เพิ่งได้จาก FWD Mail ค่ะ ยาวหน่อย แต่ก็อ่านกันไว้นะคะ



[SIZE="4"]แท็กซี่ กับ การหลอกลวงแบบใหม่
มีเรื่องมาเตือนเพื่อน ๆ ที่โดยสารรถแท็กซี่ค่ะ
เดี๋ยวนี้มีการหลอกลวงผู้โดยสารในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง
ซึ่งเราโดนมากับตัวเอง จึงอยากให้เพื่อน ๆ ระวัง หากเจอแท็กซี่คนนี้ค่ะ



เรื่องมีอยู่ว่า ประมาณ 3 เดือนก่อน เหตุเกิดที่ซอยรามคำแหง 124 เวลาประมาณ
บ่ายโมงกว่า เราออกไปเรียกแท็กซี่หน้าบ้านเพื่อที่จะไปรับลูกที่โรงเรียน
(เลิก 2 โมง) เราเรียกแท็กซี่คันนึงแจ้งสถานที่ ๆ จะไปตามปรกติ
แล้วเราก็นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง จู่ ๆ ก็มีเสียงของแท็กซี่พูดขึ้นมาว่า
(ขอเล่า เป็นบทสนทนานะคะ)


แท็กซี่ : ( พี่รู้ไหม....พี่จะเป็นผู้โดยสารคนสุดท้ายของผม...)
เรา : ตกใจ และนึกในใจ (ตายล่ะ มันจะเอาเราไปทำฆาตกรรมหรือเปล่าเนี่ย)
แต่ก็ทำ ใจดีสู้เสือ แล้วพูดออกไปว่า (เอ่อ...คุณหมายความว่าไงเหรอค่ะที่จะเป็น
ผู้โดยสารคนสุดท้าย)
แท๊กซี่ : ( หลังจากส่งพี่เสร็จ...ผมก็เอารถไปส่งเถ้าแก่เค้า...เถ้าแก่บอกว่าถ้าวันนี้ผมไม่ส่งเงิน
ประกันรถเค้าก็จะไม่ให้ผมขับอีก...แล้วผมไม่มีเงินให้เถ้าแก่เค้า
ผมคงต้องเลิกอาชีพแท็กซี่ที่ขับมา 9 ปี)
เรา : (อ้าว คุณก็ลองรับผู้โดยสารไปเรื่อย ๆ ซิ เดี่ยวก็คงได้เงินไปจ่ายให้เถ้าแก่)
แท็กซี่ : (เถ้าแก่เค้าจะเอาเงินค่าประกันรถ 2700 แต่รายได้ต่อวันก็แค่ 700-800 หักค่าส่งรถ ก็
เหลือให้ลูกเมียไม่เกิน 200 บาท)
เรา : (งั้น คุณขอผัดผ่อนเถ้าแก่ไปอีกหน่อยสิ เผื่อจะมีทางเลือกอื่น หรือหยิบยืมคนรู้จักก่อน)
แท็กซี่ : ( เถ้าแก่ผมเค้าใจดีมากครับ จริง ๆ ค่าประกันรถทั้งหมด 4700... เถ้าแก่แกช่วยออกให้
2000 ... ส่วนต่างผมต้องเป็นคนหามาเอง...แต่ผมก็ไม่มีเงินก้อนนั้นหรอก)
แท็กซี่ : (ก่อนรับพี่ขึ้นมา ผมแวะไปหาเพื่อนที่ฉะเชิงเทราเพื่อขอยืมเงินมัน เพื่อนผมคนนี้คบกันมา
ตั้งแต่สมัยยังทำงานเป็นเด็กขับรถเข้าซองในโรงแรมม่านรูดด้วยกัน...
รู้จักกันมา 10 ปี ..มันบอกว่าถ้าเดือดร้อนอะไรให้ไปหามันได้ทุกเมื่อ)
เรา : (แล้วสรุปเพื่อนว่ายังไงล่ะ)
แท็กซี่ : (พอผมไปถึงบ้านมัน มันทำท่ารังเกียจที่เห็นผมขับแท็กซี่ มันไล่ให้ผมออกไปจากบ้านเลย
ครับ มันไม่อยากให้คนรอบบ้านรู้ว่ามีเพื่อนเป็นคนขับแท็กซี่)


แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แท็กซี่คนนี้เริ่มร้องไห้ออกมา เราซึ่งตอนนั้นรู้สึกงง ๆ ตั้งรับไม่ทัน ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอแท็กซี่ร้องให้ เลยไม่รู้ว่าจะต้องยังไงต่อไป


เรา : ( เอ่อ...ถ้างั้นคุณลองติดต่อพวกอิออน หรือควิกแคชเผื่อจะช่วยได้)
แท็กซี่ : (ผมขับแท็กซี่ไม่มีใบเงินเดือน เค้าคงไม่ให้ผมหรอก พี่รู้ไหม ผมโตขึ้นมาเนี่ยยังไม่รู้เลยว่าพ่อแม่เป็นใคร พอผมจำความได้ ผมก็โตมากับโรงแรมที่ผมทำงานเป็นเด็กขับรถเข้าซอง คนที่นั่นเค้าช่วยกันเลี้ยงผม หลังจากเจอแฟน ผมก็ออกมาขับรถแท็กซี่ ตอนนี้ผมมีลูกแฝดสองคน ส่วนแฟนผมหลังคลอดลูกเค้าก็ไม่สบาย จนตอนนี้เดินไม่ได้แล้ว ผมต้องไปรับยาที่โรงพยาบาลจุฬา ฯ ทุกเดือน)


เป็นจังหวะที่แท็กซี่เลี้ยวเข้าซอยโรงเรียนลูกพอดี ปรกติเราจะจอดรถด้านหน้าโรงเรียน แต่วันนั้นฝนตกหนักน้ำเลยท่วมด้านหน้า เราเลยบอกให้แท็กซี่จอดเทียบประตูโรงเรียนด้านข้างแทน แต่ แท็กซี่ก็แสนจะมีน้ำใจบอกว่า


แท็กซี่ : ( ไม่เป็นไรหรอกพี่ ผมขับลุยน้ำลงไปได้ เอาให้พี่รับน้องสะดวกดีกว่า)
เรา : นึกในใจ โห...มีน้ำใจเหมือนกันนะเนี่ย แล้วพูดออกไปว่า ( น้ำมันท่วมสูงเหมือนกันนะ เดี๋ยวรถคุณเกิด
เสียขึ้นมาแล้วจะลำบาก)
แท็กซี่ : (ไม่เป็นไรหรอกพี่ ไหน ๆ ผมก็จะไม่ได้ขับรถแท็กซี่อีกแล้ว ผมขอบริการผู้โดยสารละกัน)
เรา : เริ่มใจอ่อน (เอ่อ....ถ้างั้นเดี๋ยวคุณรอรับกลับด้วยละกัน)
แท็กซี่ : (ได้ครับพี่ ตามสบายเลยนะครับ)


พอเรารับลูกออกมาจากโรงเรียนกำลังเดินมาจะถึงรถแท็กซี่ก็รีบกุลีกุจอเปิดประตูให้ขึ้น


แท็กซี่ : (พี่ไม่ต้องรีบนะ ค่อย ๆ ให้น้องเข้ามาเดี๋ยวหัวโขก)
เรา : เข้าไปในแท็กซี่เรียบร้อยแล้ว และเริ่มคุยกับลูกเรา ถามโน่น ถามนี่ ระหว่างสองคนแม่ลูก จู่ ๆ ก็มีเสียแทรกขึ้นมา
แท็กซี่ : (ลูกพี่โชดดีจัง ได้เรียนหนังสือ... ลูกผมยังอดมื้อกินมื้ออยู่เลย ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องเรียน)


