ใครลาออกจากงานเพื่อมาเลี้ยงลูกบ้าง
โดย kae
kae
#1
เราเป็นคนหนึ่งที่ลาออกจากงานมาอยู่บ้านเลี้ยงลูก ณ ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่เรามานั่งนึกถึงต่อไปจะเป็นอย่างไร ถ้าลูกเราโตขึ้นเราจะกลับไปทำงานก็ยากกว่าเดิมเพราะอายุมากขึ้น หรือถ้าเกิดถูกแฟนทิ้งเราจะทำไงดี เพราะเราไม่มีอาชีพ ปัญหา ฯลฯ ตอนนี้เราเลยเครียด มีใครเป็นอย่างเราบ้างนะ อย่างน้อยเราก็อุ่นใจมีคนเป็นเหมือนกัน หรือเพื่อนๆ มีคำแนะนำว่าไงบ้าง
natchada
#2
เราก็ลาออกจากงานมาตั้งแต่แต่งงานเลยค่ะ เพราะแฟนอยู่ต่างจังหวัด ขอเขาทำงานพวกธนาคารในอำเภอเขาก็ไม่ยอม แต่ที่บ้านมีกิจการก็เป็นของกงสี แต่งมาได้ 15 ปีแล้วค่ะ เลี้ยงลูกสนุกดีมีความสุขค่ะ ปีหน้าลูกก็จะเข้าไปเรียนกรุงเทพฯแล้ว แฟนก็ให้ไปเฝ้าลูก แต่เรายังสองจิตสองใจไม่ค่อยอยากจะห่างกับแฟน อยากเป็นครอบครัว แต่แฟนเขาก็อยากให้ลูกไปเรียนที่กรุงเทพฯ ก็คงต้องไป ๆ มา ๆ ค่ะ
metaporn
#3
ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ เราก็เหมือนกันออกจากงานมาเลี้ยงลูก
อยู่ที่บ้านสามี เป็นระบบกงสีเหมือนกัน เราว่าการเลี้ยงลูก
ก็เหมือนเป็นหน้าที่ อีกอย่างเหมือนกันที่คนเป็นแม่ต้องรับผิดชอบ
ให้ดีที่สุด หลาย ๆ คนน่าจะอิจฉานะคะที่คุณมีเวลาเลี้ยงลูก
ได้สังเกต ดูแลการเปลี่ยนแปลงของลูกในแต่ละเดือน แต่ละปี
เฝ้าดูพัฒนาการลูกตัวน้อย ๆ ของเราได้เติบโต เราคิดว่าเป็นช่วง
เวลาที่ดีมากเลยค่ะ ที่มีเวลาทุ่มเทให้เต็มที่นะคะ วันหนึ่งเค้าโต
ขึ้น เราจะได้ภูมิใจที่เราได้เลี้ยงลูกเองดูแลเองค่ะ เราคิดว่ามัน
น่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีค่า และมีความหมายมาก ๆ นะคะ
คุณอย่าไปเครียดเลยค่ะ พอเค้าโตขึ้นหน่อย สามสี่ปี เค้าจะเข้า
โรงเรียนเราก็มีเวลาทำงานแล้ว ส่วนคุณสามีนี่ เมื่อแต่งงานกัน
แล้ว เราก็ต้องไว้ใจและเชื่อใจเค้านะคะ เป็นกำลังใจให้
แรก ๆ อาจจะเหงา อาจเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ยังไง
มองหน้าลูกไว้ ก็น่าจะมีความสุขนะคะ อย่าคิดมากเลยค่ะ
เมื่อก่อนเราก็เป็นเหมือนกัน ตอนเราคลอดลูกคนแรก
แต่เมื่อเราคิดถึงหน้าที่ที่คนเป็นแม่ต้องทำ มองหน้าลูกก็
มีความสุขแล้วค่ะ พิมพ์ไปงงไปค่ะ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ
kunmuay
#4
อยากมีสามีที่ให้ออกมาเลี้ยงลูกบ้างจัง... จริงๆนะ ไม่ค่อยชอบทำงานเลย อยากอยู่บ้านเลี้ยงลูกบ้าง
Amilicious
#5
อย่าคิดมากเลยนะคะ เพราะว่ามีคนอีกตั้งมากมายที่อยากออกจากงานมาเลี้ยงลูกที่บ้าน

เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดกับลูกๆ อ่ะค่ะ แต่เนื่องด้วยเศรษฐกิจครอบครัวคนเราไม่เหมือนกัน

เค้าก็เลยทำไม่ได้ ต้องทำการทั้งสองคน สามี-ภรรยา

คิดแบบนี้แล้วจะสบายใจค่ะ
aor-tom
#6
เราก็เป็นคนหนึ่งนะคะ ที่แฟนให้ออกจากงาน แต่ไม่ได้เลี้ยงลูกคะ (ยังไม่มีลูกเลย เหอๆๆ) คือตอนนั้นแม่เราป่วยหนักนะคะ ตอนนั้นที่บ้านของเราก็ไม่มีคนดูแลแม่ คือต้องดูแลแม่หนักมากคะ ต้องดูตลอด 24 ชม. เลย แฟน ณ ตอนนั้น (ตอนนั้นยังเป็นแค่แฟนนะคะยังไม่ได้แต่งงานกัน) เค้าก็ให้ออกจากงานมาดูแลแม่ของเราเองนะคะ โดยแฟนเค้าก็ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน เราก็เอาซิคะ อิอิอิ เพราะไหนจะได้ดูแลแม่ของเราเอง แถมแฟนก็ยังใจดีมีน้ำใจให้เงินใช้ทุกเดือนอีก....

จนต่อมาก็แต่งงานกัน และแม่เราก็เสียไป เราก็ว่างมากเลยคะ เคยนึกบอกสามีว่าเราจะไปหางานทำแล้วนะ แต่สามีก็ไม่ให้ไปทำคะ เค้าก็บอกว่าอยู่แบบนี้ดีแล้ว เค้ากลัวเราไม่มีเวลาให้เค้า ที่สำคัญเค้ากลัวเราต้องไปทำงานที่อื่น คือสรุปเค้าห่วงด้วยนะคะ เพราะจังหวัดที่เราอยู่เป็นจังหวัดเล็กๆ งานการก็หายาก ต้องไปหาที่จังหวัดใหญ่ๆ นะคะ สรุปคือแฟนเค้าอยากให้เราอยู่บ้านมากกว่า เราก็เลยตามเลยๆ นะคะ แต่ลึกๆ ก็แอบกลัวและกังวลเหมือนกันคือก็อยากจะหาเงินได้ด้วยตัวเองเหมือนกัน แต่แฟนก็ไม่ให้ทำ แต่เค้าก็เห็นว่าเราว่างๆ ก็เลยส่งของต่างๆ มาให้ขายรอเวลาไปอยู่ด้วยกันนะคะ...

ยังไง จขกท. ลองฝึกงานอาชีพต่างๆ ที่ใกล้ๆ บ้านเป็นความรู้ติดตัวก็ดีนะคะ เราว่าอย่างน้อยก็ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และที่สำคัญมีความรู้ติดตัวด้วยนะคะ :)
eclair
#7
เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกมา 2 ปีแล้วค่ะ เริ่มอยากกลับไปหางานทำแล้ว แต่ไม่รู้จะหาได้เปล่า เศรษฐกิจไม่ดีเนื่ย

