ขนาด 60 เม็ด ราคาป้าย 395 บาท ร้าน SS-Secret ขาย 275 บาท
ฟรุตต้าไลฟ์ (Fruita Life)
Dietary Supplement Product
Multi Vitamin & Mineral with Vegetable & Fruit Powder
วิตามินและเกลือแร่
วิตามิน
เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ร่างกายต้องการในปริมาณเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถนำพลังงานจากอาหารมาใช้ได้ปกติ และยังช่วยดูแลการสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อ วิตามินแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรก คือ วิตามินที่จำเป็นต้องได้รับเข้าสู่ร่างกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เนื่องจากสามารถละลายในน้ำและสูญเสียจากร่างกายอย่างรวดเร็ว เช่น วิตามิน บีรวม, วิตามิน ซี, กลุ่มที่สองเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันจึงสะสมอยู่ในไขมันของร่างกายได้นาน เช่น วิตามิน เอ, วิตามิน ดี, วิตามิน อี และวิตามิน เค
วิตามิน เอ (Vitamin A)
วิตามิน เอ ช่วยบำรุงสายตาให้เป็นปกติ กระตุ้นและปกป้องระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายบำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพดี ช่วยให้เนื้อเยื่อ กระดูกเจริญเติบโต
วิตามิน บี1 (Vitamin B1 or Thiamin)
เป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อระบบเผาผลาญอาหารและระบบประสาทของร่างกาย ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจสม่ำเสมอและคงที่
วิตามิน บี2 (Vitamin B2 or Roboflavin)
มีหน้าที่สำคัญต่อระบบย่อยอาหาร เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมและนำธาตุเหล็กไปใช้งานได้เป็นอย่างดี
วิตามิน บี3 (Vitamin B3 or Niacin)
วิตามิน บี3 ช่วยเปลี่ยนน้ำตาลและไขมันให้เป็นพลังงาน และยังช่วยในการผลิตกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย
วิตามิน บี5 (Vitamin B5 or Pantothenic acid)
ทำหน้าที่ช่วยเปลี่ยนน้ำตาลและไขมันให้อยู่ในรูปที่เซลล์สามารถนำไปใช้งานได้ ช่วยสร้างสารแอนติบอดี้ ซึ่งทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค และยังช่วยทำให้แผลหายเร็วอีกด้วย
วิตามิน บี6 (Vitamin B6 or Pyridoxin)
ทำหน้าที่สร้างและสลายโปรตีน เพื่อการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่างๆ บำรุงเลี้ยงระบบประสาทส่วนกลาง เร่งการผลิตฮีโมโกลบินและเม็ดเลือดแดง
วิตามิน บี12 (Vitamin B12 or Cyanocobalamin)
ทำงานร่วมกับกรดโฟลิกในการแบ่งเซลล์หรือสังเคราะห์ DNA และ RNA ช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยควบคุมน้ำหนักในอยู่ในระดับปกติ
กรดโฟลิก (Folic acid)
จำเป็นอย่างยิ่งในการแบ่งเซลล์หรือการสังเคราะห์ DNA และ RNA เป็นส่วนประกอบสำคัญบริเวณเนื้อเยื้อของไขสันหลัง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเม็ดเลือดแดง
วิตามิน ซี (Vitamin C or Ascorbic acid)
วิตามิน ซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคมะเร็งต่างๆ ช่วยทำให้แผลหายเร็ว
วิตามิน ดี (Vitamin D)
มีความสำคัญต่อการทำงานของแคลเซียม ช่วยให้ร่างกายรักษาระดับแคลเซียมให้เป็นปกติ ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง วิตามินดีนั้นคนเราสามารถผลิตเองได้ เมื่อร่างกายได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ
วิตามิน อี (Vitamin E)
เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ช่วยป้องกันไม่ให้กรดไขมันถูกทำลาย บำรุงรักษาเซลล์ในทุกส่วนของร่างกาย ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
วิตามิน เอช (Vitamin H or Biotin)
เป็นวิตามินที่มีบทบาทในกระบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต และยังมีส่วนในการผลิตกรดไขมันเพื่อสุขภาพผิว เส้นประสาท เส้นผม
วิตามิน เค (Vitamin K or Phytonadione)
หน้าที่หลักของวิตามิน เค คือ ช่วยในการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการสร้างโปรตีนบางชนิดเพื่อบำรุงรักษากระดูกและฟัน
เกลือแร่