ต่อค่ะ


บรรยากาศเริ่มเป็นเหมือนเมื่อตะกี้ อีกแล้ว แท็กซี่เริ่มพูดถึงเกี่ยวกับชีวิตตัวเองด้วยเสียงสั่นเครือ
คราวนี้ไม่ได้ร้องออกมา แต่ก็น้ำตาปริ่ม ๆ จนเราคิดว่าจะให้เงินเพิ่มไปอีกหน่อยละกันตอนลง
ตอนนั้นค่ามิเตอร์อยู่ที่ประมาณ 70 บาท
คิดว่าถ้าถึงบ้านจะเข้าไปถามแฟนก่อนว่าควรจะให้เท่าไหร่ดี
พอแท็กซี่จอดหน้าบ้านปุบ เราบอกว่ารอแบบนึงเข้าไปเอาตังค์ก่อน
แท็กซี่ตอบกลับมาว่า ถ้าพี่ไม่มีตังค์ไม่ต้องจ่ายก็ได้ครับ
ถือว่าผมให้บริการผู้โดยสารคนสุดท้ายของผม โอ้ววว...ประโยคนี้มันแทงใจจัง
ต้องรีบไปคุยกะแฟนโดยด่วน หลังจากหายเข้าบ้านไปปรึกษาแฟน
สุดท้ายคุณแฟนให้ข้อสรุปว่าเราจะให้เงินเค้าพิเศษเท่ากับจำนวนที่เค้าจะต้องไปจ่ายให้เถ้าแก่
เพื่อที่ว่าเค้าจะได้มีอาชีพเลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัวต่อ
เค้าให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าปรกติเราก็ไปบริจาคของให้มูลนิธิทุกเดือนอยู่แล้ว
ทีนี้มีคนเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือถึงที่มันก็เหมือนกับการที่เราไปบริจาคของนั่นแหละ
น่าแปลกที่ตอนนั้นเราและแฟนไม่ได้คิดเรื่องหลอกลวงใด ๆ เลย
อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่เคยเจอใครมานั่งร้องไห้ให้ดูโดยเฉพาะระหว่างแท็กซี่และผู้โดยสาร
จริง ๆ เราก็คิดว่ามันผิดปรกติ แต่กลับคิดไปในทางบวกว่าเค้าคงอัดอั้นกับชีวิตจริง ๆ
(เฮ้อ...แอบโง่นะเนี่ย) เรากลับออกไปยื่นเงินให้แท็กซี่
พอแท็กซี่เห็นจำนวนเงินที่เราให้ก็ทำตาโต (แนวตกใจ)
ขอย้ำทำตาโตจริงๆ แล้วก็ละล่ำระลักพูดว่าขอบคุณครับพี่ เสียงยังคงสั่น ๆ
เหมือนเดิม เราก็เลยพูดออกไปว่า
(เงินก้อนนี้ ให้เอาไปให้เถ้าแก่จ ? ได้มีอาชีพเลี้ยงลูกเมียต่อไป)
ตอนนั้นเราก็จุกอยู่ที่คอเหมือนกันตอนมองหน้าแท็กซี่
เห็นเค้าทำตาแดง ๆ จะร้องออกมา เราเลยตัดบทว่า
ไปเถอะ ....แล้วแท็กซี่ก็ขับออกไป


คุณเชื่อเรื่องกรรมติดจรวดไหมค่ะ


เมื่อวานนี้ 07.30 น. หน้าปากซอยรามคำแหง 124
เราออกมาเรียกแท็กซี่หน้าบ้านให้ไปส่งที่ทำงาน
รถติดตรงถนนรามคำแหง เห็นรถแท็กคันสีชมพูคาดขาวจอดเปิดไฟว่างอยู่คันนึง
ก็เลยเดินไปแล้วเปิดประตูเข้าไปอยู่ในรถ
คนขับพอรู้ว่ามีผู้โดยสารขึ้นมา ก็รีบเปิดแอร์เร่งระบายกลิ่นบุหรี่ออกไป
เพราะเค้าเพิ่งจะสูบเสร็จ เราบอกให้คนขับชิดขวาทันทีเพราะต้องกลับรถ
ระหว่างที่คนขับตีรถออกขวานั้น บทสนทนาก็เริ่มต้นขึ้น


แท็กซี่ : ( พี่รู้ไหม....พี่จะเป็นผู้โดยสารคนสุดท้ายของผม...)
เรา : อึ้ง ไปประมาณ 5 วิ (ทำไมประโยคนี้มันเหมือนกับ.... แต่ตอบออกไปว่า (เหรอค่ะ..) ตาเราเริ่มมองไปที่ กระจกหน้ารถที่เอาไว้มองข้างหลัง เห็นช่วงตาของคนที่พูด... ใช่มันจริง ๆ ด้วย ความรู้สึกเหมือนโดนทุบที่หัวเลย แล้วเราก็รู้สึกว่าความโกรธมันพุ่งขึ้นมามาก ๆ ๆ ๆ ๆ


