เตือนน้องใหม่มีวินัยการเงิน เลิกบ้าแบรนด์เนม-พนันบอล



ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการปฐมนิเทศและต้อนรับนิสิตใหม่ของ มศว ประจำปีการศึกษา 2551 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า ขณะนี้สังคมไทยและสังคมโลกกำลังประสบปัญหาเหมือนกัน คือ ภาวะรุมเร้าทางเศรษฐกิจ ดังนั้นตนจึงอยากให้นิสิตใหม่ทุกคน ตลอดจนรุ่นพี่รู้จักใช้จ่ายและมีวินัยในการใช้เงินให้มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินไปกับค่าโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเยาวชนรุ่นใหม่จะใช้จ่ายเงินในเรื่องนี้มาก ทั้งที่โทรศัพท์มือถือควรใช้เฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น ไม่ใช่มีไว้เพื่อคุยเล่น เพราะจะเป็นการสูญเปล่า นอกจากนี้ตนอยากให้นิสิตทุกคนดูเรื่องการแต่งตัวตามแฟชั่น ซึ่งไม่ควรถ้ามากเกินไปหรือใช้แต่ของแพง ที่เน้นแบรนด์เนมโดยไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง เพราะจะทำให้นิสิตตกเป็นทาสทางวัตถุ


"ผมมองว่าคนที่ซื้อของแบรนด์เนม หรือ บ้าแบรนด์เนม เป็นคนที่อวดร่ำอวดรวยจนดูตลกมากกว่าจะดูดี โดยเฉพาะนิสิตยังหาเงินใช้เองไม่ได้ ยังต้องขอเงินพ่อแม่อยู่ จึงควรตระหนักในเรื่องเหล่านี้ และแม้แต่คนที่ครอบครัวมีฐานะดีสามารถซื้อของแบรนด์เนมได้ ก็ควรดูความเหมาะสมด้วย อย่างไรก็ตามต้องฝากถึง พ่อ แม่ ผู้ปกครองว่าควรจะเน้นเรื่องวินัยทางการเงินให้แก่ลูกด้วย โดยต้องสอนให้ลูกรู้จักสำนึกการประหยัด ซึ่งผมได้มอบนโยบายให้อาจารย์ทุกคนที่สอนนิสิตไปแล้วว่า ไม่ใช่สอนแต่ความรู้ทางวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสอนเรื่องการใช้ชีวิต การตระหนักถึงภาวะวิกฤติทางสังคมไทย และสังคมโลก ตลอดจนเน้นการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องและใช้ภาษาไทยให้เข้มแข็ง รวมถึงรณรงค์ให้นิสิตรักการอ่านด้วย" ศ.ดร.วิรุณ กล่าวว่า

ด้าน รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมผู้ปกครองนักศึกษาใหม่ ของ มฟล.ประจำปีการศึกษา 2551 ว่า การมาอยู่มหาวิทยาลัย เป็นอีกกระบวนการเรียนรู้การใช้ชีวิต รู้จักรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม ซึ่งระหว่างนี้พ่อ แม่ ต้องดูด้วยว่าลูกขอเงินมากผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 เดือนมิถุนายนนี้ ตนอยากให้ผู้ปกครองช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเล่นพนันฟุตบอลของนักเรียน นักศึกษาด้วย




http://hilight.kapook.com/view/24694


เตือนวัยรุ่น หรือด่าคะเนี่ย แอบงงคะ T^T

ที่เค้าพูดก็ถูกอ่ะค่ะ เราจะซื้ออะไรก็ดูตามกำลังของตัวเอง ไม่ให้ตัวเราหรือใครเดือดร้อน แต่ก็มีความเห็นว่าการที่ใครจะใช้ของแบรนด์เนมก็ไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นจะเป็นตัวตลกเพราะความอยากโอ้อวดอ่ะค่ะ การที่เราเลือกใช้ของดี ก็เพราะคุณภาพ ความชอบส่วนตัว ภาพลักษณ์ และก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่นา เราก็เลือกซื้อที่เหมาะสมกับตัวเรา ตลกตรงไหนอ่า

เราใช้ของเบรนเนม แต่ก้อไม่ด้ายทำห้ายใคร หรือตัวเราเอง หรือ พ่อแม่ เดือดร้อนนี่ค่ะ ก้อซ์อตามกำลังที่มีอยู่ค่ะ หมดเงินก้อม่ายซื้อออ เนอะ

ใช่ว่าซื้อมาแล้ววิ่งไปหน้าบ้านพลางแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าเอียงทำมุม 45 องศา แล้วตะโกนว่า " ชั้นซื้อเป๋าแพ้งแพงมานะ ใครอยากเห็นมาเร็วๆไวๆ " ซะหน่อย ซื้อเเล้วก็ใช้ รักษา ดูแล ผิดหรอ ตลกมากมั้ยเนี่ยยยยยย