ก่อนหน้านี้ทำงานบริษัทฝรั่งมาตลอดค่ะ แบบที่งานหนักมากๆ เลิกเฉลี่ย 2-3 ทุ่มนะคะ ใครกลับบ้าน 6 โมงต้องโดนเพื่อนๆเหล่ คือชีวิตแบบนี้ถ้ามีลูกเล็กๆก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ก็พยายามหางานที่จะ balance ชีวิตครอบครัวกะการงานได้ค่ะ คือไม่ได้ทำงานนานๆแล้วรู้สึกตัวเองเฉื่อยๆกะโง่ๆยังไงไม่รู้ค่ะ เวลาไปเจอเพื่อนๆเก่าก็ฟังมันพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลย
joopjoop
#8
การเป็นแม่ก็คือหน้าที่การทำงานอย่างหนึ่งนะคะ
ทำงานตั้ง 24 ชม ไม่ได้พักไม่ได้เงินเดือน แต่ได้ความทรงจำที่ดี
ดูการเจริญเติบโตของลูกน่ะคะ
เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ออกจากงานแต่ใช้แบบไม่รับเงินเดือน
อยู่เลี้ยงลูกได้ถึงขวบแน่ะคะ แต่ตอนนี้กลับมาทำงานก็อยากกลับไป
เลี้ยงลูกอย่างเดิมง่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ โชคดีแล้วคะที่ได้อยู่บ้านเลี้ยงลูก
แถมมีเงิน shop ใน sbn อีกต่างหาก
newsguy
#9
ไม่ได้ลาออกจากงานมาเพื่อเลี้ยงลูก
แต่ว่าไม่เคยทำงานเลยตั้งแต่แรกค่ะ ตั้งแต่ก่อนแต่งแล้ว
ช่วยกิจการที่บ้านนิดๆหน่อยๆ วันๆก็ลอยไปลอยมา--*
ที่บ้านสามีก็เป็นระบบกงสีเหมือนกันค่ะ สามีทำงานกินเงินเดือนจากกงสี
นิวก็อยู่บ้านเลี้ยงลูก ตอนยังไม่มีลูกก็ว่างแทบทั้งวัน
มีงานให้ทำแค่เวลาแม่สามีทำกับข้าว ก็ไปเป็นลูกมือ

พอมีลูกแล้วก็เลี้ยงเองค่ะ สามีก็อยากให้ไปทำงานกับกงสีนะคะ
แต่นิวไม่ค่อยชอบระบบกงสี ก็เลยไม่ได้ไปทำ
พอลูกไปโรงเรียนก็ว่างค่ะ นั่งเล่นเน็ตแทบทั้งวัน
หานู่นนิด นี่หน่อย มาขายบ้าง
ทำขนมขายคนงานบ้าง กำไรไม่เยอะ แต่สนุกค่ะ

เคยคิดเหมือนกัน ว่าถ้าเลิกกะสามีแล้วจะเอาอะไรกิน เพราะตอนนี้ก็เกาะสามีอยู่--*
ก็เลยขอเงินเดือนส่วนนึง เอาไว้เก็บเป็นของส่วนตัวของเราคนเดียว
อยู่ว่างๆก็หัดทำขนมไปเรื่อยๆ เผื่อจะเปิดร้านเบเกอรี่
อย่างน้อยเลิกกันไปก็มีเงินลงทุน เลี้ยงลูกได้เอง และไม่อดตายค่ะ ^^

ลองหาอะไรที่เราชอบทำตอนว่างๆจากการเลี้ยงลูกซิคะ
จะได้เอาไว้แก้เหงา และเป็นอาชีพเสริมได้ด้วยค่ะ
~ k E t S y ~
#10
ลาออกมาได้ไม่นานค่ะ หลังจากแต่งงานก็ทำงานมาเรื่อยๆ
จนโดนด่า....ว่า....เธอจาหายไปไหนที 15-20 วันต่อเดือน
หยุดออกมานั่งอยู่บ้านแทนละกัน ประหยัดกว่าออกไปทำงาน
สรุปเมื่อทุกอย่างลงตัว ก็ลาออก มาอยู่บ้านจ้า.....
ขายของนิดๆหน่อยเมื่ออยากขาย....เพราะคุณสามีบอกว่าเดี๋ยวนั่งๆนอนๆเฉยๆจาเบื่อ เพราะปรกติเปงคนทำงานแบบไม่หยุดนิ่ง
และช่วยงานคุณสามีบ้าง
ก็เท่านั้นเองจ้า

