ด่วน !!!! พระราชดำรัสให้แจ้งให้ทราบ "ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์..แตก!!!
โดย due
due
#1
[SIZE="6"]พระราชดำรัสให้แจ้งให้ทราบ "ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์..แตก!!!

[SIZE="4"]ด้วยพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ท่านทรงมีพระราชดำรัสให้แจ้งประชาชนให้ทราบ
'ถ้าเขื่อนศรีนครินทร์..แตก!!!

นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ (มท.3)
'อยากชี้แจงให้นักท่องเที่ยวทราบว่าถ้าแผ่นดินไหวแล้วทำให้เขื่อนแตก
น้ำก็จะใช้เวลาเดินทางไปยังที่ต่างๆประมาณ 15 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวยังสามารถหลบหนีได้ทัน'
นายสิทธิชัย กล่าวว่า การตรวจเขื่อนครั้งนี้
เนื่องจากประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงวิตกว่าหาก
เกิดแผ่นดินไหวอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในแนวลุ่มน้ำของจังหวัดได้
เพราะจังหวัดกาญจนบุรีเป็นที่ตั้งของ เขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง
คือ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ตั้งอยู่บนแนวแขนงรอยเลื่อน
ศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์

ที่แยกจากแนวรอยเลื่อนสะแกงในประเทศพม่า. -สำนักข่าวไทย
ประเด็นสำคัญสำหรับเรื่องนี้ก็คือ
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ท่านทรงมีพระราชดำรัสให้แจ้งประชาชนให้ทราบ 'ความจริง' ตรงจุดนี้
กรณีเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งหากเกิดแผ่นดินไหว ตรงรอยเลื่อน และเขื่อนแตกออก
'ผลก็คือ'
- ด้วยพลังงานของน้ำ ที่มีปริมาณมหาศาล ตัว จ. กาญจนบุรี
และพื้นที่ใกล้เคียงในแนวเส้นทางน้ำหลากลงมาราบเป็นหน้ากลองแน่นอน
มีเวลาอพยพ 5 ชั่วโมง ดังนั้นท่านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต้องมีการเตรียมตัว กันเอาไว้บ้างแล้วครับ


- เป้ฉุกเฉิน
- แผนอพยพของครอบครัว..เส้นทางอพยพ

- จังหวัด ที่อยู่ในเส้นทางน้ำในระดับต่อลงมา ย่อมเกิดผลกระทบตามไปด้วยแน่นอน
และระดับพลังงานการ ทำลายล้าง ไม่น้อยกว่าสึนามิ

- สำหรับกรุงเทพมหานคร หากเขื่อนศรีแตก มีเวลาอพยพ 35 ชั่วโมง
ซึ่งต้องคำนวนเผื่อกรณีที่ รวบรวมคนทั้งครอบครัว เผื่อรถติดหาเส้นทางอพยพ
ที่ไม่สวนกระแสน้ำเพราะน้ำวิ่งมาตามถนนสายหลักอย่างเพชรเกษมแน่นอน

ที่สำคัญหากน้ำทะเลหนุน ระดับน้ำที่คำนวนเอาไว้อาจสูงเกิน 2 เมตร หรือตึก 2 ชั้นได้
ดังนั้นตั้งสติเอาไว้ ใช้ปัญญาพิจารณา หาแนวทางป้องกันตัวเองอย่าได้ประมาทในการทั้งปวง


greenpark
#2
แห แห แห ถ้าแตกจริงเราไม่รอดแน่ๆ ไหนจะของ ไหนจะแมว บ้านเราก็ ถนน เพชรเกษมด้วย
authentic_only
#3
อยากทราบแหล่งที่มาและวันที่ที่ออกคำเตือนของข่าวนี้ค่ะ

จะได้โทรไปบอกที่บ้าน ใจไม่ค่อยดี เพราะคำว่า ด่วน ค่ะ

ขอบคุณค่ะ
TEDDY07
#4
เหอะๆ ทำไงดี ขอบคุณพี่ดิวมากๆจ๊ะ
AnnAnnAntz
#5
พี่ดิวค่ะ
ขออนุญาตมาแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ..

