ขอระบายหน่อยนะ เอาเป็นว่าวันนี้ก้อพึ่งพิสูจน์ได้อีกแล้วว่าเพื่อนกันอย่าทำธุระกิจด้วยกันเด็ดขาด และก้อพึ่งเห็นทาสแท้ของคนเราเมื่อมีเรื่องเงินเขามาเกี่ยวข้องนี่แหล่ะ ยอมรับว่าผิดหวังอย่างแรง และเสียใจมาก
เรื่องมันมีอยู่ว่าเราทำ Real estate agent เป็นงาน Parttime ใช่ม้าเร็วๆนี่ก้อกำลังจะทำการปิดการขายดอนโดให้เพื่อนที่เรารักและสนิทด้วย ตอนแรกเค้าบอกเราบอกว่า"อยากขายในราคาทุนก้อพอแล้วเอา Net เลยเท่าราคาที่เค้าซื้อมาเพราะไม่อยากเก็บไว้" เพื่อนเราคนนี้รวยมากมีอสังหาริมทรัพย์เยอะ เราก้อย้ำว่าแค่นั้นแน่นะ มีค่าใช้จ่ายนอะไรอีกมั้ยเพราะเราจะได้รู้ว่าควรจะลดราคาให้ลูกค้าซักเท่าไหร คือเราไม่ได้คอมมิชั่น แต่เค้าให้เรา Mark up ราคาเอง
ที่นี้เราก้อมีลูกค้าที่จะซื้อแล้วชอบมากๆ ยังงัยๆก้อจะเอาในราคาของเรา พอเค้าเห็นว่าราคาที่เราบอกขายไปแล้วมีคนจะซื้อ เพื่อนเราก้อ "เฮ้ย แต่ว่าคนซื้อ ต้องจ่ายค่าโน้นค่านี้ ค่าสาระพัดมาเลย" แล้วปรากฎว่าราคาที่ให้เรามาแต่เดิมเปลี่ยนไปแล้ว มันสูงขึ้นซึ่งหมายความว่ากำไรเราได้ลดน้อยลง เพราะเราบอกราคาลูกค้าไปแล้ว
ยังๆไม่พอด้วยความที่เราอยากบริการทั้งลูกค้าและเพื่อนเราก้ออาสาที่จะดำเนินเรื่องเกี่ยวกับเอกสารของคอนโดอันนั้นให้เรียบร้อยและพร้อมโอน เพื่อนรักก้อเอาเลย"ไม่เห็นต้องเตรียมเลยเดี๋ยวพอโอนเป็นชื่อคนซื้อก้อให้เค้าดำเนินเรื่องเอาเองซิ " ชีว่างี้ เราก้อบอกว่า"ท้ายสุดเราก้อต้องเป็นคนทำให้กับลูกค้าแต่เราทำตอนนี้มันจะง่ายสำหรับเรานะ" ชีก้อไม่สนใจอ้างโน้นอ้างนี่
แถมขู่เราอีกให้ลูกค้าเราจะต้องวางมัดจำภายใน 7 วัน แล้วเราต้องเอากุญแจคอนโดไปคืนเค้าด้วยเพราะเผื่อมี Agent เจ้าอื่นพาลูกค้าไปดูเค้าจะได้ไม่ปิดโอกาสขายให้กับคนอื่น ให้ตายเถอะเห็นบอกขายมาเป็นปี ไม่เห็นมีคนมาดูเลย
แล้วจะเอาเงินมัดจำ 10% ใน 7 วัน หลังจากนั้น แล้วภายใน 30 วันไม่โอนเค้ายึดเงินมัดจำเลย (ซึ่งอันนี้มันแล้วแต่เจ้าของว่าเค้าจะเอาเท่าไหร เงื่อนไขยังงัย) เราก้องง เพราะตอนแรกบอกว่าจะขายเท่าทุนไป พอตอนนี้ทำท่าเหมือนไม่อยากขาย ลีลาสาระพัด เราก้อต้องทนเพราะได้เป็นเลขเจ็ดหลักอยู่
