รู้หรือไม่ .... ประโยชน์ของครอเรลล่า สุดยอดพืชจากธรรมชาติ ที่ รู้แล้วคุณต้องอึ้ง!!!
โดย bit
bit
#1


ขอบคุณรูปจาก http://juicing-for-health.com/health-benefits-of-spirulina-and-chlorella.html

คลอเรลล่า คือ พืช เซลล์เดียว ที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด (สาหร่าย) (อ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับ คลอเรลล่า คลิ๊กที่นี่) ที่อัดแน่นไปด้วย สุดยอด Single Cell Protein คุณภาพสูง ครบทุกชนิด ที่ร่างกายต้องการ มากถึง 60-70% ของน้ำหนักตัว!!! (อ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับ สารอาหาร Single Cell Protein ในคลอเรลล่า คลิ๊กที่นี่)

รู้หรือไม่???
Single Cell Protein เป็นโปรตีน ที่ผลิตมาจากสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีขนาดเล็กใกล้เคียงกับเซลล์ของร่างกายของเรา โปรตีนที่ผลิตได้จึงเป็นโปรตีน ที่มีขนาดเล็ก พอที่เซลล์ของร่างกายเรา สามารถนำไปใช้ได้ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านการย่อย ก้อนโปรตีนขนาดใหญ่ จนกลายเป็น ขนาดเล็กสุด จนเป็นที่มา ของการ "ขาดโปรตีน ระดับเซลล์" ซึ่งมีสาเหตุจากการไม่สมบูรณ์นานับประการ ของการย่อยโปรตีนของร่างกาย จนทำให้ เซลล์ ไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ จากการขาดโปรตีนที่เปรียบเหมือนอะไหล่ในการซ่อมบำรุง และ ส่งผลสุดท้าย ให้ร่างกาย "เสื่อมเกินธรรมชาติ" อย่างรวดเร็ว และ พัฒนากลายเป็นโรคเรื้อรัง สิ้นหวัง ทางการแพทย์ ในที่สุด

อ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับ สารอาหาร Single Cell Protein ในคลอเรลล่า คลิ๊กที่นี่



จากหนังสือ
Chlorella, Jewel of the Far East (คลอเรลล่า อัญมณีแห่งตะวันออกไกล) โดย Dr. Bernard Jensen, Ph.D., D.O.


คลอเรลล่า ถูกค้นพบครั้งแรก เมื่อกว่าร้อยปีมาแล้ว และ มีความพยายาม จะนำสารอาหารภายในเซลล์ของคลอเรลล่า มาเป็นแหล่งโปรตีนหลักของมนุษย์ แต่ติดตรงที่ คลอเรลล่า มีผนังเซลล์ถึง 3 ชั้น ทำให้น้ำย่อยของมนุษย์ สามารถนำสารอาหารออกมาได้แค่ 20-40%


ขอบคุณรูปจาก http://www.tuberose.com/Chlorella.html

คลอเรลล่า พัฒนาสู่การเป็นอาหารเสริมอย่างจริงจัง หลังจาก มีการพบ ความสามารถในการล้างพิษ อย่างไม่มีอาหารเสริมตัวอื่นเทียบได้!!!

รู้หรือไม่???
ในยุคของการพัฒนาอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ได้มี ปรากฏการณ์ การรั่วไหล ของสารแคดเมียม ลงไปปนเปื้อนในแหล่งอาหาร จะทำให้มีผู้เสียชีวิต จากการได้รับแคดเมี่ยมเป็นจำนวนมาก (ปรากฏการณ์ โรค อิไต อิไต) ในขณะนั้น ได้มีการทดลองให้ผู้ป่วย รับประทานคลอเรลล่า ซึ่ง พบว่ามีส่วนช่วยในการกำจัดสารพิษประเภทโลหะหนัก และ ผลการทดสอบ ก็ออกมาชัด ว่าพบปริมาณแคดเมี่ยม ออกมาทางอุจจาระ ของผู้ป่วยที่ได้รับคลอเรลล่า ประกอบกับผู้ป่วย มีการการดีขึ้นชัดเจน ประเทศญี่ปุ่น จึงสามารถแก้วิกฤติ โรคอิไตอิไต โดยการใช้คลอเรลล่า ในการรักษาได้ ในตอนนั้น และเริ่มวิจัยคลอเรลล่าอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนในปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่บริโภคคลอเรลล่า มากที่สุดในโลก