ตอนนี้ด้วยความที่ว่านั่งอยู่บ้านกันตลอด 24 ชม ทั้งสองคน เลยเกิดอาการเบื่อๆขี้หน้ากันขึ้นมา
ต้องหาอารายทำบ้าง เช่น พากันไปตีกอล์ฟ พากันไปฟืตเนส ทุกอาทิตย์บังคับต้องออกไปซิ่งกันนอกบ้าน จาได้เห็นแต่งตัวสวยๆกันบ้าง

ประมาณนี้อ่ค่ะ....ยังไม่มีลูก....เพราะยังวางแผนเที่ยวอีกเยอะ.....ที่สำคัญกลัวเด็กทั้งคู่ค่ะ
matty
#11
ออกตัวก่อนว่า เรายังทำงานอยู่ และไม่มีลูก(เพราะไม่คิดอยากมีลูกเลยค่ะ) แต่แต่งงานแล้วนะคะ เผอิญว่ามีเพื่อนหลายคนที่มีลูกแล้ว บางคนก้อเป็นแม่บ้านเต็มตัว และไม่กลับมาทำงานอีกเลย แต่บางคนพอลูกเข้าโรงเรียนแล้ว ก้อกลับมาทำงานค่ะ บางคนก้อกลับมาทำงานที่เบากว่าเดิม แต่บางคนก้อเห็นกลับมาทำงานอย่างบ้าคลั่งได้เกือบเหมือนเดิมเลยค่ะ ^^

อยากบอกว่าอย่าเพิ่งกังวลไปเลยค่ะ เราว่าปรับตัวให้เข้ากับชีวิตตอนนี้และโฟกัสกับการเลี้ยงลูกไปก่อนดีกว่า ไหนๆเราก้อตัดสินใจ prioritize ครอบครัว ณ จุดนี้ แล้ว ก้อทำให้ดีที่สุด พอลูกโตแล้วค่อยๆมองหางานในวันหน้าก้อยังไหว โอกาสอาจจะมีและมาถึงก้อได้ ใครจะรู้ มานั่งคิด กังวล กลัวในสิ่งที่มันยังมาไม่ถึง มันเครียดป่าวๆค่ะ ส่วนสามี เราว่ารักกัน แต่งงานกัน ร่วมชีวิตกันจนถึงขั้นมีลูกด้วยกันแล้ว ก้อต้องไว้ใจและเชื่อใจกันค่ะ ทำใจให้สบาย อย่าคิดมากนะคะ
kae
#12
ขอบคุณเพื่อนๆมากคะ คือ ณ วันนี้ถ้าเหตุการณ์ยังเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่เรากลัวคือนาคตนะคะ เพราะที่บ้านแฟนก็เป็นกงสี กำลังมีปัญหาแบบคลื่นใต้น้ำนะคะ เพราะมีเขยกับสะใภ้หลายคนคะกลัวต่อไปถ้าเกิดอะไรขึ้นเราจะอยู่ยังไง ถ้าเกิดลูกโตเข้าโรงเรียนเราจะไปเริ่มสมัครงานคงลำบากเพราะอายุก็ 30 แล้วแถมมีลูกอีกต่างหาก ตอนนี้คิดมากคะ เพื่อนเราก็บอกว่าเราสบายแล้ว เราก็ว่าถ้าอนาคตมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงที่แย่กว่านี้ เราก็ถือว่าเราโชคดีคะ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราก็จะเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดคะ
RLoamDee
#13
[SIZE="3"]อย่าเพิ่งเครียดล่วงหน้านะคะ มันอาจจะไม่มีเลยก็ได้:cool:
เราก็ออกจากงาน (งานสถานทูต) มาเลี้ยงลูกแล้วก็มาเปิดร้านขายของกับสามี แยกออกจากกงสีของเขา เพราะเราพูดคุยกับสามีให้เค้าเข้าใจ เรื่องว่าหากอยู่แบบนี้ เราคงไม่สะดวกเรื่องเงินเข้าเงินออกแน่ๆเลย เพราะจะซื้ออะไรมันก็คงเป็นที่จับตาของครอบครัวเค้า (โดยเฉพาะเรื่องซื้อกระเป๋า^^)
ลองหาอะไรทำด้วยก็น่าจะดีค่ะ จะได้เป็นรายได้ส่วนตัวของเราเอง อย่างเช่น เปิดเวปขายของ เป็นธุรกิจเสริมของเราเอง จะทำอะไรใครก็คงมาว่าเราไม่ได้เนอะ
cottonchef
#14
Originally Posted by kae
เราเป็นคนหนึ่งที่ลาออกจากงานมาอยู่บ้านเลี้ยงลูก ณ ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่เรามานั่งนึกถึงต่อไปจะเป็นอย่างไร ถ้าลูกเราโตขึ้นเราจะกลับไปทำงานก็ยากกว่าเดิมเพราะอายุมากขึ้น หรือถ้าเกิดถูกแฟนทิ้งเราจะทำไงดี เพราะเราไม่มีอาชีพ ปัญหา ฯลฯ ตอนนี้เราเลยเครียด มีใครเป็นอย่างเราบ้างนะ อย่างน้อยเราก็อุ่นใจมีคนเป็นเหมือนกัน หรือเพื่อนๆ มีคำแนะนำว่าไงบ้าง