เป็นเรื่องยิ่งกว่านั้นอีก บังเอิญลูกค้าเป็นต่างชาติ เงินที่จะมัดจำไม่พอเราก้อ บอกเค้าว่าเดี๋ยวเราคุยกับเจ้าของให้ว่าวางมัดจำไม่ถึง 10% ได้มั้ยแต่เค้าเอาแน่ๆ พร้อมโอนก่อน 30 วันด้วยซ้า เราก้อหวังว่าเธอจะบอกว่า"ได้ไม่เป็นไหร เพราะเห็นว่าเป็นลูกค้าเราและเราก้อจะได้ได้ตังค์ด้วย" แต่เปล่าเธอบอกว่า " ไม่ได้ 10% คือ 10% แล้วต้องตามกำหนดด้วย เค้าไม่อยากรอ แล้วถ้าลูกค้าจ่ายไม่ได้เนี้ยถ้ากลับมาซื้อของเค้าอีกเมื่อเงินพร้อมเนี้ย ราคาจะเปลี่ยนแล้วนะ" คือ ขอขึ้นว่างั้นเถอะเพราะเห็นว่าลูกค้าอยากได้จริงๆ เราเนี้ย อึ้งไปเลย ผิดหวังมาก คิดว่า ***ตู๊ดดดดดเพื่อนกันแทนที่จะดิวกันง่ายๆ กลับ ยากชิบ.....น้ำตาร่วงเลยตอนพูดให้สามีฟัง ผิดหวังจริงๆเค้าไม่เห็นแกเราเลย ทรีทเหมือนไม่ใช่เพื่อน
เนี้ยยังไม่ปิดการขายเลยลูกค้าเรารอเงินโอนจากต่างประเทศอยู่อีกสองวันรู้ผลว่าเราจะปิดการขายได้มั้ย
แหม..พูดแล้วแค้น ตั้งแต่นี่ไปเลยคิดว่า "ในเมื่อเธอไม่เห็นว่าชั้นเป็นเพื่อนชั้นก้อไม่เห็นเธอเป็นเพื่อนเหมือนกัน" ดีปะ คราวนี่เป็นบทเรียนราคาแพงจริง (เจ็ดหลักเลย ไม่ใช่สองพันแล้ว)
เมื่อก่อนหนูก้อมีค่ะ พี่นีน่า หักเหลี่ยมมากกกกกกกกก
จนตอนนี้ แตกหัก กันไปแล้วเรียบร้อย
ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆ หรอกนะคะ
คงเปนเพราะหลายๆอย่าง แต่มีอย่างนึงที่เค้าบอกแล้วหนูติดใจมาก
เค้าบอกว่า เราเปนคนที่ทำอะไรช้า เดินช้า แล้วเค้าอ่ะ เปนคนทำอะไรเร็ว
เค้าก้อเลยอยากไปสนิทกะคนอื่นมากกว่า .. งงมั้ยคะ??
แล้วก้อยังมีอีกหลายต่อหลายเรื่อง ที่ไม่สมควรทนค่ะ
"มีหมาเป็นเพื่อน ดีกว่ามีเพื่อนหมาๆ" นะคะ พี่นีน่า..
โอ๋... ใจเย็นๆ นะคะ เรื่องเงินมันไม่เข้าใครออกใครอย่างนี้ล่ะค่ะ ต้องทำใจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือเป็นใครก็ตาม...
ใจเย็นๆ ค่ะ ขอให้ปิดการขายได้เร็วๆ นะคะ...