ขอบคุณรูปจาก http://www.slideshare.net/yfd07336/japanese-experience-about-environmental-hazard


แต่การผลิตคลอเรลล่า ให้สามารถเป็นอาหารเสริมได้นั้น จำเป็นต้อง


ขอบคุณรูปจาก http://www.hd-wallpapersdownload.com/desktop-new-nature-wallpapers-dowload/

1) มีสถานที่เลี้ยง ที่สะอาด ปราศจากมลพิษใดๆ (คลอเรลล่า จึงจะสามารถเป็นสุดยอดตัวช่วยกำจัดพิษ หากที่เลี้ยงมีมลพิษ คลอเรลล่า จะเป็นพิษเสียเอง)


ขอบคุณรูปจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Retezat_Mountain_-_Spring_Waterfall_02.JPG

2) สถานที่เลี้ยง นอกจาก ต้องสะอาด ปราศจากมลพิษแล้ว แหล่งน้ำที่ใช้เลี้ยง มีแร่ธาตุอาหารที่เหมาะสม และ เพียงพอ เพื่อให้คลอเรลล่า สะสมสารอาหาร ที่จะมาเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเรา ได้มากที่สุด


ขอบคุณรูปจาก http://thescienceofeating.com/vegetables/benefits-of-chlorella/

3) นอกเหนือจากสถานที่เลี้ยงแล้ว ยังต้องมีกระบวนการผลิต ที่สามารถ ทำลายผนังเซลล์ของคลอเรลล่าได้ ก่อนจะนำมาเป็นอาหารเสริม เพื่อให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารออกจากคลอเรลล่าได้อย่างเต็มที่ เมื่อรับประทานอาหารเสริม


ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.globalhealthlab.com/blogs/news/14218157-chlorella-superfood-for-vegan-rich-in-protein

การที่ต้องมีเงื่อนไขทั้งหมดนี้ จึงเป็นเรื่องยาก ในการพัฒนาคลอเรลล่า สู่การเป็นอาหารเสริม จึงทำให้คลอเรลล่า ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งๆที่ได้รับการขนาดนามว่าเป็น "Super Food"

แต่ในปัจจุบัน เราค้นพบผู้ผลิต ที่สามารถสร้างเงื่อนไข ในการผลิตอาหารเสริมคลอเรลล่า ได้อย่างสมบูรณ์สูงสุด จนเรากล้าพูดได้เต็มปาก ว่าเป็น "คลอเรลล่า เกรดพรีเมี่ยมที่สุดในโลก!!!"
bit
#2
รู้หรือไม่??? คลอเรลล่า มีคุณสมบัติ ในการดีท๊อกซ์โลหะหนัก ที่ดีเลิศอย่างไม่น่าเชื่อ!!!

นอกจากคลอเรลล่า จะมีชุดกรดอะมิโน ที่จำเป็น สำหรับร่างกายเราทั้งหมดแล้ว ยังมีโปรตีนอีกกลุ่ม ที่เรียกว่า Metal Binding Protein (โปรตีน ที่สามารถจับโลหะหนักได้) ซึ่ง โปรตีนกลุ่มนี้ จะเปรียบเหมือนกาว ที่สามารถจับโลหะหนัก และ อนุพันธ์ ของโลหะหนัก (อย่างเช่น กลุ่มยาฆ่าแมลง ยาปราปศัตรูพืช ฯลฯ) ไม่ให้ไปรบกวนการทำงานของร่างกาย จนถูกขับออกจากร่างกายในที่สุด (อ่านบทความต่างประเทศเพิ่มเติม)


ขอบคุณรูปจาก http://2011.igem.org/Team:Tokyo-NoKoGen/bmc

คุณสมบัติการป้องกัน ร่างกาย "ได้รับสารพิษ" ในแบบนี้ เป็นคุณสมบัติ ที่คลอเรลล่ามี ที่ยังไม่เคยพบ ในอาหารเสริมตัวอื่นมาก่อน!!!


