ตอนนี้เราท้องได้ 6 เดือนแระ มีคนแนะนำให้เก็บ Stemcell (ถ้าเก็บแล้ว ชีวิตไม่ลำบากจนเกินไป) เพราะมันสามารถนำมาใช้รักษาโรคได้เกือบ 100 โรค และไม่ได้ใช้ได้แค่ตัวเด็กเอง ยังสามารถใช้กับพี่น้องของลูก หรือกับพ่อแม่ได้ด้วย เลยมีคำถามมาถามเพื่อนๆ ตามนี้เลยค่ะ
1. มีเพื่อนๆ คนไหนเคยเก็บบ้างคะ จริงๆ แล้วมันควรจะเก็บไม๊คะ
2. เก็บกับที่ไหน บริษัทไหน pm มาบอกหน่อยค่ะ
3. มีวิธีเลือกบริษัทยังไงคะ แล้วทำไมถึงเลือกบริษัทนั้นๆ คะ
4. แล้วเพื่อนๆ จ่ายครั้งเดียว หรือ จ่ายแบบรายปีคะ (เห็นว่าจ่ายครั้งเดียว ถูกกว่าเยอะเลย)
รบกวนผู้มีความรู้มาบอกหน่อยนะคะ
หรือถ้าเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ฝาก แวะมาบอกกล่าวความคิดเห็นก้อได้ค่ะ ว่าคิดกันยังไง
ขอบคุณเพื่อนๆ มากๆ นะคะ :)
สอบถามเรื่องการเก็บ stemcell จากสายสะดือ ตอนคลอดหน่อยค่ะ เพื่อนๆ มีความเห็นยังไงกันบ้างคะ
โดย 
tiny
tiny
โห เดี๋ยวนี้สะดวกดีจังนะคะ อ่านแล้วน่าสนใจจัง มารอฟังคำตอบด้วยคนค่ะ :)
0 ขอบคุณ
0 ถูกใจที่สุด
ขอตอบเท่าที่ติดตามจากข่าวสารและอ่านจากห้องหว้ากอในพันธ์ทิปนะคะ (ใครเป็นคุณหมอมีข้อเท็จจริงอย่างไร ลองแลกเปลี่ยนกันนะคะ)
คือในแง่ของโรงพยาบาลเอกชน (โรงพยาบาลของรัฐไม่อนุญาตให้เสนอบริการนี้นะคะ) เค้าจะได้เปอร์เซ็นต์จากการที่ให้บริษัทรับเก็บ Stemcell เข้ามาเสนอขายบริการแก่คุณแม่มือใหม่ (พูดง่าย ๆ ว่าเป็นธุรกิจ) โดยอ้างว่าสามารถรักษาโรคได้เป็นร้อยโรค อย่างที่คุณ จขกท ว่ามา ซึ่งสุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่จะต้องใช้ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว Stemcell มีโอกาสที่จะไม่สามารถใช้ได้เพราะต้องใช้วิธีการเก็บที่ลงทุนสูงมากและที่บอกว่ารักษาได้เป็นร้อยโรคนั้น จริง ๆ แล้วในทางทฤษฎีตอนนี้ รักษาได้เฉพาะโรคเกี่ยวกับเลือดค่ะ หมายความว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มีภาวะเลือดจาง ธาลัสซีเมีย ฯลฯ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บค่ะ
แต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วนี่เอง เราได้ดูสารคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน UBC ปรากฏว่าทางนักวิทยาศาตร์และแพทย์ในต่างประเทศเอง "ยังไม่สนับสนุนให้ใช้ Stemcell ในการรักษาโรค" เนื่องจากมีผลการทดลองในสัตว์พบว่าเมื่อทำการปลูกถ่าย Stemcell เพื่อรักษาโรคแล้ว เซลล์มีการแบ่งตัวไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดคือเกิดการสร้างพังผืดขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาทดลองหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เซลล์ขยายตัวไม่หยุดอีก 15 ปี (ซึ่งถึงเวลานั้น stemcell ที่คุณเก็บไว้มัน expire ไปแล้วและลูกคุณก็อายุ 15 ปี ใช้เทคนิคนี้ไม่ได้อยู่ดี)
* แนะนำให้เข้าเวบพันธ์ทิป ห้องหว้ากอ แล้ว search คำว่า stemcell ดูนะคะ จะได้ทราบข้อเท็จจริงและ status ของเรื่องนี้ว่าตอนนี้มันไปถึงไหนแล้ว หลังจากนั้นก็อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อบริษัทที่โฆษณาหรือจะเชื่อนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในห้องทดลอง
