รักแร้ดำ ปัญหากวนใจของสาวๆ หลายคน นอกจากจะถูกจัดอยู่ในเรื่องของความสวยความงามแล้ว ยังถูกจัดอยู่ในหมวดบุคลิกภาพและความมั่นใจอีกด้วย แต่ด้วยยุคสมัยและวิวัฒนาการ การเลเซอร์กำจัดขนในสมัยนี้ถือไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ปัจจุบันมีคลินิกเลเซอร์คุณภาพดีแถมราคาจับต้องได้ออกมาทำโปรโมชันแข่งขันกันมากมาย ดังนั้นเรื่องขนจึงไม่ใช่ปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาและเป็นที่หนักใจของสาวๆ เห็นทีจะเป็นเรื่องความคล้ำ หรือว่าง่ายๆ ก็คือรักแร้ดำนั่นเอง
ก่อนจะไปถึงเรื่องการเลเซอร์หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ เพื่อเป็นการถนอมสุขภาพรักแร้ของสาวๆ ให้ขาวกระจ่างใสนั้น เรามาคุยกันก่อนดีกว่าว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงใดบ้างที่สาวๆ มักชอบทำหรือเป็น จนกลายเป็นต้นเหตุทำให้รักแร้ดำโดยไม่รู้ตัว :-
1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใต้วงแขนที่ไม่เหมาะกับตนเอง
ทำให้เกิดอาการแพ้, คล้ำ โดยสารเคมีที่ว่านี้อาจเป็นน้ำหอมจากโรลออนดับกลิ่น หรือครีมที่มีส่วนผสมของแอลกฮอลล์ เมื่อผู้ใช้งานเกิดอาการแพ้ระคายเคือง รักแร้จึงดำคล้ำมากกว่าปกติ
2. ไม่ดูแลสุขภาพ ปล่อยให้น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้รักแร้ดำผิดปกติ อันเนื่องมาจากการมีไขมันสะสมเป็นส่วนเกินบริเวณต่างๆ ของร่างกาย ใต้วงแขนคือหนึ่งในนั้น เมื่อเกิดการเสียดสีกันเป็นประจำ เป็นธรรมดาที่จะเกิดรอยคล้ำดำได้ หรืออีกหนึ่งความเสี่ยงนั่นก็คือเรื่องของโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ส่งผลให้เกิดรอยดำคล้ำบริเวณคอและรักแร้นั่นเอง
3. มองข้ามเรื่องความสะอาด
อาบน้ำถูสบู่อย่างเดียวคงไม่พอ บางคนอาจจะคิดว่าแค่อาบน้ำสะอาด เช็ดตัวให้แห้งอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ เพื่อสุขภาพรักแร้ที่ดี อยากได้ผิวใต้วงแขนเรียบเนียน ขาวสว่างกระจ่างใสเหมือนใบหน้า แนะนำให้ขัดหรือสครับสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเป็นการผลัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้รักแร้ดูสว่างกระจ่างใสมากขึ้น
4. ใต้วงแขนคือพื้นที่บอบบาง รบกวนบ่อยๆ ก็ไม่ดี
เนื่องจากมีความอ่อนไหวและถูกกระตุ้นได้ง่าย การที่สาวๆ ไปโกน แว็กซ์ หรือถอนบ่อยๆ ก็เท่ากับเป็นการรบกวนและทำร้ายผิว ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองและทำให้รักแร้ดำคล้ำในที่สุด
หากปรับพฤติกรรม หลีกเลี่ยงความเสี่ยง 4 ข้อนี้ได้ ก็ถือว่าช่วยลดปัจจัยความเสี่ยงที่จะทำให้รักแร้ดำไปได้มากกว่าครึ่งแล้วล่ะ แต่ถ้าหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าวที่ว่ามาแล้วอาการรักแแร้ดำยังไม่ดีขึ้น ทางเราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเฉพาะทางจะดีกว่า เนื่องจากร่างกายของคนเราตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ไม่เท่ากัน ปัจจัยภายในของแต่ละคนก็ต่างกันไปด้วย การพบแพทย์ถือเป็นทางออกที่ถูกต้องที่สุด ทั้งนี้เพื่อขอคำแนะนำ และวางแผนเพื่อหาแนวทางรักษาอย่างถูกวิธีต่อไป