ส่วนตัวแอนก็กังวลเหมือนกันค่ะเพราะคุณพ่อคุณแม่อยู่ฝั่งธน ก็เลยเข้าไปหาข้อมูลในเนท พยายามหาข้อมูลที่ว่าหากเขื่อนแตกจริงๆ น้ำจะไหลจะมาทางถนนเส้นใดบ้าง และวิธีการรับมือกับเหตุการณ์เขื่อนแตกนี้แต่ก็ไม่มีเลยค่ะ น่าแปลกที่มีการให้ข่าวเพื่อเตือนภัยแต่ไม่มีวิธีบอกเรื่องการรับมือใดๆทั้งสิ้นจากสื่อไหนๆเลยค่ะ

และในเนทก็จะพบว่าข่าวเขื่อนแตกถูกปล่อยออกมาเป็นระยะตั้งแต่ปี 48
>>>http://www.dmr.go.th/ewt_news.php?nid=5181&filename=index
>>>http://www.kanchanaburi.com/kannews/01329.html
>>>http://www2.nurnia.com/tag/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81/

ล่าสุดผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ให้ข่าวเขื่อนสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ถึง8ริกเตอร์
>>>http://www2.nurnia.com/6772/09/technology-innovation-education-engineering-it/

ห้องหว้ากอที่พันทิปนะคะ
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2008/10/X7065723/X7065723.html

ที่ดูจะเป็นชิ้นเป็นอันสุดก็ในพันทิปนี่แหละค่ะ ที่มีการคาดคะเนจากเพื่อนๆว่าน้ำจะไหลมาจากทางใดบ้าง และความสูงของน้ำที่จะไหลมา

ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีข้อมูลเพิ่มจากนี้เอามาบอกด้วยเด้อออ อยากทราบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ ^^
rocky_cb
#6
ข้อเท็จจริงเรื่องความมั่นคงของเขื่อนศรีนครินทร์

ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เกือบจะทุกปีที่ข่าวลือเกี่ยวกับ เขื่อนจะแตกในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และกลายเป็นประเด็นที่สร้างความสนใจได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะในฤดูฝน การแพร่กระจายของข่าวสารที่บิดเบือนและขาดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุน ทั้งโดยสื่อมวลชน นักวิชาการที่มีชื่อเสียง ผู้บริหารประเทศ และบุคคลทั่วไป ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจผิด และความไม่มั่นใจของนักท่องเที่ยวนั้นได้ก่อให้เกิดการสูญเสีย ทางเศรษฐกิจของประชาชนชาวกาญจนบุรี เป็นมูลค่านับสิบล้านบาท เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ข่าวสารและข่าวลือดังกล่าวได้สร้างผลกระทบด้านลบอื่น ๆ ตามมาด้วยเช่นกัน เช่นความไม่มั่นใจของนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ความตื่นตระหนกของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เขื่อน และความรู้สึกที่เป็นลบต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลเขื่อน รวมทั้ง การปล่อยข่าวลือที่หวังผลของมิจฉาชีพต่างๆ สิ่งต่างๆเหล่านี้ถ้าความจริงที่ถูกต้องตามหลักทางวิทยาศาสตร์หรือทางวิชาการถูกเปิดเผยออกมา อย่างตรงไปตรงมาต่อสาธารณชน ก็จะสามารถเข้าใจและหายสงสัย เกิดความมั่นใจต่อความมั่นคงของเขื่อนศรีนครินทร์อย่างเต็มเปี่ยม คือ

1. การก่อสร้างเขื่อนได้ดำเนินการบนพื้นฐานวิศวกรรมศาสตร์ที่เข้มงวด มีการออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างโดยบริษัทที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ EPDC จาก ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีแผ่นดินไหวมาก และก่อสร้างโดยบริษัทผู้มีประสบการณ์ระดับโลก บริษัท VIANINI จากประเทศอิตาลี ภายใต้การตรวจสอบของธนาคารโลก (World Bank) โดยให้ INTERNATIONAL BOARD OF CONSULTANT (IBC) เป็นผู้ตรวจสอบ นอกจากนี้การดำเนินงานเพื่อตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนได้ยึดถือมาตรฐานสูงสุดด้านวิศวกรรมของสมาคมเขื่อนใหญ่โลก International Commission on Large Dam (ICOLD)

2. นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวที่มีชื่อเสียง เชื่อถือได้ในประเทศไทยให้ข้อมูลเกี่ยวกับรอยเลื่อนในประเทศไทยว่า ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อเขื่อนได้เลยคือ
โอกาสการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยแทบไม่มีเลย นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานว่ารอยเลื่อนในประเทศไทยที่มีพลังนี้ยังไม่เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง (รอยเลื่อนที่มีพลัง หมายถึง รอยเลื่อนที่มีอายุน้อยกว่า 10,000 ปี รอยเลื่อนจะมีการสะสมของพลังงานไว้ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งจะมีการขยับตัว เป็นที่มาของแผ่นดินไหว ส่วนรอยเลื่อนที่ไม่มีพลังหมายถึงรอยเลื่อนที่มีอายุมากเกิน 10,000 ปี ไม่สามารถสะสมพลังงานทำให้เกิดการสั่นไหวของแผ่นดินได้)
รอยเลื่อนสะแกงในประเทศพม่า ซึ่งเป็นรอยเลื่อนใหญ่และยังมีพลังอยู่ มีการขยับตัวหรือการเคลื่อนตัวจะไม่รุนแรงเท่ากับการขยับตัวของเปลือกโลกบริเวณขอบทวีป เช่น การเกิดสึนามิที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย (เกิดขนาด 9.0 ริคเตอร์) แต่สำหรับรอยเลื่อนที่
เป็นแขนงของรอยเลื่อนสะแกงที่แยกเข้ามาในประเทศไทยคือ แนวแขนงรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ และแนวแขนงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ยังไม่พบว่าเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง ดังนั้นรอยเลื่อนดังกล่าวจึงไม่มีอันตรายอย่างที่เข้าใจกัน

3. ด้านการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขื่อน มีเครื่องวัดขนาดและระยะห่างของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว และเครื่องวัดอัตราเร่งหรือวัดแรงสั่นสะเทือน ที่มากระทำกับตัวเขื่อน ทั้งหมดเป็นระบบ DIGITAL ที่ทันสมัยที่เชื่อมโยงกับศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวของ กฟผ. ที่บางกรวย และถ่ายทอดข้อมูลไปที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มีการเฝ้าระวังต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวตลอดเวลา ถ้ามีเหตุการณ์ที่รุนแรงก็สามารถแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในจุดเสี่ยงได้ทันที เพื่อการอพยพต่อไป สำหรับ กฟผ. มีการดำเนินการ คือ
- มีการตรวจสอบสภาพเขื่อนเป็นประจำ หากเกิดแผ่นดินไหว ในรัศมี 200 กม. ในระดับ 5.0 ริคเตอร์จะมีการตรวจสอบเขื่อนทันที และถ้ากักเก็บน้ำได้เกิน 90 % ก็จะมีการตรวจสอบทันทีเช่นกัน ในเวลาปกติทุก 2 ปี จะมีการตรวจสอบใหญ่ โดยคณะกรรมการฯและทุกวันจะมีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ประจำเขื่อน
- มีมาตรการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกับจังหวัดกาญจนบุรี คือจัดทำแผนเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

