ชีวิตมันแสนสั้น... ฉะนั้นอย่าพลาดของหวานแสนอร่อย... @Sweet Cafe
ร้าน Sweets Cafe (สวีท คาเฟ่) อารีย์
ฝรั่งเขาบอกว่า “ชีวิตมันแสนสั้น ฉนั้นอย่าพลาดของหวานแสนอร่อย” เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้เต็มที่เลยค่ะ เลยชอบตระเวณนั่งตามร้านกาแฟและ หาขนมอร่อยๆกิน นั่งทอดอารมณ์จิบกาแฟรสเข้มขมกับขนมหวาน มันช่างรื่นรมย์ดีจริงค่ะ วันนี้เลยอยากจะพาคุณๆ มารู้จักร้านนี้ ร้าน Sweets Cafe ( สวีท คาเฟ่ ) อารีย์
ร้าน Sweets Cafe ( สวีท คาเฟ่ ) ร้านกาแฟน่ารักๆ ที่อยู่ ในบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้ในสวนทั้งที่ใจกลางเมือง เพียงลงรถไฟฟ้าที่สถานี อารีย์ แล้วเดินเข้าซอยมาอีกนิดเดียว ก็จะเจอร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าร้านมาเลยค่ะ ของอร่อยๆ รออยู่
แล้วก็มาสะดุดกับ ภาพในกรอบรูปนี้เข้าเป็น ประกาศนียบัตรจาก สถาบันเลอ กอร์ดองเบลอ จากประเทศอังกฤษ ของคุณพิมลสิริ ธราเพชรสวัสดิ์ เจ้าของร้านคนสวย ซึ่งยอมลงทุนข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปเรียน เพื่อมาเติมเต็มความฝันของคุณแม่ที่อยากจะเปิด ร้านกาแฟและขนมเค้กในบ้าน มีเกียรติบัตรรับรองความอร่อยขนาด นี้แล้ว ต้องลองให้รู้กันหน่อยละค่ะ
แต่ ของอร่อยต้องเก็บไว้ทีหลัง ตอนนี้เรามาชิมของคาวกันก่อนดีกว่า ที่ ร้าน Sweets Cafe ( สวีท คาเฟ่ ) แม้ว่าแรก ๆ จะเป็นเพียงร้านกาแฟ แต่เจ้าของร้านก็ทนเสียง อ้อนวอนจากลูกค้าไม่ไหว จนต้องมีรายการอาหารคาวไว้ให้เลือก พอควรทีเดียว ส่วนใหญ่จะเป็นของง่าย ๆ จำพวก แซนด์วิช สลัด พาสต้า
เริ่มจากจานเบา ๆ อย่าง ซีซ่าร์ สลัด ที่จัดใส่จานใหญ่มาอย่างน่ากินด้วยผักโรเมนสดกรอบ มะเขือเทศแดงฉ่ำ ขนมปัง crouton และเบค่อนกรอบ ชิ้นใหญ่เคี้ยวได้รสชาติเต็มปากเต็มคำแบบไม่หวงเครื่อง ราดด้วยน้ำสลัด รสชาติกำลังดี เสียดายอย่างเดียวว่า พาร์เมชาน ชีสที่โรยหน้ามานั้น เป็นแบบป่น ถ้าขูดสดๆจากก้อนชีสพาร์เมชานตามต้นตำรับดั้งเดิม คงจะอร่อยล้ำทีเดียว แต่ต้องถือว่าเป็นราคาที่ถือสมเหตุสมผลมากทีเดียว เมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพของอาหารในจานนี้ จึงไม่ถือว่าเป็นข้อ ควรตำหนิแต่อย่างใดเลยค่ะ เพราะคงขายราคาเดิมไม่ได้แน่ ๆ เลยเชียวละ ถ้าใช้ชีสก้อน
มาลอง แซนวิชแฮมและชีส ของกินเล่นแบบง่าย ๆ ที่อร่อยเสมอ ชอบตรงที่ว่าเขาใส่ใจ สุขภาพลูกค้าโดยเลือกใช้่ขนมปังโฮลวีท แถมดีไซน์จัดจานอย่าง สวยงาม ด้วยผักสลัดและมะเขือเทศ เพิ่มสารอาหารครบหมู่ให้กับจานด่วนจานนี้
หนึ่งในจานขายดีที่สุดของ ร้าน Sweets Cafe ( สวีท คาเฟ่ ) พาสต้าแฮมในซอสมะเขือเทศ จานนี้ ขอยกนิ้วโป้งให้สองนิ้วเลยค่ะ แม้ว่าเส้นพาสต้าจะไม่ได้ลวกในสไตล์ al dente ที่จะยังแข็งนิด ๆ ตรงกลาง แต่ทีเด็ดของจานนี้คือทำตามสูตร ต้นตำรับดั้งเดิมที่ใช้มะเขือเทศสดมาทำซอส ไม่ได้ใช้มะเขือเทศเข้มข้น สำเร็จรูปแบบกระป๋องเหมือนร้านทั่ว ๆ ไป จึงได้ซอสมะเขือเทศรสชาติ สดใหม่และอร่อยเข้มจากธรรมชาติเต็มที่ ปรุงรสอร่อยด้วยใบ parsley และพริกไทยดำ หลังจากชิมคำแรกไปแล้ว จานนี้หมดเกลี้ยง ในเวลาอันรวดเร็วมากค่ะ