ต้องรู้!!!
เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือ Thai-PAN ได้แถลงผลการเฝ้าระวังการตรวจสารเคมีกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนในผักที่คนไทยนิยมบริโภคมากที่สุด 10 ชนิด พบสารพิษตกค้างในผักเกินมาตรฐานถึง 22.5% กะเพราเจอหนักสุด 62.5%


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaipan.org/node/793
bit
#3
รู้หรือไม่??? นอกจาก คลอเรลล่า จะเป็นเลิศในการกำจัดพิษโลหะหนักแล้ว ยังเป็นเลิศ ในการกำจัดแบคทีเรีย ที่เป็นพิษต่อร่างกายเราด้วย!!!


ขอบคุณรูปจาก http://juicing-for-health.com/health-benefits-of-spirulina-and-chlorella.html

นอกเหนือจาก คุณสมบัติการป้องกัน และ กำจัดพิษ จากโลหะหนักแล้ว อย่างเยี่ยมยอดแล้ว คลอเรลล่า ยังมี สารพิเศษเฉพาะตัว ที่เรีกว่า "คลอเรลลิน" สารพิเศษเฉพาะตัวนี้ พอเข้ามาอยู่ในร่างกายเรา จะทำหน้าที่ ส่งเสริมแบคทีเรียที่ดีกับร่างกายให้สามารถเจริญเติบโตได้ดี ในทางกลับกัน สารนี้กลับ กำจัดแบคทีเรียที่สร้างพิษต่อร่างกาย

จนนักวิทยาศาสตร์ขนานนาม สารพิเศษนี้ว่า "ปฏิชีวนะตามธรรมชาติ (Natural Antibiotic)" ที่หาได้ ในคลอเรลล่าเท่านั้น!!! (งานวิจัยต่างประเทศเกี่ยวกับคลอเรลลิน)


ต้องรู้!!!
ผลตรวจเฝ้าระวังปลาแซลมอนนำเข้าช่วง 3 ปี ไม่พบโลหะหนักปนเปื้อนเกินเกณฑ์ที่กำหนด แต่พบปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรียเกินเกณฑ์อื้อ คาดปนเปื้อนทั้งจากในธรรมชาติ ขณะแล่ปลาดิบ ใช้มีด เขียง ร่วมกับของดิบอื่น สุขอนามัยคนทำแย่


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaihealth.or.th/Content/28948-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%9A%20%22%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%9A%22%20%E0%B8%9B%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2.html
bit
#4
รู้หรือไม่??? คลอเรลล่า สามารถช่วยร่างกายกำจัดพิษ ที่ค้างอยู่ ลึก ถึง ระดับเซลล์!!!