แท็กซี่ : ยังคงพล่ามต่อไป และคงจะเริ่มสังเกตว่าผู้โดยสารไม่ได้ต่อบทสนทนากับมัน
มันเลยเหลือบตามองกระจกหน้ารถมองมายังเรา พอมันเห็นเราปุบ มันก็เริ่มเงียบ
เรา : (เดี๋ยวคุณจอดตรงสะพายลอยข้างหน้าเลย)
แท็กซี่ : (ครับ...) บรรยากาศเริ่มมาคุ แล้วมันก็จอดตรงที่เราบอก
เรา : (คุณ อนันต์ คุณจำดิชั้นได้ไม๊!)
แท็กซี่ : ค่อย ๆ หันมา ทำหน้าช็อค แล้วพยักหน้าพร้อมพูดว่า ( ครับ...)
เรา : (ดี....ไว้เจอกันที่สถานีตำรวจ!)


แล้วมันก็รีบบึ่งรถออกไป ความรู้สึกตอนนั้นเราโกรธมาก ๆ ๆ
พอถึงออฟฟิศเลยโทรไปกรมขนส่งทางบกแจ้งเรื่องให้ทราบ ทางกรมฯ
แนะนำให้โทรบอกจส. 100 กับร่วมด้วยช่วยกัน
เราก็โทรไป ทางเจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้แล้วจะแจ้งประชาสัมพันธ์ให้
ดีที่เราจำชื่อคนขับ ทะเบีนนรถได้ ตอนเย็นเราเลยไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจบางชัน
ตรงนี้ขอขอบคุณ พันตำรวจโท พงษ์พัฒน์ ใจดี เป็นคนรับเรื่อง
ซึ่งท่านก็ใจดีสมกับนามสกุล
ท่านได้รีบโทรสอบทางไปยังกรมขนส่งทางบกเพื่อหาสังกัดของแท็กซี่คันนี้
ขณะที่นายตำรวจอีกคนหนึ่งได้ช่วยค้นหาชื่อจากระบบ
จนกระทั่งได้ที่อยู่ ของคนขับแท็กซี่ และขั้นตอนต่อไปคือ
ทางตำรวจจะดำเนินการติดต่อไปยังแท็กซี่เรียกเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และเรียกเราเข้าไปด้วย ซึ่งเราก็พร้อมที่จะไป สำหรับเพื่อน ๆ
หากเจอลักษณะเดียวกับเรา ให้ดูชื่อคนขับก่อน หาก เป็น
นาย อนันต์ ศรีอินทร์ ขับรถแท็กซี่สีชมพูคาดขาว ทะเบียร ทร- 9119
ให้ระวังไว้ค่ะ สำหรับเรา มองในมุมกลับ ตลกดีเหมือนกัน เ
พราะเราเคยสงสัยเหมือนกันว่าเค้าโกหกเราหรือเปล่าหรือเค้าลำบากจริงๆ
แต่ด้วยความที่เราตั้งใจช่วยเหลือเค้าจริงๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงสงสารเราที่โดนมันหลอก
เลยดลบันดาลให้เรามาพบมันอีกครั้ง ทั้งที่แท็กซี่มีเป็นแสนคัน
แต่ทำไมต้องบังเอิญมาขึ้นคันของมัน.!

ทำไมเลวอย่างนี้เนี่ยหากินกะความสงสารของคนอื่นๆๆๆ

ขอบคุณมากเลยนะครับ

เพราะถ้าเป็นนิคก็คงให้อะครับผม

ขอให้จับได้เร็วๆๆไม่รู้ไปหลอกใครมาบ้างหรือเปล่าเนี่ยๆๆๆ

โอ๊ย สะใจ ขอให้โดนจับไวไวเลย ไอ้พวกคนแบบนี้
ทำแบบนี้กับคนอื่น ชาตินี้จะมีวันเจริญไหมเนี่ย

เฮ้อ ทำไปได้ มาล้อเล่นกับน้ำใจคน

ชอบหากินกันแบบง่ายๆ แบบเสียความรู้สึก
ขอให้กรรมติดจรวดเลยนะคะ

[SIZE="4"]เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆเลยค่ะ:eek:

แต่อย่างหนึ่ง ที่อุ้มอยากบอกว่า คุณจขกท.ทำถูกต้องแล้วค่ะ ไม่ว่าจะให้เงินแท็กซี่ไป ถ้าเป็นของจริงก็ถือว่าเราได้ทำบุญไป แต่เมื่อไม่ใช้ ก็ดีแล้วค่ะ ที่นำเรื่องนี้ไปแจ้งความ และเป็นอุทาหรณ์สอนใจได้ดีเลยค่ะ

นับถือในน้ำใจ จขกท.จริงๆค่ะ:)

มันคงหาเหยื่อเฉพาะผู้หญิงนะคะ

เพราะผู้หญิงส่วนมากจะใจอ่อน......

