ประกันรถยนต์ชั้น 2 เป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่เจ้าของรถสามารถซื้อเพิ่ม เพื่อเพิ่มความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ จากการใช้รถ ใช้ถนนได้ โดยข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พบว่า ในปี 2565 มีผู้ทำประกันรถยนต์ชั้น 2 ประมาณ 12.6 ล้านคัน คิดเป็น 43.2% ของจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนทั้งหมด ในขณะที่มีผู้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ประมาณ 16.4 ล้านคัน คิดเป็น 56.8% ของจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนทั้งหมด
ประกันรถยนต์ชั้น 2 เป็นที่นิยมน้อยกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 เนื่องจากความคุ้มครองที่น้อยกว่า โดยประกันรถยนต์ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองเฉพาะความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และการสูญหายหรือไฟไหม้ของรถยนต์เท่านั้น ในขณะที่ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งความเสียหายต่อรถของตนเอง ความเสียหายต่อรถคู่กรณี และความเสียหายต่อบุคคลภายนอก แต่ยังคงได้รับความนิยมอยู่มาก เนื่องจากมีเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1
เบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 2 ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้
ประเภทของรถยนต์
รถยนต์ประเภทต่างๆ มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่แตกต่างกัน รถยนต์ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง เช่น รถสปอร์ต รถกระบะ รถบรรทุก ฯลฯ จะมีเบี้ยประกันสูงกว่ารถยนต์ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่ำ เช่น รถเก๋ง รถครอบครัว ฯลฯ
ทุนประกัน
ทุนประกันคือจำนวนเงินที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทุนประกันที่สูงขึ้นจะทำให้เบี้ยประกันสูงขึ้น
ระยะเวลาประกันภัย
ระยะเวลาประกันภัยที่นานขึ้นจะทำให้เบี้ยประกันสูงขึ้น
ประวัติการขับขี่ของผู้ขับขี่
ผู้ขับขี่ที่มีประวัติการขับขี่ดี มีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า ผู้ขับขี่ที่มีประวัติการขับขี่ไม่ดี จะมีเบี้ยประกันสูงกว่า
ความคุ้มครองเพิ่มเติม
ผู้ขับขี่สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ เช่น ประกันรถหาย ประกันผู้ขับขี่ ประกันความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกต่อบุคคลภายนอก ฯลฯ ความคุ้มครองเพิ่มเติมจะทำให้เบี้ยประกันสูงขึ้น
ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2
-คุ้มครองค่าเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ฯลฯ
-คุ้มครองค่าเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เช่น รถยนต์ บ้าน อาคาร ฯลฯ
-คุ้มครองกรณีรถยนต์ที่เอาประกันภัยสูญหายหรือไฟไหม้
ประกันรถยนต์ชั้น 2 เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด และผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่ำ เช่นใช้รถน้อย ใช้รถในพื้นที่เดิม ๆ ใช้รถเพียงบริเวณใกล้บ้านเท่านั้น ไม่ใช้รถทางไกล ไม่ออกต่างจังหวัดบ่อย และมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุน้อย