เป็นสารอนินทรีย์ ทำหน้าที่สร้างกระดูก ฟัน เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ เลือด และเซลล์ประสาท ช่วยควบคุมรักษาความสมดุลของของเหลวชนิดต่างๆ ในร่างกาย ให้เป็นปกติ ทั้งวิตามินและเกลือแร่มีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย การขาดวิตามินและเกลือแร่อาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ ในทางกลับกัน ถ้าได้รับในปริมาณที่มากเกินความต้องการ ก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้
แคลเซียม (Calcium)
เป็นเกลือแร่ที่สำคัญที่สุดของร่างกาย เพราะกระดูกและฟันมีแคลเซียมถึง 99% ของแคลเซียมที่มีอยู่ในร่างกาย ส่วนที่เหลืออีก 1% เป็นส่วนสำคัญของเนื้อเยื่อและของเหลว มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด การหดรัดของกล้ามเนื้อ การทำงานของประสาท การเก็บกักและการปลดปล่อยฮอร์โมนของร่างกาย
ฟอสฟอรัส (Phosphaorous)
ทำงานร่วมกับแคลเซียม ประมาณ 85% ของฟอสฟอรัส อยู่ที่กระดูก อีก 15% อยู่ในเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกาย ฟอสฟอรัสมีส่วนสำคัญในการทำงานของกระดูก ฟัน กล้ามเนื้อ คอลลาเจน เส้นประสาท มีส่วนร่วมกับการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน
แมกนีเซียม (Magnesium)
50-60% ของแมกนีเซียมอยู่ที่กระดูก มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน มีผลต่อการทำงานของระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ ระบบเลือด และระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ช่วยให้วิตามิน ดี ทำงานได้
ไอโอดีน (Iodine)
มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
เหล็ก (Iron)
60-70% ของเหล็กที่มีทั่วร่างกายอยู่ที่ฮีโมโกลบิน ซึ่งช่วยในการลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ และยังมีความสำคัญต่อเอ็นไซม์หลายชนิดที่มีส่วนร่วมในกระบวนการการสร้างพลังงานให้แก่ร่างกายอีกด้วย
สังกะสี (Zinc)
ทำหน้าที่ในการสังเคราะห์ DNA และ RNA มีบทบาทสำคัญกับการเจริญเติบโตของร่างกาย มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้แผลหายเร็ว
โครเมียม (Chromium)
ทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลและระบบไขมันในเลือด มีความจำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญกลูโคสให้เป็นพลังงาน
ทองแดง (Copper)
ช่วยในการปรับระดับออกซิเจนในเนื้อเยื่อต่างๆ ทั่วร่างกาย ทองแดงยังจำเป้นกับการขนส่งธาตุเหล็กในเลือด มีผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็ก มีส่วนร่วมในการช่วยยึดคอลลาเจนให้คงสภาพรูปร่างได้
แมงกานีส (Manganese)
เป็นส่วนหนึ่งของเอ็นไซม์หลายชนิดที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับกระบวนการผลิตพลังงานจำเป็นสำหรับการรับส่งสัญญาณของระบบประสาทต่างๆ ในสมอง
โมลิบดีนัม (Molybdenum)
เกี่ยวข้องกับการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิด ช่วยให้ร่างกายสามารถนำพลังงานจากไขมันและคาร์โบไฮเดรตมาใช้ได้ มีความจำเป็นเพื่อให้ร่างกายใช้ธาตุเหล็ก และบำรุงเส้นประสารท และยังช่วยลดอาการภูมิแพ้
ซิลีเนียม (Selenium)
เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ถูกทำลายอาจลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้
โพแทสเซียม (Potassium)
มีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำหน้าที่ขนส่งสารอาหารไปยังเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ช่วยในการขจัดของเสีย ช่วยรักษาสภาพความเป็นกรดเป็นด่างของของเหลวภายในร่างกาย
แหล่งที่มาของวิตามินและเกลือแร่
ผักและผลไม้ เป็นแหล่งที่มาสำคัญของวิตามินและเกลือแร่ เช่น แครอทให้วิตามิน เอ, ส้มให้วิตามิน ซี, บล็อกคอลี่ และบลูเบอร์รี่ให้แมงกานีส เป็นต้น เมื่อเรารับประทานผักและผลไม้ นอกจากเราจะได้รับวิตามินและเกลือแร่แล้ว เรายังจะได้สารอาหารที่เรียกว่า “ไฟโตนิวเทรียนท์” (Phytonutrients) เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น Beta-carotene ช่วยบำรุงสายตา ต้านอนุมูลอิสระ, Sulforaphane ต่อต้านมะเร็งและปกป้องผิวจากแสงแดด, Flavanone ลดไขมันในกระแสโลหิต เป็นต้น
ส้ม (Orange)