4. กฟผ.ได้ให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทำการศึกษาวิจัย โดยนำแรงกระทำจากแผ่นดินไหวรุนแรง
ทั่วโลกมาทดลองกระทำต่อเขื่อนศรีนครินทร์ซึ่งผลการทดลองพบว่า เขื่อนสามารถรับแรง
แผ่นดินไหวได้สูงกว่าที่ออกแบบไว้ถึง 10 เท่า หรือเท่ากับความรุนแรงของแผ่นดินไหวขนาด
ใหญ่ (7.0 ริคเตอร์)โดยมีความเสียหายเล็กน้อย คือสันเขื่อนมีการทรุดตัวเพียง 3.4 ม. น้อยกว่า
ความสูงของสันเขื่อนที่เผื่อไว้เหนือระดับกักเก็บน้ำ 5.0 ม. ดังนั้น จึงไม่มีผลต่อการวิบัติ
ของตัวเขื่อน แกนดินเหนียวของเขื่อนหากเกิดรอยร้าวจากการเคลื่อนตัวจะถูกวัสดุในชั้นวัสดุ
กรองเคลื่อนตัวมาอุดรอยแยกที่เกิดขึ้นเอง ทำให้แกนดินเหนียวยังคงเก็บกักน้ำได้และมีความ
มั่นคงเพียงพอ ไม่พังทลายลงมา

5. สาเหตุหลักที่อาจทำให้เขื่อนเกิดปัญหา อ้างอิงจากหนังสือ DAMS AND PUBLIC SAFETY , 1983 จะเห็นได้ว่าปัญหาจากแผ่นดินไหวมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยที่สุด แม้ว่าเขื่อนจะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่แผ่นดินไหวรุนแรงก็ตาม


สถิติสาเหตุแห่งการพิบัติของเขื่อนในโลก
ลำดับที่ สาเหตุ แห่งการพิบัติ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์
1 ความเสียหายจากฐานรากเขื่อน 40 เปอร์เซ็นต์
2 อาคารระบายน้ำล้นมีขนาดไม่เพียงพอ 23 เปอร์เซ็นต์
3 การก่อสร้างไม่ดี 12 เปอร์เซ็นต์
4 การทรุดตัวอย่างรุนแรง 10 เปอร์เซ็นต์
5 แรงดันน้ำในตัวเขื่อนสูงมาก 5 เปอร์เซ็นต์
6 เกิดจากสงคราม 3 เปอร์เซ็นต์
7 การไหลเลื่อนของลาดเขื่อน 2 เปอร์เซ็นต์
8 วัสดุก่อสร้างไม่ดี 2 เปอร์เซ็นต์
9 การใช้งานเขื่อนไม่ถูกต้อง 2 เปอร์เซ็นต์
10 แผ่นดินไหว 1 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งสอดคล้องกับประธานคณะกรรมการด้านแผ่นดินไหวขององค์การเขื่อนใหญ่ระหว่างชาติ คือ ดร.มาติน วีแลนด์ ได้เขียนบทความไว้มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า เขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียว (เขื่อนศรีฯ) และเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีต (เขื่อนวชิราลงกรณ) จะสามารถทนทานต่อแรงแผ่นดินไหวได้ดีกว่าเขื่อนประเภทอื่น
6. ในปี 2526 ได้เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ห้วยแม่พลู ซึ่งห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ 50 กม. โดยการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนั้น ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ แก่เขื่อนศรี-
นครินทร์
7. 12 พฤษภาคม 2551 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในประเทศจีนมีขนาด 8 ริกเตอร์ ประชาชน
เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก แต่เขื่อนหินถมแกนดินเหนียว และเขื่อนหิน
ถมแกนดินเหนียวดาดหน้าด้วยคอนกรีต ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว 40 และ 20 กม.
ตามลำดับไม่มีความเสียหายเลย เสียหายแต่ในส่วนที่เป็นโครงสร้างอาคารบางส่วนเท่านั้น
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า เขื่อนศรีนครินทร์ยังมีความมั่นคง แข็งแรง และ
ปลอดภัยจากแผ่นดินไหวในทุกกรณีที่มีการกล่าวอ้างกันในข่าวที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ดังนั้น เราจึง
มั่นใจได้ว่าเขื่อนศรีนครินทร์ ยังมีความมั่นคงปลอดภัยต่อแรงกระทำจากแผ่นดินไหวโดยไม่เกิดการ
พังทลาย และไม่เกิดน้ำหลากลงไปทำลายชุมชนท้ายน้ำอย่างแน่นอน
*****************
นายกิตติ ตันเจริญ
ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ เรียบเรียง
นายวีรชัย ไชยสระแก้ว
ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์-บริหาร ผู้ตรวจทาน
8/1/52
chananant
#7
ไม่รู้จะหนีไปไหนเพราะอยู่ราชบุรี...โดนเต็ม ๆ ค่ะ