คือในแง่ของโรงพยาบาลเอกชน (โรงพยาบาลของรัฐไม่อนุญาตให้เสนอบริการนี้นะคะ) เค้าจะได้เปอร์เซ็นต์จากการที่ให้บริษัทรับเก็บ Stemcell เข้ามาเสนอขายบริการแก่คุณแม่มือใหม่ (พูดง่าย ๆ ว่าเป็นธุรกิจ) โดยอ้างว่าสามารถรักษาโรคได้เป็นร้อยโรค อย่างที่คุณ จขกท ว่ามา ซึ่งสุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่จะต้องใช้ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว Stemcell มีโอกาสที่จะไม่สามารถใช้ได้เพราะต้องใช้วิธีการเก็บที่ลงทุนสูงมากและที่บอกว่ารักษาได้เป็นร้อยโรคนั้น จริง ๆ แล้วในทางทฤษฎีตอนนี้ รักษาได้เฉพาะโรคเกี่ยวกับเลือดค่ะ หมายความว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มีภาวะเลือดจาง ธาลัสซีเมีย ฯลฯ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บค่ะ
แต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วนี่เอง เราได้ดูสารคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน UBC ปรากฏว่าทางนักวิทยาศาตร์และแพทย์ในต่างประเทศเอง "ยังไม่สนับสนุนให้ใช้ Stemcell ในการรักษาโรค" เนื่องจากมีผลการทดลองในสัตว์พบว่าเมื่อทำการปลูกถ่าย Stemcell เพื่อรักษาโรคแล้ว เซลล์มีการแบ่งตัวไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดคือเกิดการสร้างพังผืดขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาทดลองหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เซลล์ขยายตัวไม่หยุดอีก 15 ปี (ซึ่งถึงเวลานั้น stemcell ที่คุณเก็บไว้มัน expire ไปแล้วและลูกคุณก็อายุ 15 ปี ใช้เทคนิคนี้ไม่ได้อยู่ดี)
* แนะนำให้เข้าเวบพันธ์ทิป ห้องหว้ากอ แล้ว search คำว่า stemcell ดูนะคะ จะได้ทราบข้อเท็จจริงและ status ของเรื่องนี้ว่าตอนนี้มันไปถึงไหนแล้ว หลังจากนั้นก็อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อบริษัทที่โฆษณาหรือจะเชื่อนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในห้องทดลอง
0 ขอบคุณ
0 ถูกใจที่สุด
Originally Posted by 69
ขอตอบเท่าที่ติดตามจากข่าวสารและอ่านจากห้องหว้ากอในพันธ์ทิปนะคะ (ใครเป็นคุณหมอมีข้อเท็จจริงอย่างไร ลองแลกเปลี่ยนกันนะคะ)
คือในแง่ของโรงพยาบาลเอกชน (โรงพยาบาลของรัฐไม่อนุญาตให้เสนอบริการนี้นะคะ) เค้าจะได้เปอร์เซ็นต์จากการที่ให้บริษัทรับเก็บ Stemcell เข้ามาเสนอขายบริการแก่คุณแม่มือใหม่ (พูดง่าย ๆ ว่าเป็นธุรกิจ) โดยอ้างว่าสามารถรักษาโรคได้เป็นร้อยโรค อย่างที่คุณ จขกท ว่ามา ซึ่งสุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่จะต้องใช้ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว Stemcell มีโอกาสที่จะไม่สามารถใช้ได้เพราะต้องใช้วิธีการเก็บที่ลงทุนสูงมากและที่บอกว่ารักษาได้เป็นร้อยโรคนั้น จริง ๆ แล้วในทางทฤษฎีตอนนี้ รักษาได้เฉพาะโรคเกี่ยวกับเลือดค่ะ หมายความว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มีภาวะเลือดจาง ธาลัสซีเมีย ฯลฯ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บค่ะ