คลอเรลล่า สามารถช่วยช่วยให้ เซลล์ สามารถผลิต "กลูต้าไทโอน" ได้มากขึ้น (มีการทดสอบจากงานวิจัย) กลูต้าไทโอน เป็นเอนไซม์ ที่ทำหน้าที่ กำจัดของเสีย ออกจากเซลล์ เอนไซม์ตัวนี้ เซลล์ทุกเซลล์มีความสามารถในการผลิตได้ แต่เซลล์ตับ จะสามารถผลิตได้มากกว่าที่อื่น เนื่องจาก ตับเป็นอวัยวะ หลัก ที่ทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกาย แต่ การผลิต กลูต้าไทโอน เซลล์ จำเป็นต้องใช้ กรดอะมิโนบางตัว เป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่ง โดยทั่วไปกรดอะมิโนตัวนี้ ร่างกายเรามักมีไม่พอใช้งาน ในแต่ละวัน กลูต้าไทโอน จึงมักมีไม่ค่อยพอใช้งาน (จึงได้เป็นจุดเริ่มต้น ของการมีอาหารเสริม กลูต้าไทโอน เกิดขึ้น ซึ่ง การรับประทานกลูต้าไทโอน จากภายนอก กลูต้าไทโอน ที่ร่างกายรับมา ไม่ได้ผลิตเอง จะไปอยู่ที่ตับ และ จะถูกนำไปใช้งานเกือบทั้งหมดที่ตับ แต่ กลูต้าไทโอน มีผลข้างเคียง ทำให้เม็ดสีของผิว ของคนเอเชียผิวเหลือง จางลง เลยเห็นว่าผิวขาวขึ้น การขายกลูต้าไทโอนที่เรามักได้ยินกันในไทย ถูกนำเสนอแต่ผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวขาว)


ขอบคุณรูปจากงานวิจัย http://link.springer.com/article/10.1007%2Fs00216-009-3016-1

การทาน คลอเรลล่า จะส่งผลให้ ร่างกายได้รับสารอาหาร พอที่จะให้แต่ละเซลล์ เริ่มผลิต กลูต้าไทโอน ของตัวเอง มาใช้งาน ขับของเสีย ของตัวเองได้ นั่นหมายถึง ร่างกายเรา จะเกิดการ "กำจัดสารพิษ (ดีท๊อกซ์) ในระดับเซลล์"


ต้องรู้!!!
กลูตาไธโอน คือ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ถูกสร้างและใช้มากที่สุดในร่างกาย นับเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องสายตาของคนเรา ช่วยเปลี่ยนแป้งที่สะสมในร่างกายให้เป็นพลังงาน และป้องกันการสะสมของไขมันซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นโรคหัวใจ กลูตาไธโอนทำหน้าที่ปกป้องทุกเซลล์ของร่างกาย แต่เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณกลูตาไธโอน ในร่างกายจะลดน้อยลง หรือถูกผลิตขึ้นช้าลงและมีปริมาณน้อยลง คนเราเมื่อย่างเข้าอายุ 20 ปี ปริมาณกลูตาไธโอน ในร่างกายจะลดลงเฉลี่ย 8-12% ต่อ 10 ปี แต่หากร่างกายมีการบริโภคยาหรือเคมีมากเกินไป ปริมาณการลดลงของกลูตาไธโอนในร่างกายจะรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมเร็วก่อนวัย และโรคต่างๆเข้าแทรกแซงได้ง่าย



ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/137/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%98%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%99-Glutathione-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%881-%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84-%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2/
bit
#5
รู้หรือไม่??? คลอเรลล่า มีคุณสมบัติ เป็นเลิศ ที่จะฟื้นฟูร่างกาย จากระดับเซลล์!!!

เนื่องจากคลอเรลล่า มีสารอาหาร (กรดอะมิโน) ที่เป็นอะไหล่ ที่เซลล์ใช้ในการซ่อมบำรุงตัวเอง อย่างครบถ้วน จึงทำให้เซลล์ ที่เสื่อมอยู่ก่อนแล้ว หรือ ได้รับบาดเจ็บ สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ ตามเวลา ที่กลไกของร่างกายสามารถทำได้ (ไม่ต้องรออะไหล่) ซึ่งหากรับประทานอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ เซลล์ที่เสื่อมอยู่ก่อนแล้ว มีโอกาส จะกลับมาเป็นปกติได้
(แต่ต้องเข้าใจว่า เซลล์ที่เสื่อมอยู่ก่อนแล้ว กลไกในการฟื้นตัว ก็เสื่อมอยู่ด้วย ถึงแม้อะไหล่จะครบ ก็ต้องใช้เวลา) (อ่านบทความต่างประเทศเพิ่มเติม)


http://www.nature.com/nature/journal/v506/n7488/fig_tab/nature13058_F1.html

การที่เซลล์ไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ คือ เหตุ ของการ "เสื่อมเกินธรรมชาติ" อย่างรวดเร็ว ของร่างกาย

