หน้านี้..มีรางวัลจ้าๆๆๆๆ( ครั้งที่1)
โดย pepsi5510
pepsi5510
#1


เบี้ยแก้หลวงปู่เจือ..วัดกลางบางแก้ว




เบี้ยแก้หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาของสายวัดกลางบางแก้ว่าสร้างได้เข้มขลังจริงๆสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง และมีเอกลักษณ์การลงรักถักเชือกเฉพาะตัว เริ่มต้นจากการถักจากตรงกลางของตัวเบี้ยแล้ววนไปจรดใต้ท้องเบี้ยได้อย่างสวยงามและปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างเคร่งครัดตั้งแต่รุ่นอาจารย์คือหลวงปู่บุญเรื่อยๆมาจนถึงหลวงปู่เพิ่มและปู่เจือ นับเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีความสวยงามและมีเสน่ห์ในตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าใครเห็นก็สามารถบอกได้เลยว่านี่เป็นเบี้ยสายวัดกลางบางแก้วที่ดูง่ายมากๆ พุทธคุณของเบี้ยแก้สามารถแก้ กันได้สารพัด ไม่ว่าจะยาสั่ง หรือภูตผีปีศาจ แล้วหนุนดวงได้อีกด้วย ถ้าผู้ใดดวงตกก็สามารถบนบานสานกล่างบอกกับตัวเบี้ยให้แก้กลับจากร้ายกลายเป็นดีได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

วันนี้มีมา 2 รางวัลสําหรับผู้โชคดีนะครับ.


(การตัดสิน ผมจะคัดผู้นําเสนอที่ตอบกระทู้ได้ดี.....เพียง 1 ท่านต่อ 1 หัวข้อ เท่านั้นครับ)


หัวข้อแรก..........


ถ้าผมอยากทํากระเพาะปลาน้ำแดง กินเองที่บ้าน

1.สิ่งสําคัญอันดับแรกคือ...?
2.ขั้นตอนการทํา

มีแค่ 2 คําถามครับ.....ถ้าได้รูปประกอบด้วย ยิ่งดีครับ....ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร.

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

หัวข้อที่ 2 อีก 1 รางวัล ครับ...เบี้ยแก้หลวงปู่เจือ...

****ขอความหมายและความเห็น ว่า การอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลก online******


""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""


จะมี 2 หัวข้อนะครับ รางวัลละหัวข้อกันนะครับ.


**การตัดสิน ผมจะตัดสินในวันพุธ นะครั[


(ตัดสินด้วยความยุติธรรมครับ)
:p:p:p
^^bam bam
#2
สาธุค่ะ

กระเพาะปลาหรอคะ แหะ ๆ ๆ
ถ้าเป็นแบมคงต้องออกไปหาร้านหย่อยหม่ำซะมากกว่า
งั้นขอตอบคำถาม แบบขำ ขำ
1. ออกไปซื้อแบบ frozen foood เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือได้
2. เอากลับมาเข้า microwave
..... ;)
pepsi5510
#3
Originally Posted by ^^bam bam
สาธุค่ะ

กระเพาะปลาหรอคะ แหะ ๆ ๆ
ถ้าเป็นแบมคงต้องออกไปหาร้านหย่อยหม่ำซะมากกว่า
งั้นขอตอบคำถาม แบบขำ ขำ
1. ออกไปซื้อแบบ frozen foood เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือได้
2. เอากลับมาเข้า microwave
..... ;)



เหอๆๆๆ....ก็เป็นความคิดที่ดีครับ..
ถ้าไม่มีเพื่อนๆเข้ามาแข่งตอบ คุณ bam bam ชนะชัวร์ๆเลย

:p:p:p
titled
#4
ขอบคุณนะครับ สำหรับสิ่งดีๆ
pepsi5510
#5
Originally Posted by titled
ขอบคุณนะครับ สำหรับสิ่งดีๆ


คุณ titled ไม่ตอบบ้างเหรอครับ...
นิดหน่อยก็ยังดี..เดี๋ยวกระทู้จะเหงา ...:(:(
greenpark
#6
มาแว้ว 55555

คำถามที่หนึ่งที่ถามถึงสิ่งสำคัญ อิอิ หนูชอบกินมั้งเลยทำกิน :rolleyes:

วิธีทำนะคะ
ส่วนผสม
-กระเพาะปลา,ขิงทุบ 2-3 แง่ง,ต้นหอมซัก 7-8 ต้น,เหล้าขาว นำมาต้มรวมกัน ถ้าไม่มีเหล้าขาวเอาชาจีนมาต้มก็ได้นะคะ แต่มัดใส่ผ้าขาวบางไว้ เวลาเอาใบชาออกจะได้ง่าย เพื่อกระเพาะปลาของเราจะได้ไมกลิ่นเหม็นสาบ

-โครงไก่ 2 โครง
-เห็ดหอมแช่น้ำแล้ว 2-3 ดอก
-หน่อไม้หั่นเป็นเส้นๆ 3 ขีด
-ไข่นกกระทาต้มสุกแกะเปลือก ปริมาณตามชอบ
-เลือดไก่ 1 ก้อนหั่นเป็น สี่เหลี่ยมลูกเต๋า (ประมาณ 1.5 ซม.)
-ไก่ต้มสุกฉีก 2 ขีด
-รากผักชี 3 ต้น
-ซีอ๊วดำ
-ซีอิ๊วหวาน
-น้ำตาล
-เกลือป่น
-แป้งมัน
-รากผักชี
-จิ๊กโฉ่ว