เพื่อนกันจริง ๆ เหรอค่ะ
:)
.... เค้าอาจจะไม่อยากขายแล้วก็ได้
หรือไม่ก็......ไม่ได้คิดอะไรให้รอบคอบ
.... พอจะขายจริง ๆ เลยเสียดาย.... อะไรหลาย ๆ อย่างนะค่ะ
ต้องทำใจอ่ะค่ะ
เรื่อเงินไม่เข้าใครออกใคร
อย่าว่าแต่เพื่อนเรย
ญาติ พี่ น้อง กันบางทียังทำกันได้เลยค่ะ
สู้ๆๆๆๆๆ
เราคิดว่าเค้าเป็นเพื่อนเรา แต่เค้าไม่เป็นกะเราด้วยงัย เศร้า :( สามีบอกว่าคนรวยก้องี้แหล่ะ พอได้กลิ่นเงิน แล้วรู้ว่าลูกค้าเราซื้อแน่ๆ ก้อโก่งราคาเลยแหล่ะ ตอนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเราตอนเค้าตอกกลับเรามา มีความรู้สึกเหมือนว่า "คนคนนี้ไม่ใช่เพื่อนคนเดิมที่เรารู้จักไปเลยคิดไม่ถึงว่าเค้าจะทำอย่างนี้กับเราอ่ะ" พิมพ์ไปก้อน้ำตาคลออีกแล้ว :( ผิดหวังมากเพราะเรารักเค้า และนับถือเหมือนพี่สาวเลยนะ แล้วเสียหน้ากับลูกค้ามากเลยอุตส่าห์บอกว่า ไม่ต้องกลัวเลยคนนี้เพื่อนเราเองเดี๋ยวคุยให้ แป๋วววว ไปเลยอ่ะ
เงินมา หางกระดิกกกกกกกกกกกกกกกกก :D
เค้าก้อคิดว่าเป็ฯเพื่อนกันล่ะค่ะ แต่ธุรกิจก้อส่วนธุรกิจ (มั้ง)
การี๊ดดดดดดด
เราตอบพร้อมกันว่ะค่ะ กร๊ากกกกกกกกกก
[SIZE="4"]เรื่องเงินเนี่ยมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆนะคะ พี่นีน่า
แตกหักกันเพราะเรื่องนี้มาก้อหลายคู่แล้วค่ะ
"ในเมื่อเธอไม่เห็นว่าชั้นเป็นเพื่อนชั้นก้อไม่เห็นเธอเป็นเพื่อนเหมือนกัน" คำเนี่ย หนูก้อเคยคิดอยู่หลายครั้งเลยล่ะค่า
เหนื่อยใจแทนพี่นีน่า
เงินทองไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
พี่นีน่าจ๋า อย่าเครียดเลยเนอะ งาน Meeting เด๋วร้องเพลงให้ฟัง อย่าเศร้าเลยน๊า..... ผิดหวังจากคนที่เราไว้ใจ
เดี๋ยวไม่นานก็ดีขึ้นเองค่ะ ถือเป็นบทเรียนราคาแพง(ไปหน่อย)นะคะ
คุณนี่น่าคะ....อย่าเศร้าไปเลยค่ะ หรือถ้าเศร้าแค่คืนนี้ก็พอน้าค้า เดี๋ยวไม่สวยน้า...สู้ สู้ค่ะ
อ่านแล้วอารมณ์ขึ้นไปด้วย ถ้าโบว์เจออย่างงี้มีหวังมีฉะกันแน่ "แตกเป็นแตก" ฮึ่ม!!! :mad:
มาให้กำลังใจพี่นีน่าค่ะ ถือว่าเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งบทเรียนชีวิตนะคะ
เท่าที่อ่านมาน่าจะปิดการขายได้นะคะ ค่อยๆคิดค่ะ ใจเย็นๆนะคะ ทุกปัญหามีทางแก้ไข
ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่เงินมัดจำ ลองหาทางแก้ตรงนี้อีกทีว่ามีทางอื่นมั้ย
เช่นวางทรัพย์สินอื่นเพิ่มเป็นมัดจำได้หรือเปล่า
พี่นีน่าสู้ๆๆ
ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ เพื่อนแบบนี้อะ แจนก็มี พอถึงเรื่องผลประโยชน์ละก็ ลีมกันไปเลยว่าเคยเป็นเพื่อน เฮ้อออ