ขอแจมนะคะพี่ หนูอ่ะ ลาออกเพื่อการนี้โดยเฉพาะค่า อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน ต้องเลี้ยงเองตลอด 24 ชั่วโมงจ้า เราเกิดมาเป็นแม่ต้องทำหน้าที่แม่ ให้ดีที่สุดเลย มีความสุขมากกกมายย ที่ได้อยู่กับลูก
อาชีพเราคือแม่บ้านค่ะ ไม่ต้องเจอรถติด ไม่ต้องคิดว่าวันนี้จะใส่ชุดอะไร กระเป๋าอะไร ไม่ต้องมีสารเคมีบนใบหน้าทุกวัน วันไหนอยากสวยก็ค่อยแต่ง ได้พักหน้าให้ได้รับอ๊อกซิเจนด้วย
ไม่ต้องทะเลาะกะเจ้านาย ไม่ต้องแอบหลับให้ห้องทำงาน อยากนอนก็นอนมันเลย โอ๊ยข้อดีของพี่มีอีกเยอะค่า :D



สามี ช่างเค้าค่า เราต้องคิดว่าเค้าไม่ทิ้งเราอยู่แล้วเพราะเรามีลูกกะเค้า ;) จะทิ้งก็ทิ้งไปอนาคตไม่แคร์ค่า ชีวิตมันสั้นนัก ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า
หนูหน่ะพอมีลูกก็อยากเลิกกะคุงแฟนเลย อยากอยู่กะลูกสองคน เท่านั้น เบื่อแฟนไปโดยปริยาย อิอิ



แนะนำให้พี่ทำตัวสวย ๆ เหมือนก่อนมีน้อง ทำกับข้าวเก่ง ๆ แล้วพี่ก็หางานอะไรทำที่อยู่กับลูกได้ด้วย ดูแลสามีได้ด้วย
จะบอกพี่ว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญและมีค่าที่สุดในชีวิตของพี่และลูกค่ะ 0-5 ปี ที่เราจะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกะเค้าตลอดเวลา พี่ลองดูสิคะ ...........
แล้วพี่จะไม่อยากห่างไปไหนเลยแม้นแต่นาทีเดียว มันคือความสุขที่แท้จริงนะคะ เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเค้าและพี่ ในสถานะใหม่คือ แม่ กับ ลูกเพราะถ้าเราไม่อยู่กะเค้าตอนนี้
พอเค้าโต เค้าจะไม่ต้องการเราแล้ว แล้วเราจะเสียใจไปตลอดชีวิตเลย เวลาไม่ย้อนกลับนะคะ อย่าคิดอะไรมากเลยพี่ :)