วิธีทำนะคะ
1.ต้มน้ำให้เดือด ใส่ขิงทุบ ต้นหอมทั้งต้น และเหล้าขาว หลังจากนั้นใส่กระเพาะปลาลงไป ต้มไปเรื่อยๆพอนิ่มก็ตักขึ้นมา บีบน้ำ พักเก็บไว้
2.ต้มน้ำให้เดือดใส่โครงไก่ รากผักชี ลงไปพอเดือด แล้วเติมเครื่องปรุงต่างๆ ชิมรสตามชอบ กรองเอาโครงไก่กับรากผักชีออก แล้วใส่ หน่อไม้ กระเพาะปลา ไก่ฉีก ไข่นกกระทา เห็ดหอม
3.นำแป้งมันมาละลายน้ำแล้วค่อยๆเทลงไป รีบคนไม่งั้นแป้งจะเป็นลูกๆ ไม่น่ากิน พอเริ่มข้นตักใส่ชาม
4.ถ้าชอบใส่เส้นหมี่ก็ลวกรอไว้ก้นชามแล้วราดกระเพาะปลาลงไป แล้วโรยหน้าด้วยผักชี พริกไทย ทานกับจิ๊กโฉ่วนี่สุดยอด หรือถ้าชอบน่องไก่อันใหญ่ๆก็ตุ๋นรอไว้ โอ๊ยหิวแล้ว 55555

พอไหวมั้ยค่ะคุณ pepsi นึกถึงสมัยตอนเด็กๆ เวลามีหนังกลางแปลงชอบไปนั่งกินกระเพาะปลามาก เห็นไฟสีส้มๆที่ห้อยอยู่หน้าร้านได้อารมณ์มาก พอกินกระเพาะปลาเสร็จต้องต่อด้วยขนมถังแตก 55555 รู้อายุเลยนะเนี่ย
pepsi5510
#7
เหอๆๆๆๆ...คุณ greenpark เผยไต๋หมด...พอเล่ามาก็รู้เลยว่า อิอิ แก่....55555
ยังขาดอยู่อีกอย่างครับ....ขนมแบบน้ำตาลที่ทําได้หลายๆสี ถ้าเป็นรูป ลิง ก็ใช้เป่า รูปข้าวโพด แบบว่าได้หลายๆแบบ...คงรู้นะครับ...อิอิ แล้วก็เสียบไม้....:p:p:p
greenpark
#8



ให้คุณ pepsi อันนึงอยากได้อันไหนเลือกตามใจเลยนะคะ :rolleyes:
pepsi5510
#9
รางวัล ผมเพิ่มเป็น 2 หัวข้อนะครับ...เพื่อนๆจะตอบข้อใดก็ได้.
หัวข้อละ 1 รางวัล ..... สนุกๆกันครับ

1.กระเพาะปลาน้ำแดง
2.การอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลก online.

ผมเพิ่มให้อีก 1 หัวข้อ หัวข้อละ 1 รางวัลครับ.

:p:p:p
makeberry
#10
คุณ pepsi ผึ้งมาช่วยกลัวกระทู้เหงาค่ะ
แต่ขอไม่รับรางวัลนะคะ เพราะผึ้งไม่ได้คิดเอง
ไป search หามาให้ค่ะ :D


กระเพาะปลาน้ำแดง

ส่วนผสม

กระเพาะปลา 1 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำจนนิ่มแล้วผ่าครึ่ง 1 ถ้วย
หน่อไม้หั่นชิ้น 1 ถ้วย
ไข่นกกระทา 1 ถ้วย
ปีกกลางไก่ 1 ถ้วย
ซีอิ๊วดำ 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย
แป้งมันละลายน้ำ 1 ถ้วย
ผักชีซอย 1 ถ้วย
เกลือป่นเล็กน้อย
น้ำตาลทรายเล็กน้อย

วิธีทำ
1.ตั้งหม้อใส่น้ำใช้ไฟแรงพอน้ำเดือดนำกระเพาะปลาลงต้มให้สุก

ใส่เกลือเล็กน้อย เมื่อสุกแล้วนำขึ้นบีบน้ำออกให้หมดแล้วพักไว้
2.ตั้งหม้อน้ำอีกครั้งใช้ไฟกลาง ใส่เห็ดหอม หน่อไม้ กระเพาะปลา

ไข่นกกระทาและปีกกลางไก่ ต้มต่อไปจนน้ำเดือด
3.ใส่เครื่องปรุงชิมรสให้ได้ตามชอบ ต้มเคี่ยวจนกระทั่งส่วนผสมทั้งหมดสุกและเข้ากันดี
4.ค่อยๆใส่แป้งมันที่ละลายน้ำแล้วลงไป ค่อยๆคนอย่าให้เป็นก้อน

คนต่อจนน้ำเหนียวข้นดีแล้วยกลง
5.ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชีซอย และพริกไทยป่น ทานร้อนๆ



รูปปลากรอบค่ะ ^^ (น่ากินใช่ม๊า อิอิ)