เอาหละ อย่าเครียดดดกับมันมาก ขายได้ก็ขาย ขายมะได้ก็ไม่ต้องขาย ถ้าความหวังดี มีน้ำใจของเรา กลับกลายเป็นงี้ ก็อย่าไปซีกับมันเรยยยย
เอาเป็นว่า เรามาตั้งหน้าตั้งตารอ meeting กันดีก่า ได้เพื่อนใหม่กันไปอีกตรึม
อย่าเครียดน้า......พี่นีน่า
เด๋วรอยเท้ากาถามหา แล้วจาหมดสวยนะคะ อิอิ
เหมือนเพื่อนคุณนีน่าหงุดหงิดอะไรในใจเลยนะคะ ถ้าไม่หงุดหงิด ก็อาจจะเป็นช่วงวันนั้นของเดือน :p
เวลาขายของชิ้นใหญ่ ถ้าพูดหรือทำอะไรไม่เป็นกิจจะลักษณะแล้ว มันก็ไม่ต่างอะไรกับเล่นขายของอ่ะเนอะ
โต ๆ กันแล้วด้วย ก็ควรจะคำไหนคำนั้น
ถ้าเจอคนอารมณ์ผันผวนแบบนี้ ดิวยาก ๆ แบบนี้ อย่าไปคิดมากด้วยเลยค่ะ ปวดหัวเปล่า ๆ
เป็นธุระจัดการให้ทุกอย่าง ขายของก็ได้ เงินก็ได้ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ดันใจแคบแบบนี้
ก็ไม่ต้องเกี่ยวอะไรด้วยแล้วล่ะค่ะ เกี่ยวแล้วเป็นทุกข์ จะไปเกี่ยวทำไมอีกล่ะคะ ใช่มั้ย ;)
มาให้กำลังใจพี่นีน่าด้วยคนนะคะ ใจเย็นๆค่ะ แต่เรื่องเงินนี่มันไม่เข้าใครออกใครจิงๆเน้อ
อย่าเครียดไปนะคะ เด๋วไม่สวยน๊า
สู้ สู้ค่ะพี่นีน่าคนสวย
เดี๋ยวเรื่องเศร้าก็ผ่านไปค่ะพี่นีน่าคนงาม เตรียมตัวไปลั้ลลากันดีกว่า
คิดบวกไว้ค่ะ จะสวยขึ้น (คิดแค่ว่าถ้าปิดการขายได้ ชั้นจะเอาเงินไปซื้อกระเป๋าอีกกี่ใบดี หุหุ)
จริงที่สุดเลยค่ะ ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน
อย่าทำธุรกิจร่วมกันเด็ดขาด... แค่ยืมเงิน.. ยังตัดเพื่อนกันได้เลย
ขนาดพี่น้องกัน ยังมีทะเลาะกันให้เห็นบ่อยๆตามหน้านสพ.เลย
เพราะพอเริ่มมีครอบครัวกันแล้ว จะเริ่มมีความเห็นแก่ตัวเข้ามา
ทำให้ความรักกันฉันท์พี่น้องลดน้อยลงอะค่ะ เลี่ยงได้ควรเลี่ยงค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ....เคสนี้ถือว่ายังโชคดี เป็นนายหน้า
ไม่ได้ร่วมหุ้นกันนะคะ ถ้าร่วมหุ้นแล้วเจอแบบนี้
ทั้งเจ็บใจ และเสียเงินด้วยอ่ะค่ะ
เหตุเกิดเพราะ" ความโลภ " ค่ะ ไม่ว่าจะรวยแค่ไหน แต่ถ้ามีความโลภมากก เท่าไรก็ไม่พอหรอกค่ะ และก็สามารถทำอะไรน่าเกลียดได้อีกเยอะเลย คุณนีน่าอย่าเสียใจไปเลยค่ะ ถือว่าได้บทเรียนดีๆ ทำให้รู้อะไรขึ้นอีกเยอะ ไม่ได้ต้องเสียตังอะไร เพียงแต่ได้น้อยลงแค่นั้น แต่ประสบกาณ์และการได้รู้จักสันดานของคนมีค่ามากว่าเงินส่วนที่หายไปนะคะ
ปล. คนแบบเพื่อนคุณนีน่า น่าสงสารนะคะ เค๊าเป็นคนแบบนี้ อีกหน่อยเค๊าจะไม่มีเพื่อน และจะมีเหตุให้ต้องเสียทรัพย์(เนื่องจากสาเหตุใดๆก็ตาม) ไม่เชื่อก็คอยสังเกตุดูนะคะ อันนี้ไม่ได้แช่งค่ะ แต่มันเป็นกรรมมมม
ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนเลยค่ะที่เป็นกำลังใจให้ก้ออย่างที่พี่ดิวว่า "ได้เงินน้อยลงดีกว่าไม่ได้อะไรเลย" เนอะ;) ตอนนี้ยังแพลนไม่ได้จ้ะนู๋แจนว่าจะซื้อกระเป๋าอะไร รอให้เค้าเซ็น แกร๊ก เมื่อไหร Wish list อิฉันยาวเฟื้อยเลยแหล่ะ ฮิๆๆ :D