ส้มเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน ซี (Vitamin C) ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับร่างกายในการผลิตและบำรุงรักษาคอลลาเจน กระดูก กระดูกอ่อน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล วิตามิน ซี ยังช่วยเซลล์เม็ดเลือดขาวต่อสู้กับเชื้อโรค ช่วยลดการอักเสบของแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี หากคนเราขาดวิตามิน ซี ผลที่ตามมา คือ มีเลือดออกตามไรฟัน เป็นแผลเลือกออกง่ายและหายช้า ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ปวดบวมตามข้อ ความต้านทานโรคต่ำ นอกจากนี้ส้มยังมีสารประกอบที่สำคัญ คือ Flavanone ซึ่งช่วยลดความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอล และสามารถลดอาการอักเสบได้
ลูกพรุน (Prune)
ลูกพรุนมีสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คือ Neochlorogen Acid และ Chlorogenic Acid ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมาทำลายเซลล์สมองและเซลล์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดอาการอักเสบที่เกิดจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และยังช่ยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดด้วยการลดการดูดซึมกลูโคส และช่วยเพิ่มระดับอินซูลิน
องุ่น (Grape)
องุ่นประกอบด้วยสาร Flavanoids ที่เรียกว่า Quarcitin ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง เพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือด ลดอาการอักเสบและการติดเชื้อ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ
กีวี (Kiwi)
กีวี เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน ซี เหมือนส้ม กีวี จึงเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพ ทำหน้าที่เสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อ ช่วยในการดูดซึมเกลือแร่ เช่น เหล็ก นอกจากนี้ กีวียังมีสารไฟโตนิวเทรียนท์ ได้แก่ Flavanoids และ Carotenoids มีหน้าที่ปกป้อง DNA ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ และช่วยทำลายอนุมูลอิสระที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็งได้
ราสพ์เบอร์รี่ (Raspberry)
เป็นผลไม้ที่มีสารอาหารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย คือ Ellagic Acid มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและเป็นสารต้านมะเร็ง ช่วยปกป้องการทำลายเซลล์สมองและโครงสร้างอื่นๆของร่างกาย ราสพ์เบอร์รี่ยังมีสาร Flavanoids ที่เรียกว่า Anthocyanins ให้การปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ และป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ราสพ์เบอร์รี่ยังมีวิตามินและเกลือแร่มากมายที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามิน บี หลากหลายชนิด, วิตามิน ซี และแมงกานีส โดยเฉพาะแมงกานีสที่จำเป็นสำหรับการกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์บางชนิดในร่างกายที่ใช้ในกระบวนการผลิตพลังงาน
สับปะรด (Pineapple)
สับปะรดมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด เช่น แมงกานีส (Manganese) และวิตามิน บี1 (Thiamin) ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ในการผลิตพลังงาน และต่อต้านอนุมูลอิสระ, วิตามิน ซี ป้องกันการทำลายเซลล์ต่างๆ จากอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันอาการหวัด เป็นไข้ และการติดเชื้อ สับปะรดยังมีเอ็นไซม์ชื่อว่า Bromelain เป็นเอ็นไซม์ทำหน้าที่ย่อยอาหารและยังช่วยลดการอักเสบ และอาการบวมที่เกิดจากการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แครอท (Carrot)
เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นผักที่อุดมไปด้วย วิตามิน เอ (Retinaol) ร่างกายมีความต้องการวิตามิน เอ เพื่อผลิตโรด็อปชิน (Rhodopsin) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้เรามองเห็นในความมืด หากขาดวิตามิน เอ จะทำให้สายตาไม่สามารถรับแสงได้ตามปกติ เกิดอาการที่เรียกว่า ตาบอดในเวลากลางคืน (Night Blindness) นอกจากนี้ วิตามิน เอ มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย บำรุงรักษาผิวหนังให้มีสุขภาพดี และทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายแข็งแรงและแครอทยังมี Beta-carotene ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามิน เอ ถ้าวิตามิน เอ ที่สะสมไว้ในร่างกายลดต่ำลง ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของกระจกตา รวมถึง Carotenoids อื่นๆ ในปริมาณสูงซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
บล็อกคอลี่ (Broccoli)
บล็อกคอลี่ประกอบด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ ได้แก่ Sulforaphane และ Indoles เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง และยังกระตุ้นเอ็นไซม์ในร่างกายให้ขจัดของเสียตามธรรมชาติ สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ Sulforaphane ในบล็อกคอลี่ยังช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกแสงแดดทำลายและลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ Lutein และ Zeaxanthin ซึ่งเป็นไฟโตนิวเทรียนท์ที่มีอยู่ในบล็อกคอลี่และผักใบเขียวอื่นๆ มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต้อกระจก
ผักขม (Spinach)
ผักขมหรือผักโขม เป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่มากมายหลายชนิด ได้แก่ วิตามิน เค (Vitamin K) ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ คือ ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ร่างกายต้องใช้วิตามิน เค เพื่อผลิตโปรตีนที่ช่วยบำรุงรักษากระดูกและฟันให้แข็งแรง, วิตามิน เอ และวิตามิน ซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ทำหน้าที่ลดจำนวนอนุมูลอิสระในร่างกาย, โฟเลต (Folate) มีความจำเป็นต่อร่างกายโดยช่วยเปลี่ยนแปลงสารเคมีที่เป็นอันตรายซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจให้กลายเป็นโมเลกุลปกติ, แมกนีเซียม (Magnesium) เกลือแร่ที่ช่วยลดความดันโลหิตสูงและป้องกันการเกิดโรคหัวใจ, แมงกานีส และวิตามิน บี2 (Riboflavin) ที่อยู่ในผักขมอาจช่วยลดความถี่ของการเกิดไมเกรนได้
Brussel Sprouts
ผักตระกูลกะหล่ำอุดมไปด้วยวิตามิน เค ช่วยทำให้เลือดแข็งตัวและทำให้กระดูกแข็งแรง, วิตามิน ซี สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน, วิตามิน เอ และเบต้า-แคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการติดเชื้อ และทำให้ผิวเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ และ Sulforaphane ช่วยกระตุ้นการล้างพิษในร่างกาย เป็นการล้างสารก่อมะเร็งได้อย่างรวดเร็วซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
ถั่วเหลือง (Soybeans)
ถั่วมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน กรดไขมัน, วิตามินและเกลือแร่จำนวนมาก รวมถึงกากอาหาร โปรตีน (Protein) จากถั่วจะให้ระดับคอเลสเตอรอลที่ต่ำกว่าโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ และการทานถั่วเหลืองเป็นประจำจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (LDL) ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือดแดงและก่อให้เกิดโรคหัวใจ สารไฟโตนิวเทรียนท์ในพืชตระกูลถั่ว คือ Isoflavones ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายคลึงกับฮอร์โมนเอสโทรเจน มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยต้านฤทธิ์ของฮอร์โมนเอสโทรเจน เมื่อมีระดับสูงเกินไปจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย
Reference:
นัล, แกรี่. กินดีเพื่ออยู่ดี แปลโดย คทายุธ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์คลินิกสุขภาพ, 2544. ซิลเวอร์แมน, ฮาโรลด์ เอ็ม; โรมาโน, โจเซฟ; และเอลเมอร์, เกรย์. วิตามิน. แปลโดย พิสิฐ วงศ์วัฒนะ, กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน, 2548.
เฮอร์เซล, อแมนดา. คู่มือดูแลสุขภาพด้วยวิตามินและเกลือแร่. แปลโดย เภสัชกรสรจักร ศิริบริรักษ์ และสุรศักดิ์ รักหมาน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2548.