ก่อนอื่นเอากระเพาะปลามาต้มก่อน




ตั้งหม้อต้มน้ำใหม่

1.ใส่คนอร์ผงเพื่อได้รสชาติซุปกระดูกที่ไม่ต้องเคี่ยวนาน
2.ใส่เกลือนิด
3.ซีอิ้วขาวหน่อย
4.น้ำปลานิด
5.ซีอิ้วดำหน่อย ดูให้สีเข้มพอดีถูกใจ
6.ตามมาด้วย หมูบดปรุงรส(แบบนุ่ม)
7.ใส่หน่อไม้ต้มหั่นฝอย
8.ปกติที่ขายๆกันจะใส่เลือดไก่ต้มหั่นไปด้วย แต่ถ้าใครไม่ชอบกินเลือดก็ใส่เต้าหู้ไข่ไก่ไปแทน
9.เห็ดหอมก็ไม่มีเหมือนกัน เลยใช้เห็ดเข็มทองเอา
10.ต้มให้เข้ากันสักพัก อันที่จริงค่อยๆตุ๋นไปเรื่อยๆรสชาดมันจะได้กลมกล่อมเข้าไปในกระเพาะปลา
11.ละลายแป้งมันกับน้ำสัก 1ถ้วย กะเอาว่าทำเยอะแค่ไหน แต่ที่หอไม่มีแป้งมันวันก่อนซื้อแป้งข้าวโพดมาเลยใช้แทนกันพอถูๆไถๆไปกันได้ (แป้งมันจะให้ความข้นเหนียว กว่าแป้งข้าวโพด)
12.ค่อยๆเทลงไปทีละนิด ให้คนมาคนๆให้ทั่ว ช้าๆอย่าใส่เยอะเดี๋ยวข้นเกินแล้วจะเสียใจ
13.ต้มต่อไปสักพักให้เดือดปุดๆ หรือถ้าไม่รีบกินก็เบาไฟให้อ่อนลง







เสร็จแล้วก็ตักใส่ถ้วย





credit รูปและวิธีทำจาก คุณ P.P.Yai@2008 ค่ะ :D

makeberry
#11
การอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลก online.

อันนี้ตอบตามความรู้สึกเลยค่ะ
โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ว่าจะโลกออนไลน์
หรือในชีวิตประจำวัน
ถ้าทุกคนที่อาศัยอยู่ในสังคมเดียว
พึงระลึกเอาไว้ที่คำๆนึงนั่นคือ "ใจเค้าใจเรา"
เท่านี้ทุกคนก็อยู่กันอย่างมีความสุขค่ะ

ไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ
แค่ก่อนจะทำอะไรสักอย่าง
ลองถามตัวเองดูก่อนว่าถ้าเป็นเรา
เราจะชอบมั๊ย เราจะรับได้มั๊ย
โดยคิดให้เป็นกลางนะคะ อย่าคิดแบบเข้าข้างตัวเอง
เพราะในความจริงแล้วคนทุกคนก็อยากได้สิ่งที่ถูกใจตัวเองทั้งนั้น
แต่ตอนนี้เราอยู่ในสังคมของคนหมู่มาก
จะทำทุกอย่าง อย่างที่ใจต้องการไม่ได้หรอกค่ะ
แค่ทำทุกอย่าง ที่เราคิดว่าดี
และไม่เดือดร้อนใครก็พอแล้วค่ะ

ปล.ขอร่วมเล่นเกมส์แบบไม่ขอรับรางวัลนะคะ
เล่นกันสนุกๆ เพื่อขอบคุณ คุณ pepsi
ที่นำเรื่องราวดีๆมาให้ SBN เสมอๆ

ปล อีกที.ชอบเรื่องของยายมากที่สุด
อ่านไปขนลุกไป 55555555555 :D
TEDDY07
#12
น่ากินจังเลยยยยยยย
Jellyfish
#13
เรื่องสูตรอาหารแมงคงสู้ไม่ไหวแน่เลย ขอตอบข้อ 2 แล้วกันคะ กระทู้จะได้ไม่เหงา
อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขบนโลก online แมงนึกถึงความจริงใจและการให้เกียรติคะ
จริงใจคือ การอยู่ในโลก online นั้น ข้อ 1 ล่ะเราไม่รู้จักตัวตนกันที่แท้จริง แต่ก็ให้อยู่
บนพื้นฐานของความจริงใจ ไม่โป้ปด หลอกลวง ฉ่อโกง ฉวยโอกาศจากช่องว่างของการสื่อสาร
ผ่านการ online หาผลประโยชน์ รวมทั้งทำให้สังคม online เดือดร้อน และ เสียความรู้สึก
อีกข้อ คือการให้เกียรติ อย่างที่พูดไปคะ การอยู่ในสังคม online เราไม่รู้จักกันและกัน
เราต้องให้เกียรติกัน คำนี้กว้างมากคะ และครอบคลุมหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะให้เกียรติในการ
อ้างอิง หรือ ใช้ข้อมูลที่คนอื่นโพสต์ไว้ โดยการให้เครดิต หรือ ให้เกียรติในการใช้คำพูดในสังคมonline ก็อย่างที่บอก เราไม่่รู้จักตัวตนกัน บางคนก็กล้าเก่งในนี้ ใช้ภาษารุนแรงไม่เกรงกลัว น้อง ๆ บางคนไม่มีวุฒิภาวะ ถ้าเจอคนมีน้ำใจให้อภัยก็ผ่านไป แต่ถ้าเจอคนจริงไม่จบเรื่อง ก็จะเลยเถิดไปคะ สำหรับแมงก็ตามที่พูดมาสองข้อสำคัญด้านบนคะ :-)
wnonach
#14
[SIZE="2"]สวัสดีค่ะ คุณ เป็บซี่ แหมอยากตอบข้อทำกระเพราะปลาน้ำแดงมาก แต่ต้องขอไปเกิดใหม่ก่อนละคะ เอิ้กกๆๆๆ หนึ่งขอให้ความเห็นเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ การอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลก online. ก็แล้วกันเนอะ

