[SIZE="5"]
[SIZE="5"]จะไปเมกาปลายเดือนมีนากับแฟนแต่แฟนได้วีซ่า 10 ปีแล้วแต่เรายังไม่เคยไปจะยื่นขอเป็นครั้งแรก แต่มีปัญหาว่าทำงานกับครอบครัวแฟน จึงไม่เคยมีสริปเงินเดือน
และ อยากรู้ว่าใบรับรองงานสามารถทำเองแล้วให้แฟนเซ็นค้ำได้รึเปล่า เพราะชื่อร้านเป็นของแฟนค่ะ
แล้วอีกอย่างคือยังไม่ได้แต่งงานกันค่ะสามารถค้ำกันได้รึเปล่าค่ะ

ขอบคุณพี่ๆSBN ทุกๆคนค่ะ

ออกหนังสือรับรองเงินเดือนในนามร้านของแฟน แล้วให้แฟนรับรองได้ค่ะ

ขอให้ได้วีซ่า ไวๆนะคะ

ตามความเหนข้างบนเลยคะ แล้วก้ยื่น statement ตัวเองก้ได้แล้วคะ ^^

ให้แฟนรับรองว่าเป็น "fiance" ค่ะ

[SIZE="5"]มีอีกคำถามนะค่ะ ยื่นขอคนเดียวหรือไปจ้างให้เอเจนซี่ยื่นให้พร้อมทัวร์ดีกว่าค่ะ เห็นว่ามีรับจ้างค้างจ้างประมาณ 1000บาทค่ะ

ขอถามนิดนะคะว่าเป็นสามีภรรยากันแต่ไม่ได้จดทะเบียนใช่ไหมคะ ถ้าใช่เวลายื่นแบบกรอกหรือ Electronic Visa Application Forms หรือ DS-156 เค้าจะให้คลิกเลือก married หรือ single(never married) หรือ windowed หรือ divorced และ separated ให้เลือก married และหลังจากพิมพ์ออกมาแล้วใช้พิมพ์ดีดไฟฟ้าพิมพ์เพิ่มด้านบนตัวเลือก married ไปว่า de facto ซึ่งคือการอยู่กันฉันท์สามีภรรยาแต่ไม่ได้จดทะเบียน (ซึ่งบางครั้งคู่สามีภรรยาจัดงานแต่งหรือตัดสินใจครองคู่กันแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสก็มาก) ส่วนใน DS-157 ข้อ 5 ที่เป็นชื่อ Spouse ก็ลงชื่อแฟนคุณ

ส่วนจดหมายรับรองงานก็ให้ใช้หัวกระดาษร้านค้าของแฟน โดยจะออกเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้และให้เจ้าของเซ็นรับรองหรือถ้าเป็นแฟนคุณก็ให้เขาเซ็นรับรอง ส่วน financial statements ถ้าคุณสองคนอยู่กันฉันท์สามีภรรยา ถ้าคุณมีของคุณเองก็ใช้ของคุณ ถ้ามีบัญชีชื่อร่วมกันก็ใช้อันนั้นหรือจะทั้งสองอันรวมกันก็ได้จะดีมาก(ถือเป็นการรับรองสถานภาพสมรสทางสังคมอีกอันหนึ่ง) หรือถ้าไม่มีก็ใช้ของแฟนคุณ(แต่เป็นการเพิ่มจุดด้อยให้กับการสมัครขอวีซ่า)โดยให้แฟนคุณทำจดหมายรับรองอีกฉบับว่าคุณอยู่กันฉันท์สามีภรรยาและเขาจะรับรองค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะมีขึ้นแก่คุณจขกท.


โชคดีในการขอวีซ่านะคะ เป็นอย่างไรมาส่งข่าวกันด้วยนะคะ ^^*

นั้น



เภาก็ไม่รู้ว่าไปกับทัวร์เขาทำกันยังไง แต่เท่าที่รู้ผู้สมัครต้องไปยื่นเอกสารเองและสัมภาษณ์ ณ วันนั้นเลย ให้ใครไปแทนไม่ได้ ได้หรือไม่จะรู้เลยเพราะเค้าจะส่ง passport กลับมาที่ผู้สมัครทางไปรษณีย์ถ้าวีซ่าผ่าน ถ้าไม่ผ่านจะคืนทุกอย่างให้ที่หน้า counter สัมภาษณ์นั้นเลย

