การปล่อยวาง [ ธรรมะในชีวิตประจำวัน ]
ข้อความ : นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
+ + + + + + + + + +
ชีวิตํ พฺยาธิ กาโล จ
เทหนิกฺเขปนํ คติ
ปญฺเจเต ชีวโลกสฺมึ
อนิมิตฺตา น นายเร.
แปลใจความได้ว่า
"ชีวิต [ความเป็น] (๑)
พยาธิ [ความเจ็บป่วย] (๑)
กาละ [เวลาเจ็บหรือจาก] (๑)
คติ [ที่หมายภายหลังสิ้นชีวิต] (๑)
ฐานะ ๕ อย่างนี้ ไม่มีนิมิตเครื่องหมายบอกเหตุล่วงหน้า
เป็นธรรมชาติที่บอกไม่ได้ ทายไม่ถูก"
+ + + + + + + + + +
การปล่อยวาง
การแบกอะไรไว้นั้น ล้วนเป็นเรื่อง 'หนัก' เสมอ
ทั้งในแง่รูปธรรมและนามธรรม
แบกเรื่องที่เป็นรูปธรรม ก็หนักบ่า เครียดกาย เหนื่อยกาย
แบกเรื่องที่เป็นนามธรรม ก็หนักใจ เครียดที่ใจ
หรือการแบกบางอันก็ทำให้เหนื่อย หนัก เครียดทั้งกาย
เครียดทั้งใจ
-ทำทุกอย่างที่ดีๆ ให้เต็มกำลังความสามารถเสมอก็พอแล้ว-
ในทางธรรมจึงแนะนำให้บุคคลเพียง 'ทำไปตามหน้าที่'
ด้วยความตั้งใจให้ดีที่สุด ลงแรงลงใจให้เต็มร้อย
กับทุกๆ เรื่อง ทุกๆ หน้าที่ ทุกๆ การกระทำ
อาทิ เป็นลูกก็เป็นลูกที่ดี กตัญญู เชื่อฟังแม่และพ่อ ดูแลแม่และพ่อ
เป็นคนทำงาน ก็ตั้งใจรับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่การงานไปเต็ม
กำลังความสามารถและความรู้ ให้งานออกมาดีที่สุดตามเวลาและ
โอกาสที่มีให้ เป็นแม่หรือพ่อ ก็ตั้งใจเลี้ยงดูอบรมลูกให้ดีที่สุด
เต็มกำลังความสามารถที่จะให้เขาได้ เป็นนักเรียนก็ตั้งใจเก็บ
เกี่ยวความรู้ให้มากๆ เป็นต้น
จะเป็นอะไรก็ตาม ก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ระแวดระวังรอบคอบให้หน้าที่
นั้นๆ ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อพบข้อบกพร่องในการกระทำ
ของตนก็พยายามแก้ไขปรับปรุงพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆ ในทุกหน้าที่
-ภูมิใจในตัวเองบ้าง ชื่นชมตัวเองบ้าง-
และเมื่อรู้ตัวว่าทำดีที่สุดในทุกๆ หน้าที่ ทุกๆ บทบาทอยู่ตลอดเวลา
แล้ว ก็สมควรดีใจ พอใจ ภูมิใจในการกระทำของตนได้
อย่างไรก็ตาม คนก็คือคน โดยทั่วๆ ไปแล้วไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
หรือดีพร้อมไปได้ ย่อมต้องมีบกพร่องตกหล่นไม่มากก็น้อย
-คาดหวังผลได้ แต่ควรยอมรับไปพร้อมๆ กันด้วย
ว่าผลอาจไม่เป็นตามต้องการเสมอไปหรือเต็มร้อย-
หลายๆ อย่างในชีวิตเราทำได้แค่ 'ทำให้ดีที่สุด' ในส่วนของเรา
แต่เราไม่สามารถไปกำหนดว่าผลจะต้องออกมาเป็นอย่างนั้น
อย่างนี้ แม้เราจะคาดหวังสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น อยากให้ผลออก
มาดีหรือดีเลิศ ดีพร้อม เช่น เลี้ยงลูกก็อยากให้เค้าดีพร้อม
สมบูรณ์แบบไม่อยากให้เค้าเจ็บป่วยทุกข์ทรมาน
ทำงานก็อยากให้ทั้งทีมทำออกมาได้ดีเลิศเสมอ