เกลียดคนแบบนี้ที่สุด....ดดด

ขอให้มันโดนจับได้เร็วๆ ด้วยเถอะ

เลิกขับแท๊กซี่แล้วไปเล่นละครดีกว่ามั๊ง น่าจะรุ่ง . .

ถ้าเค้าเจอบ้างจะได้จำไว้ จะบอกว่า "เดี๋ยวขอเบอร์เถ้าแก่หน่อย จะรับเคลียร์หนี้ให้พี่เอง" อารมณ์แบบเคยเจอคุณป้าแก่ที่กาญจนบุรี เดินมาขอเงินบอกว่า หิวมาก อยากหาของทาน พอไปซื้อข้าวมาให้ โยนทิ้งถังขยะเฉยเลย . . ที่แท้แกจะเอาแต่เงิน (เอ๊ะ หรือป้าอยากทานพาสต้า?)

ปล. เค้าเคยขึ้นรถแท๊กซี่คันเดิม ๆ บ่อยมาก สมัยเรียน . . คนขับบางคนถึงกับจำได้ว่า น้องที่เคยไปลงที่นี่ที่นั่นใช่ไม๊ - -"

ฟังแร้วขนลุกค่ะ



ขนาดยังไม่ตายยังมาหลอกได้ขนาดนี้
ถ้าตายไปแล้วจะหลอกได้น่ากัวขนาดไหน

[SIZE="5"]--"

taxi นิสัยไม่ดีจังเลย
ส่วนตัวหาก taxi ชวนคุย เราจะถามคำตอบคำ จนเค้าไม่คุยกะเราไปเลย
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

อืมมมม...............อ่านแล้วก็ตลกไปอีกแบบ บางทีมองในแง่ร้ายคงจะสอนให้รู้ว่าการมีน้ำใจนั้นไม่ดีเท่าไหร่ แต่ขอชมเชยที่ครั้งแรกที่มีน้ำใจอย่างเหลือเฟือ แต่มาเจอครั้งที่สองก็คงพูดได้แค่ว่าโลกมันแคบจริงๆครับ ฮ่าๆๆ

ป.ล.ไปแจ้งตำรวจตามตัวมันมา สั่งสอนซะให้หายอยากครับ ส่วนเค้าจะกลับตัวกลับใจมั้ย คงไม่มีทางจะรู้ได้ แต่ที่รู้แน่ๆ คือ เค้าจะไม่มาวิ่งรถแถวรามอีกแน่ๆครับ ฮี่ๆๆ

สำหรับบางคนกรรมติดจรวดมิสไซล์จริงๆ :rolleyes:

น่าจะไปเล่นช่อง 7 เนอะ
คนแบบนั้นแหละทำให้เราไม่อยากทำบุญ ไม่ดีเลย

[SIZE="4"]อย่างนี้เค้าเรียกว่ากรรมติดจรวดค่ะ ไม่ต้องรอเลย ....แท็กซี่มีเป็นแสนๆคันไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าจะเจอกันได้

[SIZE="4"]อ่านแล้วก็น่าเห็นใจนะคะ คุณรึอยากจะช่วยด้วยความเต็มใจ
แต่เค้ากลับใช้จุดอ่อนของคุณ หลอกเอาเงินคุณซะงั้น
อย่างนี้ต้องให้เค้าชดใช้กรรมค่ะ ฝนเองก็เชื่อว่ากรรม
สมัยนี้ติดจรวดจริงๆ ค่ะ ใครทำไรไว้ ก็จะได้รับอย่างนั้น
ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า...