หนึ่งว่าสังคมออนไลน์มันกว้างใหญ่เหลือคนา ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนและต้องมาอยู่ร่วมกัน พื้นฐานความเป็นอยู่ต่างกัน การเลี้ยงดูครอบครัวก็ต่างกัน เราจะเห็นบ่อยๆในการแสดงความคิดเห็น บางครั้งก็มีการกระทบกระทั่งกันรุนแรง

การที่เราจะอยู่ในสังคมแบบนี้ได้อย่างมีความสุขก็คือ การยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น เราต้องเข้าใจคนอื่นบ้างไม่มีใครคิดเหมือนเราทุกคน เพราะว่าทุกคนมีความคิดเห็นแตกต่างกันโดยพื้นฐานอยู่แล้ว และถ้าเรามีการยอมรับได้ทั้งความเห็นที่ตรงกับเรา และไม่ตรงกับเราได้ นั้นก็หมายถึงการให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย

ในความเป็นจริงไม่ว่าเราจะอยู่ในสังคมออนไลน์หรือสังคมไหนๆก็แล้วแต่ การให้เกียรติและรู้จักฟังความคิดเห็นของคนอื่นจะเป็นคนที่อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ต้องรู้จักขอโทษ รู้จักให้อภัย ไม่มีใครดีหมดทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่มีใครไม่ดีทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน

แต่เราก็ต้องรู้ว่า การที่เราจะพูดหรือเขียนอะไรออกมาก็ต้องคิดให้ดีก่อน ให้นึกถึงเขาถึงเราเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ถ้าเราพูดแบบนี้ออกไป เขาจะรู้สึกอย่างไร และถ้ามีใครมาพูดแบบนี้กับเรา เรารู้สึกอย่างไร คนที่โดนกระทำมีความรู้สึกไม่แตกต่างจากเรา คนเรามีความคิดมีความรู้สึกเหมือนกัน อย่ามีอคติ มองโลกในแง่ดี เท่านี้ก็อยู่ได้อย่างมีความสุขแล้วละค่ะ:D

ปล ฝากไว้ให้คิด เหนือฟ้า ยังมีฟ้า นะคะ :p

ขอบคุณ คุณเป็บซี่ มากมายค่ะหาเกมส์มาให้เล่นสนุกๆอยุ่เรื่อยเล้ยยยย :D
Drmoonoi
#15
มาขอเล่นด้วยจ้ะ แต่ไม่ขอรับรางวัลนะคะ เพราะถ้าส่งมาที่นี่สงสัยจะโดน Custom เช๊คแล้วคิดว่าเป็นเมล็ดพันธุ์พืชนะคะ กลัวว่าจะถูกริบซะก่อนได้มาบูชา

ข้อ 1: อย่างแรกที่จะต้องทำ คือ ต้องมีความรู้สึกอยากกินก่อนค่ะ เป็นคนไม่ค่อยชอบกินกะเพราะปลาเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบกลิ่นหน่อไม้ดอง เวลากินเลยเลือกกินกระเพราะปลากับไข่นะคะ

ถ้าอยากกิน อยู่ที่นี่ ฝีมือทำอาหารอนุบาลหมีน้อยมากๆ อาศัยซื้อกินมากกว่า เพราะฉะนั้น ถ้าอยากกินก็จะไปร้านอาหารจีน มีอยุ่ที่นึงขับรถไปจากบ้านประมาณ ยี่สิบนาที เป็นเมนูที่เป็นซุป แต่ใส่กะเพราะปลา รสชาติ คล้ายๆของบ้านเราแต่สีอ่อนกว่าเยอะและใส่พวกแครอทหั่นลูกเต๋ากับถั่วเม็ดเล็กๆเขียวๆ อร่อยเหมือนกัน ที่สำคัญ ไม่มีหน่อไม้ดองให้ต้องมาคอยเลือกออกนะคะ อ้อ เค้าตีไข่เป็นสายๆใส่ไปเลย แทนที่จะเป็นไข่ต้มเป็นลูกๆนะคะ




ข้อ 2: สมาชิกก่อนๆหน้าตอบเหมือนกับที่ใจตัวเองคิดไปหมดแล้วนะคะ เลยขอไม่ตอบนะคะ
;)
yai_625
#16
ตอบกระเพาะปลานะค่ะสิ่งสำคัญน่าจะเป็นการทำให้น้ำมันออกไปจากกระเพาะปลาก่อนเพื่อไม่ให้เหม็นหืนค่ะ
pop_pop_dc@hotmail.com
#17

การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในโลก online ในความคิดของป๊อปเลยอ่ะนะ



