หวัดดีค่ะพี่ ๆ SBN

เล่นเว็บบอร์ดนี้มาซัก 2 ปีแล้ว เข้ามาดูบ้าง ซื้อบ้าง จนวันนี้ว่าง ๆ ก็เกิดอยากถามพี่ ๆ ขึ้นมาว่า "พี่ ๆ ทำยังไงถึงรวยคะ" เพราะเห็นสมาชิกแต่ละคนซื้อแบรนด์เนมแพง ๆ สวย ๆ ได้สบาย ๆ ก็คิดว่าหลาย ๆ คนคงจะจัดว่าอยู่ในระดับ "รวย" เลย ก็เลยอยากจะถามว่า
1. พี่ ๆ ทำงานอะไรถึงรวยคะ
2. พี่ ๆ เริ่มสามารถซื้อข้าวของแบรนด์เนมแบบสบาย ๆ ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
3. พี่ ๆ วิธีการเก็บเงินอย่างไรที่ได้ผลและให้ผลตอบแทนคุื้้้มค่าคะ (อย่างแก้มนอกจากฝากธนาคารก็ซื้อพวกกองทุนรวมแบบไม่เสี่ยงค่ะ ไม่ทราบว่าพี่ ๆ มีวิธีแบ่งรายได้ไปเล่นหุ้น ลงทุนกับทอง หรืออย่างอื่นที่เวิร์ค ๆ อย่างไรคะ)
4. ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนไปเรื่อย ๆ นี่จะมีโอกาสรวยมั๊ยคะ หรือถ้าอยากรวยก็ควรจะมีธุรกิจของตัวเองมากกว่า

สำหรับตัวแก้มฐานะที่บ้านก็จัดว่าโอเค ไม่ได้ร๊วย รวย แต่ก็ไม่ได้ลำบาก มีบ้าน มีรถ มีคนขับรถ คุณพ่อยังทำงานมีรายได้โอเค ส่วนตัวแก้มเองตอนนี้อายุ 23 ทำงานด้านพีอาร์ ปีที่แ้ล้่วได้เงินเดือน ๆ ละ 15k (แต่โบนัสเยอะหน่อยค่ะ ประมาณ 5 เดือน) พอเริ่มทำงานเองแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะขอเงินคุณแม่เวลาที่จะซื้อของฟุ่มเฟือยเช่นกระเป๋าแบรนด์เนมต่าง ๆ ปีที่แล้วทำงานมา 1 ปีเต็มเลยซื้อกระเป๋า Prada ด้วยเงินตัวเองได้ 1 ใบ กับกุชชี่มือ 2 ในนี้อีก 1 ใบเองค่ะ

จริง ๆ ปีนี้เงินเดือนก็เิ่พิ่มขึ้น รายได้ต่อเดือนประมาณ 25 -27 k (แต่คาดว่าโบนัสน่าจะประมาณแค่ 2-3 เดือน) เงินเก็บจากที่ทำงานอย่างเดียวมีประมาณ 240 k (รวมทั้งที่อยู่ในแบงค์และเอาไปซื้อกองทุมรวมแล้วนะคะ) จะฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้นมั่งก็ได้ แต่คิด ๆ ดูแล้วเดี๋ยวอีกไม่ถึง 8-10 ปีก็คงต้องแต่งงาน สมัยนี้เด็ก ๆ ก็ค่าใช้จ่ายเยอะ ทั้งค่าฝากเข้ารร.ก็เป็นล้านแล้ว ไหนจะต้องค่าเรียนพิเศษโน่นนี่อีก คิดแล้วก็ยังงง ๆ อยู่เลยค่ะว่าทำยังไงถึงรวย มีกินมีใช้สบาย ๆ (เช่นสามารถซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้ปีละ 2-3 ใบ กินข้าวข้างนอกร้านดี ๆ ได้เดือนละ 2-4 ครั้ง ไปเที่ยวเมืองนอกได้ทุกปี ไปสปา ทำทรีทเม้นต์ความงามได้เป็นประจำ มีตังค์ซื้อสิ่งของอำนวยความสะดวกเช่นโน๊ตบุ้ค รถ Iphone ฯลฯ ด้วยตนเอง) แบบไม่นับรวมทรัพย์สินมรดกจากทางบ้านนะคะ

