ทำไงกับคุณเพื่อนดีคะ
โดย eclair
eclair
#1
ปรึกษาหน่อยค่ะ คิดคนเดียวปวดหัวจัง :confused:

คือคุณเพื่อน อยากให้ลูกเข้า รร นึงน่ะค่ะ ที่เรากะเพื่อนคนนี้เป็นศิษย์เก่า ซึ่งก็เป็น รร ที่เข้ายากมากๆ พวกสาธิตค่ะ เพื่อนมันก็เลยไปช่วยงานที่สมาคมศิษย์เก่า ซึ่งสมาคมพวกนี้ก็มีกิจกรรมหาเงินเป็นประจำ อย่างตอนนี้ก็จะจัดโบว์ลิ่ง ทีมละ 3,000 ซึ่งเพื่อนมันก็ไปรับมา 10 ทีม :confused: หมายความว่า ถ้ามันขายได้ 5 ทีม ที่เหลือ 3,000 * 5 = 15,000 มันก็ต้องจ่ายเอง มันก็เลยมาขายเรา 1 ทีม เราก็บอกว่า เราไม่เล่นโบว์ลิ่ง มันก็ว่า ไม่เล่นไม่เป็นไร ซื้อเฉยๆก็ได้ ฟังแล้วก็อึ้งๆค่ะ ว่ามันอะไรกันวะนี่ คือถ้าซื้อเราก็ต้องซื้อในนามบุคคล ไม่ได้มีบริษัท support อะไร คือควักเองล้วนๆ

พูดตามตรงว่าไม่ได้รวยขนาดจะบริจาคทีละ 3,000 น่ะค่ะ คือหมายถึงว่า ถ้าให้คนที่มีความจำเป็นและเราเต็มใจช่วย มันก็ให้ได้ แต่เคสนี้มันไม่ใช่อ่ะ เราก็ไม่เคยคิดจะให้ลูกเราเข้า รร นี้อยู่แล้ว แล้วจริงๆให้มันไป โอกาสหน้าๆ มันก็ต้องมาอีก เพราะกิจกรรมรีดไถเงิน มันมีบ่อยมากๆ สำหรับ รร ประเภทนี้ เลยอยากถามว่าจะหาทางพูดยังไงกับมันดีคะ เพราะเพื่อนก็สนิทพอควร แล้วมันก็เป็นคนนิสัยดี ไม่อยากให้เสียน้ำใจกัน เพราะมันเองก็อาจจะอึดอัดที่ต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือคนอื่นบ่อยๆแบบนี้ (เป็นเราทำไม่ได้เด็ด)

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ
veryorn
#2
มันก็พูดยากนะคะเรื่องไม่ให้เสียน้ำใจ ยิ่งบางทีเพื่อนก็รู้จักกันดี มันรู้ว่าเรามีให้มันได้อยู่แล้ว
มันยิ่งปฏิเสธลำบาก เพราะมันจะหาว่าเรามีแต่ไม่ให้แล้งน้ำใจ ว่าไปนั่น
ซึ่งจริงๆ การให้บริจากมันอยู่ที่จิตศรัทธาไม่ได้เกี่ยวว่าเรามีหรือไม่มี แต่จะอธิบายให้คนเข้าใจมันยาก

อยู่ที่ว่า background ของเราว่าเป็นยังไงบ้างด้วย ถ้าทำงานประจำ
รายได้ fixed ก็สามารถอ้างได้ว่า ต้องซื้อนู่นนี่ให้ลูก เดือนนี้ต้องเอาไปจ่าย
ค่าโน่นนี่ให้แม่ หรือ โยนไปว่าตังค์อยู่ที่สามี อันนี้พออ้างได้

แต่ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการ เพื่อนมันรู้ว่าเราจ่ายได้แน่ 3,000 หรือมันรู้ว่า
เรามีกระเป๋าใบละหลายๆ หมื่น อันนี้มันอาจจะแอบเคืองแอบเอาไปคิดเล็กคิดน้อยกันได้

บางทีคิดมากเพลียๆ ถ้าพอมีเราก็จ่ายไปคะ ถือว่าช่วยเหลือเพื่อนที่สนิทกัน
แต่เราเป็นคนพูดตรง ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อนเราจะรับได้ เราก็จะบอกเลย
ว่าเฮ้ย ครั้งนี้ถือว่าช่วยแกนะเว้ย ชั้นเล่นโบว์ลิ่งไม่เป็นเลย จิงๆไม่ได้อยากซื้อนะ
คราวหน้าให้ช่วยอย่างอื่นแล้วกันนะเว้ย
เว้ากันตรงๆ แบบนี้เลยอ่ะคะ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่างัย เป็นเพื่อนกันตั้ง 10 กว่าปี
apretty
#3
ถ้าต้องการปฏิเสธแบบนุ่มนวล
ก็คงต้องตอบประมาณแนวๆ นี้ค่ะ

"ช่วงนี้ เราไม่สะดวกนะ เพราะมีเหตุผลส่วนตัวบางประการ"

คำว่า "ส่วนตัว" คิดว่าเพื่อนคุณคงไม่กล้าถามยืดเยื้อหรอก เพราะส่วนตัวก็คือส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟัง

เราคงจะตอบประมาณนี้แหละค่ะ
ฟังแล้วน่าจะนุ่มนวล ไม่หักหาญใจเพื่อนมากนัก
cake_love
#4
Originally Posted by veryorn
มันก็พูดยากนะคะเรื่องไม่ให้เสียน้ำใจ ยิ่งบางทีเพื่อนก็รู้จักกันดี มันรู้ว่าเรามีให้มันได้อยู่แล้ว
มันยิ่งปฏิเสธลำบาก เพราะมันจะหาว่าเรามีแต่ไม่ให้แล้งน้ำใจ ว่าไปนั่น
ซึ่งจริงๆ การให้บริจากมันอยู่ที่จิตศรัทธาไม่ได้เกี่ยวว่าเรามีหรือไม่มี แต่จะอธิบายให้คนเข้าใจมันยาก

อยู่ที่ว่า background ของเราว่าเป็นยังไงบ้างด้วย ถ้าทำงานประจำ
รายได้ fixed ก็สามารถอ้างได้ว่า ต้องซื้อนู่นนี่ให้ลูก เดือนนี้ต้องเอาไปจ่าย
ค่าโน่นนี่ให้แม่ หรือ โยนไปว่าตังค์อยู่ที่สามี อันนี้พออ้างได้

แต่ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการ เพื่อนมันรู้ว่าเราจ่ายได้แน่ 3,000 หรือมันรู้ว่า
เรามีกระเป๋าใบละหลายๆ หมื่น อันนี้มันอาจจะแอบเคืองแอบเอาไปคิดเล็กคิดน้อยกันได้

บางทีคิดมากเพลียๆ ถ้าพอมีเราก็จ่ายไปคะ ถือว่าช่วยเหลือเพื่อนที่สนิทกัน
แต่เราเป็นคนพูดตรง ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อนเราจะรับได้ เราก็จะบอกเลย
ว่าเฮ้ย ครั้งนี้ถือว่าช่วยแกนะเว้ย ชั้นเล่นโบว์ลิ่งไม่เป็นเลย จิงๆไม่ได้อยากซื้อนะ
คราวหน้าให้ช่วยอย่างอื่นแล้วกันนะเว้ย
เว้ากันตรงๆ แบบนี้เลยอ่ะคะ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่างัย เป็นเพื่อนกันตั้ง 10 กว่าปี




ตามนี้เลยค่ะ......เป็นน้ำก็คงทำแบบนี้ ไม่ต้องคิดไรมาก ถือว่าช่วยเพื่อนไปเถอะค่ะ ไหน ๆ ก็สนิทกันมาก

แต่ตอนให้เงินก็จะพูดหน่อยว่า หนิแกคราวนี้ชั้นช่วยซื้อนะ เห็นเอามาซะตั้ง 10 ทีม จะขายหมดมั้ยล่ะนั่น (แอบบ่น)

แต่ชั้นไม่ได้มาช่วยแบบนี้ได้บ่อย ๆ นะยะ
srichardson
#5
มีเยอะเลยค่ะเพื่อนแบบนี้ เราก้อได้แต่ยิ้ม หึๆๆ ไป :D
due
#6
ครั้งนี้คงช่วยเค๊าไปก่อน แล้วถ้าไม่ไปแข่งเองก็เอาบัตรให้คนอื่นไปแทน ได้บุญอีกต่อด้วยค่ะ
ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็บอกเค๊าว่าครั้งหน้าไม่ไหวแล้วเด้อ!
ดักคอต่อไปว่า ถ้าลูกแกได้เข้าโรงเรียนน้ีแล้ว ชั้นอาจเลิกคบแกได้นะยะ
เพรากิจกรรมเรี่ยรายเยอะแบบนี้ชั้นขอลาาาา! 5555
คิดว่าคุณเพื่อนคงเข้าใจ แล้วก็จะมาบอกบุญกันน้อยลง
คือถ้าจะมาบอกบุญกัน ก็ขอแบบตามกำลัง จิตศรัทธาดีกว่า
มาจำกัดว่าต้องทำเท่านั้นเท่านี้ คนอื่นลำบากใจเปล่าๆ
cottonchef
#7
อ่านแล้วหงุดหงิดแทนมากเลยค่ะ เราก็ไม่เข้าใจมานานแล้ว สำหรับโรงเรียน

ประเภทนี้ ที่ค่านิยมบ้านเราคิดว่า ลูกหลาน เข้าไปแล้วจะได้ดิบได้ดี

หรือชูคอพ่อแม่ได้ แต่เบื้องหลังโดนรีดไถ บางคนเป็นหนี้สิน บริจาคเอาหน้ากัน

เข้าไป โรงเรียนประเภทนี้ บางที่ต้องจ่ายถึง 7 หลัก

บางโรงเรียนต้องนามสกุลเด่น บางโรงเรียนต้องมีลูกหลาน พ่อแม่ เคยเรียน

เฮ่อ คิดดูถ้ารุ่นลูกเราโตจะขึ้นราคาเป็นเท่าไหร่ ถ้าเราไม่มีเงินตั้งแต่ตอนนี้

สงสัยลูกไม่มีใครคบเป็นแน่แท้ เราได้แต่สงสัย ว่าทำไม ทำไม และ

ทำไม ???? แล้วทำไมคะ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

ถ้าพ่อแม่ ไม่มีเงินบริจาคแล้วลูกจะเข้าเรียนไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป โรงเรียนอื่นที่เค้า

รับคนด้วยคุณภาพมีอีกตั้งเยอะแยะเลยค่ะ ของอย่างนี้มันอยู่ที่ความพอใจของ

คนให้ ถ้าเหลือ ๆ หล่ะก็ สบายอยู่แล้วค่ะ ซื้อไปเลย 20 ทีมยังไหว แต่นี่เราก็ไม่

ได้อยากอะไรขนาดนั้น ไม่ต้องไปแคร์เลย อยากรู้ว่าโรงเรียนเค้าจะให้บริจาค

ทำไมตั้งเยอะแยะและคนรับต้องการเอาไปทำอะไรอ่ะคะ พัฒนาโบว์ลิ่งไทยสู่

โบว์ลิ่งโลกหรือ ???:confused:

ตอบประเด็นเพื่อนคุณ จขกท. นะคะ เข้าใจเลยนะคะว่าเป็นคนขี้เกรงใจ แต่อยากจะบอก....ไม่อยากให้ก็ไม่ต้องให้ค่ะ ;)
ทำบุญไปแต่ใจฝืนมีแต่จะไม่ได้บุญนะคะ บอกเค้าไปเลยว่า ไม่มี
ถ้าอยากให้ลูกเข้าก็จ่ายเองสิจ๊ะ อยากหน้าใหญ่ไปรับมาทำไมตั้ง 10 ทีม เพื่อ ???? :confused:
kapim
#8
ลองคุยกับเพื่อนดูนะคะ ต่อแบบขำๆ ว่า "เราก็ไม่ชอบเล่น โบว์ลิ่ง แต่เห็นใจเพื่อนม๊าก-มาก ขอเป็นช่วยสมทบทุน 1,000 บาท แทนได้ไหม ส่วนทีมให้ไปขายคนอื่นแล้วกันนะจ๊ะ" สามารถประหยัดได้ 2,000 บาทค่ะ.....ลองคุยดูนะค่ะ เพื่อนอาจเกรงใจเรามากขึ้นก็ได้ค่ะ 5555
ladykaty
#9
ชอบ เม้นท์ของ คุณ cottonchef มากมาก ค่ะ
mol199
#10
Originally Posted by cottonchef
พัฒนาโบว์ลิ่งไทย สู่โบว์ลิ่งโลกหรือ ???:confused:


^
^^
^^^
ชอบใจประโยคบน มากมาย อ่านแล้วขำก๊าก....เลยค่ะ (ขอโทษคุณจขกท.ด้วยนะคะ ที่เข้ามาขำ ทั้งๆที่คุณ จขกท. ก็คงเครียดอยู่)

มาที่คำถามค่ะ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เพื่อนคนนี้ขอความช่วยเหลือ แล้วเราพอช่วยได้แบบไม่เดือดร้อน เราจะช่วยค่ะ แต่จะบอกเค้าว่า ถ้าเป็นกรณีแบบนี้เราขอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายค่ะ

แต่ถ้าสมมติว่า ให้แล้วเดือดร้อน ก็จะบอกไปเลยว่า ช่วยได้เท่านี้นะ (ที่เราไม่เดือดร้อน) แล้วก็จะพูดเตือนสติเค้านิดหน่อยว่า แล้วเธอจะมั่นใจได้ยังไงว่า ลูกจะได้เข้าชัวร์
eclair
#11
ขอบคุณทุกๆคำตอบนะคะ :D ตอนนี้พอนึกแล้วว่าจะทำไงกับมันดี ;)
คงให้มันไปส่วนนึงเท่าที่คิดว่าให้แล้วสบายใจน่ะค่ะ คงไม่ใช่ 3,000 แน่ๆ
เพราะตัวเองเกลียดพวก รร ขูดรีดแบบนี้มากๆ
คืนให้คงนอนไม่หลับ 555555...
แล้วถ้ามันบากหน้า มาขอครั้งหน้า ก็คงพูดตรงๆแล้วล่ะ ว่าไม่มีแล้ว(โว๊ย)

p.s. ชอบคำตอบพี่นีน่าจังค่ะ หัวเราะหึๆ ทำเนียนๆไป
มันพูดง่ายทำยากนะพี่ :D
ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3