คิดว่าคนเราแต่ละคนก็มีความฃอบในแต่ละสิ่งไม่เหมือนกัน

บางคนชอบกระเป๋า ก็ซื้อแบรนเนมมาก เสียเงินไปกันการซื้อและรักษา ดูแล กระเป๋า
บางคนชอบกล้องถ่ายรูป ก็เสียเงินไปกับการซื้อกล้อง เดินทางไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆ
บางคนชอบเที่ยว ก็เสียเงินไปกับการไปท่องเที่ยว หาประสบการณ์ใส่ตัวเอง
บางคนชอบกีฬา เช่น กอล์ฟ ก็เสียเงินค่าสมาชิกสนามหลายแห่ง ค่าโปร ค่าไม้กอล์ฟ
บางคนชอบดนตรี ก็เสียเงินไปกับ เปียโน ค่าครูสอนดนตรี ค่าตั๋วคอนเสริ์ตแสดงดนตรีต่างๆ
บางคนชอบกิน ก็เสียเงินไปกับการเสาะแสวงหาของกินดีๆ ตามที่ต่างๆ เช่น หูฉลาม เป็นต้น
บางคนชอบสะสม ก็เสียเงินไปกับการสะสมของที่ตนเองรัก เช่นเหรียญ แสตมป์ พระเครื่อง

ของบางอย่าง ไม่มีแบรน จับต้องลำบาก แต่ใช้ว่าจะราคาถูกเสมอไป กระเป๋า 1 ใบ อาจมีราคาน้อยกว่าแสตมป์หนึ่งดวงของนักสะสมบางคนก็เป็นได้

กระเป๋าแบรนเนม ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้คนเสียเงินเสียทอง หากแต่มนุษย์แต่ละคนก็มีแนวคิดการแสวงหาความสุขและใช้เงินทองที่แตกต่างกันไปตามบุคคล เพียงแต่ขอให้รู้จักประมาณตนเอง ก็น่าจะพอ หาได้มากก็ใช้จ่ายได้มาก หาได้น้อยก็ใช้จ่ายน้อยลง

ไม่ต้องจี๊ดหรอกค่า... การคิดเห็นไม่ตรงกันนี่เป็นเรื่องธรรมดาออกจะตายไป....

ท่านอธิการบดีท่านก็พูดตามความคิดเห็นของท่าน ซึ่งอาจจะแตกต่างจากความเห็นของน้อง ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น ก็ไม่ต้องไปเดือนร้อนนี่คะ...

เรารู้จักประมาณตนเองก็ดีแล้วค่ะ คนที่ท่านอธิการฯพูดถึง ก็ไม่ใช่เราสิคะ อย่าไปเดือดร้อนอะไรเลยค่ะ ท่านมาเตือนก็ดีแล้วนะคะ บางทีเราคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้องแล้ว ในสายตาของเรา แต่ในสายตาของผู้อื่น อาจจะไม่ถูกต้องค่ะ นานาจิตตังค่ะ ไม่มีใครคิดเห็นเหมือนกันหมดทุกคนหรอกค่า...

เห็นด้วยกะ kunmuay ค่ะ ถูกต้องที่สุด

นู๋หมวย พูดถูกใจเอาไปสองจุ๊บ นะจ้ะ :wink: พี่มีเพื่อนคนหนึ่งรวยเป็นถึงเจ้าของบริษัท แต่ทำใจไม่ได้กับการใช้กระเป๋าแบรนด์เนม แต่ถ้าเป็นรองเท้านะ ชีสู้ตาย ถึงไหนถึงกัน 8)

กับอีกคนเหมือนกันยุให้ซื้อกระเป๋า ยุให้ตายก็ยุไม่ขึ้น แต่ถ้าออกไป drink and dance หมดเงินเลี้ยงเพื่อนคืนหนึ่งเป็นหมื่น ชีก็ไม่นำพา เฮ้อ..คนเรา นานาจิตตัง 8)

แต่ของเราเหรอ ก็ยอมอดมื้อ กินมื้อเพื่อ น้องเป๋าที่รักของเรา เย้ๆๆๆๆๆๆๆ :lol:

ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน :lol: :lol: :lol:

เห็นด้วยกะคุณหมวยทุกประการเลยค่ะ :wink:

ตราบใดที่ความชอบของเราอยู่บนพื้นฐานไม่ทำให้ใครเดือดร้อน...เนอะ

เห็นด้วยกับคุณหมวยที่ซู๊ดดดดดดดดดด
คนเราชอบอะไรไม่เหมือนกันค่ะ อะไรที่ทำแล้วมีความสุขและไม่ผิดศีลธรรม และไม่เดื่อดร้อนคนอื่น ทำเลยค่ะ :D