ขอบคุณทุกความคิดเห็นล่วงหน้านะคะ แก้มคิดว่าตอนนี้เพิ่ง 23 ปี คิดว่าถ้ารู้แนวทางการบริหารเงินอย่างถูกวิธีก็น่าจะยังทันอยู่ รบกวนขอคำแนะนำจากพี่ ๆ ด้วยนะคะ

[SIZE="3"]โอ้ๆๆๆๆ เป็นน้องที่มีความคิดดีมาก คำนวนทุกอย่างเสร็จสรรพ
สำหรับพี่ ....... พี่ไม่รวย............เพียงแค่สมัยสาวๆโชคดี เรียนจบแล้วได้งานเงินเดือนดีมากกกกกกกกกก ทันที ณ วันที่เรียนจบ ..........ก็เลยมีเงินซื้อของมียี่ห้อเอง ไม่ต้องสนใจใคร ใช้คนเดียว มีเงินเก็บหรือไม่มีก็เรื่องของเราคนเดียว ไม่เดือดร้อนใคร ก๊ากๆๆๆ


พอเจอคำถามของน้องคนสวย........................พี่เลยนึกขึ้นมาได้ว่า

คุณสามีบอกว่า................คนจะรวยอ่านะ....................บางทีมันต้องมีปัจจัยสำคัญ คือ เงินทุน...........เรียกว่า "เงินต่อเงิน" มันถึงจะรุ่งเร็ว........................ถ้าเริ่มจาก 0 ทำงานบริษัทเองเริ่มเก็บเอง อันนี้คงยากหน่อย แต่ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับความเสี่ยงด้วย งานประจำเรารู้อยู่แล้วว่าไต่เต้าไปเรื่อยๆจะเป็นยังไง แต่ธุรกิจส่วนตัวอันนี้คำนวนยากหน่อยมีปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน

เข้ามารอฟัง อยากรู้เหมือนกันว่าทำงัยถึงรวย

3. พี่ ๆ วิธีการเก็บเงินอย่างไรที่ได้ผลและให้ผลตอบแทนคุื้้้มค่าคะ (อย่างแก้มนอกจากฝากธนาคารก็ซื้อพวกกองทุนรวมแบบไม่เสี่ยงค่ะ ไม่ทราบว่าพี่ ๆ มีวิธีแบ่งรายได้ไปเล่นหุ้น ลงทุนกับทอง หรืออย่างอื่นที่เวิร์ค ๆ อย่างไรคะ)

จริงครับมันไม่เสี่ยง....แต่ตัวเงินมันไปนอนนิ่งอยู่ในธนาคาร แทนที่เราจะเอาส่วนนึงมาหมุน แบบว่า...ทํากิจการบางอย่างที่เราถนัดและชํานาญ แรกๆอยากจะลงทุนไม่มากนัก แต่ ถ้าระยะยาวเมื่อเรามีลูกค้ามากขึ้น ผลกําไรมันก็งอกเงยขึ้นมา.

เช่นตัวอย่าง....แม่ค้าขายน้ำผลไม้ปั่น(สตอรเบอรี่สดเอามาปั่น แล้วเติมน้ำเชื่อม )ขายแก้วละ 15 บาท แรกๆก็ซื้อผลสตอรเบอรี่ตามห้างๆ วันนึงขายได้ 10-20ถ้วย..ทุกวันนี้แกสั่งผลสตอรเบอรี่จากเชียงใหม่ คราวละเป็น 10 ๆตัน เพื่อเอามาทําน้ำสตอรเบอรี่ปั่น...และตอนนี้แกขยายสาขา หลายสาขามากมาย...นี่แค่น้ำผลไม้แก้วละ 15 บาทนะครับ..วันนึงขายได้เป็น หมื่นๆแก้ว....คิดดูเป็นเงินเท่าไหร...