ทำรายงานก็อยากให้ผลงานออกมาดีมากๆ
ยังมีเหตุปัจจัยอีกหลายประการภายนอก (คือนอกจากตัวเราและ
ใจเราเอง) ที่มีส่วนทำให้เรื่องราวต่างๆ ผันแปร ไม่เป็นไปหรือไม่
สมบูรณ์แบบอย่างที่คาดหวังเอาไว้
-ดังนั้น จึงควรรู้จักวาง-
บางคน ทำดีที่สุดในทุกๆ เรื่องตามโอกาสและเวลาอำนวยแล้ว
ก็วางลง ไม่คาดหวังผลจนเกินไปหรือคาดหวังแต่ก็เตรียมใจรับ
สถานการณ์ที่อาจแปรเปลี่ยนผันไปได้เสมอโดยไม่อาจทราบ
ล่วงหน้าไว้เสมอ
คนที่วางได้เช่นนี้ จะทำอะไรก็ทำเต็มร้อย ทำด้วยความสุข เต็มใจ
ที่จะทำ ตั้งใจเต็มร้อยหรือเกินร้อย แล้ววางลง ให้กาย สมองและใจ
ได้พักบ้าง เพื่อจะได้มีเรี่ยวแรงเยอะๆ พลังใจมากๆ ไว้ปฏิบัติหน้าที่
อื่นๆ ที่จะต้องทยอยมีตามต่อเนื่องกันมาเป็นสายอยู่เสมอ
ตราบชั่วชีวิต โดยไม่ต้องแบกอะไรหนักนัก เมื่อจะลงมือทำอะไรก็
ตั้งใจ ทำอย่างตั้งใจ แล้วก็วางลงอยู่เสมอ จึงไม่หรือไม่ค่อย
มีอะไรหนักกายหรือหนักใจ กายก็ไม่ค่อยเครียดไม่ค่อยหนัก
ใจก็ไม่ค่อยเครียดไม่ค่อยหนัก
แต่บางคน ในเรื่องเดียวๆ กัน หรือเรื่องคล้ายๆ กัน กลับวางไม่ได้
หรือไม่ยอมวางหรืออาจไม่ทราบว่าจะวางอย่างไร ก็แบกเอาไว้
คาดหวังที่จะให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานที่ตนวางไว้อยู่เสมอ
เมื่อไม่ได้ก็หงุดหงิดรำคาญใจ แบกตัวเอง แบกคนอื่น แบกโลก
เอาไว้จนแทบจะเกินกำลังกายเกินแรงใจจะรับไหว
กายและใจก็เครียดและหนักอยู่เสมอ เพราะวางอะไรแทบ
ไม่ได้เลย
-กายเครียดก็ป่วยได้ ใจเครียดก็ป่วยได้-
ทั้งกายและใจ เมื่อเครียดก็เจ็บป่วยไม่สบายไปได้ ทั้งไม่สบายหรือ
ป่วยกายและไม่สบายหรือป่วยใจ
หน้าที่ในชีวิตเป็นสิ่งดี ควรกระทำและรับผิดชอบให้ดีที่สุด
แต่หากไม่วางบ้าง แบกไว้หมด ก็เท่ากับทำให้กายเครียดซ้ำแล้ว
ซ้ำเล่า หาทุกข์เพิ่มให้กายตน เท่ากับทำให้ใจเครียดซ้ำแล้ว
ซ้ำเล่า หาทุกข์เพิ่มให้ใจตน ทำร้ายกายตน ทำร้ายใจตน
ยิ่งๆ
ดั่งคำธรรมะที่ยกมาในตอนเริ่มต้นกระทู้ ว่าชีวิตก็ตาม ความเจ็บป่วย
ก็ตาม ยังไงก็มาแน่ แต่จะมาในรูปแบบไหน อย่างไร เมื่อใดนั้น
โดยปกติแล้วไม่มีใครบอกได้ ไม่มีอะไรบอกล่วงหน้าได้ ดังนั้น
ไม่จำเป็นที่จะต้องไปช่วยซ้ำเติมหรือเร่งเวลาด้วยการทำร้ายกาย
และ/หรือใจตนให้ซ้ำๆ ยิ่งเข้าไปอีกโดยไม่จำเป็น - และเพียงแค่
ฝึกลองและพยายามหัดปล่อยและวางลงบ้าง ก็จะช่วยให้กาย
และ/หรือใจไม่ต้องแบกรับสิ่งหนักๆ และความเครียดเพิ่มเข้าไปอีก
เพราะเท่าที่แบกมาตั้งแต่เกิดและเติบโตมาจนทุกวันนี้
ก็หนักและเครียดในตัวเองพออยู่แล้ว
และยิ่งถ้าได้ฝึกใจ ฝึกกายให้พร้อมเอาไว้ สำหรับทุกสถานการณ์
ได้ด้วย ก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ อาทิ ฝึกสมาธิ ฝึกสติให้มากๆ เพื่อว่า
เวลาที่ความทุกข์ไม่ว่าทางกายหรือทางใจมาเยือนเข้าจริงๆ
