สำคัญมากๆๆๆๆต้องอ่านค่ะ- Microwaved water
โดย due
due
#1
[SIZE="3"]Brother Dr.Vincent Ong

THIS INFORMATION NEEDS TO BE SHARED!

Microwaved water - one MUST read

A 26-year old guy decided to have a cup of coffee. He took a cup of water and put it in the microwave to heat it up (something that he had done numerous times before).

I am not sure how long he set the timer for, but he told me he wanted to bring the water to a boil. When the timer shut the oven off, he removed the cup from the oven. As he looked into the cup, he noted that the water was not boiling, but instantly the water in the cup 'blew-up' into his face.

The cup remained intact until he threw it out of his hand but all the water had flown out into his face due to the build up of energy. His whole face is blistered and he has 1st and 2nd degree burns to his face, which may leave scarring. He also may have lost partial sight in his left eye.. While at the hospital, the doctor who was attending to him stated that this is fairly common occurrence and water (alone) should never be heated in a microwave oven. If water is heated in this
manner, something should be placed in the cup to diffuse the energy such as: a wooden stir stick, tea bag, etc. It is however a much safer choice to boil the water in a teakettle.


General Electric 's (GE) response:[SIZE="3"]

Thanks for contacting us. I will be happy to assist you. The e-mail that you received is correct. Micro waved water and other liquids do not always bubble when they reach the boiling point. They can actually get superheated and not bubble at all. The superheated liquid will bubble up out of the cup when it is moved or when something like a spoon or teabag is put into it. To prevent this from happening and causing injury, do not heat any liquid for more than two minutes per cup. After heating, let the cup stand in the microwave for thirty seconds before moving it or adding anything into it.

If you pass this on .... you could very well save someone from a lot of pain and suffering.

chosen
#2
อ่านข้อความ เด๋วจะไม่เห็นภาพคะพี่ดิว เอาคลิปวีดีโอมาแปะเลยดีกว่า http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=1133

ระวังนะคะ แต่ของเรา ถ้าต้มน้ำ ปกติ ก็ต้มแต่มาม่าอะคะ ถ้าใส่ไข่ ให้ เอาส้อม จิ้มๆ ไข่แดงให้แตกนะคะ ไม่งั้น ถ้า มันเป็นลูกๆ ไข่อาจจะระเบิดใส่หน้าได้คะ

ปล. เสริมคะ เราควรดื่มน้ำต้มจาก Micro Wave ดีมั๊ย?(น่าทึ่งมาก) http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=3036 เพราะงั้นนนนน ห้ามชงนมให้ลูกๆ โดยขี้เกียจ แล้วไปต้มน้ำในไมโครเวฟนะคะ

เคยมีนางพยาบาลที่ต้องการประหยัดเวลาใช้เตาไมโครเวฟช่วยอุ่นอุณหภูมิของโลหิตนั้น ปรากฏว่า พอฉีดเข้าในร่างกายผู้ป่วยทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันที จึงเป็นที่มาของกฎข้อห้ามที่เข้มงวดในโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล ห้ามใช้เตาไมโครเวฟอุ่นโลหิตอย่างเด็ดขาด

ตั้งแต่นั้นมาบนฉลากขวดนมสำหรับเลี้ยงทารก ก็มีการระบุอย่างชัดเจนว่า ห้ามใช้เตาไมโครเวฟต้มน้ำให้เดือด เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟจะไปทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์ทั้งหมด

ในรัสเซีย เยอรมนี และสวิส พบว่าคลื่นไมโครเวฟจะทำให้คลื่นสมองลดลงสมองเสื่อมทำให้คลื่นสมองมีความยาวคลื่นสั้นลง ในไมโครเวฟนอกจากจะเป็นสารก่อมะเร็งแล้วยังเป็นสารตกค้างที่ร่างกายขจัดไม่ได้ คลื่นในระยะยาวจะทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง และเปลี่ยนแปลงทำลายเกลือแร่ต่างๆ

ในผักเปลี่ยนเป็นอนุมูลอิสระที่เป็นโทษต่อร่างกาย ยังมีคลื่นอื่นๆ อีกหลายตัวในไมโครเวฟที่ล้วนทำให้สารบำรุงในอาหารเปลี่ยนไป และแปรสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง การรับประทานอาหารที่ปรุงโดยไมโครเวฟนานๆ จะทำให้ร่างกายสะสมสารก่อมะเร็งเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสารบำรุงในอาหารถ ูกทำลายก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ทำให้ร่างกายอ่อนแอ