มันจะท่วมสูงถึงไหนเนี่ย เคยมีประสบการณ์น้ำท่วมที่ราชบุรีรู้สึกว่าน่าจะ 10-13 ปีที่แล้ว ที่เค้าต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนศรีนครินทร์ออกเยอะเหมือนกันเนื่องจากเขื่อนรับปริมาณน้ำในปีนั้นไม่ไหวและน้ำทะเลจากทางด้านสมุทรสงครามก็หนุนเข้ามา ผลคือน้ำท่วมทั่วตัวเมืองราชบุรีเลยค่ะ สูงประมาณเข่าได้ ย้ำว่าทั้งจังหวัดเลยเพราะขนาดตรงถนนเพชรเกษมสายใหม่ซึ่งสูงกว่าตัวเมืองน้ำยังสูงถึงประมาณเลยตาตุ่มขึ้นมา มีสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง (ซึ่งตรงนั้นเป็นเขื่อนเล็ก ๆ) เชื่อมระหว่างฝั่งถนนเพชรเกษมกับฝั่งเมืองที่เป็นตลาด เป็นสะพานสำหรับรถวิ่งและมีทางรถไฟขนานด้วย ปีนั้นเลยได้เห็นรถไฟวิ่งในน้ำ ตื่นเต้นกันใหญ่เลย

คนที่ทำงานหนักที่สุดเป็นตำรวจกับทหารเกณฑ์ค่ะ ช่วยกันพยายามสูบน้ำออกจากโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรีเพราะถ้าน้ำท่วมในโรงพยาบาลจะเรื่องใหญ่ เชื้อโรคจะระบาด ปกติรถดับเพลิงเอาไว้บรรทุกน้ำ แต่ตอนนั้นเค้าสูบน้ำจากที่ท่วมเอาใส่รถดับเพลิงไปปล่อยที่อื่นเพราะรอบ ๆ มันก็ท่วมไปหมด ทุลักทุเลน่าดู ดีที่ตอนนั้นท่วมอยู่แค่ 2 วันค่ะ
authentic_only
#8
ขอบคุณ คุณ rocky_cb สำหรับข้อมูลมากๆ ค่ะ
กำลังกังวลใจ เพราะตอนนี้ไม่อยู่บ้าน แต่เปิดดูข่าวทางเน็ทก็ไม่เห็นมีอะไร ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ
due
#9
Originally Posted by rocky_cb
ข้อเท็จจริงเรื่องความมั่นคงของเขื่อนศรีนครินทร์

ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เกือบจะทุกปีที่ข่าวลือเกี่ยวกับ เขื่อนจะแตกในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และกลายเป็นประเด็นที่สร้างความสนใจได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะในฤดูฝน การแพร่กระจายของข่าวสารที่บิดเบือนและขาดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุน ทั้งโดยสื่อมวลชน นักวิชาการที่มีชื่อเสียง ผู้บริหารประเทศ และบุคคลทั่วไป ซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจผิด และความไม่มั่นใจของนักท่องเที่ยวนั้นได้ก่อให้เกิดการสูญเสีย ทางเศรษฐกิจของประชาชนชาวกาญจนบุรี เป็นมูลค่านับสิบล้านบาท เพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ข่าวสารและข่าวลือดังกล่าวได้สร้างผลกระทบด้านลบอื่น ๆ ตามมาด้วยเช่นกัน เช่นความไม่มั่นใจของนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ความตื่นตระหนกของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เขื่อน และความรู้สึกที่เป็นลบต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลเขื่อน รวมทั้ง การปล่อยข่าวลือที่หวังผลของมิจฉาชีพต่างๆ สิ่งต่างๆเหล่านี้ถ้าความจริงที่ถูกต้องตามหลักทางวิทยาศาสตร์หรือทางวิชาการถูกเปิดเผยออกมา อย่างตรงไปตรงมาต่อสาธารณชน ก็จะสามารถเข้าใจและหายสงสัย เกิดความมั่นใจต่อความมั่นคงของเขื่อนศรีนครินทร์อย่างเต็มเปี่ยม คือ