ส่วนตัวหนูนะคิดตอนนี้อยากให้พี่โฟกัสที่ลูก และดูแลสามี มันจะมีอะไรให้พี่ทำ ให้คิดเยอะแยะ ไม่มีเวลาคิดมากเลย คริ คริ เช่น ช๊อปปิ้งให้ลูก ช๊อป ๆ ๆ เข้าไป
เข้ากลุ่มแม่ ๆ และภรรยา ขายของซื้อของทางเน็ต เช่น SBN อิอิ หาเมนูอร่อย ๆ มาหัดทำให้สามีกับเบบี๋ทาน แค่นี้หนูก็ทำวันนึงไม่หมดแล้วค่า
เดี๋ยวพอลูกพี่เข้าโรงเรียนนะ พี่ก็จะมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะเลย
แอบถามว่าลูกกี่เดือนแล้วคะ จะพาไปช๊อปมั๊ย จะได้ไม่เหงานา :D มีอะไรปรึกษาได้ค่ายินดีเสมอจากใจเลยค่า



(ถึงตอนนั้นสามีก็จะมาอยู่กะเราเอง เพราะเราเป็นแม่บ้านแม่เรือน ผู้ชายไปไหนไม่ร๊อดร๊อกค่า ถึงไป เด๋ว มานก็กลับมาเอง คริคริ)

puk_apitta
#15
อย่าคิดมากเลยนะค่ะ เราเองก็เหมือนกัน ไม่เคยทำงานเลย เรียนจบ ก็แต่งงานไม่กี่เดือนก็มีลูก เพื่อนยังแซวว่าไปเรียนเมืองนอกเมืองนามาหงัยกลับมาตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูกอ่ะ เสียดายความรู้
แต่เดี๋ยวนี้เพื่นคนนั้นบ่นว่า อยากอยู่บ้านเลี้ยงลูกมั่งแล้ว
บ้านสามีก็เป็นกงสีเหมือนกัน แต่สามี และแม่สามี สนับสนุนให้เลี้ยงลูกเอง เราดูแลเองทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก
เราว่า งานเป็นแม่เนี่ยหนักกว่างานไหนๆๆ ในโลกนะ เพราะว่าก็ต้องดูแล 24 ชม พอโตหน่อย เข้าโรงเรียนก็ไปรับไปส่ง สอนการบ้าน โว้ยมีอะไรให้ทำเยอะค่ะ ไม่เหงาแน่ๆๆค่ะ
ขอให้รู้สึกดีๆเถอะค่ะ ถือว่าเราก็โชคดีแล้วนะค่ะ ที่ได้ดูแลลูกเราเต็มที่ เพราะเนี่ยเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขจริงๆ พอเขาโตขึ้น เขาก็จะไปมีสังคมของเขา เขาจะใกล้ชิดเราน้อยลงแล้วนะ
พอเราใกล้ชิดเขามากๆๆ มีอะไรเขาจะนึกถึงเราเป็นคนแรก