การรับประทานอาหารแบบนี้ในระยะยาวจะทำให้ความจำเสื่อม ขาดพลัง ทางที่ดีหากเป็นไปได้ใช้ให้น้อยที่สุด

ข้อมูลจากฟอร์เวิร์ดเมล์ http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=4266
lollipop
#3
เป็นสิ่งที่ทำทุกเช้าหลังตื่นนอนเลยค่า

แบบนี้น่ากลัวนะคะ

แต่ ปกติจะไม่ตั้งเวลานานเกินไป
due
#4
Originally Posted by chosen
อ่านข้อความ เด๋วจะไม่เห็นภาพคะพี่ดิว เอาคลิปวีดีโอมาแปะเลยดีกว่า http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=1133

ระวังนะคะ แต่ของเรา ถ้าต้มน้ำ ปกติ ก็ต้มแต่มาม่าอะคะ ถ้าใส่ไข่ ให้ เอาส้อม จิ้มๆ ไข่แดงให้แตกนะคะ ไม่งั้น ถ้า มันเป็นลูกๆ ไข่อาจจะระเบิดใส่หน้าได้คะ

ปล. เสริมคะ เราควรดื่มน้ำต้มจาก Micro Wave ดีมั๊ย?(น่าทึ่งมาก) http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=3036 เพราะงั้นนนนน ห้ามชงนมให้ลูกๆ โดยขี้เกียจ แล้วไปต้มน้ำในไมโครเวฟนะคะ

เคยมีนางพยาบาลที่ต้องการประหยัดเวลาใช้เตาไมโครเวฟช่วยอุ่นอุณหภูมิของโลหิตนั้น ปรากฏว่า พอฉีดเข้าในร่างกายผู้ป่วยทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันที จึงเป็นที่มาของกฎข้อห้ามที่เข้มงวดในโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล ห้ามใช้เตาไมโครเวฟอุ่นโลหิตอย่างเด็ดขาด

ตั้งแต่นั้นมาบนฉลากขวดนมสำหรับเลี้ยงทารก ก็มีการระบุอย่างชัดเจนว่า ห้ามใช้เตาไมโครเวฟต้มน้ำให้เดือด เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟจะไปทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์ทั้งหมด

ในรัสเซีย เยอรมนี และสวิส พบว่าคลื่นไมโครเวฟจะทำให้คลื่นสมองลดลงสมองเสื่อมทำให้คลื่นสมองมีความยาวคลื่นสั้นลง ในไมโครเวฟนอกจากจะเป็นสารก่อมะเร็งแล้วยังเป็นสารตกค้างที่ร่างกายขจัดไม่ได้ คลื่นในระยะยาวจะทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง และเปลี่ยนแปลงทำลายเกลือแร่ต่างๆ

ในผักเปลี่ยนเป็นอนุมูลอิสระที่เป็นโทษต่อร่างกาย ยังมีคลื่นอื่นๆ อีกหลายตัวในไมโครเวฟที่ล้วนทำให้สารบำรุงในอาหารเปลี่ยนไป และแปรสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง การรับประทานอาหารที่ปรุงโดยไมโครเวฟนานๆ จะทำให้ร่างกายสะสมสารก่อมะเร็งเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสารบำรุงในอาหารถ ูกทำลายก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ทำให้ร่างกายอ่อนแอ

การรับประทานอาหารแบบนี้ในระยะยาวจะทำให้ความจำเสื่อม ขาดพลัง ทางที่ดีหากเป็นไปได้ใช้ให้น้อยที่สุด

ข้อมูลจากฟอร์เวิร์ดเมล์ http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=4266