ผู้สมัครต้องทำนัดเวลาทาง online หรือใช้ PIN คือทำนัดเวลาทางโทรศัพท์ เภาแนะให้ทำทาง online ดีกว่าสะดวกกว่ามากและควรให้ระยะเวลาเผื่อไว้ 1 เดือนขึ้นไปก่อนการเดินทางเพราะเราจะไม่รู้ว่าจะมีวันไหนว่างจนกว่าจะเสียตังค์เข้าไปทำนัดเวลาแล้วเท่านั้นค่ะ

เภาว่าทางทัวร์คุณคงช่วยกรอกใบสมัครให้และคงทำนัดเป็นกลุ่มเข้าไปแต่แยกสัมภาษณ์ทีละราย น่าจะโทรถามทางบริษัททัวร์ก่อนนะคะกรณีนี้ ^^*

ตามที่คุณเภาแนะนำเลยค่ะ ขั้นตอนการนัดทางสถานฑูตค่อนข้างใช้เวลา ยื่นไว้เนิ่นๆดีกว่านะคะ เห็นว่าที่ กทม คิวยาวมาก คืบหน้ายังงัยมาบอกกันบ้างนะคะ

ไม่รู้ขั้นตอนค่ะ แต่มาCFว่าคิวยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

วันนั้นไปยืนรอหนน้าสถานฑูตตั้ง3ชม ค่ะ

ลองดูข้อมูลตามนี้นะคะ



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lovergirl&month=10-2006&date=06&group=11&gblog=27

*สิ่งที่เค้าต้องการมากที่สุดก็คือการที่เรามีหลักฐานว่าเราจะแค่ไปเที่ยว ไม่ต้องการหลบหนีเข้าเมือง กรณีหญิงยังไม่แต่งงานจะถูกเพ่งเล็งเปนพิเศษ ฉะนั้นคุณต้องมีหลักฐานที่ดีค่ะ เช่นว่ามีรายได้เงินเดือน ควรจะมากนิดนึง ทำงานมานาน หากว่าเงินเดือนไม่มากก็ควรมีหลักทรัพย์ เช่นมีstatement บ้าน ที่ดิน รถ อาจจะเปนของคุณพ่อคุณแม่ก็ได้ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียน หรือพาสปอร์ต มีการเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน ก็จะช่วยได้มาก
*ควรจะแสดงตัวว่าเปนคู่หมั้น หรือ อยู่ด้วยกันแต่ไม่จดทะเบียน ดีกว่าเปนโสด
*เราว่าagency ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก แค่กรอกข้อมูลเท่านั้นเอง อย่างไรตัวเองก็ต้องไปยื่นเองอยู่ดี เจ้าหน้าที่บางคนพูดไทยพอได้ค่ะ
*ความจริงเวลาสมัครเค้าจะให้เลือกวันค่ะ มีปฏิทินให้คลิก แล้วเลือกเวลารอบละชั่งโมง อะไรประมาณนี้ แต่ก็แนะนำให้เลือกเช้าที่สุด ตอนเราไปทำเลือก11.00 มีหางแถวรอบก่อนเยอะเลย แต่ขั้นตอนเร็วมาก จำได้ว่าไม่ได้ถามอะไรเลย ตอนแรกก็มีคนบอกว่าคิวยาวเปนเดือน แต่พอคลิกเข้าไปจริงๆ ว่างตั้งแต่อาทิตย์หน้าเชียว

อย่างที่คุณ drpom บอกนั่นแหละค่ะ ที่เขาต้องการคือจุดประสงค์ที่ชัดเจนของคุณว่าจะไปทำอะไร ถ้าคุณมีเงินเดือน มีงานประจำที่ไทย ยิ่งไม่น่าเป็นห่วงเลยค่ะ ส่วนขั้นตอนการนัดสถานทูตและการกรอกแบบฟอร์มต่างๆแฟนคุณคงแนะนำได้ดีอยู่แล้วเพราะแฟนคุณได้ visa แล้วใช่ไหมค่ะ ไม่ต้องไปใช้บริการทัวร์ให้เปลืองเงินหรอกค่ะ เพราะยังไงคุณก็ต้องไปที่สถานทูตด้วยตัวเองอยู่แล้ว ไม่สามารถให้คนอื่นทำการขอ visa แทนเหมือนการไปบางประเทศได้ค่ะ แล้วนี่คุณjung july จะไปเที่ยวใช่ไหมค่ะ ถ้ามีโปรแกรมทัวร์ก็นำเอกสารโปรแกรมทัวร์ไปด้วยนะคะ :Dที่เคยไปขอvisaเมื่อ 2 ปีก่อนวันที่ไปสัมภาษณ์ไปพร้อมแฟนเลย เวลาสัมภาษณ์เขาก็สัมภาษณ์พร้อมกับแฟนเลย และก็ถามแค่แฟนว่าไปทำอะไร คำถามเดียวเลยค่ะ เขาไม่ถามอะไรเราเลย(ทำไมคุณjung july ไม่ไปขอพร้อมแฟนหล่ะคะ ตอบว่าไปฮันนีมูนก็ผ่านฉลุยแล้วค่ะ) ใช้เวลาประมาณครึ่งวันก็เรียบร้อย กลับไปรอลุ้นต่อที่บ้าน แล้วอย่าลืมกรอกเอกสารเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนแบบที่พี่ๆข้างบนแนะนำนะคะ