เดี๋ยวทํางานก่อนครับ แล้วจะมาโพสให้ใหม่....

:D

ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมนะคะ ว่าน้องเป็นคนที่มีความคิด รู้จักวางแผน รู้จักใช้เงิน รู้จักประมาณตน พี่คิดว่า ถ้ามีพื้นฐานความคิดที่ดีในเรื่องต่างๆเหล่านี้ ยังไงชีวิตนี้ก็คงไม่ลำบากแน่นอนค่ะ

ส่วนเรื่องว่า ทำยังไงให้รวย อันนี้คงไม่มีคำตอบที่ตายตัว เพราะคำว่า "รวย" ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน บางคนมีเงินแสนก็คิดว่า รวย แล้ว บางคนเป็นสิบล้าน ร้อยล้าน ก็คิดว่า ยังไม่รวย หรือ ยังรวยไม่พอ อันนี้อยู่ที่ความพอใจของแต่ละคน

จะว่าไป ไม่ว่าจะทำงานกินเงินเดือน หรือ ทำธุรกิจส่วนตัว ส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะมีโอกาสมีรายได้ที่ดีด้วยกันทั้ง 2 ทาง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับโอกาส และ ความสามารถของตัวเรามากกว่าค่ะ เพราะแต่ละคน ก็ย่อมมีความชอบ ความถนัดไม่เหมือนกัน พี่เชื่อว่าถ้าใครมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ มันเหมือนจะมีพลังบางอย่างให้เราสามารถทุ่มเทกับมันได้เต็มที่อย่างที่ไม่รู้จัก คำว่า เหนื่อยเลยค่ะ

คนที่ทำงานกินเงินเดือน อาจจะต้องใช้เวลาในการไต่เต้า เพื่อตำแหน่งที่สูงขึ้นและรายได้ที่มากขึ้น (เหมือนผู้บริหารระดับสูง หรือ ที่ปรึกษาบริษัทใหญ่ๆ หลายๆท่าน) แต่ก็มีรายรับที่แน่นอนทุกๆเดือน (ยกเว้นช่วงนี้บางคนอาจจะโดนลดเงินเดือน หรือ จ้างให้ออกค่ะ)

ส่วนคนที่ทำธุรกิจ ก็ต้องพร้อมที่รับความเสี่ยงในการลงทุน แต่ผลตอบแทนที่ได้อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า ก็อยู่ที่ความสามารถของตัวเราเอง

สุดท้าย คิดว่า ถ้าเรารู้จักประมาณตน วางแผนใช้จ่ายให้เหมาะสมกับรายได้ ยังไงก็ไม่ "จน" ค่ะ แม้ว่าจะไม่รวยก็ตาม

ขอมาชมก่อนนะคะ ว่าน้องเป็นคนที่มีความคิดดี รู้จักวางแผนชีวิตตัวเองตั้งแต่อายุน้อยๆ

พี่เองก็ไม่รวยค่ะ ก็เลยไม่รู้จะแนะนำยังไง... เข้ามาแอบอ่านเหมือนกัน :)

ตามที่เห็นมา การรวย ก็คงต้องใช้น้อยกว่าที่ได้มา ก็คือไม่ใช้เงินเกินตัว ไม่ใช้ฟุ่มเฟือย และออมเงินไว้ด้วย วิธีที่น้องทำอยู่ ก็ดีค่ะ เคยเห็นผู้ใหญ่ที่รวยๆ ก่อนที่จะรวย เค้าไม่ใช้แบรนด์เนมเลยค่ะ เค้ามาซื้อของแบรนด์เนม เมื่อรวยแล้วต่างหาก

แต่คิดว่าคำถามของน้อง น่าจะถามถึงวิธีการ "หาเงินได้เยอะๆ" มากกว่ารึเปล่าคะ? เพราะเห็นถามถึงการได้เงินมาซื้อของแบรนด์เนม ไปเที่ยว ไปทำสวยต่างๆ?