ทำหน้าที่แม่ให้เต็มที่ เลี้ยงและสอนในสิ่งดีๆๆให้เขา ให้เขาเป็นคนดีของทั้งของพ่อ แม่ ของสังคม ส่งเสริมในสิ่งที่ลูกเก่ง แก้ไขในสิ่งที่เขาไม่ดี พอเขาเติบโตมา เป็นทั้งคนเก่ง คนดี ไม่สร้างปัญหา
แค่นี้คนเป็นพ่อแม่อย่างเราก็ภูมิใจที่สุดแล้ว
Lukkai
#16
[SIZE="4"]สำหรับเรา ในทางกลับกัน เำพราะว่ากลัวจะต้องออกจากงานมาเลี้ยงลูก เราก็เลยไม่มีลูก
แล้วสามีก็ไม่อยากมีลูกอยู่แล้ว ก็เลยไม่มีปัญหากันค่ะ:)
ว่าแต่ สบายใจเถอะค่ะ ทำหน้าที่แ่ม่บ้านให้เต็มที่ สบายๆๆค่ะ
เมจิ
#17
[SIZE="3"]เราเองยังไม่ได้แต่งงานเลยค่า ไม่รู้จะตอบอะไร

แต่มาอ่านกระทู้นี้แล้วซึ้งหัวอกคนเป็นแม่เลย เสียสละมากมายยยจริงๆ :)

เลือกทางที่แม้แต่ตัวเองก็ยังกลัว เพราะอนาคตไม่มีอะไรแน่นอน แต่ก็ต้องเลือกเพื่อลูกอ่ะ
yai_625
#18
เลี้ยงลูกเป็นงานที่มีความสุขที่สุดค่ะแม้จะเหนื่อยทำงานตลอด24ชม.ไม่มี
วันหยุดไม่มีพักร้อน แต่ก็ไม่อยากลาออกค่ะ ได้เห็นพฤติกรรมลูกที่เปลี่ยน
ไปทุกวัน ลาออกตอนมีลูกคนที่2ค่ะ สามีไม่อยากให้ลูกติดพี่เลี้ยง
คิดอยู่วันเดียวเองค่ะตอนที่สามีให้ออกมาเลี้ยงลูก จนมาถึงตอนนี้ก็คิดว่า
คุ้มมากๆค่ะ ลูกน่ารักและเป็นเด็กดีทุกคนค่ะ
kae
#19
และอยากทราบอีกคะว่า คนที่ออกจากงานมาเลี้ยงลูก จะออกจากงานมากี่ปีคะ หรืออกมาตลอดเลย ไม่กลับไปทำงานอีก
white_chocolate
#20
เราลาออกจากงานตั้งแต่คิดจะมีลูกค่ะ และคิดว่าคงไม่ได้กลับไปทำงานอีก นอกจากช่วยกิจการที่บ้านสามีแทน k.kae อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะคะ บั่นทอนจิตใจเนอะ แต่เราเองก็แอบคิดเล่น ๆเหมือนกัน ว่าถ้าวันนึงเค้าเกิดไม่อยากอยู่กับเรา เราจะฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูเป็นรายเดือนค่ะ ไม่รู้จะทำได้รึป่าว (นี่คิดเล่น ๆนะคะ)
cottonchef
#21

กลับไปทำค่ะ แต่ทำกิจการของตัวเองค่ะ
ค่อย ๆ เริ่มทีละนิดค่ะ ตอนนี้ชีวิตมันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ
กลับไปยืนที่เดิม ทำงานหามรุ่งหามค่ำอย่างเดิมไม่ได้แล้วค่ะ

ต้องเดินหน้าต่อไปค่า สู้ๆๆๆ :D

jom
#22
Originally Posted by cottonchef

ขอแจมนะคะพี่ หนูอ่ะ ลาออกเพื่อการนี้โดยเฉพาะค่า อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน ต้องเลี้ยงเองตลอด 24 ชั่วโมงจ้า เราเกิดมาเป็นแม่ต้องทำหน้าที่แม่ ให้ดีที่สุดเลย มีความสุขมากกกมายย ที่ได้อยู่กับลูก

