ปัญหา เมื่อเราถูกโกรธก็ดี ถูกด่าก็ดี เราควรทำอย่างไร ควรจะโกรธตอบ ด่าตอบ หรือควรจะเฉยเสีย ?
พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนพราหมณ์..... ท่านด่าเราผู้ไม่ด่าอยู่ ท่านโกรธเราผู้ไม่โกรธอยู่ ท่านหมายมั่นเราผู้ไม่หมายมั่นอยู่
เราไม่รับรู้เรื่องมีการด่าเป็นต้นของท่านนั้น
ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นของท่านผู้เดียว
ดูก่อนพราหมณ์.... ผู้ใดด่าตอบบุคคลผู้ด่าอยู่ โกรธตอบบุคคลผู้โกรธอยู่ หมายมั่นตอบบุคคลผู้หมายมั่นอยู่....
ผู้นี้ เรากล่าวว่า ย่อมบริโภคร่วมกัน ย่อมกระทำตอบกัน
เรานั้นไม่บริโภคร่วม ไม่กระทำตอบด้วยท่านเป็นอันขาด
ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้นนั้น เป็นของท่านผู้เดียว”
อักโกสกสูตรที่ ๒ ส. สํ. (๖๓๒)
สาธุ.
........................
Originally Posted by SUI
สาธุ.
........................
[SIZE="4"]ร่วมด้วยคนคะ..ปกติเป็นคนโกรธง่ายแต่หายเร็วคะ
พยายามอยู่ค่ะ พยายามให้ใจเย็นลง ไม่โต้ตอบ นิ่งๆ เฉยๆ
แต่พอถึงเวลาจริงๆ ของขึ้นทุกทีค่ะ
ต้องเดินหนี ไม่งั้น มีต่อยกลับ ไม่ว่าคนที่ด่าจะเป็น ผู้ชายหรือผู้หญิง
ทั้งๆ ที่รู้ว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า
ในชีวิตประจำวัน เรามักจะถูกคนด่าว่า หรือนินทาให้เสียหาย ทั้ง ๆ ที่บางทีเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด บางท่านทนไม่ได้ก็อาจด่าตอบ หรือนินทาตอบเพื่อให้หายแค้น บางท่านก็ทำใจได้ ไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วย ก็ดีไปอีกอย่าง
มีพระสูตรหนึ่งชื่อว่า “อักโกสกสูตร“ น่าจะนำมาใช้กับชีวืตประจำวันเราได้ไม่มากก็น้อย เรื่องมีอยู่ว่า… มีพราหมณ์คนหนึ่งไม่รู้ว่าโกรธแค้นพระพุทธเจ้ามาแต่ปางไหน พบพระพุทธองค์ก็เข้าไปด่า ในพระสูตรนั้นไม่ได้บอกว่าด่าว่าอะไร แต่บอกว่า “อสพุภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกุโกสติ ปริภาติ” แปลว่า บริภาษด้วยวาจาหยาบคาย มิใช่วาจาของสุภาพบุรุษ
เมื่อพราหมณ์ด่าพระพุทธเจ้าจนพอใจแล้ว พระพุทธองค์จึงตรัสถามว่า “ที่บ้านพราหมณ์มีผู้มาเยี่ยมบ้างไหม?” พราหมณ์ตอบว่า “มีสิ ข้าพเจ้าไม่ใช่คนไร้ญาติขาดมิตร” พระพุทธองค์ตรัสถามว่า “เวลามีญาติมาเยี่ยมพราหมณ์เอาอะไรต้อนรับ“ พราหมณ์ก็ตอบว่า