ถ้าเป็นพนักงานกินเงินเดือน วิธีเพิ่มค่าตัว นอกจากจะทำงานให้ได้ดีๆ ให้ได้โปรโมทเร็วๆ แล้ว การเปลี่ยนงานก็ช่วยเพิ่มค่าตัวได้บ้าง แต่ต้องให้ได้เงินเพิ่มอย่างน้อย 30% นะคะ ถึงจะยอมเปลี่ยนงาน

หรือถ้าทางบริษัทมีสาขาอยู่ต่างประเทศ ก็พยายามทำให้ได้ไปทำงานต่างประเทศ ซักระยะนึง น่าจะต้องเป็นประเทศที่ค่อนข้างเจริญ เพราะเงินเดือนจะเพิ่มขึ้นช่วงที่ไปอยู่ต่างประเทศ เพราะค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่พอกลับมาเมืองไทย ก็จะมีฐานเงินเดือนที่สูงขึ้นแล้ว แล้วค่าใช้จ่ายก็ลดลงด้วย เพราะค่าครองชีพที่เมืองไทยถูกกว่าที่ต่างประเทศ ทำให้มีเงินเก็บได้มากขึ้นค่ะ

ความจริงพี่ก็เคยรวย เพราะเล่นหุ้น และก็เคยจนเพราะเล่นหุ้นค่ะ ตอนนั้นอายุน้อย ได้เงินเดือนค่อนข้างมาก ก็เลยไม่กลัวความเสี่ยง แล้วมันก็เสี่ยงจริงๆ ซะด้วย เงินหายวับไปกับตาเลย... ตอนนี้เลยเข็ดค่ะ ตั้งแต่ปี 97 ก็ไม่ได้เล่นหุ้นอีกเลย...


.

เข้ามาแชร์เฉยๆนะครับ

ตอนนี้ทำงานบริษัทเอกชนเงินเดือนค่อนข้างดี โบนัสก็ดี รายได้ที่ได้มาในส่วนของการลงทุนก็จะซื้อทองบ้าง เล่นแชร์บ้าง อิอิ

แต่เร็วๆนี้ก็กำลังจะเปิดกิจการของตัวเองเร็วๆนี้ที่ ตจว เพราะ"อยากรวย" ด้วยการ support ของพ่อแม่ (ที่ดิน, เงินทุน, ลูกค้า etc.)

ทำงานเอกชนเงินเดือนมัน fix อะ ปีนึงปรับครั้งเดียว ไหนจะเจ้านาย ไหนจะนโยบายบริษัทอีกเยอะแยะ อยากมีรายได้ที่ได้มาด้วยความสามารถ และความขยันของตัวเองเต็มๆมากกว่า ที่เค้าพูดๆกันว่าทำมากได้มาก

[SIZE="2"]ขยัน อดทน ไม่เกี่ยง ใช้สมอง มีสติ มองไปข้างหน้าคะ
จบสูตรของความรวย

ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมาก ๆนะคะที่ช่วยเข้ามาตอบกัน พี่ ๆ SBN น่ารักจริงๆ เลยค่ะ ^^
แก้มก็กะจะลองใช้ความสามารถพิเศษอย่างบัลเล่ต์หรือเต้น ๆ มาลองหาอะไรทำให้เป็นประโยชน์บ้าง หรือว่าตอนไปเรียนต่ออังกฤษก็คงจะลองดูลู่ทางว่ามีธุรกิจน่าสนใจรึเปล่าค่ะ เพราะจากที่อ่านๆ แล้วดูเหมือนว่าทำธุรกิจเองถึงจะเสี่ยงหน่อย แต่ก็น่าจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่าค่ะ (n_n)

[SIZE="4"]อยากรวยในรูปแบบไหนคะ

1. ถ้ายังรักจะเป็นลูกจ้างมืออาชีพ
ก็คงต้องพยายามก้าวกระโดด อาจจะต้องเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ

2. ถ้าอยากเป็นนายตัวเอง (มิได้หมายถึง MLM / Direct Sell หรือขายประกันนะคะ)
คุณต้องลองค้นหาตัวเองว่าตัวเองมีความถนัด มีสามารถอะไร
เป็นพิเศษที่จะสามารถนำมาสร้างเป็นธุรกิจได้หรือไม่
มองตลาด กลุ่มลูกค้า วิเคราะห์ให้ครบทุกด้านตลอดจนความเสี่ยง
ที่สำคัญคือจะต้องหาแหล่งเงินทุนที่จะมาจากครอบครัว หรือ สถาบันการเงิน

เมื่อสร้างธุรกิจได้แล้ว ไม่ว่าเป็นประเภทใดก็ตาม
จะต้องพยายามรักษามาตรฐาน คุณภาพ และพัฒนาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป


ตอนนี้ก็พยายามอย่าใช้เงินเกินตัวค่ะ น่าดีที่สุด ณ ปัจจุบัน
ความรวย รอเราอยู่ไม่ไกลในอนาคตค่ะ

กรี๊ด กลายเป็นคนรวยแล้ว
ถ้าน้องนับว่า "เช่นสามารถซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้ปีละ 2-3 ใบ กินข้าวข้างนอกร้านดี ๆ ได้เดือนละ 2-4 ครั้ง ไปเที่ยวเมืองนอกได้ทุกปี ไปสปา ทำทรีทเม้นต์ความงามได้เป็นประจำ มีตังค์ซื้อสิ่งของอำนวยความสะดวกเช่นโน๊ตบุ้ค รถ Iphone ฯลฯ ด้วยตนเอง"

พี่รวยแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ 555 แต่พี่ยังไม่ได้ซื้อรถ ซื้อคอนโดแทนได้มั้ยคะ ^^


ส่วนตัวคิดว่าน้องมีความคิดที่ดีมาก สำหรับอายุเท่านี้
ถ้าจำไม่ผิดตอนพี่อายุ 23 (ซึ่งก็ไม่นานมานี้ ย้ำไม่นานมานี้ และไม่ต้องเข้ามาแซว)
พี่ยังไม่มีเงินเก็บขนาดนี้เลยค่ะ แถมยังไม่มีการลงทุนใดๆ เพราะไม่ใส่ใจ อยากเขกกระโหลกตัวเอง
ดีว่า คุณพ่อคุณแม่เล็งเห็นความไม่เอาไหนของลูก เลยบังคับให้ฝากประจำ fix ต่อเดือน
และมีแบ่งไปฝากธนาคารออมสิน (หรือเปล่า ที่มีสลาก) และเป็นคนดวงดีถึงดีมาก คือถูกมันทุกเดือน

เงินเดือนเดือนแรกจำได้ว่าให้คุณพ่อคุณแม่หมด แล้วค่อยไปไถคืนเพราะไม่มีตังค์ทานข้าว 555
ทำเป็นป๋าเนอะ หลังจากนั้นก็ออกค่าโน่นนี่เอง รวมถึงให้เงินคุณแม่ใช้จ่ายในบ้านด้วย เพราะเกาะคุณแม่อยู่บ้านทานข้าวทุกวัน 55

นอกจากนั้นก็เก็บเงินไปเที่ยว กับซื้อของอ่ะค่ะ เงินเก็บไม่ค่อยมี ชะล่าใจว่าเก็บที่คุณพ่อคุณแม่
พอไปเรียนต่อเงินเก็บเกลี้ยง 555 แต่ไม่เข็ด ก็ขวนขวายหางานทำเพราะได้ทุนเรียนฟรี ลดภาระไปหน่อย
(พอดีได้ทุนมหา'ลัยเมืองนอกค่ะ เผื่อมีคนคิดว่าหนีใช้ทุนไทย แหะๆ)
ได้เงินทำงานเมืองนอกงวดแรก ซื้อนาฬิกา gucci เลยค่ะ กร๊ากกกก ไม่เก็บอีก เวรกรรม