จะได้รับมือได้ทัน
+ + + + + + + + + +
ตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ตั้งใจว่าจะนำข้อคิดเบาๆ เรื่อง 'การปล่อยวาง' มาฝาก
กัน เพราะเห็นตัวอย่างว่าโลกนี้หนักหนานักด้วยตัวของโลกเองอยู่แล้ว
และสภาพสังคม สภาพชีวิตในปัจจุบันนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเครียด
เหลือเกิน ได้เห็นคนที่สามารถปล่อยวางได้แล้วก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด
เท่าที่โอกาสจะอำนวย คนนั้นก็ค่อยมีชีวิตที่ทุกข์น้อยหน่อย
และได้เห็นคนที่ปล่อยวางไม่เป็นหรือปล่อยวางไม่ค่อยจะได้
เป็นทุกข์หนัก เครียดยิ่งกว่าที่เครียดอยู่แล้ว เป็นผลให้เกิดปัญหา
กับสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจด้วย เห็นว่าแนวคิดเล็กๆ น้อยๆ
ที่นำมาฝากกันนี้ คงจะพอเป็นอีกแนวคิดที่ช่วยๆ กันเสนอแนะ
ให้มีชีวิตอยู่อย่างทุกข์น้อยลงไปอีกสักนิดก็ยังดี :)
อานิสงส์ใดๆ แม้เพียงน้อยนิดที่เกิดจากกระทู้นี้ ขอน้อมส่งให้
คุณแม่คุณพ่อของพวกเราทุกคนและของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
คุณแม่คุณพ่อของพวกเราทุกคนและของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ญาติเพื่อนฝูงพี่น้องของเราทุกๆ คนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
รวมทั้งเราทุกๆ คนที่ได้มาอ่านข้อเขียนนี้และสรรพสัตว์
ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายไม่มีเว้น
ไม่มีประมาณไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มีอัตภาพใดอยู่ก็ตาม
ได้เข้าถึงการรู้จักทำหน้าที่ทุกหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
รู้จักภูมิใจและเคารพการกระทำดีๆ ของตัวเอง และที่สุดได้
รู้จักปล่อยวาง ไม่แบกไม่หามเอาไว้ให้หนักหลังจากที่ได้
ทำดีที่สุดแล้วหรือเมื่อไม่สามารถทำอะไรในเรื่องนั้นๆ ต่อไปได้แล้ว
รวมทั้งขออานิสงส์ทั้งปวงส่งให้เราทั้งหมดผู้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์
ทั้งหมดไม่มีเว้นไม่มีประมาณนี้ ทำดี-คิดดี-พูดดีอยู่เสมอเนืองๆ
ยิ่งๆ เป็นผู้อยู่ในสัมมาทิฏฐิยิ่งๆ เจริญสมบูรณ์ไปด้วยอายุ วรรณะ
สุขะ พละ ปราศจากโรคภัยอันตรายทั้งปวงในที่ทุกสถานในกาล
ทุกเมื่อ ได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมอันเป็นทางสายเอกสู่การพ้นทุกข์
คือสติปัฏฐานสี่และวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐานสี่
และได้เข้าถึงแก่นพระธรรม ได้ดวงตาเห็นธรรมยิ่งๆ
ได้บรรลุถึงซึ่งมรรค ผลและนิพพาน โดยเร็วที่สุดตามความ
ปรารถนาและตามสมควรแก่บารมีของตน ด้วยกันทุกคน
ทุกท่าน ทุกรูปทุกนาม ด้วยเทอญ
เจริญในธรรม :) บทความจาก : คุณ deedi