ไอสไตน์พูดไว้..ดีมากๆ
โดย due
due
#1
ได้รับเมลล์มาอ่านแล้วก็ว่าดี เลยเอามาฝากกันจ้า

[SIZE="4"]ไอสไตน์พูดว่า...ในห้องเรียนวันหนึ่ง
ไอสไตน์ถามนักเรียนว่า "มีคนซ่อมปล่องไฟสองคนกําลังซ่อมปล่องไฟเก่า
พอพวกเขาออกมาจากปล่องไฟปรากฏว่า คนหนึ่งตัวสะอาด
อีกคนตัวเลอะเทอะเต็มไปด้วยเขม่าขอถามหน่อยว่าคนไหนจะไปอาบน้ำก่อน"

นักเรียนคนหนึ่งตอบว่า "ก็ต้องคนที่ตัวสกปรกเลอะเขม่าควันสิครับ"
ไอสไตน์พูดว่า "งั้นเหรอ คุณลองคิดดูให้ดีนะคนที่ตัวสะอาดเห็น
อีกคนที่ตัวสกปรกเต็มไปด้วยเขม่าควันเขาก็ต้องคิดว่าตัวเองออกมา
จากปล่องไฟเก่าเหมือนกันตัวเขาเองก็ต้องสกปรกเหมือนกันแน่ๆเลย
ส่วนอีกคนเห็นฝ่ายตรงข้ามตัวสะอาด ก็ต้องคิดว่าตัวเองก็สะอาดเหมือนกัน
ตอนนี้ผมขอถามพวกคุณอีกครั้งว่า ใครที่จะไปอาบน้ำก่อนกันแน่"

นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นว่า" อ้อ ! ผมรู้แล้ว
พอคนตัวสะอาดเห็นอีกคนสกปรก ก็นึกว่าตัวเองต้องสกปรกแน่
แต่คนที่ตัวสกปรกเห็นอีกคนสะอาด ก็นึกว่าตัวเองไม่สกปรกเลย
ดังนั้นคนที่ตัวสะอาดต้องวิ่งไปอาบน้ำก่อนแน่เลย.....
ถูกไหมครับ...."

ไอสไตน์มองไปที่นักเรียนทุกคน นักเรียนทุกคน ต่างเห็นด้วยกับคําตอบนี้
ไอสไตน์ค่อย ๆ พูดขึ้นอย่างมีหลักการและเหตุผล "คําตอบนี้ก็ผิด
ทั้งสองคนออกมาจากปล่องไฟเก่าเหมือนกัน
จะเป็นไปได้ไงที่คนหนึ่งสะอาดอีกคนหนึ่งจะสกปรก
นี่แหละที่เขาเรียกว่า "ตรรก"
เมื่อความคิดของคนเราถูกชักนําจนสะดุด
ก็จะไม่สามารถแยกแยะและหาเหตุผลแห่งเรื่องราวที่แท้จริงออกมาได้
นั่นคือ'ตรรก'จะหาตรรกได้ก็ต้อง กระโดดออกมาจาก
"พันธนาการของความเคยชิน" หลบเลี่ยงจาก'กับดักทางความคิด
"หลีกหนีจาก" สิ่งที่ทําให้หลงทางจากความรู้จริง
"ขจัด" ทิฐิแห่งกมลสันดาน จะหา ตรรก ได้ก็ต่อเมื่อคุณสลัดหมากทั้งหมด
ที่คนเขาจัดฉาก วางล่อคุณไว้"
barumbum
#2
logic

ไม่ชอบเลยอ่า ยากกกกกกกกกกกกกกก
ting_ja
#3
เราอาจเป็นแค่คนธรรมดา เลยไม่ค่อยเข้าใจ
pribpundao
#4
Food for my brain today, nice thought ka.
Thanks ka:)
Bright
#5
เอามาจากหนังเรื่อง 21 นะครับแต่ชอบมากๆ เลย