เพิ่งมาคิดได้ตอนเรียนจบกลับมาทำงาน เล็งเห็นแล้วว่าเก็บเงินเองไม่เวิร์คแน่ๆ เลยซื้อคอนโดค่ะ
คราวนี้แหละ ใช้เงินแบบระวังสุดริด (นี่ระวังแล้วหรอ -"- )
หลังจากนั้นก็ตัดเงินเดือนเข้าฝากประจำไปเลยค่ะ กำหนด fix แล้วตัดเลยตั้งแต่ต้นเดือน
เงินเดือนขึ้นเท่าไหร่ก็ตัดเพิ่มอีกเท่านั้น เพราะคนอย่างพี่ไม่มีวันถอนเงินไปฝากเองแหง๋มๆ 5 5 5
อีกอย่าง ถ้าเงินเดือนเก่าเราอยู่ได้ เงินเดือนใหม่เพิ่มขึ้นแค่ไหน หักไปเราก็อยู่ได้เช่นกันค่ะ

ตอนนี้ไม่ทำงานกินเงินเดือนแล้ว ออกมาทำเอง รู้สึกว่าจะแก่เร็วขึ้นหลายปีเลยค่ะ
ความมั่นคงลดลง ความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ความระมัดระวังในการใช้เงินเพิ่มขึ้นเช่นกัน


ที่พูดมาไม่รู้ช่วยอะไรได้หรือเปล่า แต่อยากเล่าประสบการณ์อ่ะค่ะ
เรื่องแต่งงานเรื่องลูกไม่เคยอยู่ในหัวเลย เก็บเงินเพื่อความสุขของตัวเองกับคุณพ่อคุณแม่ก่อนละกัน


อีกที ขอแสดงความยินดีที่น้องมีความคิดเช่นนี้ค่ะ ไม่ได้มาด้วยโชคน้าของแบบนี้ ขอให้มีเท่าที่หวังไวๆ ค่ะ

ก่[SIZE="4"]อนอื่นต้องมีความรู้นะคะ ขยันอดทน มีโอกาสและสุดท้ายคือวาสนาคะ:)

เอาค่าขนมไปซื้อทองคับผม พอราคามันขึ้นก็เอาไปขาย กำไรเอาไปซื้อกระเป๋า เงินต้นก็รอตอนทองถูกอีกทีแล้วซื้อใหม่ (ช่วยได้มั้ยเนี่ยะ?? :P)

ตอนนี้เพลาๆ กระเป๋าลงไปบ้างแล้ว
หันมาเก็งกำไรทองอยู่เช่นกันค่ะ

พี่ว่า น้องเป็นคนที่มีความคิดดีน่ะค่ะ ความคิดเป็นผู้ใหญ่ดีค่ะ อีกไม่นานเด๋วคงรวยมากๆ แล้วหละ

รู้จักคิด รู้จักทำ แบบนี้

พี่ ก็ เป็นแบบธรรมดา มาซื้อเอง แล้วซื้อมากๆ ก็ตอนโต แบบมีครอบครัวแล้ว หาเงินได้เอง

วิธีเก็บเงิน พี่คิดว่า หุ้นก็น่าสนใจ แต่ว่า ต้องใช้ความรู้หน่อย และมักจะมีความเสี่ยงมาก

แต่เอาแบบ รวย ช้าๆ ก็เก็บออม ค่ะ แต่ยังไงก็รวย ถูกมั้ย ถ้ารู้จักเก็บค่ะ

ผมว่ามันกว้างมากนะคับ (คงจะเหมื่อนกับคำแนะนำของพี่ๆทุกคน) ผมว่าทางที่ดีต้องหาสิ่งที่เราถนัด ชอบและมีความสุขที่จะทำน่าจะดีมากๆ เพราะจะอยู่บนโลกนี้อย่างสุขกาย สุขใจ นะคับ

ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนมาก ๆ จริงๆนะคะ ที่ยังเข้ามาตอบกันอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ

พี่ apretty : ตอนนี้แก้มยังมีความสุขกับการเป็นลูกจ้างอยู่ค่ะ อยากเรียนรู้เยอะ ๆ กับคนเก่ง ๆ ก่อน บวกกับจะได้มีคอนเนคชั่นในด้านต่าง ๆ ด้วยค่ะ แต่คิดว่าถ้ากลับจากเรียนปริญญาโทแล้วถ้ามีโอกาสก็อยากเริ่มธุรกิจของตัวเอง อาจจะเล็ก ๆ ก่อนกับพวกธุรกิจที่เกี่ยวกับบัลเล่ต์ที่ตัวเองชอบค่ะ

สมัยคุณตาคุณยายสาว ๆ ช่วงสงครามโลกก็ใช้โอกาสทำธุรกิจแลกเงินตราต่างประเทศ แล้วก็รวยขึ้นมา แล้วก็ลงทุนกับธุรกิจอื่นไปเรื่อยๆ ฟังแล้วแก้มก็อยากทำธุรกิจของตัวเองบ้าง แต่ไม่รู้ว่าโอกาสและความยากในการทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จคงจะต้องหินกว่าสมัย50 ปีที่แล้วแน่ ๆ เลยค่ะ แก้มขอบคุณสำหรับข้อคิดและคำแนะนำดี ๆนะคะ

พี่ Cocoa : พี่เก่งจังเลยค่ะได้ทุนด้วย แก้มก็แอบกลัว ๆเหมือนกันค่ะว่าตอนไปเรียนต่อเมืองนอก แล้วจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่แล้วช๊อปกระจาย อิอิ แก้มอยากจะไปซื้อสลากออมสินเหมือนกันค่ะ ลองดู ๆ แล้วถ้าซื้อ 50000 ขึ้นไป ยังไง๊ยังไงก็ต้องถูกทุกงวดค่ะ แต่ก็ผลัด ๆ ไม่ได้ถอนเงินไปซื้อซักที แต่ิคิดว่าจะไปซื้อเร็ว ๆ นี้แล้วค่ะ

พี่ Lukkai: ขอบคุณมากๆ ค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่ามีโอกาสและวาสนาแค่ไหน แต่เรื่องขยันอดทนและหาความรู้นี่สู้ตายค่ะ

พี่ MarkbigLV: ตอนนี้เห็นแฟนแก้มก็เอาเงินไปซื้อทองเหมือนกันค่ะ แป๊บ ๆ ก็ได้มาเป็นหมื่น ส่วนพี่อีกคนซื้อเป็นล้าน ได้กลับบ้าน 8 หมื่นภายใน 10 วัน น่าอิจฉามากๆ แต่ซื้อทองสงสัยต้องศึกษาแนวโน้มดี ๆ + มีโชคจริง ๆ ค่ะ แต่อย่างว่าทองยังไงเก็บไว้ก็ราคาขึ้น ^^

พี่ ting_ja : ขอบคุณมาก ๆค่ะ สำหรับคำอวยพร สาธุ ๆ จริง ๆ มีแต่เพื่อนๆ บอกว่าแก้มความคิดเด็กค่ะ แต่สงสัยเฉพาะเรื่องนี้ที่ยังไงก็อยากวางแผนดี ๆ ค่ะ แต่เล่นหุ้นนี่ไม่มีความรู้เลยจริงๆ ค่ะ -_-'

คุณ Auto: เห็นด้วยค่ะ การทำงานในสิ่งที่มีความสุขก็เหมือนกับไม่ได้ทำงานเลยค่ะ ^^

เข้ามาฟังด้วยค่ะ เพราะอยากรวยเหมือนกัน เคยได้ยิน ดร. อะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ ที่เพิ่งจะได้รับรางวัลแมกไซไซ ที่อุทิศตัวทำงานในประเทศแถบแอฟริกา บอกว่า เมื่อไหร่ที่รุสึกว่าพอ เมื่อนั้นก้อรวย

(^o^) โอ๊โห คุณพี่ manee โดนจายม๊ากกกกกมาก " เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าพอ เมื่อนั้นก็รวย " !!!

ขอชื่นชมด้วยคนค่ะ

ปล. ดร. กฤษณา ไกรสินธุ์ น่ะค่ะ :)