ผัดขี้เมากุ้งพาสต้า อร่อยแซ่บสไตล์ไทย ๆ จานนี้ ขอบอกว่าถ้าคุณทานเผ็ดไม่ได้ก็ไม่ควรสั่งนะคะ ผัดขี้เมาเนี่ยคือจานที่สามารถทำให้คนเมา สร่างเหล้ากลับมาได้สติเลยจริง ๆ เลย อร่อยแบบทรมานบันเทิงมาก เพราะจะหยุดกินก็ไม่ได้เพราะอร่อย แต่กินไปซี๊ดปากไปเพราะความ เผ็ดร้อน ร้าน Sweets Cafe ( สวีท คาเฟ่ ) นี้เค้าให้กุ้งสะใจจริงค่ะ เพราะกระหน่ำใส่กุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ มาให้่ถึงสี่ห้าตัว กุ้งเนื้อแน่น สด หวาน จานนี้คุณภาพและความอร่อย เกินราคาเลยค่ะ
เจออาหารเผ็ดเข้าไป เครื่องดื่มหวาน ๆ เย็น ๆ พวกนี้ช่วยได้เยอะค่ะ เลือกรสได้ตามชอบใจ โซดาสตอเบอรี่ และ โซดามะนาว ไม่หวานมาก รสชาติกำลังดี แต่ถ้าอยากได้รสครีมรสนมหวานมันเข้มข้น ต้องลองสองตัวนี้ค่ะ นม~โอรีโอปั่น และ กาแฟผสมคาราเมลปั่น บรรเทากระหายคลายเผ็ดไปได้มากเชียวค่ะ
และแล้วก็มาถึงเวลาที่รอคอยแล้วนะคะ เริ่มจาก บลูเบอรี่ชีสเค้ก กันก่อน ชีสเค้กนี่เป็นของหวานที่คู่กันกับอารยธรรมตะวันตกจริง ๆ ค่ะ สืบสาวต้นตำรับไปได้ถึงยุคกรีกโรมันนั่นเลยทีเดียว และในปัจจุบัน ก็มีหลากหลายสไตล์กันเหลือเกินสูตรใครสูตรมันตามแต่ความชอบที่ ต่างกันไปของแต่ละประเทศ
บลูเบอรี่ชีสเค้กของที่ ร้าน Sweets Cafe ( สวีท คาเฟ่ ) นี่ ชีสหนาสะใจจริงๆ ค่ะ บลูเบอรี่ก็มาเป็นลูก ไม่ใช่เละ ๆ ความหวานอมเปรี้ยวของบลูเบอรี่ซอสตัดกับความ เป็นครีม และรสชาตินมเนยเข้มข้นของชีส เป็นความลงตัวที่อร่อยคลาสสิค มากค่ะ ยิ่งถ้าได้จิบชาร้อน ๆ ยามฝนพรำ ๆ เช่นนี้ ยิ่งได้บรรยากาศเหมือนไปอยู่อังกฤษทีเดียวค่ะ
เครปเค้ก เป็นของทำยาก ต้องอาศัยฝีมือและความใจเย็นค่ะ คุณพิมลสิริเจ้าของร้านถึงกับบอกว่า วันไหนอารมณ์ไม่ดีจะไม่ทำเค้ก เพราะจะทำได้ไม่อร่อย เครปเค้ก เป็นเค้กสไตล์ฝรั่งเศสที่เรียกว่า Mille crêpe คำว่า Mille แปลว่า พัน เปรียบเทียบหมายถึงจำนวนที่ทบซ้อนกัน ของเครปขึ้นไปหลาย ๆ ชั้น เครปเค้ก ถือเป็นหนึ่งในขนมเค้กขึ้นชื่อของ ร้าน Sweets Cafe ( สวีท คาเฟ่ ) เลยทีเดียว จึงมีให้เลือกหลาย รสเลยค่ะ ทั้งชาเขียว สตอเบอรี่ และ มะม่วง ซึ่งอันหลังนี้ พอหมดหน้า มะม่วงสุกก็จะไม่ทำ
เราเลือกที่จะ ลองเพียงสองชิ้น คือ สตอเบอรี่เครปเค้ก ซึ่งเป็นเค้กที่ขายดีตั้งแต่แรกทำ และ เครปเค้กรสมะม่วง เนื้อเครปเค้กนุ่มเบา เนียนละมุนแทบละลายในปาก อร่อยสมกับที่รอคอย ซอสสตอเบอรี่ที่ราดมาก็เข้มข้น หวานอมเปรี้ยว ส่วนซอสมะม่วงนั้น รสชาติละมุนละไมกว่า ออกหวานนำมากว่าเปรี้ยว อร่อยไปคนละแบบค่ะ แต่ที่แน่ๆ คือหมดเรียบไม่เหลือ
ปิดท้ายด้วยกาแฟเข้ม ๆ หอม ๆ สักนิดช่วยย่อยคงจะดี นั่งปล่อยอารมณ์คิดไปถึงคราวหน้า ว่าจะพาคุณ ๆ ไปลองชิมอะไรดีหนอ…