Originally Posted by srichardson
ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนเลยค่ะที่เป็นกำลังใจให้ก้ออย่างที่พี่ดิวว่า "ได้เงินน้อยลงดีกว่าไม่ได้อะไรเลย" เนอะ;) ตอนนี้ยังแพลนไม่ได้จ้ะนู๋แจนว่าจะซื้อกระเป๋าอะไร รอให้เค้าเซ็น แกร๊ก เมื่อไหร Wish list อิฉันยาวเฟื้อยเลยแหล่ะ ฮิๆๆ :D
ดูจะสบายใจขึ้นแล้วนะคะคุณนีน่า กำลังใจเพียบเลย สู้สู้ค่า
เงินไม่เข้าใครออกใครจริงๆค่า
พี่ว่าไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียวหรอกค่ะ เรื่องผู้ชาย เรื่องความอิจฉาริษยา เพื่อนก็ทำเราได้ค่ะ แล้วแต่ว่าใครจะมีสติรู้ผิดชอบชั่วดีแค่ไหนนะจ๊ะ เรามักจะไปคาดหวังและไว้ใจกับคนใกล้มาก เวลาโดนเค๊าทำกลับมาก็เลยเจ็บมากกกก (คนใกล้ตัวนี่แหละตัวแสบบบบ)
- เราคิดว่าเค้าเป็นเพื่อนเรา แต่เค้าไม่เป็นกะเราด้วยงัย - เราก็เจอค่ะ ทำเราจิตตกไปหลายอยู่ค่ะ
แต่ไม่ใช่เรื่องเงินอ่ะค่ะ เป็นเรื่อง ...
มาให้กำลังใจอีกคนค่ะ
ใจเย็นๆ ยังไงคิดเสียว่า เห็นหางตอนนี้ดีกว่าไปเห็นทีหลังนะคะ
ตอนนี้ก้อดีขึ้นแล้วแหล่ะ เราก้ออโหสิไปแล้ว ปล่อยวางดีกว่า คิดซะว่า"เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก้อหาใหม่ได้" มีสามีที่ดี มีลูกดี มีกระเป๋าดีๆ ก้อจบข่าวแล้วเนอะ:D
Originally Posted by srichardson
ตอนนี้ก้อดีขึ้นแล้วแหล่ะ เราก้ออโหสิไปแล้ว ปล่อยวางดีกว่า คิดซะว่า"เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก้อหาใหม่ได้" [SIZE="3"]มีสามีที่ดี มีลูกดี มีกระเป๋าดีๆ ก้อจบข่าวแล้วเนอะ:D
พี่นีน่า อันนั้นอ่ะ เลิศยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ซะอีกน้า.....โชคดีมั่กๆค่ะ
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนค่ะ เรื่องเงินเรื่องทองไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
คนบางคน กับเราพูดดี ทำเป็นมาช่วยเหลือ แต่พอลับหลังกลับเอาเราไปด่า
เราก็เพิ่งเจอมาค่ะ คนเลวๆๆๆๆแบบนี้เค้ามักคบกันเองค่ะ 555
โชคดีแล้วค่ะที่คุณรู้ตอนนี้ ถอยตัวออกมาได้ ดีกว่าคบต่อไป บางทีอาจจะต้องเสียมากกว่าเงินนะคะ
อ่านแล้วก็ อืมมมมม เคยคิดจะทำธุกิจกะเพื่อน
แต่หยุดไป ก็เพราะนึกถึงคำนี้เหมือนกัน
ตอนนี้ก็เลยยังเป็นเพื่อนรักกันอยู่จ้า
อย่านะน้อง ห้ามเด็ดขาดที่จะทำธุรกิจกับเพื่อน ก้อคนนี้แหล่ะเมื่อก่อนเค้าเคยชวนพี่หุ้นทำร้านกาแฟกัน แต่ว่าเรามีความรู้สึกไม่สบายใจที่จะทำด้วยแล้วงัยละเชื่อ "สัมผัสที่หก"ของเราเฮอะ :confused: