พิมพ์หัวข้อกระทู้ยังไม่เสร็จเลย นิ้วก้อยไปกดโดนปุ่ม enter ซะงั้น ในหัวข้อจะบอกว่า "สปอยล์เรื่องนิดหน่อยนะคะ แต่คงไม่เป็นไรมั้ง เพราะทุกคนก็น่าจะเคยทราบเรื่องของแม่นาคมาแล้ว"...
ไม่รู้ว่ามีเพื่อนๆ ในนี้สนใจละครเพลงกันมั่งรึเปล่า แต่ก็ขอมาเล่าความประทับใจนิดนึงค่ะ
เมื่อวานไปดูละครเพลง "แม่นาค เดอะ มิวสิคคัล" เป็นของ Dream Box นะคะ (ไม่ใช่ของคุณบอย ถกลเกียรติ แต่โชว์เวลาเดียวกันซะงั้น) ออกตัวก่อน ว่านี่เขียนตามสายตาของคนดูละครนะคะ เพราะไม่ได้มีความรู้เรื่องแสงสีเสียง หรือละครอะไรเลยค่ะ
ส่วนตัวตั้งแต่ดูละครทีวี และ ภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องแม่นาคมา ชอบเรื่องนี้ที่สุดค่ะ ชอบการตีความของคณะนี้นะคะ เพราะว่าไม่ได้นำเสนอว่า "แม่นาคเป็นผีร้าย ดุดัน ทำร้ายคนอื่น" แต่นำเสนอในสิ่งที่ทำให้แม่นาค "ถูกสังคมตัดสิน ว่าเป็นผีร้าย" ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นความจริงในสังคมบางอย่าง มากกว่าจะที่จะนำเสนอเรื่องความรักของแม่นาค กระทู้นี้ไม่เล่าเรื่องทั้งหมดนะคะ แต่จะขอยกแต่เฉพาะจุดที่ชอบการตีความมาค่ะ
ในเรื่องนี้ เริ่มแปลกกว่าเรื่องแม่นาคอื่นๆ ที่เคยได้ดู โดยเริ่มจากการปู background ของแม่นาค ว่าเป็นลูกผู้ดี ลูกสาวท่านขุนผู้ร่ำรวย แล้วก็ได้รักกับพ่อมาก หนุ่มต่างเมือง ผู้ยากจน (น้ำเน่านิดๆ แฮะ) ท่านขุนโกรธมาก ตัดลูกตัดพ่อไปเลย ส่วนคุณแม่เสียใจมากจนล้มป่วย
เมื่อแม่นาคหนีตามพ่อมากไปอยู่ที่บ้านของพ่อมาก ก็ถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ และรังแก ด้วยเหตุที่ว่า หมั่นไส้แม่นาค เพราะเธอเป็นลูกผู้ดี ลูกคนรวย ทำงานบ้านอะไรก็ไม่ค่อยเป็น ซึ่งสิ่งที่เธอเป็นนั้น แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน ความเกลียดชังแม่นาคนี้ เริ่มมาจากแม่สามี (แม่เหมือน) และ ญาติสาวของพ่อมาก(แม่สายหยุด) ที่แม่เหมือนหมายมั่นว่าจะให้แต่งงานกับพ่อมาก
พวกชาวบ้านในหมู่บ้าน ก็แสดงให้เห็นสังคมของ "ขุนพลอยพยัก" อย่างชัดเจน แม่นาคถูกเกลียดชัง เพราะแม่เหมือน และสายหยุดคอยไปป่าวประกาศอยู่เรื่อยๆ ว่าแม่นาคใช้ไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้ ชาวบ้านก็เชื่อตาม (ถึงตอนนี้ จะมีเพลงที่ชาวบ้านร้องบ่อยๆ โดยมีแต่คำว่า "จริง จริง จริง" คือเห็นด้วยกับแม่เหมือนและสายหยุด และพลอยเกลียดแม่นาคตามไปด้วย)
มีตอนนึง แม่สามี (แม่เหมือน) ถามแม่นาคว่า "ทำอะไรเป็นมั่งเนี่ย" แม่นาคตอบว่า "ฉันอ่านหนังสือออก เขียนหนังสือเป็นจ้ะ" แม่สามีตบผั๊วะเลย... บอกว่า "ไร้สาระ ผู้หญิงไทยต้องทำงานบ้าน จะมาอ่านหนังสือ เขียนหนังสือทำไม"(เพลงที่ร้องในช่วงนั้น แสดงให้เห็นว่า ในสังคมขณะนั้น กดผู้หญิงไว้ให้ต่ำเสมอ เพลงร้องว่า "ผู้หญิงไทยก็เหมือนควาย..." ฟังแล้วรู้สึกต่ำต้อยจัง...)
ตอนจะคลอดลูก แม่เหมือน กับแม่สายหยุด ก็วางแผนแกล้งให้หมอตำแยไปไม่ทัน แม่นาคก็เลยตายทั้งกลม ส่วนแม่เหมือนก็ปล่อยข่าวใส่ร้ายหมอตำแย ว่าหมอตำแยเป็นคนทำให้แม่นาคต้องตาย ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อ และเอาไปซุบซิบนินทา จนทุกคนเกลียดหมอตำแยตามไปอีก
ส่วนแม่สายหยุด ซึ่งรู้เรื่องราวความจริงทั้งหมด และรู้สึกว่าตัวเองกับแม่เหมือนมีส่วนทำให้แม่นาคตาย ก็กลายเป็นบ้า และคอยจะพูดความจริงให้คนอื่นรู้อยู่เรื่อย ถึงตอนนี้ ชาวบ้านก็สะท้อนกระแสสังคมอีกครั้ง จากเดิมที่เห็นแม่สายหยุดเป็นเพื่อนรัก เมื่อเธอกลายเป็นบ้า ชาวบ้านก็แสดงความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
และเมื่อแม่สายหยุดจะพูดความจริงให้ชาวบ้านได้รู้ แม่เหมือนก็ต้องกำจัดแม่สายหยุดซะ เพื่อคนอื่นจะได้ไม่รู้ถึงความชั่วร้ายของตัวเอง
แม่นาคในเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นผีร้าย แต่เป็นคนที่ถูกกระทำ และยึดมั่นในความรักมากๆ เท่านั้น เมื่อตอนเป็นคน ก็ไม่เคยโต้ตอบการใส่ร้ายของแม่สามี ยอมให้คนทั้งหมู่บ้านเกลียด เมื่อตอนเป็นผี ก็ไม่ได้ไปเที่ยวทำร้ายใคร แต่ก็อยู่คนเดียวเงียบๆ ที่กระท่อม รอสามีกลับมาจากการไปรบ เพื่อจะได้มีความสุขเหมือนเดิม แม่นาคไม่ยอมไปผุดไปเกิด โดยบอกว่า "ไม่พร้อมจะตาย" อยากจะขอมีเวลาแห่งความสุขกับคนที่ตัวเองรักต่อไปอีกซักนิด.... (ในตอนนี้ เพลงร้องประมาณว่า "ขอสร้างโลกของฉันเอง ที่ไม่มีทุกข์ ไม่มีใครเจ็บ ไม่มีใครตาย...")
แม้กระทั่งตอนจบ เมื่อแม่นาคยอมไปผุดไปเกิดแล้ว แม่สามี ก็ยังคงใส่ร้ายแม่นาคไม่หยุด โดยใส่ร้ายว่าแม่นาคมาหลอกหลอน แม่สายหยุดจนตาย (ทั้งที่ตัวเองเป็นคนฆ่าเอง) และละครก็ตอกย้ำการตามน้ำของสังคมอีก โดยการที่ชาวบ้าน ก็เชื่อแม่เหมือน เชื่อว่าแม่นาคนั้นร้ายกาจจริงๆ โดยพื้นฐานความเชื่อของคนทั่วไป ก็คิดว่าผีนั้นต้องร้ายกาจอยู่แล้ว ก็เลยยิ่งเชื่อมากขึ้นไปอีก และแม่นาค ก็ถูกเข้าใจผิดตลอดไป....
แต่ก็ยังได้เห็นในตอนสุดท้าย ว่าสุดท้ายแล้ว แม่เหมือนผู้ร้ายกาจ ก็ไม่เหลือใครอยู่ดี...
ในส่วนการร้อง การแสดงนี่ยิ่งชอบมากๆ ค่ะ ลองดูรายชื่อแต่ละคน ตัวจริงเสียงจริงกันทั้งนั้นค่ะคุณภาพคับแก้วจริงๆ
ที่ประทับใจที่สุด ก็คือน้องปุยฝ้าย AF4 แสดงเป็นแม่สายหยุด ซึ่งทั้งร้อง ทั้งแสดงได้ดีมากๆ... เสียงร้องใส แน่น ส่งอารมณ์มากๆ
ส่วนนางเอก ครูน้ำมนต์ ธีรนัยน์ ณ หนองคาย ก็เสียงใส ร้องดีมากๆ แต่น่าจะต้องฝึกเรื่องการแสดงอีกหน่อย ครูน้ำมนต์ยังดูเหมือนมาร้องเพลงให้คนดูฟังเฉยๆ อารมณ์น้อยไปนิดนึงสำหรับการแสดง แต่ก็ถือว่าโอเคค่ะ
ครูอ้วน มณีนุช แสดงเป็นแม่เหมือน เด็ดมากๆ เรื่องการร้องเพลงนี้ก็คุณภาพระดับครูอ้วนอยู่แล้ว เรื่องการแสดงก็เด่น ตอนที่น้อยใจ ก็ดูเศร้า ตอนที่ร้าย ก็ร้ายมากๆ รับส่งอารมณ์ได้ดีมากๆ ค่ะ
คุณเอ๋ นรินทร ณ บางช้าง... เล่นเป็นหมอตำแย เก่งมากๆ ค่ะ ตอนที่ขำก็ขำก๊าก ตอนที่เศร้าก็เศร้ามาก...
พระเอก พ่อมาก แสดงโดยคุณน๊อต วรฤทธิ์ ซึ่งก็แสดงได้ดี แต่เรื่องเสียงร้อย ด้อยกว่าคนอื่นๆ อยู่มากหน่อย เห็นว่าคุณน๊อตไม่สบายด้วย แต่ก็พยายามเล่นเต็มที่ เอาอารมณ์การแสดงมากลบเรื่องเสียงร้องไปได้บ้าง...
แล้วก็ยังมีน้กร้องนักแสดงคนอื่นๆ อีกเยอะค่ะ เก่งๆ กันทั้งนั้นเลย เช่น คุณญานี ตราโมทย์ คุณเด๋อ ดอกสะเดา ครูปุ้ม อรวรรณ เย็นพูนสุข คุณรัดเกล้า อามระดิษฐ์ (แสดงสลับกับครูปุ้ม)
ส่วนเรื่องฉากก็โอเคค่ะ ที่ชอบก็คือฉากจมน้ำ อธิบายยาก ต้องไปดูเอาเองค่ะ
ก็เอาเป็นว่า ถ้าใครสนใจละครเวที เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าดูค่ะ คุณภาพของนักร้องนักแสดง ฉาก และบทละคร น่าสนใจมากๆ ค่ะ บทละคร และเนื้อเพลงทำให้ดูง่ายดีค่ะ รู้สึกว่าจะแสดงแค่วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นะคะ แสดงถึงวันที่ 19 ก.ค. อาทิตย์หน้าเป็นอาทิตย์สุดท้ายแล้วค่ะ
[SIZE="2"]ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ครับ ขอนำรูปมาลงใหม่ เนื่องจากที่มีอยู่เดิมหายไป เพื่อให้กระทู้นี้ สามารถโชว์รูปที่หน้าเวบได้ ครับ
ขอบคุณภาพจากลิงก์ http://3.bp.blogspot.com/_lPnwYVk-vgI/Sinezt3JamI/AAAAAAAAAiE/gW5dqPrn8x8/s400/C7843018-8.jpg ครับ
หากรูปที่เรานำมาไม่เหมาะสม ขอชวนเจ้าของกระทู้เข้ามาแก้ไขได้ครับ