เพิ่งตกแต่งเสร็จ ไม่เคยมีคนเข้าอยู่ ตัดใจขาย อาคารโฮมออฟฟิศหลังใหม่ สไตล์ยุโรปร่วมสมัย ในอุดมคติ สำหรับทำธุรกิจสมัยใหม่
โดย bit
bit
#1


เพิ่งตกแต่งเสร็จ ไม่เคยมีคนเข้าอยู่ ตัดใจขาย อาคารโฮมออฟฟิศหลังใหม่ สไตล์ยุโรปร่วมสมัย ในอุดมคติ สำหรับทำธุรกิจสมัยใหม่

เริ่มต้นออกแบบอย่างพิถีพิถันสำหรับเป็นสำนักงานของเราอง เพิ่งตกแต่งเสร็จเมื่อเดือน มีนาคม 2557 ยังไม่เคยมีคนเข้าอยู่ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เงินด่วน จึงขอตัดใจขาย



  • มีพื้นที่ตามฉโนดที่ดินถึง 25 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 215 ตารางเมตร มีพื้นที่สวนทั้งหน้าและหลัง อาคารสูง 3 ชั้น ถือเป็น Townhome ขนาดใหญ่ มีที่ดินกว้าง (โดยทั่วไป Townhome จะมีพื้นที่ตามฉโนดไม่เกิน 20 ตารางวา การมีที่ดินตามฉโนดถึง 25 ตารางวา หมายถึง มีที่ดินมากกว่าทั่วไปถึง 25%)


  • โครงสร้างอาคาร สร้างด้วยต้นทุนสูง มีความแข็งแรงทนทานสูงมาก เป็นแบบผนังคอนกรีตรับแรง ที่หล่อสำเร็จมาจากโรงงานแล้วนำมาประกอบเป็นโครงสร้างของบ้าน คล้ายกับการก่อสร้างทางด่วน (ไม่ได้ก่อจาก อิฐมอญ หรือ อิฐมวลเบา) ซึ่งหาได้ยากมากสำหรับอาคารขนาดเล็ก


  • เริ่มจากตั้งใจจะอยู่เอง วัสดุทุกชิ้นเกรด A หาข้อมูลละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกทุกชิ้น เพื่อให้ใช้งานได้เป็นสิบปี โดยไม่มีปัญหา ไม่ได้เลือกซื้อของถูกเป็นหลักเหมือนบ้านที่สร้างเพื่อขาย ท่านจะเห็นความต่างด้วยตัวท่านเอง เมื่อเข้ามาดูอาคาร


  • ออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทำงานโดยทีมช่างฝีมือดี ดูแลการทำงานอย่างทุกขั้นตอนอย่างใส่ใจ ประตูหน้าต่างทุกบานสั่งทำ งานกระจกและอะลูมิเนียมทุกอย่างสั่งทำ ไม่ได้ใช้ของสำเร็จแม้สักบานเดียว ใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่เรียบร้อย ไม่ปล่อยผ่าน


  • พร้อมให้เข้าใช้งานทันที น้ำ ไฟ พร้อม แถมแทงค์และปั๊มน้ำ


  • มีการวางระบบ LAN ไว้ล่วงหน้า พร้อมใช้งาน (มีปลั๊ก LAN ข้างปลั๊กไฟ)


  • อยู่บนทำเลอุดมคติ สำหรับธุรกิจสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น E-Commerce หรือ IT และถือเป็นทำเลทอง สำหรับทุกธุรกิจ


    • ไปถึงไปรษณีย์ได้ใน 15 นาที (ลดต้นทุน ทั้งเงิน งาน และ เวลาได้มาก สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ E-Commerce ที่ต้องส่งสินค้าให้ลูกค้าทางไปรษณีย์)



      **สำนักงานไปรษณีย์ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เปิดทำการทุกวัน 10.00-20.00 น.


    • ไปถึง IDC (Internet Data Center) ได้ใน 15 นาที (ลดต้นทุน ทั้งเงิน งาน และ เวลาได้มาก สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ IT ที่มีการให้บริการ Server)



      **Internet Data Center (IDC) คือ สถานที่ที่สามารถให้บริการ พื้นที่และอินเตอร์เน็ต สำหรับวางเครื่อง server ที่ให้บริการลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเข้ามาใช้บริการได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต อย่างเช่น ให้บริการเว็บไซต์ อีเมลล์ หรือแม้แต่ App บนโทรศัพท์มือถือ ที่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตในการทำงาน อย่างเช่นพวก App Chat ต่างๆ เป็นต้น ซึ่ง server เหล่านี้ จึงต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นอินเตอร์เน็ต ที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อในปริมาณมากๆได้ (มากกว่าเน็ตตามบ้านมากอย่างเทียบกันไม่ได้) จึงต้องมีโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงรองรับ


    • ไปถึง Trade Show ต่างๆ ที่จัดใน Impact Arena ได้ภายใน 15 นาที (ลดต้นทุน ในการเข้าถึง ข้อมูลและโอกาส ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ ที่มีเฉพาะใน Trade Show เท่านั้น)


    • สะดวกในการขึ้นลงทางด่วน ทั้ง ทางขึ้นลงในเมืองทอง ด้านถนนแจ้งวัฒนะ และ ด้านถนนทรงประภา(ด่านศรีสมานย์)


    • อยู่ท่ามกลางสถานที่ ที่ยกระดับคุณภาพชีวิต ของทุกคนในสำนักงาน



      • 1. สวนสมเด็จพระศรินครินทร์ เดินทางในเมืองทองได้ ไม่ต้องออกถนนใหญ่ ใช้เวลา 3-5 นาที เป็นสวนสาธารณะ สถานที่พักผ่อน ขนาด 163,200 ตารางเมตร ประกอบด้วยทั้งพื้นที่สีเขียว และ ทะเลสาบ เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อน มีทั้งบรรยากาศที่ร่มรื่น และอากาศที่สดชื่น

        http://www.dpu.ac.th/dpuplace/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C.html


      • 2. ทะเลสาบ และ ลานกิจกรรมกลางแจ้ง ในเมืองทองธานี ใช้เวลาเดินทาง 3-5 นาที เป็นลานกิจกรรมกลางแจ้งริมทะเลสาบ ที่มีผู้มาใช้จัดนิทรรศการ และกิจกรรมกลางแจ้งอย่างต่อเนื่อง ตลอดปี ถือเป็นสถานที่ท่องเทียวอีกแห่งหนึ่ง ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร

        http://www.impact.co.th/index.php/facilities/impactlakeside/th


      • 3. Sport Club สโมสรฟตุบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งมี สระว่ายน้ำ ขนาดโอลิมปิกที่เปิดให้ บริการสำหรับบุคคลทั่วไป ในสนามฟุตบอล ของสโมสรเมืองทอง โดยคิดค่าบริการต่อครั้งแค่ 80 บาท หรือ สมัครรายเดือน เพียงเดือนละ 800 บาท

        http://forums.soshifanclub.com/index.php?showtopic=84202


      • 4. TTAA Sport Club ในเมืองทองธานี เป็นอีกหนึ่งใน Sport Club อยู่ในตัวเมืองทองธานี ขับมาทางศูนย์อาหาร เจอวงเวียนเล็กก่อนศูนย์ อาหาร Easy Peasy ขับรถเข้าไปได้เลย ไม่เกิน 3-5 นาทีเหมือนกัน ยามรถไม่ติด เป็นที่ดูแลส่วน Fitness หลักแห่งหนึ่งของ นักฟุตบอลทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด (ตอนนี้ไม่รู้ยังใช้ที่นี้อยู่ไหม)

        ลิงค์ภาพที่ ทีม PSV มาซ้อมตอนมาไทย http://www.psv.nl/News/News-page/Tuesday-training-in-fitness-centre.htm?channel=ipad


      • 5. Sport Club ห้องประชุม และห้องพัก ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ประกอบด้วย คอร์ทแบท และ สนามฟุตบอลขนาดเล็ก โรงยิม ห้อง ประชุม เสวนา ห้องพักโรงแรม สำหรับ การ ประชุม เสวนา หรือ จัด ประชุม อบรม สัมมนา องค์กรบริษัทลูกค้าได้ ให้บริการสำหรับบุคคลภายนอกทั่วไป ใน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช รองรับได้ ตั้งแต่ ขนาดเล็ก กลาง จนถึง จำนวนหลายร้อยคน

        http://www.stou.ac.th/thai/conference/seminar/


      • 6. ย่านการค้า และ ตลาด เมืองทองธานี ประกอบด้วย ตลาดสด และยังมี ตลาดนัดใหญ่ในเมืองทองเดือนละสองครั้ง เป็นตลาดนัดที่ดังมากได้ชื่อว่าของเยอะ และถูกตลาดนัดหนึ่งในเมือง และตลาดนัดต้นประดู่ ที่ให้บริการทุกคืนอีกตลาด ที่ไว้อำนวยความสดวกให้กับผู้อาศัย

        http://topicstock.pantip.com/woman/topicstock/2008/09/Q6952526/Q6952526.html


      • 7. (แถมท้าย) ในเมืองทองธานี ยังประกอบด้วย ร้านอาหาร ดัง อร่อย ให้เลือกมากมาย เมืองทองธานี ขึ้นชื่อว่า เป็นชุมชน สถานที่ มี ร้านอาหาร อร่อย ดัง มาประชันฝีมือกันหลายร้าน ดังตัวอย่าง ในลิงค์ด้านล่างนี้

        http://eat.edtguide.com/396006_10-%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2


      ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูล ด้าน คุณภาพชีวิต และ สวัสดิการ ให้คนในองค์กรของคุณได้ เราเองจึงเลือกที่นี่ เป็นทำเลที่ตั้งของบริษัท ที่จะทำ หรือ ให้บริการ ธุรกิจสมัยใหม่




  • คุ้มค่า หากมองในแง่การลงทุน


    • เป็นพื้นที่ ที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก มีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากเมืองทองธานีเอง และ บริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่มาซื้อที่ในเมืองทองธานี เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์


    • เป็นพื้นที่ ที่อยู่ในแนวโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ของ รฟม. ซึ่ง โดยปกติ หลังจากที่เริ่มลงเสาเข็ม เริ่มมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟ้า ราคาอสังหาริมทรัพย์ในแนวเส้นทาง จะมีมูลค่าเพิ่มทันที (ที่ย่านบางใหญ่ ราคาอสังหาริมทรัพย์ขึ้น 10-20% ทันที หลังจากเริ่มมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง)




    • เป็นพื้นที่ ที่มีการลงทุนโครงข่าย fiber optic สำหรับอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงรองรับไว้แล้ว (สังเกตได้จาก เริ่มมีผู้ลงทุนสร้าง IDC อยู่ภายในเมืองทองธานี และ อยู่ไม่ไกลจากอาคาร Software Park รวมทั้ง ที่ตั้งของบริษัทผู้ให้บริการโครงข่ายอินเตอร์เน็ตรายใหญ่ ทั้ง CAT TOT และ Jasmine ที่อยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ) พื้นที่นี้ มีศักยภาพมากจะพัฒนาเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม IT หรือ Silicon Valley ได้ ซึ่ง หากมีนโยบายพัฒนาพื้นที่นี้ ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมไอที มูลค่าของอสังหาฯ จะเพิ่มขึ้น อย่างประเมินไม่ได้



  • ออกแบบจัดสรรพื้นที่ใช้งาน ตามอุดมคติ ของการใช้งาน เพื่อทำธุรกิจสมัยใหม่ ท่ามกลางทำเล ที่เหมาะสมสูงสุด ต่อการประกอบธุรกิจ

    เจตนาเริ่มต้น เราตั้งใจออกแบบ Home Office หลังนี้ ให้เป็นสำนักงานของบริษัท ของเราเอง ดังนั้น การออกแบบจึงออกแบบ ให้สามารถใช้งานเป็นสถานที่ใช้ประกอบการธุรกิจสมัยใหม่ (E-Commerce และ IT) ที่สามารถใช้ทั้งพื้นที่ และ ทำเล ได้อย่างเต็มศักยภาพ



    ภาพบน เป็นภาพด้านหน้าของ Home Office ห้องด้านซ้ายสุด ที่อยู่ชั้น 1 เป็นห้องที่มีประตูหน้าเป็นประตูเหล็กม้วน(ในรูป ประตูเหล็กม้วนเปิดอยู่) เหมือนกับ ประตูของอาคารพาณิชย์ แต่เดิมพื้นที่ในส่วนนี้ เป็นพื้นที่เปิด ที่ไม่ได้อยู่ในตัวอาคาร ที่สามารถเป็นได้เพียงโรงจอดรถ แต่ต่อมา เราพัฒนาพื้นที่นี้ ให้สามารถเป็นพื้นที่ทำงานที่เหมาะสมกับ เป็นพื้นที่จัดเก็บสินค้า และ แพ็คสินค้าลงกล่อง ก่อนไปส่งไปรษณีย์ สำหรับการทำธุรกิจ E-Commerce



    เราเริ่มต้นจากการยกระดับพื้นที่นี้ ให้สูงกว่าระดับถนนประมาณ 60 ซม. แม้ว่าเมื่องทองธานี จะเป็นพื้นที่ ที่รอดพ้นจากน้ำท่วมใหญ่ เมื่อปี 2554 แต่เราก็ป้องกันเหตุสุดวิสัย ยกระดับพื้น เพื่อป้องกันน้ำเข้าตัวอาคาร ที่ออกแบบไว้เป็นพื้นที่ทำงาน และ จัดเก็บสินค้า



    ห้องที่เป็นพื้นที่ทำงาน (อยู่หลังประตูเหล็กม้วน) ที่พัฒนามาจากพื้นที่เปิด สำหรับเป็นโรงรถ มีพื้นที่ใช้งานทั้งหมด 30 ตารางเมตร มีเพดานสูง 3 เมตร กระเบื้องที่ใช้ปูพื้น เป็นกระเบื้องที่ออกแบบให้ใช้ปูพื้นภายนอกอาคาร ที่รับแรงได้ 200 กิโลกรัม ต่อ ตารางนิ้ว และมีลายคล้ายหินธรรมชาติ ซึ่ง เมื่อนำมาปูลาย 45 องศา จะทำให้มีลักษณะพื้น เหมือนพื้นของอาคารไสตล์ยุโรป ที่ทำด้วยหิน

    ห้องนี้จึงถูกออกแบบให้วางชั้นเก็บสินค้า ที่มีน้ำหนักมากได้ และ สามารถเป็นพื้นที่ทำงาน ที่มีความทนทาน เหมาะสำหรับงานที่มีการใช้สถานที่บ่อยและหนัก

    การจัดไฟ ออกแบบให้ เป็นดาวน์ไลท์ 14 จุด ที่นอกจากจะให้แสงสว่างเพียงพอแล้ว ยังกระจายแสงได้ทั่วห้อง โดยไม่เกิดเงามืดจากการบังแหล่งกำเนิดแสง เหมาะกับการทำงาน ที่ต้องใช้สายตาหนักตลอดเวลา

    ห้องนี้ประกอบด้วยประตู 3 จุด ประตูเหล็กม้วนด้านหน้า 1 จุด ประตูอะลูมิเนียม กระจก 2 จุด จุดหนึ่งเชื่อมเพื่อเข้าในห้องโถงอาคาร อีกจุดเชื่อมออกไปหาสวนด้านหลัง มี ช่องแสง 2 ชุด เพื่อทำงานร่วมกับประตูกระจกให้แสงอาทิตย์เข้ามาในห้องได้อย่างเต็มที่ ส่วนด้านหน้าที่เป็นประตูเหล็กม้วน เนื่องจาก ออกแบบให้ สามารถนำรถขึ้นมาจอดได้ใกล้ที่สุด เพื่อความสะดวก ในการนำสินค้าเข้าออก



    ห้องที่อยู่ในชั้น 1 ชั้นเดียวกับห้องที่ออกแบบไว้เป็นโกดังและส่วนทำงานแพ็คสินค้าก่อนส่งไปรษณีย์ ห้องนี้ออกแบบไว้สำหรับ เป็นห้องรับแขกที่มาติดต่อบริษัท และ เป็นห้องโชว์รูมสินค้าของบริษัท



    ห้องโถงส่วนี้ (ไม่รวมห้องด้านหลังช่องประตูทั้งหมด บันได และห้องเก็บของข้างบันได) มีพื้นที่ 28.5 ตารางเมตร ปูด้วยกระเบื้องตัดขอบลายหินอ่อนสีเทาอ่อน กระเบื้องที่ใช้ปูมีความคล้ายหินอ่อนมาก ทั้งรูปลักษณ์ที่เห็น และ ทั้งผิวสัมผัส ดังนั้น เมื่อนำมาปูรวมกัน ในลายเฉียง 45 องศา ยิ่งทำให้พื้นของห้อง มีลักษณะแบบเดียวกับ พื้นภายในของอาคารสไตล์ยุโรป ที่เป็นหินอ่อน

    ห้องนี้มีการจัดไฟแบบผสมผสาน โดยมีไฟหลักที่ใช้ทำงาน เป็น ดาวน์ไลท์ ทั้งหมด 8 จุด ซึ่ง ทำให้แสงกระจายได้ทั่วห้องโดยไม่เกิดเงามืดจากการบังแสง เช่นเดียวกับ พื้นที่ส่วนโกดังและแพ็คสินค้า สิ่งที่ห้องนี้มีเพิ่มเติม คือ โคมไฟเพดานแบบยุโรป ที่แยกสวิทซ์ปิดเปิด กับไฟดาวน์ไลท์ โดยสามารถเลือกปิดไฟดาวน์ไลท์ และ เปิดเพียงไฟจากโคม เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งของแหล่งกำเนิดแสง และ ความสว่าง เพื่อให้เกิดมีเงามืดและเงามัวในห้อง และทำให้ห้องดูมีมิติและคลาสสิกมากขึ้น

    ดังนั้น ห้องนี้จึงสามารถใช้งานได้ทั้ง เป็นห้องทำงาน ที่ต้องใช้การกระจายแสงแบบไม่มีเงามืดในการทำงาน และ เป็นห้องรับแขกที่ให้บรรยากาศร่วมสมัย เมื่อเปลี่ยนไปใช้ไฟจุดเดียวจากโคมเพดาน

    ห้องนี้ มีประตูเข้าออกโดยตรงจากหน้าบ้าน มีประตูข้างไปยังห้องโกดังและแพ็คสินค้า มีช่องประตูด้านหลัง ไปยังห้องครัวและห้องน้ำ โดยสามารถทะลุต่อไปยังสวนหลังบ้าน และมีทางขึ้นบันได สำหรับขึ้นไปชั้น 2



    ชั้นสองของอาคาร Home Office เป็นชั้นทำงานของทีมทำธุรกิจ IT ประกอบด้วยห้องหลักๆ 2 ห้อง มีห้องน้ำ 1 ห้อง ระเบียง 2 ที่ พื้นของอาคารชั้นสอง ปูด้วยกระเบื้องแบบแผ่นยาวลายไม้โอ๊ค ที่มีทั้งสี ลาย รวมทั้งผิวสัมผัส คล้ายกับไม้โอ๊ค ซึ่งเป็นสีที่สอดคล้องกับสีของไม้บันได เพื่อให้พื้นดูต่อเนื่องหลังจากขึ้นบันไดมาจากชั้นแรก และให้อาคารมีกลิ่นอายร่วมสมัย เหมือนกับอาคารที่ปูพื้นด้วยไม้เนื้อแข็ง หรือ มีโครงสร้างบางส่วนเป็นไม้เนื้อแข็ง ซึ่งมีราคาแพงมาก

    ข้อดีของกระเบื้องลายไม้ คือความทนทานและดูแลรักษาง่าย ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความชื้นเหมือนพื้นไม้ลามิเนต และมีความทนทานเรื่องการขีดข่วนกระแทก ความชื้น และ เคมี สามารถใช้งานได้นับสิบปี โดยที่สภาพกระเบื้องไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าใด ซึ่ง เหมาะสมที่จะเป็นพื้นที่ต้องรองรับการใช้งานหนัก ทั้งเรื่องการขูดขีดกระแทก และความชื้น จึงสามารถทำความสะอาดได้ง่าย

    ส่วน ฝ้าเพดานของชั้นสอง ปูด้วยไม้ระแนง เพื่อให้เข้ากับพื้นไม้ และเพื่อให้บรรยากาศโดยร่วม มีความร่วมสมัยมากขึ้น



    ห้องแรกของชั้นสอง ที่เห็นหลังจากขึ้นมาจากบันได คือ ห้องโถงอเนกประสงค์ ขนาด 20 ตารางเมตร ที่มีผนังกั้น เป็นกระจก เพื่อความโปร่งของอาคาร และมีประตูกระจกให้สามารถเข้ามาในห้องจากในอาคารได้ ห้องนี้ออกแบบไว้ ใช้สำหรับประชุม ถ่ายทอดความรู้ (งานฝั่งไอที ต้องมีการประชุม ถ่ายทอดความรู้บ่อย) และ เป็นห้องทำงานของทีมงานบางส่วนได้



    ห้องนี้ เชื่อมกับระเบียงด้านหน้า ผ่านประตูกระจกผ่านประตูกระจกขนาดความกว้าง 2.4 เมตร ซึ่งทำให้ห้องดูโปร่ง และ ได้รับความสว่างจากแสงอาทิตย์ ในเวลากลางวัน ส่วนกำแพงของระเบียงด้านหน้า สามารถใช้เป็นกระถาง สำหรับจัดสวนขนาดเล็ก เพื่อตกแต่งให้บรรยากาศของระเบียง และของห้อง ดูร่มรื่นได้



    ห้องอีกห้องของชั้นสอง เป็นห้องที่มีลักษณะยาว ขนาด 25 ตารางเมตร ออกแบบไว้เป็นห้องทำงาน สำหรับทีมงานฝั่งไอที



    ห้องนี้ เชื่อมกับระเบียง ทั้ง 2 ที่ มีประตูเข้าออกทั้งหมด 4 ประตู ประตูที่ใหญ่ที่สุด เป็นประตูกระจกขนาดใหญ่ เชื่อมกับระเบียงด้านหลังซึ่งเป็นระเบียงขนาดใหญ่ เพื่อให้ห้องได้รับความสว่างจากดวงอาทิตย์ ในเวลากลางวัน มีประตูกระจกอีก 2 ประตู สำหรับเชื่อมกับระเบียงด้านหน้า และ ทางเดินภายในตัวอาคาร ส่วนประตูสุดท้ายที่เชื่อมกับห้องน้ำชั้น 2 เป็นประตูกระจกฝ้า



    การจัดไฟในห้องนี้ของชั้นสอง ใช้ไฟหลักในการทำงานเป็นดาวน์ไลท์ ทั้งหมด 12 หลอด ให้แสงสว่างพอและกระจายได้ทั่วห้อง โดยไม่มีเงามืด ส่วนห้องเอนกประสงค์นั้น เนื่องจากติดข้อจำกัดเรื่องความสูงของเพดาน ไม่สามารถฝังดาวน์ไลท์ได้ ระบบไฟหลักเป็นโคมเพดาน ทั้งหมด 2 จุด ที่มีแสงสว่างเพียงพอ



    สำหรับชั้นสาม ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอาคาร มีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ 1 ห้อง ห้องน้ำขนาดใหญ่ 1 ห้อง และ ระเบียงขนาดใหญ่ 1 ที่ ออกแบบไว้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถจัดให้เป็นพื้นที่ ทำงาน หรือ สันทนาการของบริษัท หรือ แม้แต่ เป็นที่อยู่อาศัยได้

    เนื่องจากทรงฝ้าเพดานของชั้นสามเป็นไปตามรูปทรงของหลังค้า คือ เป็นรูปสีเหลี่ยมคางหมู (หลังคาเป็นจั่วสามเหลี่ยม) ห้องโถงนี้เลยเป็นห้องที่มีเพดานสูง จึงได้มีการสร้างชั้นลอย และมีบันไดแบบพับได้ เพิ่มเข้ามาในห้องนี้ ซึ่ง การที่มีชั้นลอยเพิ่มขึ้นมานั้น นอกจากจะเพิ่มเนื้อที่ใช้งานของอาคารได้แล้ว สิ่งสำคัญกว่านั้น คือ ผู้ใช้อาคาร มีพื้นที่สำหรับเปลี่ยนบรรยากาศ การใช้งานอาคารเพิ่ม



    ห้องโถงนี้ มีขนาด 30 ตารางเมตร (ยังไม่รวมพื้นที่ชั้นลอยอีก 7 ตารางเมตร) ถือเป็นห้องโถงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาคารนี้ ห้องโถงนี้ มีระบบไฟทั้งหมด 3 ระบบ คือ ดาวน์ไลท์ 4 ดวงบนฝ้า โคมแขวนบนเพดาน และไฟดาวน์ไลท์ขนาดเล็ก 3 ดวงใต้ฝ้าของชั้นลอย ไฟทั้ง 3 ระบบ สามารถเลือกใช้ เพื่อใช้งานแสงสว่าง หรือ เปลี่ยนบรรยากาศของห้องได้

    ห้องโถงนี้ มีประตูทั้งหมด 3 ประตู เป็นประตูทางขึ้นจากบันได ประตูห้องน้ำ และ ประตูทางเชื่อมไปยังระเบียง



    ประตูทางเชื่อมระหว่างห้องโถงกับระเบียง เป็นประตูกระจกขนาดใหญ่ ช่วยให้ห้องดูโปร่ง และ ได้รับความสว่างจากแสงอาทิตย์ ในเวลากลางวัน

    ตัวระเบียงเป็นระเบียงขนาด 23 ตารางเมตร ลักษณะกึ่งกลางแจ้ง มีทั้งส่วนที่มีหลังคาและไม่มีหลังคา พื้นระเบียงเป็นกระเบื้อง ที่ออกแบบให้ใช้ปูพื้นภายนอกอาคาร ที่รับแรงได้ 200 กิโลกรัม ต่อ ตารางนิ้ว และมีลายคล้ายหินธรรมชาติสีเทา ปูลาย 45 องศา ทำให้มีลักษณะเหมือนพื้นหินสไตล์ยุโรป โดยที่กระเบื้องมีความทนทานเพียงพอ ที่จะสามารถวางกระถางต้นไม้ และ โต๊ะกลางแจ้งที่มีน้ำหนักมากได้



    อีกด้านหนึ่งของระเบียง เป็นหลังคากึ่งกลางแจ้งที่มีลักษณะเป็นระแนงเหล็ก ที่ถูกออกแบบให้แข็งแรงพอ สำหรับรองรับการปลูกไม้เลื้อยให้เป็นระเบียงหลังคาต้นไม้ได้


  • ออกแบบตกแต่งอย่างพิถีพิถัน สไตล์ ยุโรปร่วมสมัย มีความผสมผสานระหว่าง ความคลาสิก และ ความทันสมัย

    คอนเซปในการออกแบบอาคารหลังนี้ นอกจากการออกแบบในเชิงฟังก์ชั่นการใช้งาน ตามด้านบนแล้ว การออกแบบในเชิงความสวยงาม ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ให้ความสำคัญมาก ในการออกแบบอาคารหลังนี้



    การออกแบบอาคารโดยรวม ออกแบบให้มีลักษณะร่วมสมัย โดยให้มีกลิ่นอายของอาคารแบบยุโรป ข้อดีของการออกแบบอาคารให้มีลักษณะร่วมสมัยเมื่อเที่ยบกับการออกแบบอาคารให้มีลักษณะนำสมัยนั้น คือ เมื่อเวลาผ่านไป ตัวอาคารจะไม่ดูเชย ยังคงความร่วมสมัยอยู่

    เอกลักษณ์หนึ่ง ของอาคารร่วมสมัยนั้น คือ มีความผสมผสานกันของ อาคารแบบเก่า(คลาสสิก) กับ อาคารแบบใหม่(ทันสมัย)

    เมื่อเปรียบเทียบระหว่างอาคารแบบเก่า กับ อาคารแบบใหม่ ความแตกต่างหนึ่ง ที่เรามองเห็นได้ง่ายๆ คือ การเลือกใช้วัสดุ อาคารแบบเก่านั้น วัสุดส่วนใหญ่ที่เราพบในอาคาร จะเป็นวัสดุธรรมชาติ อย่างเช่น ไม้ หิน ที่เรามักพบมาก ในอาคารแบบเก่า ส่วนอาคารแบบใหม่นั้น วัสดุที่เราพบ มักจะเป็นวัสดุที่ไม่ได้พบอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ เป็นวัสดุที่มนุษย์เป็นคนออกแบบและสร้างขึ้น อย่างเช่น โลหะ กระจก เป็นต้น

    ดังนั้น เมื่อเราเลือก ออกแบบอาคาร ให้มีลักษณะร่วมสมัย เราจึงเลือกใช้วัสดุส่วนใหญ่ ให้เป็นวัสดุธรรมชาติ (บางอย่างถึงแม้ไม่ใช่ธรรมชาติโดยตรง แต่ก็เลือกให้มีลักษณะใกล้เคียงกับวัสดุธรรมชาติ) ข้อดีของการเลือกใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกเหมือนวัสดุธรรมชาติ นอกจากจะทำให้บรรยากาศของอาคารออกมาดูคลาสสิกแล้ว วัสดุธรรมชาติยังให้ความรู้สึกเป็นมิตรต่อผู้อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายด้วย



    การเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติของเรา เริ่มตั้งแต่รั้ว เราตั้งใจวางแนวต้นโมกพวง ให้เป็นรั้ว โดยที่ยังคงรั้วเหล็กและเสาปูนด้านหลัง เพื่อความแข็งแรงของรั้ว ซึ่งเมื่อต้นโมกเริ่มโตและขยายกิ่งก้านสาขาจนแน่น ก็จะบังรั้วเหล็กและเสาปูนจนมิด และ กลายเป็นตัวต้นไม้ในที่สุด



    การตกแต่งหน้าบ้าน เราก็เลือกใช้หินธรรมชาติเข้ามาตกแต่ง ซึ่งนอกจากจะมีความสวยงาม คลาสสิกแล้ว ยังช่วยให้ตัวบ้าน เย็นขึ้น



    แม้แต่การเลือกแสงและสี แสงที่เลือกใช้เกือบทั้งหมดในตัวอาคาร มาจากหลอดไฟแบบ cool white (หลอดไฟในท้องตลาด มี 3 สี คือ ขาว day light ส้ม warm white และ เหลืองนวล cool white) ซึ่งมีสีของแสงใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์ และ แสงจันทร์มากที่สุด ส่วนสีของผนันที่เป็นสีเทา ก็เลือกสีให้มีความคล้ายกับสีของหินตามธรรมชาติ



    นอกเหนือจากความคล้ายสีของหินธรรมชาติแล้ว สีที่เลือก ต้องมีการตอบสนองกับองค์ประกอบสีแดงที่อยู่ในแสงที่มากระทบได้ในระดับหนึ่ง จะสังเกตได้ว่า เมื่อมีแสงที่มีองค์ประกอบสีแดงที่ไม่เท่ากัน มาตกกระทบสีบนผนัง สีของผนังจะดูแตกต่างกันไปตามองค์ประกอบสีแดงที่อยู่ในแสงที่มาตกกระทบ ซึ่งทำให้บรรยากาศโดยรวม มีมิติ มีความซับซ้อน สวยงามมากขึ้น



    การออกแบบห้องน้ำชั้นสาม ซึ่งเป็นห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาคาร เลือกออกแบบ ให้เป็นห้องน้ำที่มีการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติเกือบทั้งหมด ตกแต่งในไสตล์ร่วมสมัย เป็นห้องน้ำ ที่มีทั้งอ่างอาบน้ำ และ ตู้อาบน้ำ ที่สามารถเลือกใช้งานได้อย่างเป็นอิสระต่อกัน



    บริเวณอ่างอาบน้ำ สามารถใช้งานเป็น อ่างแช่นำเพื่อผ่อนคลาย โดยมีหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่สามารถเปิดเพื่อชมแสงจันทร์ ในขณะที่กำลังผ่อนคลายได้



    ห้องนำบริเวณชั้นสอง เป็นห้องห้องเดียวในอาคาร ที่มีการตกแต่งในสไตล์นำสมัย ห้องน้ำชั้นสอง เป็นห้องน้ำห้องเดียว ที่มีประตูเข้าออก 2 ด้าน ด้านหนึ่งเข้าออกได้จากทางเดินของชั้นสอง ส่วนอีกด้านสามารถเข้าออกได้จากห้องลักษณะยาว