โลกกลมแท้ๆ
กรรมติดจรวดเลยค่ะ
เฮ้อ...คนเรา สรรหาวิธีหลอกเอาเงินคนอื่นจริงๆ

[SIZE="2"]ไม่ชอบเลยค่ะ คนแบบนี้ทำให้คนที่เค้าจิตใจดี

สงสารคน อยากจะให้โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

เค้ามาทำลายความรู้สึกดีๆของคนอ่ะค่ะ

ทำให้เราต้องระวังตัวเองมากขึ้น ไม่อยากไว้ใจใคร(อีกแล้ว)

ไม่ชอบเลยค่ะ ที่เราจะต้องเป็นคนที่มองอะไรต้องคิดให้ดี ลึกซึ้งมากขึ้น

[SIZE="3"]วันนี้ดูช่องสามแอบดีใจมีแทกซี่ดีๆๆ
แต่มาตอนนี้คนดีน้อยกว่าคนเลว จริงๆๆ

เกลียดพวกที่เห็นผู้หญิง(ขี้ใจอ่อน)เป็นเหยื่อ[SIZE="4"]

เพื่อนก็เคยเจอ แต่เป้นแนวลามก

ไปเที่ยวราตรี กลับบ้าน ตี 1 กลับมาสองคน เพราะซอยเดียวกัน คนแรกลงกลางซอย

ส่วนเพื่อนลงสุดซอย เพือนจ่ายเงิน และกำลังจะก้าวออกจากแท๊กซี่ แท๊กซี่จับนม แล้วก็ขับรถ

ออกไป เพื่อนตกใจ ทำอะไรไม่ถูก จำแต่หน้าได้ ทะเบียนรถไม่ได้จำ เจ็บใจมาก

1 อาทิตย์ ผ่านไป เพื่อนเลิกงาน วันนี้กลับแท๊กซี่ดีกว่า โบกรถ ขึ้นไปนั่ง อ้าว...

หน้าคุ้นๆ ตกใจ เลยบอกว่าไปสถานนีตำรวจ พอไปถึงให้แท๊กซี่ รอตังค์

ขึ้นไปบอกตำรวจและทีมรวมกตัญญู ที่เพื่อนรู้จัก จัดการแท๊กซี่ แท๊กซี่รับสารภาพ

บอกว่าทำมาหลายคนแล้ว แต่นึกว่าคนนี้เป็นกระเทย อ้าวว่าไปนั่น

เรื่องนี้ลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งด้วยค่ะ

อีกเรื่องเกิด กับตัวเอง และแฟน

นั่งรถไปบ้านแฟน เข้าซอยลึก แท๊กซี่ ที่ดูเป็นลุงใจดี

ถามเราว่า หนูเอาแป๊ะไหม (เฮโรอิน) สมัยนั้น ยาม้ายังไม่เกิด

เรางง ทำไรไม่ถูก ได้แต่บอกว่าไม่เอาค่ะ

เพราะคนเป็นกันแบบนี้ ทำให้เรากลัวที่จะ "ให้" นะเนี่ย


จขกท. เป็นคนดี มีน้ำใจจิงๆ ค่ะ

ปล. จับมันเข้าคุกให้ได้นะคะ จะได้หลาบจำ

ผมนึกหน้าคนขับแท๊กซี่ไม่ออกจริงๆ 555+++

สงสัยเพราะพี่ทำบุญเยอะครับ เรื่องเลยกลับเป็นแบบนี้:D

เมื่อหลายเดือนก่อน ข้างร้านเราก็เล่าให้ฟังว่าเจอแท๊กซี่ประมาณนี้เลย
เค้าเลยให้ตังค์ไปพันนึง ไม่รู้คนเดียวกันรึเปล่า
เดี๋ยวลองไปถามดู

ทำกันแบบนี้เลยเหรอ เพราะเป็นเราก็อาจจะให้เงินเค้าไปเหมือนกันค่ะ
แต่เงินที่ให้ไปแล้วแล้วตั้งใจช่วยเหลือเค้าเราก็ได้บุญนะคะ
ส่วนเค้าหลอกลวงเราเค้าก็รับกรรมไป อย่างที่ได้เจอคุณเจ้าของกระทู้รอบสองนี้ไงคะ