[SIZE="3"]ขอบคุณมากๆเลยจ้า มีภาษาไทยด้วย แต่เครื่องของพี่ดูคลิปไม่ได้
น่ากลัวมากๆ เพราะมีต้มน้ำบ้างเป็นคร้ังคราวเพราะที่บ้านไม่ได้
ใช้กระติ๊กน้ำร้อนแล้ว
nampont
#5
น่ากลัวมากเรย...
เราชอบอุ่นอาหารให้แม่ทานโดยใช้ไมโครเวบ เพราะง่ายและประหยัดเวลา
ต่อไปจะพยายามไม่ใช้แล้ว
อันตรายจริงๆ
nattakitta
#6
น่ากลัวจังค่ะ
ขอบคุณสำหรับคะแนะนำค่ะ ^_^
ratkatu
#7
[SIZE="4"]เรื่องนี้มีมานานมากๆแล้วค่ะ เพราะเราเคยทำงานอยู่เกี่ยวกับบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ ทางGM เป็นคนมาเล่าเรื่องเองเลยค่ะ แล้วแนะนำว่าถ้าจะต้มน้ำเปล่าๆเพื่อชงกาแฟให้หักไม้จิ้มฟันเป็นอันเล็กๆใส่ไว้ในน้ำค่ะ
hut2211
#8
ขอบคุณพี่ดิว และคุณ Chosen ครับ :D
cartoon
#9
น่ากลัวมากๆๆๆๆๆ ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูลดีๆ
neenie
#10
อรึ๋ย...น่ากลัว...ขอบคุณพี่ดิวมากค่ะ ทุกวันนี้ชีวิตพัวพันอยู่กับไมโครเวฟอย่างยากที่จะห้ามได้...

เง๊อ....ทำไงดีอ่ะ -_-"
ppjung
#11
ขอบคุณมากค่ะ.....
bubble
#12
ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ
joywila
#13
ทำประจำเลยค่า
เตชะบุญนังวิลามันแท้ ๆ
รอดมาได้ ....

ปล.ขอบคุณมากค่า ไม่กล้าอีกแล้ว
momoandmimi
#14
ติดมาก ใช้ทุกวันเลยคะ
อุ่นกับข้าวบ้าง ขนมบ้าง ต้มมาม่าบ้างใส่ไข่ด้วย
จะรอกระติกต้มน้ำร้อน ก็นานอะ
เข้าเวฟ นาทีเดียวก็เอามาชงชาได้แล้ว
ใช้มา10กว่าปี จะเป็นไรมั๊ยเรา
wawe
#15
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จะได้ระมัดระวังการใช้มากขึ้นกว่าเดิม
barumbum
#16
ขอบคุณมากมายค่ะ พี่ดิว
pinecrest
#17
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้น .. ควรซื้อกาต้มน้ำจ้ะ :D

..
FH666
#18
หลักการการทำงานของไมโครเวฟก็คือคลื่นแม่เหล็ก ประเภทเดียวกับคลื่นวิทยุ เมื่อใช้จะสร้างความสั่นสะเทือนโมเลกุลของน้ำในอาหารพร้อมกัน เมื่อโมเลกุลเสียดสีกัน จึงทำให้อาหารสุกเร็วในระยะเวลาอันสั้น คลื่นความถี่มีรูปแบบการสะท้อนอยู่ภายในเครื่อง ทำให้มีบางบริเวณที่จะไม่ร้อน จึงต้องมีถาดหมุนอยู่ภายในเพื่อให้ได้รับคลื่นโดยทั่วถึง

*แก้ไขค่ะ* พอดีเพิ่งได้รับ FWD แบบเต็มมา เมื่ออ่านอย่างตั้งใจอีกทีจึงเข้าใจว่า ความจริงในเรื่องนี้ก็คือ น้ำนั้นถูกต้มในภาชนะจนถึงจุดเดือด แต่ไม่มีฟองปุดขึ้นมาเพราะภาชนะนั้นเรียบลื่นไม่มีรอยจนหาจุดกำเนิดฟองไม่ได้ น้ำที่ถึงจุดเดือดแล้วแต่ยังไม่เปลี่ยนสถานะเป็นไอเพราะขาดตัวกระตุ้น เรียกว่าอยู่ในสถานะ superheat เมื่อมีอะไรมากระทบน้ำจึงขยายตัวกลายเป็นไอด้วยความเร็วสูงจนเหมือนระเบิดย่อมๆ พุ่งตูมตามออกมา การที่ให้ป้องกันด้วยการใส่ไม้หรือถุงชาลงไปด้วยจะช่วยในการเป็นจุดกำเนิดฟองนั่นเองค่ะ

แต่อาหารที่ปรุงด้วยเตาไมโครเวฟ เมื่อคลื่นมอบพลังงานให้โมเลกุลน้ำหมดแล้วจะสลายหายไป ไม่เหลืออะไรตกค้างอยู่ภายในอาหารแน่นอนค่ะ