“ก็เอาน้ำ ของขบเคี้ยวของกินมาต้อนรับ”
“เมื่อแขกมาที่บ้านท่าน ไม่กินไม่ดื่มของต้อนรับเหล่านั้น ของเหล่านั้นจะเป็นของใคร”
พระพุทธองค์ทรงตรัสถาม “ก็ตกเป็นของข้าพเจ้าซิ” พราหมณ์ตอบ
พระพุทธองค์ตรัสต่อว่า “เช่นเดียวกันนั่นแหละพราหมณ์ ท่านด่าเรา เราไม่รับคำด่านั้น คำด่านั้นก็ตกเป็นของท่าน” พราหมณ์ได้ยินดังนี้ถึงกับนิ่งเงียบเลย พระพุทธองค์จึงตรัสสอนต่อว่า
“ผู้ใดโกรธตอบคนที่ด่า ผู้นั้นเลวกว่าคนด่าเสียอีก คนที่ไม่โกรธตอบคนที่ด่า นับว่าชนะสงครามที่ชนะได้แสนยาก คนที่มีสติยับยั้งชั่งใจ ไม่โกรธเวลาเขาด่า นับว่าทำประโยชน์ทั้งแก่ตนและคนอื่น แต่คนที่ทำได้เช่นนี้ คนไม่ถึงธรรมมักจะกล่าวว่า เป็นคนโง่”
พราหมณ์เมื่อได้ฟังดังนี้ สำนึกในความผิดของตน ว่า ตนไม่สมควรด่าคนที่ไม่ควรด่าอย่างยิ่ง จึงปฏิญาณตนนับถือพระรัตนตรัย ทูลขอบวชในพระพุทธศาสนา หลังจากบวชได้ไม่นานก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
ถ้าเพื่อนๆทำได้ ถือว่าดีมากเลยนะครับ
ขอบคุณบทความจากพลังจิตดอทคอม
ตอนอ่านกระทู้อยู่.............กำลังด่า....สาปแช่ง.....ผู้ชายที่นิสัยเสียอยู่เลยอิอิ
ตอนนี้ใจหมองสุดๆพยายามเอาธรรมเข้าข่ม ขอบคุณนะคะที่ทำให้คิดอะไรๆได้บ้าง:rolleyes:
ถ้าเป็นสมัยยังเด็ก ๆ ก็คงมีอารมณ์ร่วม ด่ามา ด่าตอบ โกรธมา โกรธตอบ พอมีอายุมากขึ้น ได้พบสัจธรรมในชีวิตมากขึ้น ก็ปลงได้ คิดว่าเวลาถูกด่าเหมือนเขาชี้นิ้วว่าเรา เขาว่าเราได้นิ้วเดียวเท่านั้น คือนิ้วชี้ แต่เข้าตัวเขาอย่างน้อยก็สามนิ้วแล้วค่ะ
เมื่อก่อน ไม่ว่าได้ยินเองหรือคนมาบอก ได้เฮตลอด
เด๋วนี้ ถึงได้ยินก็ช่างทำหูทวนลม คิดแค่ว่า เป็นคำเตือนให้เราดูแลตัวเองมากขึ้น คิดว่าคนที่ชอบพูดสิ่งดีไม่ดี ชอบด่าคนอื่น คือคนที่ชอบบริโภคของเน่าของเสีย คิดแค่นี้ ซำบายใจ ไม่มีเรื่อง(สงสัยแก่แล้ว 55)
โอยยย แล้วมันจะอดไหวเหรอเนี่ย ยิ่งขี้โมโหอยู่ด้วยอ่า
Originally Posted by poogga
โอยยย แล้วมันจะอดไหวเหรอเนี่ย ยิ่งขี้โมโหอยู่ด้วยอ่า
555 ค่อยๆทำไปค่ะ เดี๋ยวก็ทำได้เอง
ขอบคุณคุณPREZZO กับ น้องHut มากๆเลยค่ะ
ธรรมะต้องอ่านบ่อยๆ ย้ำบ่อยๆ เตือนตัวเองบ่อยๆ
ย่ิงบ่อยยิ่งดี
สาธุค่ะ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งขึ้นไปจ้าาาา!