ภัยเงียบที่มากับควันธูป...
โดย PREZZO
PREZZO
#1


"ควันธูป" สัญลักษณ์แห่งศรัทธา ที่อบอวลอยู่ในศาสนสถานมาช้านาน มีสารเหนี่ยวนำให้เกิดมะเร็งถึง 3 ชนิด โดยในสถานที่จุดธูป มีสารก่อมะเร็งสูงกว่าที่ไม่จุดถึง 63 เท่า ระบุความรุนแรงของธูป 1 ดอกเทียบเท่าบุหรี่ 1 มวน และหากจุดในบ้าน 3 ดอก โดยไม่ระบายอากาศ ก่อมลพิษเทียบเท่าสี่แยก ที่มีการจราจรพลุกพล่าน พร้อมเสนอโครงการ "จุดแล้วรีบดับ"


นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าแผนกไอซียูโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวระหว่างการเสนอผลวิจัยเรื่อง "สารก่อมะเร็ง: ภัยเงียบที่มากับควันธูป" ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย เมื่อวันที่ 29 ก.ค.51 ณ อาคารสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (โยธี) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้เข้าร่วมฟังการเสนองานวิจัยดังกล่าวด้วย

นายแพทย์มนูญเผยถึงวิจัยชิ้นนี้ ที่ร่วมกับ ดร.พนิดา นวสัมฤทธิ์ นักวิจัยสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงร่วมวิจัยด้วยว่า ควันธูปมีสารก่อมะเร็งถึง 3 ชนิดคือ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน ซึ่งเหนี่ยวนำให้เกิดมะเร็งปอดได้

ทั้งนี้ งานวิจัยได้ศึกษาในบริเวณที่มีการจุดธูป ในวัด 3 แห่งที่จังหวัดอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ โดยเมื่อตรวจเลือดและปัสสาวะ ของกลุ่มคนทำงานในวัด ที่ได้รับควันธูป และกลุ่มที่ไม่ได้รับควันธูป พบกรดมิวโคนิค กรดโมโนไฮดรอกซี-บิวท์นิล เมอร์แคปทูลิค (Monohydroxyldroxyl-butenyl mercaptulic: MHBMA) และไฮดรอกซีไพรีน ซึ่งเป็นสารที่บ่งชี้ว่าร่างกายได้รับสารก่อมะเร็งทั้ง 3 ในกลุ่มคนทำงานที่ได้รับควันธูป

เมื่อเปรียบเทียบสารเบนโซเอไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่มีศักยภาพก่อมะเร็งสูงสุด ในสถานที่จุดธูปและไม่จุดธูป พบว่าในวัดที่จุดธูป มีสารดังกล่าวสูงกว่าสถานที่ไม่จุดธูปถึง 63 เท่า

"นอกจากนี้การติดตาม ดูการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมยังพบว่า สารพันธุกรรมในร่างกายของคนทำงาน ที่ไม่ได้รับควันธูป มีการแตกหัก แต่สามารถซ่อมแซมได้ตามปกติ ขณะที่คนทำงานซึ่งได้รับควันธูปเป็นประจำนั้น พบการแตกหักของสารพันธุกรรมเพิ่มขึ้น และมีการซ่อมแซมลดลง ซึ่งระยะเริ่มต้นของการเป็นมะเร็งคือ การแตกหักของสารพันธุกรรมและไม่สามารถซ่อมแซมได้ จนสุดท้ายสารพันธุกรรมจะกลายเป็นเซลล์ใหม่ และมีการแบ่งตัวถาวรแล้วเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด" นพ.มนูญเผยข้อมูล

อย่างไรก็ดี นพ.มนูญกล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งเนื่องจากควันธูป แต่มีหลักฐานจากงานวิจัยว่า ควันธูปมีสารชักนำให้เกิดโรคมะเร็ง และงานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าควันธูป 1 ดอกมีปริมาณสารก่อมะเร็ง ไม่ต่างจากบุหรี่ 1 มวนเลยทีเดียว และหากจุดธูป 3 ดอกภายในบ้านที่ไม่เปิดให้อากาศระบายจะเทียบเท่ากับมลพิษทางอากาศในสี่แยกที่มีการจราจรพลุ่กพล่าน

"นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยโรคมะเร็งซึ่งไม่สูบบุหรี่และไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ จึงน่าจะมีสาเหตุอื่นที่ก่อให้เกิดมะเร็งและคาดว่าคัวนธูปน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่ระยะเวลาที่จะส่งผลให้เป็นมะเร็งนั้นต้องสั่งสมเป็นสิบๆ ปี เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการสะสม" นายแพทย์มนูญกล่าว

ถึงแม้จะพบว่าควันธูปมีอันตราย แต่คงไม่ง่ายนักที่จะเลิกวัฒนธรรมการจุดธูป โดยนายแพทย์มนูญระบุว่า การจุดธูปมีจุดเริ่มต้นจากอียิปต์ที่สักการะเทพเจ้าด้วยควันกลิ่นหอมและปัจจุบันกว่าครึ่งโลกก็ยังยึดถือวัฒนธรรมนี้อยู่ โดยเอาควันหอมเป็นเครื่องสักการะ และเครื่องมือสื่อสารกับสิ่งที่สักการะ

อีกทั้งเพื่อคำนึงผู้ประกอบการด้วย นายแพทย์มนูญจึงมีแนวคิดในการทำโครงการ "จุดแล้วรีบดับ" โดยเสนอว่าผู้ที่จุดธูปอธิษฐานเมื่อขอพรเสร็จแล้ว ก็รีบดับด้วยวิธีจุ่มน้ำหรือทราย ทั้งนี้คนที่จุดธูปจะได้มีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม และลดสารพิษ ในการก่อมะเร็งด้วย

"ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มโครงการ แต่จะเข้าไปพบพระ เพราะพระได้รับผลกระทบมาก กะจะเข้าไปคุยที่วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษกก่อน" นายแพทย์มนูญเผย

ทั้งนี้ โครงการที่ริเริ่มไว้จะมีคำขวัญคือ "ดับควันธูป ลดคาร์บอน หย่อนควันพิษ ทอนฤทธิ์มะเร็ง" และอนาคตจะขอให้ผู้ประกอบการผลิตธูปชนิดใหม่ ที่มีเนื้อบริเวณปลายธูปเท่านั้นเพื่อลดปริมาณควันธูป
makeberry
#2

ขอขอบคุณ คุณPREZZO อย่างมากๆๆๆๆจริงๆค่ะ
ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าควันธูปที่จุดไหว้พระ ไหว้เจ้าที่บ่อยๆจะร้ายแรงขนาดนี้ T_T

ต่อไปจะเป็นอีกคนที่จะช่วยรณรงค์ให้คนใกล้ตัว ไหว้พระโดยไม่ใช้ธูปค่ะ

ขอบคุณมากๆอีกครั้งสำหรับความรู้ที่ดีมากๆค่ะ :)

due
#3
เดี๋ยวนี้ก็สวดมนต์แบบไม่จุดธูปมาพักนึงแล้ว
เมื่อก่อน กว่าจะสวดเสร็จ ก็แสบคอไปหมดเลย

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ:)
noinoi5
#4
Originally Posted by due
เดี๋ยวนี้ก็สวดมนต์แบบไม่จุดธูปมาพักนึงแล้ว
เมื่อก่อน กว่าจะสวดเสร็จ ก็แสบคอไปหมดเลย

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ:)




หน่อยเป็นอีกคนที่สวดมนต์ไม่ใช้ธูปค่ะ....เพราะพิษของเขาร้ายแรงนัก

ขอบคุณคุณPREZZO มากมายนะคะ นำกระทู้ดีๆมาฝาก
titled
#5
ขอบคุณนะครับ ต่อไปจะใช้ธูปแบบเป็นหลอดไฟแทนละ ไม่ไหวๆ
TEDDY07
#6
ขอบคุณจ๊ะ :D
organ_kaviya
#7
เลิกจุดธูปเรยเรา ขอขอบคุณคร๊าที่เอามาบอกกัน
wnonach
#8
[SIZE="3"]ขอบคุณมากนะคะ ที่นำข้อมูลมาฝากกันค่ะ
ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3