เมื่อวันเสาร์ที่แล้วหยุดงานไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทมาค่ะ มารับที่บ้านก็เกือบบ่ายแล้ว
ต้องมาเจอมรสุมการจราจรหนาแน่นย่านอโศก เพื่อมุ่งหน้าไปซอยสุขุมวิท39ค่ะ
เพื่อไปลองชิมราเมนร้านที่เค้าเล่ากันมาว่าอร่อยเลิศศศ ร้าน Bankara ที่ตึกThe Manor
ถ้ามาจากทางแยกอโศก พอเห็นเอ็มโพเรียมด้านตรงข้ามแล้ว
ก็ให้ค่อยๆชิดซ้ายชะลอหน่อยก็เห็นซอยค่ะ เข้าซอย 39ไปประมาณ600-700เมตร
อยู่ด้านขวามือค่ะ สังเกตว่าก่อนถึง The Manor จะเห็นตึกสูงๆสีเหลือง
ถ้าจำไม่ผิดชื่อroyal castleค่ะ มีตู้เอทีเอ็มกสิกรอยู่ข้างหน้า
แต่มารีวิวนี่ ไม่ได้เกี่ยวกับราเมนเลยค่ะ (ทานแล้วก็อร่อยดีค่ะ แต่น้ำราเมนมันไปหน่อย
มีให้เลือกหลากหลาย สนนราคาอยู่ที่ชามละ200บาท มีtoppingให้เลือกเพิ่มได้
เอาหมูชาชู ไข่ ผัก มีหลายอย่างล้วนแล้วแต่ต้องเพิ่มเงินทั้งสิ้น)
แต่เคยได้ยินเพื่อนเล่ามาว่าชั้นสองของที่นี่มีความน่าสนใจอยู่อีกอย่าง เลยลองขึ้นไปดู
และรวบรวมความกล้าอย่างมาก อันนี้ไม่ได้ดัดจริตนะคะ เพราะใจมันป๊อดจริงๆ
อะไรแปลกๆก็ไม่เคยลอง แต่อันนี้ขอนิดนึงละกัน
เพื่อนๆบางท่านอาจจะเคยทำมาแล้วค่ะ บางคนก็อาจไม่เคยรู้เลยว่ามีแบบนี้ด้วย
เพิ่งเล่าให้เพื่อนที่เป็นแอร์ฟัง เพื่อนถามว่ามีอย่างนี้ด้วยหรอ ไม่เคยได้ยิน
เลยอยากจะมารีวิว เผื่อเพื่อนๆท่านไหนสนใจอยากจะลอง หรือผ่านไปแถวนั้นลองไปแวะดูได้ค่ะ
ชื่อร้านคือ Foot+Fishค่ะ หรือเรียกว่าเป็นบริการสปาโดยใช้ปลาค่ะ ขึ้นมาที่ชั้น2ของตึกค่ะ
เข้ามาในร้านจะเป็นแบบนี้ค่ะ มีสองตู้ นั่งได้ตู้ละสองคน เท่ากับว่าบริการลูกค้าได้ครั้งละสี่คนเท่านั้น
น้อยไปนิดค่ะ ถ้ามากันเยอะๆคงรอไม่ไหว
มีที่นั่งให้ พร้อมเสริ์ฟน้ำ รู้สึกจะเป็นเก๊กฮวยร้อนมั้ง แฟนบอกอร่อย แต่เราไม่ได้ทานค่ะ
ก่อนอื่นพนักงานจะล้างเท้า และทำสครับเท้าให้ด้วยค่ะ สะอาดคูณสอง
เค้าจะให้เราแช่เท้าในตู้ปลาGarraRufa เป็นปลาตัวเล็กๆที่มีถิ่นฐานจากต่างประเทศซะด้วย
แต่จำไม่ได้ค่ะว่ามาจากไหน ปลาพวกนี้เค้าไม่มีฟันค่ะ เค้าจะมารุมตอด ดูด เกาะเท้าเราค่ะ
ปลาพวกนี้ทำหน้าที่เป็น Doctor Fish ซึ่งจะกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกจากเท้าเรา