    ห้องน้ำชั้นสอง เป็นห้องน้ำห้องเดียวในอาคาร ที่มีชั้นเก็บของด้านหลังกระจกเงา ชั้นเก็บของด้านหลังกระจกเงา ออกแบบให้เป็นชั้นกระจกและมีดาวน์ไลท์ขนาดเล็กส่องเพื่อให้ดูนำสมัย โดยสามารถใช้งานได้โดยการเปิดบานกระจกเงาออกมา



    โถงบันได ถูกออกแบบให้มีช่องสำหรับแสงอาทิตย์ผ่านให้คว่ามสว่าง และ มีบัวสีขาวคาด ตัดกับสีเทาของผนัง เน้นให้เห็นบรรยาการของอาคารร่วมสมัย



    บริเวณชั้นสามของบ้าน มีการออกแบบบานหน้าต่าง เหล็กดัด ระเบียง และ ไฟกิ่ง ในสไตล์ยุโรปร่วมสมัย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ของการทำงานออกแบบตกแต่งภายในทั้งหมด ที่ทำให้การออกแบบตกแต่งบ้านทั้งหลัง เป็นธีมเดียวกัน



    ภาพแถมท้าย ส่วนโคมไฟเพดานและประตูหน้าบ้าน บริเวณห้องโถงชั้นล่าง เมื่อมองออกไปจากตัวบ้านครับ


ตัดใจขาย!!! Home Office ในอุดมคติ สำหรับทำธุรกิจสมัยใหม่ สไตล์ยุโรปร่วมสมัย เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน


  • เนื้อที่ขนาดใหญ่ 25 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยรวม 215 ตารางเมตร อาคารสไตล์ยุโรปร่วมสมัย สวยงาม 3 ชั้น


  • ตั้งอยู่บนทำเลอุดมคติ สำหรับทำธุรกิจสมัยใหม่ ทั้ง E-Commerce และ IT และถือเป็นทำเลทองสำหรับทำธุรกิจทุกประเภท และ อยู่อาศัย


  • พิถีพิถันออกแบบอาคารให้เป็นอุดมคติ สำหรับใช้เป็นสำนักงานทำธุรกิจสมัยใหม่ ทั้ง E-Commerce และ IT และเหมาะสมในการใช้เป็นสำนักงานสำหรับทำธุรกิจทุกประเภท


  • เริ่มจากตั้งใจจะอยู่เอง วัสดุทุกชิ้นเกรด A หาข้อมูลละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกทุกชิ้น เพื่อให้ใช้งานได้เป็นสิบปี โดยไม่มีปัญหา


  • ทำงานโดยทีมช่างฝีมือดี ดูแลการทำงานอย่างพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่เรียบร้อย ไม่ปล่อยผ่าน


  • พร้อมให้เข้าใช้งานทันที น้ำ ไฟ พร้อม แถมแทงค์และปัีมน้ำ


  • มีการวางระบบ LAN ไว้ล่วงหน้า พร้อมใช้งาน (มีปลั๊ก LAN ข้างปลั๊กไฟ)


อาคาร Home Office หลังนี้ เป็นอุดมคติ สำหรับ



  • เป็น สำนักงาน ของ ผู้ประกอบการธุรกิจ E-Commerce


  • เป็น สำนักงาน+ที่อยู่อาศัย ของ ผู้ประกอบการธุรกิจ E-Commerce


  • เป็น สำนักงาน ของ ผู้ประกอบการธุรกิจ Software และ IT


  • เป็น สำนักงาน+ที่อยู่อาศัย ของ ผู้ประกอบการธุรกิจ Software และ IT


อาคาร Home Office หลังนี้ เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับ



  • เป็น สำนักงาน ของ ผู้ประกอบการธุรกิจทุกประเภท


  • เป็น สำนักงาน+ที่อยู่อาศัย ของ ผู้ประกอบการทุกประเภท


ตัดใจขาย!!! ที่ 3.9 ล้านบาท จากมูลค่าอาคาร 4.5 ล้านบาท เมื่อเทียบอาคารสเปกเดียวกัน ทำเลเดียวกัน หากตัดสินใจจอง ภายในเดือน พฤษภาคม 2557 นี้
หากตัดสินใจจองก่อน 31 พฤษภาคม 2557 คุณจะสามารถเป็นเจ้าของบ้านมูลค่า 4.5 ล้านบาทได้ โดยจ่ายเพียง 3.9 ล้านบาท เท่านั้น!!! (ไม่รวมค่าโอน)


สนใจติดต่อ 081-4074720 คุณยิม

แผนที่สำหรับนัดเข้ามาดูสถานที่จริง



ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3