พอใจเมื่อเห็นคนอื่นมี ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นได้ จะให้ความสุขที่แท้จริง
ป๊อปคิดว่าบางทีบางช่วงเวลาความสุขของคนมิได้อยู่ที่เงิน ทอง ทรัพย์สมบัติ หรือวัตถุอันเลอค่า ฟุ่มเฟือยแต่อยู่ที่ความอิ่มเอิบใจต่างหาก เมื่อใจอิ่มเอิบ ในการที่เห็นคนอื่นมีหรือได้หรือเห็นใครมีความสุข เราก็จะสุขตาม ฉะนั้น จุดที่เราควรเอาใจใส่จึงอยู่ที่ใจของเราเอง เมื่อรักษาใจให้หาย จากความโลภ ความริษยา ชิงชัง หรือการอยากมีอยากได้นั้นแบบคนอื่นนั้น นั่นคือรู้จักทำใจให้พอดี กับสิ่งที่เป็นอยู่ แล้วท่องโลก cyber เพื่อหาอาหารตา อาหารใจ และบางทีอาจได้ค่าขนมเล็กน้อยๆ ด้วยวิธีที่สุจริตไม่คดโกง และดูรีวิวต่างๆที่ทำให้กระปรี่กระเปร่า(หมายถึงห้องที่เพื่อนหลายๆคนมาโชว์ของรักของหวงน๊า) เหล่านั้นแหละทำให้ตัวป๊อปคิดว่ามีความสุขทุกครั้งที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ เพื่อบริโภคหาความรู้ และพูดคุยหรือทำกิจกรรมต่างๆ อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย และคิดซะว่าทุกคนก็เป็นเพื่อนมนุษย์ ย่อมมีจิตใจ รัก โลภ โกรธ หลงด้วยกันทั้งนั้น หากมีอะไรกระทบกระทั่ง ก็แค่ใช้คำว่า ให้อภัยให้เป็นประโยชน์ ก็จะอยู่บนโลก onlone ได้อย่างอิ่มกาย อิ่มใจ และมีความสุข บางทีเพลินจนเช้าแล้วยังไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย

AnnAnnAntz
#18
มาร่วมสนุกให้คึกคัก..ครื้นเครง ค๊าาาาา

หัวข้อแรก..........
ถ้าผมอยากทํากระเพาะปลาน้ำแดง กินเองที่บ้าน

1.สิ่งสําคัญอันดับแรกคือ...
เตรียมกุญแจรถ .... บรื้น..บรื้นนนนนนนนน

2.ขั้นตอนการทํา
ขับรถไปร้านคุณอาเป๊ป ให้ลูกคุณอาทำให้แล้วใส่ถุงกลับมากินที่บ้าน
555+

ปล.ถนัดแต่ตระเวนกิน ตอบแบบนี้จะโดนคุณอาpepsi เหนี่ยวมั๊ยเนี่ย 555+ :D

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

หัวข้อที่ 2 อีก 1 รางวัล ครับ...เบี้ยแก้หลวงปู่เจือ...

****ขอความหมายและความเห็น ว่า การอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลก online******

พึงปฏิบัติกับเพื่อนร่วมOnline เฉกเช่นเดียวกับเพื่อนในโลกจริงของคุณ
และพึงระลึกไว้เสมอว่า.."เจ้าหว่านสิ่งใด เจ้าก็จะได้สิ่งนั้น"

^^
Moohiso
#19
มาเกือบไม่ทันๆ ขอร่วมสนุกด้วยครับโดยการส่งเรียงความเข้าประกวด 555+