เราก็เคยเจอนะคะนานมากแล้วตอนยังเรียนอยู่เดินอยู่สยาม มีผู้ชายวัยรุ่นแต่งตัวดีเชียว
ถือหนังสือภาษาอังกฤษเล่มใหญ่ เดินเข้ามาหาเราบอกว่าทำกระเป๋าสตางค์หาย
ลืมไว้ที่ตู้โทรศัพท์กลับไปก็ไม่อยู่แล้วไม่มีเงินกลับบ้าน
ช่วยหน่อยได้มั้ยครับ เราก็เลยลองถามเค้าว่า ค่ารถเท่าไหร่
เค้าก็บอกว่านั่งรถ 2 ต่อก็ 35 บาท เราเห็นว่าเงินมันไม่ได้เยอะมากก็เลยหยิบให้ไป
เค้าก็ยกมือไหว้ขอบคุณเราซะดิบดี แล้วจากนั้นเราก็เดินไปเดินมาจนมาถึงมาบุญครอง
เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงชั้นสองปุ๊บ เราก็เหลือบไปเห็นว่าผู้ชายคนนี้เค้าก็กำลังเล่นละครบทเดิมกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งอยู่
ตอนนั้นในใจเราวาบเลย โกรธมาก เลยตั้งใจจะเดินเข้าไป แต่มันหันมาเห็นเราก่อนคงคุ้นๆหน้า
มันก็เลยรีบเดินหนีไปเลย เราก็บอกผู้หญิงคนนั้นว่า เราโดนหลอกไปแล้วเมื่อกี้นี้เอง
เงินจำนวนไม่เยอะ แต่ถ้าเดินขอหลายๆคน ก็เป็นกอบเป็นกำเหมือนกันนะ
แย่มากๆอ่ะคนแบบนี้....


ขอบคุณนะคะที่มาเตือนกันค่ะ

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ มีประโยชน์ ครับ จะได้ระวังตัวครับ :D
คนดีพระคุ้มครองครับ :D

เจอแบบนี้เหมือนกันเลยคะ แล้วก็เจอบ่อยมาก ตรงสยาม คนเดิมด้วย แต่งตัวเหมือนนักศึกษา มาขอตังค์ ตอนแรกสงสาร ก็ว่าจะให้ แต่คิดไปคิดมา ไม่ให้ดีกว่า เคยคุยกะเค้าด้วย ว่าทำไมไม่นั่ง Taxi กลับบ้าน แล้วไปเก็บตังค์กะที่บ้านหล่ะ เค้าก็เงียบๆ แล้วเดินไปเลย เราก็งงๆ.... แต่ก็ช่างเค้า เอ้..จะเป็นคนเดียวกะ K.natty รึป่าวคะเนี๊ยะ ...

โหย ถึงกับบีบน้ำตากันเลยเหรอ

ไปเล่นละคร ท่าทางจะรุ่งกว่าขับแท็กซี่นะเนี่ย

ส่วนตัว ตอนนี้ เวลาทำบุญ จะพยายามไม่คิดมากค่ะ

เมื่อก่อนเคยเสียความรู้สึกมาแล้ว พวกขอทานที่แกล้ง ตาบอด เดินไม่ได้

เราก็ให้ด้วยความสงสาร ปรากฎว่าเค้าแกล้งทำ แถมเอาเงินไปนั่งกินเหล้าเฉย...

เลยระแวงไปพักนึง ไม่กล้าให้เงินขอทานค่ะ

แต่คิดอีกแบบนึง ใจเราเป็นทาน ถ้าคิดว่าจะให้เป็นทานแล้ว อย่าไปคิดมาก

คนที่เค้าหลอกเรา จะบาปเอง

แต่อันนี้นี่ จุดใต้ตำตอจริงๆ

แต่อยากเตือนเจ้าของกระทู้นะคะ อย่าไปมีเรื่องมีราวเลยค่ะ เค้ารู้จักบ้านเราแล้วด้วย

อโหสิให้เค้าเถอะค่ะ

[SIZE="4"]โอ้ !! อ่านไปเข้าใจผิดหลายคนอยู่

[SIZE="6"]
[SIZE="5"]
ได้ FWD Mail มาค่ะ เลยเอามาแบ่งปัน


เป็นไปได้ อยากให้เอาเงินไปทำบุญตามพวกองค์กรหรือโรงพยาบาลที่เค้าต้องการความช่วยเหลือจริงๆจะดีกว่าอ่ะค่ะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ เพราะคนพวกนั้นเค้าต้องการความช่วยเหลือจากเราจริง แล้วไม่ต้องมาเสียความรู้สึกกันด้วยค่ะ