ทำให้เท้าเนียนขึ้นเรียบขึ้นค่ะ ใครไม่รู้มาบอกเราว่าเค้าใช้ปลาชัคเกอร์ หรือปลาเทศบาล
ที่เกาะติดตู้กระจกกินมูลปลานั่นแหละค่ะ ทำเอาสยองเลย
เจ้าปลาGarraRufa ตัวเล็กๆหน้าตาน่ารัก แต่แอบกลัวตรงที่เจ้าปลานี่มาเป็นโขยงเลย
ประมาณว่าหย่อนเท้าไปทางไหน พี่แกจะตามมากันเป็นพรวน เรียกเพื่อนฝูงมากันเป็นหมู่คณะ
ความรู้สึกแรกก่อนหย่อนเท้าคือกลัวค่ะ ไม่รู้เป็นยังไง
แต่เพื่อนที่ไปมาแล้ว เค้าบอกว่าแรกๆจะกลัวๆกล้าๆ หลังๆจะมันส์
อ้าว เฮ้ย!!!อย่างนี้ก็น่าลองอยู่เนอะ เลยหย่อนไป ได้แค่ห้าวินาทีก็เอาขึ้น
เพราะปลาพวกนี้ว่ายเข้ามาแบบเหี้ยนกระหือรือมาก นั่งหัวเราะอยู่นาน
รอจนแฟนล้างเท้าเสร็จก็มาหย่อนพร้อมกันอีกที
แฟนแอบกรี๊ดค่ะ!!! พูดอยู่นั่นว่า รี่มันเยอะไป เยอะเกิ๊นนน
เพราะความรู้สึกตอนที่เค้ามาตอดๆกันคือ จี๊ดๆๆๆเหมือนไฟฟ้าช็อต
แต่ไม่เจ็บนะคะ จั๊กจี้มากกว่า ฮามากมาย ไม่ได้รู้สึกขยะแขยงนะคะ ทั้งๆที่น่าจะเป็น
เราสังเกตว่าเท้าเราจะโดนตอดมากกว่าแฟนค่ะ หรือว่าเท้าเราเซลล์ตายเยอะหว่า 555
คิดอีกทีเท้าเราคงเล็ก(ไซส์36) ส่วนแฟนเท้าโตมากค่ะ(ไซส์43) ปลาคงกลัวนึกว่าเจอปลาตีนยักษ์มั้ง:)
นั่งสักพักเลยไล่ให้แฟนไปนั่งอีกบ่อนึง เพราะว่างอยู่ มาแล้วก็เต็มที่ซะหน่อย
จะได้ไม่ต้องแย่งปลากัน พอคุณแฟนไปนั่งก็วี๊ดอีกสองที เพราะโดนเกาะเต็มๆ นั่งไปนั่งมาเพลินซะงั้น
มีรูปฮาๆติดข้างฝาผนังให้ดูเพลินๆค่ะ ดับความจั๊กจี้ได้บ้างเล็กน้อย
หมดเวลา30นาที ก็ล้างเท้า ลงสครับอีกรอบ
แล้วก็มานั่งนวดเท้าต่อค่ะ พี่ที่นวดเค้าก็น่ารักดี
นวดไปคุยไป เค้าบอกว่าเจอมาเยอะค่ะ
ลูกค้าญี่ปุ่นบางคนก็แกล้งพี่เค้าค่ะ ตอนนวดเท้า พี่เค้าจะแถมนวดแขน
ปรากฎว่านวดไปลูกค้าไม่มีแขนค่ะ เค้าแขนด้วน พี่เค้าก็อ๋อๆ สักพักหันไปหยิบของ
กลับมาอีกทีมีแขนซะงั้น คือเค้าหยิบแขนเทียมมาสวมค่ะ พี่คนนวดบอกว่าจะเป็นลมตาย:)
นี่รูปถ่ายจากหน้าร้านบริเวณชั้นสองค่ะ
รวมแล้วสรุปค่าเสียหายคนละ400บาทค่ะ หลังทำก็รู้สึกสบายเท้าค่ะ
ได้ความสนุกกับความตื่นเต้นกลับไปด้วย
ถ้าใครขับรถมาไม่เสียค่าจอดรถนะคะ ใครที่นั่งรถไฟฟ้าก็ลงสถานีพร้อมพงษ์เลยค่ะ
ขอจบการรีวิวเท่านี้นะคะ ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาชมด้วยค่ะ
[SIZE="6"]Thanks SBN makmak ka......