แหล่งที่มา: https://www.mayoclinic.com/health/dr.../DrugHerbIndex [2006, January 23]
แหล่งที่มา: http://www.whfoods.com/nutrientstoc.php [2006, January 21]
แหล่งที่มา: http://www.phytochemicals.info [2006, January 23]
ขนาด 60 เม็ด ราคาป้าย 395 บาท ร้าน SS-Secret ขาย 275 บาท
[SIZE="4"]เพราะเราใช้เอง กินเอง เราจึงกล้าแนะนำ กล้า ขาย
เราดูแล ใส่ใจ ห่วงใย สุขภาพของทุกคน เหมือนที่เราดูแลตัวเอง
เราดูแล ใส่ใจ ห่วงใย สุขภาพของทุกคน เหมือนที่เราดูแลตัวเอง
วิธีการสั่งซื้อ
หากสนใจโทรสอบถาม ได้ที่เบอร์
086-6040710 , 086-3160946 เอสค่ะ
เวลา 09.00 - 20.00 น. นะคะ
1. สามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้า
ผ่านทาง pm ของเว็บ sbn หรือ ตั้งกระทู้สั่งซื้อในกรุ๊ปได้นะคะ
--->> http://sbntown.com/forum/group.php?groupid=63
(ถ้าสั่งซื้อทาง pm หรือ ตั้งกระทู้ในกรู๊ป และ
ซื้อสินค้าครบ 700 บาท เอสส่งลงทะเบียนให้ฟรีค่ะ )
2. ส่งอีเมลมาที่ ss-secret@hotmail.com
--->> ถ้าระบุว่ามาจาก SBN วิธีนี้ส่งให้ฟรีเช่นกันค่ะ
ถ้าแจ้งการโอน ก่อน 12.30 น. จะส่งสินค้าให้ ณ วันที่โอนค่ะ
แต่ถ้าแจ้งการโอน หลัง 12.30 น. จะส่งสินค้าให้ ในวันถัดไปนะคะ
ยกเว้นวันเสาร์ แจ้งก่อน 22.00 น. ในคืนวันศุกร์
เนื่องจากวันเสาร์ เอสมีเรียน 8.30 - 17.00 น.
จึงไม่สามารถรับโทรศัพท์ และตอบเมลได้นะคะ
[SIZE="3"]วันจันทร์ - ศุกร์ เอสจะรับโทรศัพท์ ตั้งแต่ 9.00 - 20.00 น.
วันเสาร์และอาทิตย์ จะรับโทรศัพท์ 19.00 - 21.00 น.
เนื่องจากตอนนี้ เอสกำลังเรียนปริญญาโท
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต อาหารและโภชนาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ซึ่งเรียนค่อนข้างหนักมาก ทำให้มีเวลาน้อยลง จึงอาจมาตอบกระทู้ช้าหน่อยนะคะ
แต่ยังไงก็จะมีนักวิทยาศาสตร์สุขภาพ คนเก่ง (กำลังต่อโทที่จุฬาฯ)
ประจำเว็บ ss-secret เข้ามาตอบคำถามให้ค่ะ
และการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ของแผนกส่งสินค้า ก็ยังส่งรวดเร็วเหมือนเดิมนะคะ
วันเสาร์และอาทิตย์ จะรับโทรศัพท์ 19.00 - 21.00 น.
เนื่องจากตอนนี้ เอสกำลังเรียนปริญญาโท
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต อาหารและโภชนาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ซึ่งเรียนค่อนข้างหนักมาก ทำให้มีเวลาน้อยลง จึงอาจมาตอบกระทู้ช้าหน่อยนะคะ
แต่ยังไงก็จะมีนักวิทยาศาสตร์สุขภาพ คนเก่ง (กำลังต่อโทที่จุฬาฯ)
ประจำเว็บ ss-secret เข้ามาตอบคำถามให้ค่ะ
และการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ของแผนกส่งสินค้า ก็ยังส่งรวดเร็วเหมือนเดิมนะคะ
ss-secret ส่งสินค้าวันละ 1 รอบ เพราะไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้โกดัง
เป็นไปรษณีย์ย่อย จึงมีเพียงรอบเดียว และปิดบ่ายสามโมงค่ะ