.....................................................การอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลก online
.......สังคม (Social) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปภายใต้อำนาจเดียวกันในอันที่จะดำเนินไปสู่จุดหมายร่วมกัน และยึดถือคุณค่าทางสังคมอย่างเดียวกัน ตลอดจนมีการกระทำโต้ตอบกันอย่างต่อเนื่อง และมีการสังสรรค์ระหว่างกัน ซึ่งในปัจจุปัน”สังคม” มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เช่น “สังคมออนไลน์” เป็นต้น
.......ในเมื่อมนุษย์เป็นสัตว์สังคม (Social animals) ดังนั้นมนุษย์ทุกคนย่อมเสาะแสวงหาสังคมของตัวเองทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสังคมในชุมชนก็ดี สังคมในที่ทำงานก็ดี หรือแม้กระทั่ง “สังคมออนไลน์” แต่โดยธรรมชาติแล้วสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตย่อมมีความคิดเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะมนุษย์ ในสังคมของคนหมู่มาก สิ่งหนึ่งที่จะเพิ่มขึ้นไม่แพ้จำนวนคนเลยนั่นคือ ความคิด ความคิดสำคัญมากในการดำรงชีวิตเรามักใช้ความคิดในการแก้ไขปัญหาต่างๆอยู่เสมอ ดังนั้นความคิดจึงเป็นสาเหตุแห่งการกระทำ ซึ่งการกระทำจะส่งผลต่อตนเองและบุคคลรอบข้างซึ่งก็คือสังคมนั่นเอง ดังนั้นสรุปได้ว่าความคิดมีผลต่อสังคมเป็นอย่างมาก แล้วอะไร? ที่จะทำให้ความคิดของคนทุกคนเป็นกลางเอาใจเขามาใส่ใจเรา อะไร? ที่จะทำให้การกระทำของตนนั้นจะไม่ทำให้ตนและผู้อื่นเดือดร้อน ผมจึงขอยกเอาคำสอนขององค์พระตถาคตที่พระองค์ทรงสอนไว้เป็นหลักธรรมในการปฏิบัติ ดังนี้
.......สังคหวัตถุธรรม แปลว่า ธรรมหรือข้อปฏิบัติสำหรับการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม ที่จะก่อให้เกิดความสงบสุขทุกฝ่ายต้องรู้จักเฉลี่ยแบ่งปันประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์สุขอันไพบูลย์ของคนส่วนใหญ่ ทุกฝ่ายจะต้องมีคุณธรรมสำคัญ 4 ประการคือ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตตา
......1. ทาน คือ การให้แสงความโอบอ้อมอารี ได้แก่ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยวัตถุสิ่งของ การยอมเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวมการสงเคราะห์ดูแลกันตามกำลัง ตามความจำเป็น และตามเหตุการณ์หนักเบาที่เกิดขึ้น ไม่นิ่งดูดาย ไม่เฉยเมย เข้าทำนองว่า “มือไม่พาย แต่เอาเท้าราน้ำ” ผู้ที่ให้ย่อมได้รับผลแห่งการให้เฉพาะตน เช่น ได้บุญ ได้คุณ และความสุข ส่วนในด้านสังคม ได้ความภักดี ความกตัญญูกตเวทีและความปลอดภัย
......2. ปิยวาจา คือ คำพูดที่ชวนให้เกิดความรัก ความชื่นใจ ได้แก่ พูดด้วยเจตนาดี มุ่งประโยชน์ สานประโยชน์ เว้นคำพูดที่ทำลายประโยชน์ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น เช่น พูดเท็จ พูดหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ การพูดดี คือพูดอ่อนหวานพูดสานประโยชน์ พูดลดความขัดแย้ง เป็นมงคลภาษา ดังคำพังเพยที่ว่า “ปากเป็นเอก เลขเป็นโท” คนที่พูดดี เป็นคนมีปากทอง เมื่อพูดไปแล้ว จะได้รับผลตอบสนอง คือ มีคนชอบ มีคนเชื่อ และมีคนช่วย
......3. อัตถจริยา คือ การบำเพ็ญประโยชน์ ได้แก่ การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ด้วยกำลังกาย กำลังทรัพย์ การอนุรักษ์สาธารณสมบัติ การสร้างสรรค์สาธารณประโยชน์ การช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่สาธารณชน โดยไม่เห็นแก่ตัว หรือประโยชน์ของตัวจนเกินงาม
......4. สมานัตตตา คือ วางตนเป็นกลาง ได้แก่ มีความยุติธรรมเที่ยงตรง ไม่อคติ เพราะชอบ ชัง ลุ่มหลง หวาดกลัว ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่เลือกปฏิบัติ ปฏิบัติตนกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ที่สำคัญคือต้องวางตนอย่างเหมาะสมเสมอต้นเสมอปลายตามฐานานุรูป
.......จะเห็นได้ว่า สังคหวัตถุธรรม คือ ทาน โอบอ้อมอารี ปิยวาจา วจีไพเราะ อัตถจริยา สงเคราะห์ประชาชน สมานัตตตา วางตนเหมาะสมเป็นคุณธรรมที่ยึดโยงคนในสังคมให้มีน้ำใจต่อกัน รู้จักให้โอกาสให้อภัยต่อกัน หากคนในสังคมใดโดยเฉพาะสังคมไทย ยึดถือปฏิบัติ ย่อมจะได้รับความสงบสุข และเกิดความสมัครสมานสามัคคีปรองดองขึ้นแบบยั่งยืน เปรียบเสมือนลิ่มสลักทำให้อาคารบ้านเรือนมั่นคงแข็งแรง
........สาราณียธรรม คือ ธรรมะข้อปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความรัก ความเคารพยกย่อง และช่วยให้คิดถึงกันและกันอย่างจริงใจเป็นหลักธรรมสำคัญที่เป็นไปเพื่อการสงเคราะห์ช่วยเหลือกัน เพื่อการไม่ทะเลาะวิวาทบาดหมางกัน เพื่อความสามัคคีกัน และเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พระพุทธเจ้า ทรงแสดงหลักสาราณียธรรม คือ
.......1. เมตตากายกรรม ช่วยเหลือผู้อื่นทางกาย ด้วยความปรารถนาดี คือช่วยด้วยแรงกายเต็มตามกำลังความสามารถ
.......2. เมตตาวจีกรรม ช่วยเหลือผู้อื่นทางวาจา ด้วยความปรารถนาดี คือช่วยด้วยการพูด ให้คำปลุกปลอบ ให้คำแนะนำ การไม่กล่าวร้าย ไม่ดูหมิ่นเหยียดหยามไม่เหยียบย่ำซ้ำเติมผู้อื่น
.......3.เมตตามโนกรรม ช่วยเหลือผู้อื่นทางใจด้วยความปรารถนาดี คือเอาใจช่วย คิดช่วย ไม่มุ่งเอาแต่ได้ ไม่คิดร้ายหมายขวัญ ไม่ก่อกวนด้วยทัศนคติที่ผิดทำนองคลองธรรม ไม่เห็นผิดเป็นชอบ ไม่กำหนดกรอบสองมาตรฐาน
......4. สาธารณโภคี แบ่งปันสิ่งของที่ตนได้มาโดยชอบธรรมแก่ผู้อื่น ให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์จากทรัพย์สิ่งของของตนบ้าง ซึ่งก็คือการรู้จักเฉลี่ยประโยชน์แก่คนรอบข้างแก่สังคม และสูงขึ้นไปกว่านั้นคือ การสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ สละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต สละทรัพย์ อวัยวะ และชีวิตเพื่อรักษาธรรม ในที่นี้ได้แก่ การสละทรัพย์
อวัยวะ และชีวิตเพื่อรักษาและสร้างความมั่นคงแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
......5. สีลสามัญญตา มีความประพฤติดีงามเท่าเทียมผู้อื่น หมายถึง เคารพกฏเกณฑ์กติกา ระเบียบแบบแผน ในที่นี้ ได้แก่การปฏิบัติตามกฎหมาย ศีลธรรม วัฒนธรรม จารีตขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของสังคม ตลอดถึงการรู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้อภัย ไม่มุ่งแต่จะเอาชนะกันอย่างเดียวกัน เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมเป็นทุกข์ (คิดแต่จะแก้แค้น)
......6. ทิฏฐิสามัญญตา มีความคิดเห็นร่วมกับผู้อื่นในสังคม การยอมรับความแตกต่างทางความคิด ไม่เป็นเหตุก่อให้เกิดความแตกแยกเพราะการที่คนในสังคมมีความหลากหลายทางความคิด เป็นความงอกงามของสังคม หากสามารถปรับแนวคิดต่าง ๆให้เป็นไปเพื่อจุดมุ่งหมายในทางสร้างสรรค์ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมหันต์ ในทางกลับกัน หากคนในสังคมมีความคิดเห็นร่วมกันในทางทำลาย ก็จะกลายเป็นภัยอย่างใหญ่หลวงเช่นกัน
......จะเห็นได้ว่า สาราณียธรรมทั้ง ๖ ประการนั้น เป็นหลักธรรมพื้นฐานของสังคม ที่จะเชื่อมประสานรอยร้าว
สร้างความรักความผูกพันของคนในสังคมให้แนบแน่น เป็นแกนกลางของความสมานฉันท์สามัคคี ปลูกรักปลูกไมตรีมีความร่วมมือร่วมใจ ห่วงหาอาทรต่อกัน ดังคำที่ว่า “รักกันให้เหมือนพี่ ดีกันให้เหมือนน้อง ปรองดอง ให้เหมือนญาติ สังคมจะเจริญ”
......สิ่งเหล่านี้ที่องค์พระศาสดาได้ทรงสอนไว้ซึ่งเป็นคำสอนที่พวกเราทุกคนสามารถปฏิบัติได้อย่างไม่ยากนัก ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด ศาสนาใดก็ตาม อย่ามองว่านี่เป็นคำสอนของศาสนาพุทธให้มองว่านี่เป็นคำสอนสำหรับมนุษย์ “ดาวไม่ว่าจะมีซักกี่หมื่นล้านทุกดวงก็ยังทอแสงส่องลงมาให้เราได้เห็น” นี่จึงเป็นแสงอีกแสงหนึ่งที่จะส่องสว่างให้กับมุนยษ์ว่าทำอย่างไรถึงจะดำรงอยู่อย่างมีคุณค่าในสังคม โดนเฉพาะ”สังคมออนไลน์”จะได้ไม่มีการหลอกลวงขายของปลอม ไม่มีการเอาเปรียบในการซื้อ-ขาย เป็นต้น สังคมออนไลน์ เป็นสังคมที่ผู้คนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ดังนั้นเราควรปฏิบัติตามนี้ให้ได้อย่างดีที่สุด เพื่อสังคมออนไลน์ที่ดีของเราครับ