:D:D:Dขอให้สำเร็จนะคะ เอาใจช่วยเลยจริงๆนะ:D:D:D

ใน passport มีไปไหนมาไหนเยอะมั้ยคะ
ตอนของเราเค้าไม่ดูเงินเดือนหรือ statement เลย
ถามแต่ไปทำไม แล้วที่เคยไปๆมาใครออกตังค์ให้

VISA อเมริกาต้องทำด้วยตัวเองเท่านั้นคะ
ให้คนช่วยได้แค่ตอนโทรนัดสัมภาษณ์เท่านั้นเอง

ขอให้ผ่านและเที่ยวให้สนุกนะคะ

[SIZE="5"]คิดว่าอาทิตย์หน้าจะเริ่มยื่นเอกสาร ตอนนี้กำลังรางใบรับรองงานกับใบรับรองสถานะการและค่าใช้จ่ายอยู่ค่ะ หากพี่ท่านใดมีแบบฟอร์มใบรับรองงานก็แนบมาให้ดูเป็นตัวอย่างหน่อยนะค่ะ เพราะจะพิมพ์ขึ้นมาเองแต่ไม่ทราบว่าเอกสารรับรองงานตามจริงหน้าตาเป็นยังไงเพราะไม่เคยมีค่ะ เพราะตั้งแต่จบมาก็ทำธุรกิจแบบครอบครัวมาโดยตลอดสริปเงินเดือนก็ไม่เคยมีแต่มีการเดินบัญชีปรกติค่ะ แต่บัญชีที่มีแยกกับของแฟนจะยื่นสมุดบัญชีไปพร้อมกันตามที่พี่ๆแนะนำมาค่ะ ส่วนเรื่องวีซ่าก็ได้วีซ่าของเช่งเกิ้นมา 6 เดือนค่ะ แต่ยังไม่ได้ไปเพราะจะไปตอนที่สนามบินโดนปิดก็เลยอดไปค่ะ ส่วนประเทศอื่นๆก็ไปมาหลายที่ค่ะ แต่ก็เอเชียล้วนๆ ที่พี่แนะนำมาว่าให้ตอบไปว่าฮันนี้มูนก็คงดีแต่เขาจะเอาเอกสารอะไรไมค่ะเช่น รูปคู่ หรือรูปบ้านเพราะเห็นเพื่อนไปข้อมาเขาให้โชว์รูปด้วยค่ะ ส่วน Statement ก็มีรถเป็นชื่อตัวเองค่ะแต่เคยเปลี่ยนชื่อมาค่อนข้างบ่อยเพระเชื่อเรื่องดวงมากหากยื่นเอกสารเปลี่ยนชื่อไปหมดมันจะทำให้เราดูแย่รึเปล่าค่ะ ถ้าได้ผลยังไงจะมารายงานนะค่ะ
[SIZE="5"]ขอบคุณพี่ SBN ทุกๆคนค่ะ:D[/QUOTE]

ให้ร่างจดหมายบอกว่าเป็นคู่หมั้น หรือแต่งงานกันแล้วแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนค่ะ

ส่วนเรื่องหลักฐานการเงิน ถ้ามีเป็นของตัวเองเอาของตัวเองไปด้วยก็ดีค่ะ
แต่ถ้าจะแจ้งว่าแฟนเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ระหว่างอยู่ที่นู้น ก็เอาของแฟนไปค่ะ

agency ไม่ได้ช่วยอะไรค่ะ เพราะทำวีซ่าตัวคนขอต้องไปเอง agency แค่ช่วยเตรียมเอกสารเท่านั้นค่ะ
อย่าลืมนัดวันทำก่อนนะค่า เข้าไปอ่านขั้นตอนการทำหรือโทรไปถามสถานทูตก่อนนะค่ะ

ถ้าไปเที่ยว ให้เอา flight itinerary/accomodation ที่คุณจองไว้ไปด้วยค่ะ