และถ้าคิดว่าคลื่นไมโครเวฟรุนแรงเป็นอันตราย คลื่นของโทรศัพท์มือถือ ถี่กว่าหลายเท่าค่ะ :D
baby420
#19
ขาดไม่ได้เลยไมโครเวฟเนี่ย

แต่ การทดลองต้นไม้
http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=3036

ด้านซ้ายเหมือนโดนตัดซะมากกว่าซะอีกเนอะ รึเราคิดไปคนเดียวหว่า
FH666
#20
มาเพิ่มเติมว่า FWD เกี่ยวกับเรื่องการอุ่นถุงเลือดนั้น ถ้าเป็นความจริงก็ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยแน่นอน เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกาชาด ธนาคารเลือด จะระบุวิธีการอุ่นเลือดแต่ละชนิดชัดเจน การอุ่นเลือดอุ่นให้เท่าอุณหภูมิคน เข้าไมโครเวฟนอกจากไม่รู้ว่าอุณหภูมิเท่าใด คลื่นไมโครเวฟยังทำหน้าที่สั่นสะเทือนโมเลกุลอย่างที่บอก เม็ดเลือดแดงย่อมฉีกขาดแน่นอนค่ะ เมื่อเม็ดเลือดแดงฉีกขาดธาตุโปแตสเซี่ยมที่อยู่ภายในจะไหลออกมา และยังทำให้ค่าความเป็นกรดของเลือดมากขึ้น เมื่อเลือดที่ได้รับเป็นกรดมากขึ้นระดับหนึ่ง คนไข้ก็ตายแหงแก๋ค่า หากในห้องนางพยาบาลมีเตาไมโครเวฟ ไม่ต้องตกใจค่ะ เขาเอาไว้อุ่นอาหารกินกันค่ะ :D
oum_ja
#21
Originally Posted by FH666
มาเพิ่มเติมว่า FWD เกี่ยวกับเรื่องการอุ่นถุงเลือดนั้น ถ้าเป็นความจริงก็ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทยแน่นอน เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกาชาด ธนาคารเลือด จะระบุวิธีการอุ่นเลือดแต่ละชนิดชัดเจน การอุ่นเลือดอุ่นให้เท่าอุณหภูมิคน เข้าไมโครเวฟนอกจากไม่รู้ว่าอุณหภูมิเท่าใด คลื่นไมโครเวฟยังทำหน้าที่สั่นสะเทือนโมเลกุลอย่างที่บอก เม็ดเลือดแดงย่อมฉีกขาดแน่นอนค่ะ เมื่อเม็ดเลือดแดงฉีกขาดธาตุโปแตสเซี่ยมที่อยู่ภายในจะไหลออกมา และยังทำให้ค่าความเป็นกรดของเลือดมากขึ้น เมื่อเลือดที่ได้รับเป็นกรดมากขึ้นระดับหนึ่ง คนไข้ก็ตายแหงแก๋ค่า หากในห้องนางพยาบาลมีเตาไมโครเวฟ ไม่ต้องตกใจค่ะ เขาเอาไว้อุ่นอาหารกินกันค่ะ :D


[SIZE="3"]สุดยอดนักวิทยาศาสตร์มาเองคับผม
nnn
#22
ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ
jiji_ch
#23
[SIZE="5"]ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ
ดูแล้วจะได้ระวังตัว
newsguy
#24
ขอบคุณค่ะ
เมื่อก่อนทำประจำเลย
แต่ตอนนี้โชคดีหน่อย ไมโครเวฟพังแล้ว
ไม่มีตังซื้อใหม่
paofia
#25
เราทำเป็นประจำเลยค่ะ เรื่องต้มน้ำชงกาแฟ

แต่มีครั้งนึงเลยเอาไข่ ใส่ถ้วยไปต้มในไมโครเวฟ

ผลคือ ไม่เกินสองนาที ได้ยินเสียงดัง โผ๊ละ จากไมโครเวฟ

พอเปิดดูก็พบว่า โอ้วแม่จ้าวว ภายในไมโครเวฟเคลือบไปด้วยไข่เหลวๆ เพราะมันระเบิดนั่นเอง เวรกำ

หลังจากนั้นก็ไม่เคยต้มไข่ ในไมโครเวฟอีกเลยค่ะ
bookerian
#26
ค้นคำว่า ไมโครเวฟ เจอกระทู้นี้ เลยได้ความรู้เลยค่ะ
ขอบคุณเจ้าของกระทู้และเพื่อนๆ ที่มาแบ่งปันความรู้ค่ะ
ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3