pepsi5510
#20
พรุ่งนี้จะตัดสินแล้วนะครับ...
ตอบกันมาได้หลากหลาย จริงๆ...

ของคุณ Ann Ann Antz เหอๆๆๆเข้าตากรรมการ ไหนๆๆมาเหนี่ยว 1 ที...5555
:p:p:p

การตัดสิน ถือเป็นสิ้นสุดนะครับ..ไม่มีลําเอียง ครับ.
เพราะผมถือว่า เรามาร่วมสนุก และแชร์ความเห็นกัน...อีกทั้ง ต้องเข้าใจง่าย แบบว่า...
ว๊าววว... OK ...ใช่เลย.

ผลการตัดสิน ผมจะโพสผู้ชนะ และ ข้อความจากกระทู้ของผู้ชนะ แต่ละรายการ จะตั้งใหม่พรุ่งนี้นะครับ.

:cool::cool::cool:


noinoi5
#21
มาช่วยร่วมตอบให้กระทู้ไม่เหงานะคะ....

ข้อ 1
ถ้าอยากกินกระเพาะปลาน้ำแดง...ต้องบอกแม่ค่ะ...แม่..แม่...หนูอยากกินกระเพาะ
ปลาน้ำแดง...ทำให้หนูกินหน่อยนะ...อิ...อิ...

ข้อ 2 การอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลกออนไลน์

1.ปฏิบัติตัวกับคนที่เราคุยด้วยให้เสมือนดั่งเห็นเขาอยู่ตรงหน้า
2.ไม่เคยพบพานแต่....ให้ความจริงใจ...
3.ยิ้มให้ทุกครั้ง...ยิ้มหน้าคอมพ์เนี่ยแหละค่ะ...

เบี้ยแก้ไม่เอาค่ะ....มีแล้ว...อันเดียวก็เกินพอแล้วค่ะ....มาช่วยตอบสนุกๆเพราะชอบกระทู้ของคุณ
ตา pepsi มากมาย
cartoon
#22
มาร่วมสนุกด้วยคนนะคะ

ถ้าผมอยากทํากระเพาะปลาน้ำแดง กินเองที่บ้าน

1.สิ่งสําคัญอันดับแรกคือ...?