อาชีพเราคือแม่บ้านค่ะ ไม่ต้องเจอรถติด ไม่ต้องคิดว่าวันนี้จะใส่ชุดอะไร กระเป๋าอะไร ไม่ต้องมีสารเคมีบนใบหน้าทุกวัน วันไหนอยากสวยก็ค่อยแต่ง ได้พักหน้าให้ได้รับอ๊อกซิเจนด้วย
ไม่ต้องทะเลาะกะเจ้านาย ไม่ต้องแอบหลับให้ห้องทำงาน อยากนอนก็นอนมันเลย โอ๊ยข้อดีของพี่มีอีกเยอะค่า :D



สามี ช่างเค้าค่า เราต้องคิดว่าเค้าไม่ทิ้งเราอยู่แล้วเพราะเรามีลูกกะเค้า ;) จะทิ้งก็ทิ้งไปอนาคตไม่แคร์ค่า ชีวิตมันสั้นนัก ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า
หนูหน่ะพอมีลูกก็อยากเลิกกะคุงแฟนเลย อยากอยู่กะลูกสองคน เท่านั้น เบื่อแฟนไปโดยปริยาย อิอิ



แนะนำให้พี่ทำตัวสวย ๆ เหมือนก่อนมีน้อง ทำกับข้าวเก่ง ๆ แล้วพี่ก็หางานอะไรทำที่อยู่กับลูกได้ด้วย ดูแลสามีได้ด้วย
จะบอกพี่ว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญและมีค่าที่สุดในชีวิตของพี่และลูกค่ะ 0-5 ปี ที่เราจะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกะเค้าตลอดเวลา พี่ลองดูสิคะ ...........
แล้วพี่จะไม่อยากห่างไปไหนเลยแม้นแต่นาทีเดียว มันคือความสุขที่แท้จริงนะคะ เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเค้าและพี่ ในสถานะใหม่คือ แม่ กับ ลูกเพราะถ้าเราไม่อยู่กะเค้าตอนนี้
พอเค้าโต เค้าจะไม่ต้องการเราแล้ว แล้วเราจะเสียใจไปตลอดชีวิตเลย เวลาไม่ย้อนกลับนะคะ อย่าคิดอะไรมากเลยพี่ :)



ส่วนตัวหนูนะคิดตอนนี้อยากให้พี่โฟกัสที่ลูก และดูแลสามี มันจะมีอะไรให้พี่ทำ ให้คิดเยอะแยะ ไม่มีเวลาคิดมากเลย คริ คริ เช่น ช๊อปปิ้งให้ลูก ช๊อป ๆ ๆ เข้าไป
เข้ากลุ่มแม่ ๆ และภรรยา ขายของซื้อของทางเน็ต เช่น SBN อิอิ หาเมนูอร่อย ๆ มาหัดทำให้สามีกับเบบี๋ทาน แค่นี้หนูก็ทำวันนึงไม่หมดแล้วค่า
เดี๋ยวพอลูกพี่เข้าโรงเรียนนะ พี่ก็จะมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะเลย
แอบถามว่าลูกกี่เดือนแล้วคะ จะพาไปช๊อปมั๊ย จะได้ไม่เหงานา :D มีอะไรปรึกษาได้ค่ายินดีเสมอจากใจเลยค่า




(ถึงตอนนั้นสามีก็จะมาอยู่กะเราเอง เพราะเราเป็นแม่บ้านแม่เรือน ผู้ชายไปไหนไม่ร๊อดร๊อกค่า ถึงไป เด๋ว มานก็กลับมาเอง คริคริ)





:) ชอบคำตอบคุณ cottonchef จังเลยค่ะ :)
yai_625
#23
ออกแล้วคิดจะกลับไปทำงานคิดว่ายากมากค่ะภาระหน้าที่ติดพัน
แถมทำแล้วมีความสุข พอลูกเริ่มโตก็ต้องรับ ส่ง สอนการบ้าน
หากิจกรรมให้ทำ ตระเวณหาซื้อของอร่อยๆมาปรนเปรอ
สลัดกลับไปทำงานไม่ได้แน่นอนค่ะ

ปล.คุณฝ้าย เป็นคุณแม่ที่นอนดึกมากเลยค๊า
ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3