หากเปรียบเทียบอินเดียที่มีการรับประทานขมิ้นมากกว่าประเทศอื่นๆ
แล้วพบว่าประชากรในอินเดียที่มีอายุเกินกว่า 65 ปี
หลายหมู่บ้านของอินเดีย เป็นโรคอัลไซเมอร์เพียง 1% เท่านั้น
การวิจัยปัจจุบันยังยืนยันถึงสรรพคุณมากมายของขมิ้น ตามความเชื่อของคนโบราณ
ทั้งยังค้นพบคุณสมบัติใหม่ ๆ ของขมิ้น เช่น ป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษ
มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียช่วยต้านมะเร็ง และแผลในกระเพาะอาหาร เป็นต้น
มีการศึกษาพบว่า หากรับประทานขมิ้นพร้อมกับอาหาร จะช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้
และยังทำลายไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารได้
เนื่องจากเหง้าขมิ้นมีสารที่ยับยั้งการหลั่งของกรด จึงใช้ในการ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
และลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟื้อ และยังช่วยเจริญอาหารด้วย
ขมิ้นยังมีผลดีต่อผิวหนัง คือ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง แก้อาการผื่นคัน รักษากลากเกลื้อน
รักษาแผลสด ระงับเชื้อ รักษาพิษโลหิตและเสมหะ
ทั้งนี้ยัง ใช้ขับระดูสำหรับสตรีที่มีกลิ่นเหม็น และมีเลือดจับกันเป็นก้อนสีดำ
จะช่วยละลายให้เลือดแตกเป็นลิ่มๆ ออกมา แก้บิดเป็นมูกเลือด แก้น้ำดีพิการ
ช่วยขับลมให้ผายออกมาทางทวารหนัก หรือ ให้เรอออกมาทางปาก
ฝนขมิ้นแล้วหยอดตา แก้อาการตาแดง ตาเปียกแฉะ มีขี้ตาเป็นประจำในฤดูแล้ง
นอกจากแก้โรคแผลในลำไส้และกระเพาะ แล้วยังแก้ท้องร่วงด้วย
ถ้าหากมีอาการของไข้หวัด ขมิ้นก็สามารถใช้ดมแก้หวัด ขับเสมหะในลำคอ
ผสมสมุนไพรอย่างอื่นๆ เป็นยาคุมธาตุ แถมยังแก้อาการฟกช้ำดำเขียวตามร่างกาย
ด้วยการเอาหัวสดๆ มาตำพอกบรรเทาอาการอักเสบและเคล็ดขัดยอกไว้ด้วย
นอกจากนี้ ขมิ้นยังมีฤทธิ์ต้านวัณโรค แก้อาการไม่สบาย ลดไข้ รักษาไข้ผอมเหลือง
บรรเทาอาการวิงเวียน ดมแก้หวัด ระงับอาการชัก รักษาฟัน แก้หญิงที่ตกโลหิต
รักษาอาการโลหิตออกทางทวารหนักและเบายังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ อีก
เช่น ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยต่อสู้การติดเชื้อ และป้องกันโรคหัวใจ
ขมิ้นเป็นยาสมุนไพรที่สารพัดประโยชน์นอกจากใช้เป็นอาหารแล้ว ยังสามารถใช้เป็นสีย้อมผ้า
หรือยา โดยขมิ้นนั้นมีสารเคอร์คิวมิน (curcumin) และน้ำมันหอมระเหย เป็นองค์ประกอบหลัก
ที่ให้สรรพคุณทางยา สีเหลืองส้มของขมิ้นที่ใช้เป็นสีย้อมได้ดี ก็ได้จากสารสีชื่อ เคอร์คิวมิน
คนไทยนิยมใช้เหง้าขมิ้นในการแต่งกลิ่น และสีในอาหารโดยเฉพาะอาหารปักษ์ใต้ เช่น แกงเหลือง
แกงไตปลา ไก่ทอดขมิ้น เป็นต้น ใบขมิ้นหั่นฝอย ยังกินเป็นผักแกล้มกับข้าวยำของคนใต้ เช่นกัน
(ที่มา : http://www.horapa.com/content.php?Category=Herb&No=211)