1. การก่อสร้างเขื่อนได้ดำเนินการบนพื้นฐานวิศวกรรมศาสตร์ที่เข้มงวด มีการออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างโดยบริษัทที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ EPDC จาก ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีแผ่นดินไหวมาก และก่อสร้างโดยบริษัทผู้มีประสบการณ์ระดับโลก บริษัท VIANINI จากประเทศอิตาลี ภายใต้การตรวจสอบของธนาคารโลก (World Bank) โดยให้ INTERNATIONAL BOARD OF CONSULTANT (IBC) เป็นผู้ตรวจสอบ นอกจากนี้การดำเนินงานเพื่อตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนได้ยึดถือมาตรฐานสูงสุดด้านวิศวกรรมของสมาคมเขื่อนใหญ่โลก International Commission on Large Dam (ICOLD)

2. นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวที่มีชื่อเสียง เชื่อถือได้ในประเทศไทยให้ข้อมูลเกี่ยวกับรอยเลื่อนในประเทศไทยว่า ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อเขื่อนได้เลยคือ
โอกาสการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยแทบไม่มีเลย นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานว่ารอยเลื่อนในประเทศไทยที่มีพลังนี้ยังไม่เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง (รอยเลื่อนที่มีพลัง หมายถึง รอยเลื่อนที่มีอายุน้อยกว่า 10,000 ปี รอยเลื่อนจะมีการสะสมของพลังงานไว้ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งจะมีการขยับตัว เป็นที่มาของแผ่นดินไหว ส่วนรอยเลื่อนที่ไม่มีพลังหมายถึงรอยเลื่อนที่มีอายุมากเกิน 10,000 ปี ไม่สามารถสะสมพลังงานทำให้เกิดการสั่นไหวของแผ่นดินได้)
รอยเลื่อนสะแกงในประเทศพม่า ซึ่งเป็นรอยเลื่อนใหญ่และยังมีพลังอยู่ มีการขยับตัวหรือการเคลื่อนตัวจะไม่รุนแรงเท่ากับการขยับตัวของเปลือกโลกบริเวณขอบทวีป เช่น การเกิดสึนามิที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย (เกิดขนาด 9.0 ริคเตอร์) แต่สำหรับรอยเลื่อนที่
เป็นแขนงของรอยเลื่อนสะแกงที่แยกเข้ามาในประเทศไทยคือ แนวแขนงรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ และแนวแขนงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ยังไม่พบว่าเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง ดังนั้นรอยเลื่อนดังกล่าวจึงไม่มีอันตรายอย่างที่เข้าใจกัน

3. ด้านการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขื่อน มีเครื่องวัดขนาดและระยะห่างของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว และเครื่องวัดอัตราเร่งหรือวัดแรงสั่นสะเทือน ที่มากระทำกับตัวเขื่อน ทั้งหมดเป็นระบบ DIGITAL ที่ทันสมัยที่เชื่อมโยงกับศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวของ กฟผ. ที่บางกรวย และถ่ายทอดข้อมูลไปที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มีการเฝ้าระวังต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวตลอดเวลา ถ้ามีเหตุการณ์ที่รุนแรงก็สามารถแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในจุดเสี่ยงได้ทันที เพื่อการอพยพต่อไป สำหรับ กฟผ. มีการดำเนินการ คือ
- มีการตรวจสอบสภาพเขื่อนเป็นประจำ หากเกิดแผ่นดินไหว ในรัศมี 200 กม. ในระดับ 5.0 ริคเตอร์จะมีการตรวจสอบเขื่อนทันที และถ้ากักเก็บน้ำได้เกิน 90 % ก็จะมีการตรวจสอบทันทีเช่นกัน ในเวลาปกติทุก 2 ปี จะมีการตรวจสอบใหญ่ โดยคณะกรรมการฯและทุกวันจะมีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ประจำเขื่อน
- มีมาตรการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกับจังหวัดกาญจนบุรี คือจัดทำแผนเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