อืม ถ้าเป็นพี่แป๊ปนะคะ ตูนว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกน่าจะเป็นคุณภรรยาพี่แป๊ปอยากทานแน่ๆเลยค่ะ พี่แป๊ปก็เลยต้องเป็นพ่อครัว อิอิ

2.ขั้นตอนการทํา

1. ซื้อกระเพาะปลาแห้ง ซึ่งกระเพาะปลาแห้งมี 2 ชนิด คือ เป็นหลอดกับเป็นแผ่นหนาๆ
คล้ายหนังหมู ซึ่งก็ให้เลือกตามชอบใจเลยนะคะว่าอยากทานแบบไหน
2. เมื่อได้กระเพาะปลามาแล้วก็แช่น้ำให้นิ่ม จากนั้นเอาไปต้มให้เดือด พอเดือดได้ที่
ให้เอาเหล้า 35 ดีกรี (ถ้าเป็น 100 ดีกรี พี่แป๊ปคงเอาไปใส่แก้วแล้วรินลงคอแน่ๆ)
ใส่ลงไปพอประมาณ แล้วดับไฟปิดฝาหม้อไว้สักพัก จากนั้นให้รินน้ำออก ล้าง
กระเพาะปลาด้วยน้ำเปล่าแล้วบีบกระเพาะปลาหลายๆครั้งจนกว่ากลิ่นเหล้าจะหายไป จากนั้นพักไว้ก่อน
3. ต้มน้ำซุปด้วยโคลงไก่หรือกระดูกหมูก็ได้
4. เตรียมส่วนประกอบอื่นๆตามชอบ เช่น หน่อไม้ซอย, ไข่นกกระทา, ปีกไก่หรือเนื้อ
สัตว์อื่นๆก็ได้ตามกำลังทรัพย์
5. ใส่ส่วนประกอบทั้งหมดลงในหม้อน้ำซุป
6. เติมรสชาตโดยการใส่ ซีอิ้วดำเล็กน้อยเพื่อแต่งสี ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส น้ำตาลทรายเล็กน้อย ชิมดูรสชาตตามชอบใจค่ะ
7. เมื่อได้รสที่ถูกใจแล้วให้นำกระเพาะปลาที่พักไว้มาใส่ลงไป คนให้เข้ากันหลังจากนั้น
ให้นำแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดก็ได้ละลายน้ำเล็กน้อย แล้วค่อยๆเติมลงไปในหม้อระวังอย่าให้ข้น
เกินไปหรือใสเกินไปนะคะ (ตอนนี้ผู้ปรุงต้องกะเองนะคะ)

เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ให้ตักขึ้นใส่ชามตกแต่งให้สวยงามด้วยผักโรยหน้านิดหน่อย
อาจปรุงรสเพิ่มด้วยพริกไทย จิ๊กโชว่(หรือซอสเปรี้ยว) ก็พร้อมรับประทานทันทีค่ะ

*******************************************************

หัวข้อที่ 2 อีก 1 รางวัล ครับ...เบี้ยแก้หลวงปู่เจือ...

****ขอความหมายและความเห็น ว่า การอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลก online******


โห ข้อนี้ยากเหมือนทำข้อสอบเลยนะคะมันกว๊าง กว้าง

1. ความหมายของการอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลก online ก็คือ การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติ
กลมกลืนและสมานฉันท์

2. ความเห็นส่วนตัวของตูนเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันแบบมีความสุขบนโลก online นะคะ
ตูนคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องรู้จักตัวเราเองค่ะ ก่อนอื่นเราต้องนึกระลึกอยู่เสมอว่า
การที่เราเข้ามาเล่นในโลกอินเตอร์เนตนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร ถ้าเรารู้จุดประสงค์ ของเรา
และเราก็พยายามจะเตือนสติตัวเองอยู่เสมอแล้ว ไม่ว่าใครๆหรือสิ่งยั่วยุใดๆก็ไม่น่าจะ
สามารถดึงเราออกไปนอกลู่นอกทางได้
แต่จุดประสงค์ของเราต้องเป็นไปในด้านที่ดีนะคะ ถ้าเป็นด้านร้ายๆที่มุ่งทำลายคนอื่น
เช่น การเอาเบอร์โทรศัพท์คนที่เราไม่ชอบมาโพสลงอินเตอร์เนตแล้วบอกว่าเค้าประกอบ
อาชีพให้บริการทางเพศ ,การนำรูปคนที่เราไม่ชอบแล้วฟอร์เวิร์ดเมลล์ไปเรื่อยๆเพื่อเป็นการประจานให้อับอาย
การทำลายสังคมส่วนรวมหรือประเทศชาติ เช่น การโพสข้อความปลุกระดม หรือกรณีหุ้นที่กำลังเป็นข่าวครึกโครมด้วยแล้วก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่งเลยค่ะ เพราะว่าโลกนี้
ไม่มีความลับ ถ้าสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องไม่ดีในที่สุดสิ่งเหล่านี้ก็จะย้อนกลับมาทำร้ายเราเอง
สรุปว่าดูแลตัวเราให้อยู่ในกรอบและศีลธรรมที่ถูกต้องดีที่สุดค่ะ :p


ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3