เห็นด้วยกับคุณหมวยค่า

ชอบก็คือชอบ ความชอบที่มาจากในหัวใจ ไม่มีใครมาบอกห้ามได้
แต่ตัวเราเองต้องรู้จักการจ่าย ที่ไม่ทำให้คนรอบตัวต้องเดือดร้อน
จากนั้นสอยต้องสบาย

ทำไปเหอะครับตามความชอบตัวเอง แต่อย่าเดือดร้อนคนอื่นแค่นั้นพอครับ 8)

มีคนบอกให้เก็บตังค์ค่าเป๋าไปซื้อนมให้ลูกกินเถอะ อุ๊ยตาย ลูกช้านอ้วนตุ้มแล้วอ่ะ 8O

เอาเป็นว่า ตายไปก้อเอาเงินไปไม่ได้ เอาเงินมาซื้อความสุข (กระเป๋า) ดีกว่า :lol:

ใครรัก ใครชอบอะไร ก้อทำไป น้องๆนักศึกษาไม่ต้องไปฉกชิงวิ่งราวหรือ ทำความเดือดร้อนให้ตนเองและชื่อเสียงวงศ์ตระกูลก็พอแล้วจ้า

โดนใจสุด ๆ มันเหมือนมีอะไรลึก ๆ อยู่ในใจเวลาใช้กระเป๋าแบรนด์เนม
ณ วันนี้ ขอระบายหน่อยเหอะ ถึงจะไม่สามรถส่งถึงใครบางคนก็ตาม :cry:

เราก็ใช้กระเป๋าที่เราซื้อมาด้วยเงินของตัวเอง ใช้(สลับกัน)ทุกวัน เรารักกระเป๋าของเราทุกใบ ใช้ถนอมและรักษาอย่างดี

แต่อีตอนเอาออกมาใช้แล้วโดนสายตาบางคนที่แอบมองแบบ แหมใช้ของแพงนะยะหล่อน ไม่รู้จักค่าของเงิน . . ไรประมาณเนี้ย :(
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเหล่ และแอบมองของเรา จริง ๆ แล้วมองแบบเต็ม ๆ ตาเลยก็ได้นะ ขอยืมไปลองถือดูก็ได้นะ (แต่มืออย่าเปียกและเปื้อนนะ) เราไม่เคยหวงเลย เพราะกระเป๋าของเรา เราก็ว่าสวย น่ารัก น่ามอง น่าใช้ สมราคาที่เราจ่ายไปทุกใบ

เห็นด้วยกับคุณหมวยค่ะ ตรงใจดำเลย
บางคนจ่ายเพื่อบางสิ่งที่ตนชอบ ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วมันผิดตรงไหนไม่ทราบ
เราซื้อมาเราก็ใช้ เพราะมันเป็นกระเป๋าให้ใช้งาน
บางคนซื้อทอง พระเครื่อง ก็เก็บเพราะมันมีไว้ให้เก็บ (มั้ง)

เฮ้อ เบื่อมากกับสายตาแบบนี้ แล้วไม่ต้องสงสัยเลย ว่าลับหลังเราจะมีเสียงพูดคุยกันว่าอย่างไร
มันช่วยไม่ได้จริง ๆ . . ที่เราต้องแต่งงาน แล้วมาอยู่ที่อำเภอเล็ก ๆ สังคมค่อนข้างเล็ก การพูดคุยกันปากต่อปากนี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (แอบเซ็ง :? )
มันช่วยไม่ได้จริง ๆ . . . ที่เราหลงรักในกระเป่าแบรนด์ หลุยส์ฯ อย่างเต็มหัวใจ

ว่าแล้วไปเปลี่ยนกระเป๋าเป็นอีกใบดีกว่า อิอิ :D

เคยค่ะ เคยโดนกัดค่ะ เขาบอกว่า พวกใช้ของแท้แพงๆๆ คือพวกบ้า กับโง่
ไอ้เราก็โกรธค่ะ ก็เลยตอกกลับไปว่า พวกที่ใช้ของปลอมก็คือ พวกที่อิจฉาของแท้ และไม่มีปัญญาซื้อค่ะ เอาแบบแรงๆๆๆ ไปเลยค่ะ และก็ไม่มองหน้ากันเลย

แหม เงินเราแท้ๆๆๆๆๆๆ มันเรื่องอะไรมาว่ากันจิงม่ะคะ

นานาจิตตังเนอะ เราใช้ก็ใช้ของเราไม่ได้เดือดร้อนใครสักหน่อย

คุณ cop_copine ตอกกลับได้สะใจมากค่ะ ชอบ ชอบ :lol:

เห็นด้วยกับคุณหมวยทุกประการค่า ทำไปถ้าไม่เดือดร้อนใคร
เราบ้ากระเป๋า พี่ชายเราบ้าพระเครื่อง คนละเรื่องเลย แต่ก็มีความบ้าพอกัน อิอิ

เอ่อ คนข้างบนนี่ คุ้น ๆ นะคะ อิอิ