ตอนที่อาจารย์ถามพระเอกว่า สมมติให้เลือกเปิดป้าย 1 ป้ายหา Jackpot จาก 3 ป้ายจะเลือกยังไง

พระเอกก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลือกๆ ออกมา 1 อัน

แล้วอาจารย์ก็เดินไปเปิดป้าย 1อัน(รู้อยู่แล้วว่าอัันไหนเป็น jackpot)

ขณะนี้เหลือ 2 ป้าย อาจารย์ถามคุณว่าจะเลือกใหม่หรือไม่ จะเปลี่ยนใจหรือเปล่า แล้วเหตุผลในการตัดสินใจคืออะไร

















ไว้กลับจาก clinic จะมาเฉลย อิอิอิ
lollipop
#6
น่าคิดค่ะ

โดนหลอกมานักต่อนักแว้วว
due
#7
Originally Posted by Bright
เอามาจากหนังเรื่อง 21 นะครับแต่ชอบมากๆ เลย

ตอนที่อาจารย์ถามพระเอกว่า สมมติให้เลือกเปิดป้าย 1 ป้ายหา Jackpot จาก 3 ป้ายจะเลือกยังไง

พระเอกก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลือกๆ ออกมา 1 อัน

แล้วอาจารย์ก็เดินไปเปิดป้าย 1อัน(รู้อยู่แล้วว่าอัันไหนเป็น jackpot)

ขณะนี้เหลือ 2 ป้าย อาจารย์ถามคุณว่าจะเลือกใหม่หรือไม่ จะเปลี่ยนใจหรือเปล่า แล้วเหตุผลในการตัดสินใจคืออะไร

















ไว้กลับจาก clinic จะมาเฉลย อิอิอิ




[SIZE="4"]มาเฉลยไวๆนะคะ รอ รอ รอ
อยากรู้จังเลย:D:D
Bright
#8
ไม่เห็นมีคนมาตอบเลยอ้ะ พี่ดิว งุบงิบไว้ก่อนดีก่า
MamyNongJ
#9
รอคำตอบด้วยคนค่ะ
Bright
#10
คำตอบก็คือ.........เปลี่ยนป้ายนะครับ จะลองอธิบายดูละกัน

ส่วนของการเลือกครั้งแรก โอกาสถูกก็คือ 1 ใน 3 เท่ากับ 33.34 %

ทีนี้พออาจารย์มาเอาป้ายเปล่าๆ ออกไป 1 ป้าย เหลือ 2

ตรงนี้แหละครับที่จะตัดสินใจถ้าเราเลือกป้ายเดิม โอกาสก็คือ 33.34 เท่าเดิม (อย่าลืมว่าเรนาเลือกป้ายนี้ตอนที่มี 3 ป้าย)

แต่ถ้าเราเลือกอันใหม่โอกาสถูกคือ 50 % (1 ใน 2) โอกาสที่เราจะถูกจะเพิ่มมาอีก 17 % เลยครับ (อย่าไปมองว่าโอกาสที่จะได้รางวัลมีเท่าไหร่ เพราะเราไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าที่เราเลือกถูกไหม เราคาดได้แค่โอกาสเท่านั้น

นี่คือการคิดแบบ logic ล้ววนๆ ครับไม่มีอารมณ์หรือความหวั่นไหวมาเกี่ยวข้อง

เข้าใจกันไหมเนี่ย แฮะๆ
Meesook
#11
แต่มันก็มีโอกาสที่จะเป็นอีกแบบนะคะหมอไบรท์

แม้ว่าจะเป็นตอนที่เหลือสองป้ายแล้ว ถ้าเลือกอันเดิม ก็เท่ากับว่า chance = 50% อยู่ดี เพราะเป็นการตัดสินใจใหม่ ใน environment ที่เหลือสองป้ายแล้ว

คือเมื่อเหลือสองป้าย แต่ก็ตัดสินใจเลือกป้ายเดิม - คิดอย่างนี้ก็ได้ใช่มั้ยคะ?

อ้อ... ขอบคุณพี่ดิวที่เอาเรื่องดี มาให้คิดกันนะคะ ทินีชอบมากๆ ค่ะ
due
#12
Originally Posted by Bright
คำตอบก็คือ.........เปลี่ยนป้ายนะครับ จะลองอธิบายดูละกัน

ส่วนของการเลือกครั้งแรก โอกาสถูกก็คือ 1 ใน 3 เท่ากับ 33.34 %

ทีนี้พออาจารย์มาเอาป้ายเปล่าๆ ออกไป 1 ป้าย เหลือ 2

ตรงนี้แหละครับที่จะตัดสินใจถ้าเราเลือกป้ายเดิม โอกาสก็คือ 33.34 เท่าเดิม (อย่าลืมว่าเรนาเลือกป้ายนี้ตอนที่มี 3 ป้าย)

แต่ถ้าเราเลือกอันใหม่โอกาสถูกคือ 50 % (1 ใน 2) โอกาสที่เราจะถูกจะเพิ่มมาอีก 17 % เลยครับ (อย่าไปมองว่าโอกาสที่จะได้รางวัลมีเท่าไหร่ เพราะเราไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าที่เราเลือกถูกไหม เราคาดได้แค่โอกาสเท่านั้น

นี่คือการคิดแบบ logic ล้ววนๆ ครับไม่มีอารมณ์หรือความหวั่นไหวมาเกี่ยวข้อง

เข้าใจกันไหมเนี่ย แฮะๆ



[SIZE="4"]อ๋อ!! เข้าใจแล้วค่ะ
อนุมานได้ว่า จะตัดสินใจอะไรอย่าใช้อารมณ์
ต้องคิดดูให้ดี ถึงความน่าจะเป็นอย่างมีเหตุผล
ปล. อันนี้จะคิดมากไปเป่าเนี่ย
ขอบคุณน้องไบรท์มากเลยค่ะ ลึกซึ้งเจงๆจ้า
due
#13
Originally Posted by Meesook
แต่มันก็มีโอกาสที่จะเป็นอีกแบบนะคะหมอไบรท์

แม้ว่าจะเป็นตอนที่เหลือสองป้ายแล้ว ถ้าเลือกอันเดิม ก็เท่ากับว่า chance = 50% อยู่ดี เพราะเป็นการตัดสินใจใหม่ ใน environment ที่เหลือสองป้ายแล้ว

คือเมื่อเหลือสองป้าย แต่ก็ตัดสินใจเลือกป้ายเดิม - คิดอย่างนี้ก็ได้ใช่มั้ยคะ?

อ้อ... ขอบคุณพี่ดิวที่เอาเรื่องดี มาให้คิดกันนะคะ ทินีชอบมากๆ ค่ะ


[SIZE="4"]เหตุผลของน้องทินีก็น่าคิดจริงๆค่ะ
เห็นไม๊คะ ในสถานกาณ์เดียวกัน
คิดได้หลายแบบ แล้วแต่คน แล้วแต่ประสบการณ์
ที่ผ่านพบมา แล้วมาเป็นกระบวนการในการตัดสินใจ
ลึกซึ้ง ลึกซึ้ง
Bright
#14
แย้งพี่ทินีนิดนึงครับ (แฮะๆ)

มันเป็นการตัดสินใจใหม่ไม่ได้ครับ เพราะผลมันก็เป็นป้ายที่เราเลือกไปแล้วนั่นเอง ตอนที่เป็น 1 ใน 3 ไม้เราจะคิดว่าโอกาสเพิ่มมาเป็น 50 % แล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน เพราะ ณ ขญะที่เรามองป้ายนั้นแต่แรกเราหยิบมันมาจาก 3 ป้าย

ถ้าเลือกอยู่ทีเดิมเท่ากับไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย (เริ่ม งง เองละ)

555
kikigal
#15
ไม่เข้าใจทั้งหมดเลยค่ะ T_T
แต่ชอบที่พี่ดิวเขียนข้างต้นมากๆๆๆ ขออนุญาตเอาไปลง journal เด้อ
ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3