4. กฟผ.ได้ให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทำการศึกษาวิจัย โดยนำแรงกระทำจากแผ่นดินไหวรุนแรง
ทั่วโลกมาทดลองกระทำต่อเขื่อนศรีนครินทร์ซึ่งผลการทดลองพบว่า เขื่อนสามารถรับแรง
แผ่นดินไหวได้สูงกว่าที่ออกแบบไว้ถึง 10 เท่า หรือเท่ากับความรุนแรงของแผ่นดินไหวขนาด
ใหญ่ (7.0 ริคเตอร์)โดยมีความเสียหายเล็กน้อย คือสันเขื่อนมีการทรุดตัวเพียง 3.4 ม. น้อยกว่า
ความสูงของสันเขื่อนที่เผื่อไว้เหนือระดับกักเก็บน้ำ 5.0 ม. ดังนั้น จึงไม่มีผลต่อการวิบัติ
ของตัวเขื่อน แกนดินเหนียวของเขื่อนหากเกิดรอยร้าวจากการเคลื่อนตัวจะถูกวัสดุในชั้นวัสดุ
กรองเคลื่อนตัวมาอุดรอยแยกที่เกิดขึ้นเอง ทำให้แกนดินเหนียวยังคงเก็บกักน้ำได้และมีความ
มั่นคงเพียงพอ ไม่พังทลายลงมา

5. สาเหตุหลักที่อาจทำให้เขื่อนเกิดปัญหา อ้างอิงจากหนังสือ DAMS AND PUBLIC SAFETY , 1983 จะเห็นได้ว่าปัญหาจากแผ่นดินไหวมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยที่สุด แม้ว่าเขื่อนจะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่แผ่นดินไหวรุนแรงก็ตาม


สถิติสาเหตุแห่งการพิบัติของเขื่อนในโลก
ลำดับที่ สาเหตุ แห่งการพิบัติ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์
1 ความเสียหายจากฐานรากเขื่อน 40 เปอร์เซ็นต์
2 อาคารระบายน้ำล้นมีขนาดไม่เพียงพอ 23 เปอร์เซ็นต์
3 การก่อสร้างไม่ดี 12 เปอร์เซ็นต์
4 การทรุดตัวอย่างรุนแรง 10 เปอร์เซ็นต์
5 แรงดันน้ำในตัวเขื่อนสูงมาก 5 เปอร์เซ็นต์
6 เกิดจากสงคราม 3 เปอร์เซ็นต์
7 การไหลเลื่อนของลาดเขื่อน 2 เปอร์เซ็นต์
8 วัสดุก่อสร้างไม่ดี 2 เปอร์เซ็นต์
9 การใช้งานเขื่อนไม่ถูกต้อง 2 เปอร์เซ็นต์
10 แผ่นดินไหว 1 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งสอดคล้องกับประธานคณะกรรมการด้านแผ่นดินไหวขององค์การเขื่อนใหญ่ระหว่างชาติ คือ ดร.มาติน วีแลนด์ ได้เขียนบทความไว้มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวว่า เขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียว (เขื่อนศรีฯ) และเขื่อนหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีต (เขื่อนวชิราลงกรณ) จะสามารถทนทานต่อแรงแผ่นดินไหวได้ดีกว่าเขื่อนประเภทอื่น
6. ในปี 2526 ได้เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ห้วยแม่พลู ซึ่งห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ 50 กม. โดยการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนั้น ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ แก่เขื่อนศรี-
นครินทร์
7. 12 พฤษภาคม 2551 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในประเทศจีนมีขนาด 8 ริกเตอร์ ประชาชน
เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก แต่เขื่อนหินถมแกนดินเหนียว และเขื่อนหิน
ถมแกนดินเหนียวดาดหน้าด้วยคอนกรีต ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว 40 และ 20 กม.
ตามลำดับไม่มีความเสียหายเลย เสียหายแต่ในส่วนที่เป็นโครงสร้างอาคารบางส่วนเท่านั้น
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า เขื่อนศรีนครินทร์ยังมีความมั่นคง แข็งแรง และ
ปลอดภัยจากแผ่นดินไหวในทุกกรณีที่มีการกล่าวอ้างกันในข่าวที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ดังนั้น เราจึง
มั่นใจได้ว่าเขื่อนศรีนครินทร์ ยังมีความมั่นคงปลอดภัยต่อแรงกระทำจากแผ่นดินไหวโดยไม่เกิดการ
พังทลาย และไม่เกิดน้ำหลากลงไปทำลายชุมชนท้ายน้ำอย่างแน่นอน
*****************
นายกิตติ ตันเจริญ
ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ เรียบเรียง
นายวีรชัย ไชยสระแก้ว
ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์-บริหาร ผู้ตรวจทาน
8/1/52