แต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วนี่เอง เราได้ดูสารคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน UBC ปรากฏว่าทางนักวิทยาศาตร์และแพทย์ในต่างประเทศเอง "ยังไม่สนับสนุนให้ใช้ Stemcell ในการรักษาโรค" เนื่องจากมีผลการทดลองในสัตว์พบว่าเมื่อทำการปลูกถ่าย Stemcell เพื่อรักษาโรคแล้ว เซลล์มีการแบ่งตัวไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดคือเกิดการสร้างพังผืดขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาทดลองหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เซลล์ขยายตัวไม่หยุดอีก 15 ปี (ซึ่งถึงเวลานั้น stemcell ที่คุณเก็บไว้มัน expire ไปแล้วและลูกคุณก็อายุ 15 ปี ใช้เทคนิคนี้ไม่ได้อยู่ดี)
* แนะนำให้เข้าเวบพันธ์ทิป ห้องหว้ากอ แล้ว search คำว่า stemcell ดูนะคะ จะได้ทราบข้อเท็จจริงและ status ของเรื่องนี้ว่าตอนนี้มันไปถึงไหนแล้ว หลังจากนั้นก็อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อบริษัทที่โฆษณาหรือจะเชื่อนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในห้องทดลอง
ขอตอบเท่าที่ติดตามจากข่าวสารและอ่านจากห้องหว้ากอในพันธ์ทิปนะคะ (ใครเป็นคุณหมอมีข้อเท็จจริงอย่างไร ลองแลกเปลี่ยนกันนะคะ)
คือในแง่ของโรงพยาบาลเอกชน (โรงพยาบาลของรัฐไม่อนุญาตให้เสนอบริการนี้นะคะ) เค้าจะได้เปอร์เซ็นต์จากการที่ให้บริษัทรับเก็บ Stemcell เข้ามาเสนอขายบริการแก่คุณแม่มือใหม่ (พูดง่าย ๆ ว่าเป็นธุรกิจ) โดยอ้างว่าสามารถรักษาโรคได้เป็นร้อยโรค อย่างที่คุณ จขกท ว่ามา ซึ่งสุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่จะต้องใช้ขึ้นมาจริง ๆ แล้ว Stemcell มีโอกาสที่จะไม่สามารถใช้ได้เพราะต้องใช้วิธีการเก็บที่ลงทุนสูงมากและที่บอกว่ารักษาได้เป็นร้อยโรคนั้น จริง ๆ แล้วในทางทฤษฎีตอนนี้ รักษาได้เฉพาะโรคเกี่ยวกับเลือดค่ะ หมายความว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้มีภาวะเลือดจาง ธาลัสซีเมีย ฯลฯ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บค่ะ
แต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้วนี่เอง เราได้ดูสารคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน UBC ปรากฏว่าทางนักวิทยาศาตร์และแพทย์ในต่างประเทศเอง "ยังไม่สนับสนุนให้ใช้ Stemcell ในการรักษาโรค" เนื่องจากมีผลการทดลองในสัตว์พบว่าเมื่อทำการปลูกถ่าย Stemcell เพื่อรักษาโรคแล้ว เซลล์มีการแบ่งตัวไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดคือเกิดการสร้างพังผืดขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาทดลองหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เซลล์ขยายตัวไม่หยุดอีก 15 ปี (ซึ่งถึงเวลานั้น stemcell ที่คุณเก็บไว้มัน expire ไปแล้วและลูกคุณก็อายุ 15 ปี ใช้เทคนิคนี้ไม่ได้อยู่ดี)
* แนะนำให้เข้าเวบพันธ์ทิป ห้องหว้ากอ แล้ว search คำว่า stemcell ดูนะคะ จะได้ทราบข้อเท็จจริงและ status ของเรื่องนี้ว่าตอนนี้มันไปถึงไหนแล้ว หลังจากนั้นก็อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อบริษัทที่โฆษณาหรือจะเชื่อนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในห้องทดลอง
มีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณค่ะ
0 ขอบคุณ
0 ถูกใจที่สุด
เป็นหมอจบใหม่ค่ะ ยังไม่ได้เป็นหมอสูตินะคะ
เผอิญว่าอยู่แต่ใน ร.พ.ของรัฐ นะคะ เลยอาจจะไม่รู้เรื่องของเอกชนเท่าไหร่ แต่เท่าที่ถามมาจาก อาจารย์แพทย์ และจากการประชุมล่าสุด ของ รร.แพทย์สองสถาบัน(ไม่ขอเอ่ยนาม) รู้สึกว่าการเก็บ stem cell ไว้ใช้ ยังไม่มีประโยชน์ที่พิสูจน์ได้แน่ชัดนะคะ
อีกอย่างต้องดูด้วยว่า บริษัทน่าเชื่อถือแค่ไหน เพราะ cell พวกนี้ ตายง่ายมากๆทีเดียว ถ้าเก็บไม่ดี กลัวเสียตังค์ฟรีนะคะ
แต่ว่าอยากรู้จังว่าเค้าขาย course เท่าไหร่เหรอ
จะได้ช่วยประเมินว่าคุ้มรึเปล่าอะค่ะ
เผอิญว่าอยู่แต่ใน ร.พ.ของรัฐ นะคะ เลยอาจจะไม่รู้เรื่องของเอกชนเท่าไหร่ แต่เท่าที่ถามมาจาก อาจารย์แพทย์ และจากการประชุมล่าสุด ของ รร.แพทย์สองสถาบัน(ไม่ขอเอ่ยนาม) รู้สึกว่าการเก็บ stem cell ไว้ใช้ ยังไม่มีประโยชน์ที่พิสูจน์ได้แน่ชัดนะคะ
อีกอย่างต้องดูด้วยว่า บริษัทน่าเชื่อถือแค่ไหน เพราะ cell พวกนี้ ตายง่ายมากๆทีเดียว ถ้าเก็บไม่ดี กลัวเสียตังค์ฟรีนะคะ
แต่ว่าอยากรู้จังว่าเค้าขาย course เท่าไหร่เหรอ
จะได้ช่วยประเมินว่าคุ้มรึเปล่าอะค่ะ
0 ขอบคุณ
0 ถูกใจที่สุด
เคยมีเซลล์มาติดต่อพร้อมให้ข้อมูลค่ะ แต่รู้สึกว่าให้ไม่ถูกที่ไม่ถูกเวลา แถมน่ารำคาญ มากด้วย คือวันนั้น ไปหาหมอสูติที่บำรุงราษฏร์ค่ะ แล้วก็ลงไปทานแม็คโดนัลกับสามี แล้วก็มีผู้หญิงเข้ามาบอกว่าขอรบกวนเวลาสักนิดนึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับ stemcell ค่ะ เราก็หิวก็หิว ความจริงน่าจะมีมารยาทสักหน่อย รอให้ทานเสร็จก่อน เรายังไม่ทันอนุญาติเลย เข้าก็นั่งทันที พูดๆๆๆๆๆๆ รับโทรศัพท์ใครก็ไม่รู้โทรเข้ามาหลายสายมาก พูดตั้งแต่เราเริ่มทานจนทานเสร็จ ถึงจะหยุดพูดแล้วขณะที่เราทานอยู่เค้าก็เปิดรูปภาพ ตอนคลอดว่าเก็บยังไงจากสายสะดือ คือภาพก็ไม่น่าเกลียดแต่ก็ไม่น่ามาให้ดูตอนทานข้าวค่ะ
แต่ที่เค้าเสนอราคามาเค้าเสนอมาสองแบบคือ จ่ายแบบรวดเดียวเลย กับ จ่ายเป็นรายเดือน
จ่ายแบบรวดเดียว คือค่าแรกเข้า 40000 แล้วก็ค่าใช้จ่ายตลอด 20 ปี 60000 เท่ากับว่าต้องจ่าย 100000 บาท หลังจาก 20 ปี เค้าจะเก็บให้ฟรีค่ะ ส่วนอีกแบบนึง ลืมไปแล้วค่ะ จำได้คร่าวๆ ว่า จะแพงกว่าไม่เท่าไหร่ค่ะ
เค้าบอกว่าเก็บ stemcell ที่เมืองไทยค่ะ มีศูนย์เก็บอยู่ที่ เซ็นทรัลเวิล์ดค่ะ
แต่ที่เค้าเสนอราคามาเค้าเสนอมาสองแบบคือ จ่ายแบบรวดเดียวเลย กับ จ่ายเป็นรายเดือน
จ่ายแบบรวดเดียว คือค่าแรกเข้า 40000 แล้วก็ค่าใช้จ่ายตลอด 20 ปี 60000 เท่ากับว่าต้องจ่าย 100000 บาท หลังจาก 20 ปี เค้าจะเก็บให้ฟรีค่ะ ส่วนอีกแบบนึง ลืมไปแล้วค่ะ จำได้คร่าวๆ ว่า จะแพงกว่าไม่เท่าไหร่ค่ะ
เค้าบอกว่าเก็บ stemcell ที่เมืองไทยค่ะ มีศูนย์เก็บอยู่ที่ เซ็นทรัลเวิล์ดค่ะ
0 ขอบคุณ
0 ถูกใจที่สุด
เข้ามาเก็บความรู้ครับ ดีใจด้วยนะครับที่จะมีน้อง
ขอให้น้องเกิดมาสมบูรณ์ครบทุกอย่างนะครับ
ขอให้น้องเกิดมาสมบูรณ์ครบทุกอย่างนะครับ
0 ขอบคุณ
0 ถูกใจที่สุด
Downtown
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
HOT
HITS
NEW
2
3