[SIZE="5"]ขอบคุณที่นำเสนอข้อมูลอีกด้านนึงให้ทราบจ้า:)
อ่านแล้วค่อยสบายใจและมั่นใจขึ้นมาเยอะเลย
แต่เพื่อความไม่ประมาท ก็ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีค่ะ
เพราะความแน่นอน คือความไม่แน่นอน
หนีได้ก็หนี หนีไม่ได้ ก็ปลงค่ะ:D
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
due
#10
Originally Posted by authentic_only
อยากทราบแหล่งที่มาและวันที่ที่ออกคำเตือนของข่าวนี้ค่ะ

จะได้โทรไปบอกที่บ้าน ใจไม่ค่อยดี เพราะคำว่า ด่วน ค่ะ

ขอบคุณค่ะ



[SIZE="5"]เค๊าไม่ได้บอกวันเวลาที่ออกข่าวค่ะ
เค๊าแค่บอกว่า ถ้าเขื่อนศรีณครินทร์แตก
คือไม่ได้บอกว่าจะแตกแน่นอน หรือจะแตกเมื่อไหร่
แต่ถ้าแตก น้ำจะมาถึงแต่ละจังหวัดใช้เวลาประมาณเท่าไหร่
แล้วเราควรเตรียมตัวทำอย่างไรกันบ้างค่ะ
แหะแหะแหะ ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะ
titled
#11
^^ขอบคุณครับ
authentic_only
#12
ที่ถามก็เพราะว่าตกใจจริงๆ ตอนที่อ่านหัวข้อ แต่อ่านเข้าใจค่ะ
เพียงแต่สงสัยว่าเอามาจากที่ไหน เพราะถ้ามาจาก fwd mail จะได้พอนึกภาพออก (ว่ามันวนไปก็วนมา)

คำว่า ด่วน เลยนึกว่าเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ ลองหาในเน็ทแล้วหาไม่เจอ เป็นห่วงที่บ้านเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ กทม.

ถ้าอ้างแหล่งและเวลาที่โพสต์มา คนอ่านก็จะไม่ค่อยตกใจนะคะ

ยังงัยก็ขอบคุณที่เอามาเตือนแบบด่วนๆ ถึงแม้ว่าเขื่อนมันจะยังไม่แตก หรือว่า ถ้ามันจะแตกนะคะ คุณดิว



Originally Posted by due
เค๊าไม่ได้บอกวันเวลาที่ออกข่าวค่ะ
เค๊าแค่บอกว่า ถ้าเขื่อนศรีณครินทร์แตก
คือไม่ได้บอกว่าจะแตกแน่นอน หรือจะแตกเมื่อไหร่
แต่ถ้าแตก น้ำจะมาถึงแต่ละจังหวัดใช้เวลาประมาณเท่าไหร่
แล้วเราควรเตรียมตัวทำอย่างไรกันบ้างค่ะ
แหะแหะแหะ ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะ
organ_kaviya
#13
ขอบคุณค่ะที่มาบอกกัน จะได้เตรียมตัวไว้ได้ทัน
ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3