เพิ่มเติม!!!
"เมื่อรับประทานเป็นประจำ คลอเรลล่า จะช่วยซ่อม สารพันธุกรรมที่อยู่ใน เซลล์ของร่างกาย รักษาสุขภาพเรา และ ชะลอกระบวนการแก่ ... เมื่อ RNA และ DNA (RNA และ DNA คือ สารพันธุกรรม ที่ทุกๆเซลล์มีอยู่ และ จะทำหน้าที่เป็นแม่พิมพ์ สำหรับการแบ่งเซลล์ใหม่ -- ผู้แปล) ของเรา ถูกดูแลซ่อมแซมอย่างดี และ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายของเราก็จะสามารถกำจัดสารพิษ และ ป้องกันโรคได้ เซลล์ของเราจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ และ พลังงาน และ พลังชีวิต ของทั้งร่างกาย ก็จะเพิ่มขึ้น


ขอบคุณรูปจาก http://www.bernardjensen.com/E-BOOK--CHLORELLA-JEWEL-OF-THE-FAR-EAST_p_357.html

เคยมีหลักฐาน ว่าคลอเรลล่า สามารถทำให้มีอายุเฉลี่ยยาวนานขึ้นได้ ในหนู จากการทดลองที่ วิทยาลัยแพทย์ ใน คานาซาว่า ประเทศญี่ปุ่น พบว่า หนูที่เป็นเบาหวานตั้งแต่กำเนิด ที่ได้รับ คลอเรลล่า เป็นอาหารเสริม มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 22.6 เดือน เทียบกับหนูที่เป็นเบาหวานแต่กำเนิดอีกลุ่ม ที่มีอายุเฉลี่ยที่ 15 เดือน ที่ได้รับอาหารธรรมดา"

จากหนังสือ
Chlorella, Jewel of the Far East (คลอเรลล่า อัญมณีแห่งตะวันออกไกล) โดย Dr. Bernard Jensen, Ph.D., D.O.

*เพิ่มเติม เกี่ยวกับผู้เขียน คุณหมอ Bernard Jensen เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน โภชนาการ โดยเฉพาะ เกี่ยวกับด้าน ชะลอความเสื่อมของร่างกาย ได้มาพบ คลอเรลล่า ที่ไต้หวัน และ ญี่ปุ่น ในช่วง ที่กำลังพัฒนาคลอเรลล่า สู่อุตสาหกรรมอาหารเสริม


bit
#6
รู้หรือไม่??? คลอเรลล่า สามารถช่วยเพิ่มการทำงานของระบบ ภูมิคุ้มกัน เป็นประมาณ 2 เท่า (จากวิธีการวัด NK Cell Activity) ภายในระยะเวลา 8 สัปดาห์!!!

จากคุณสมบัติตามธรรมชาติ ของ คลอเรลล่า ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ การขนส่งออกซิเจน ระบบเลือด รวมถึงระบบภูมิคุ้มกัน (อ่านเพิ่มเติม คลิ๊กที่นี่) ส่งผลให้เม็ดเลือดขาวของผู้ทานสามารถทำงานได้ดีขึ้น จึงทำให้ ร่างกายของผู้ที่ทานคลอเรลล่า มีระบบภูมิคุ้มกัน ที่แข็งแรงมากขึ้น ส่งผลให้ สามารถต้านทานต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะไวรัส ได้มากขึ้นกว่าในยามที่ไม่ได้ทาน


อ่านงานวิจัยฉบับเต็ม ได้ที่ลิงค์ http://www.nutritionj.com/content/11/1/53

มีงานวิจัย ที่ให้กลุ่มตัวอย่าง ทานอาหารเสริม คลอเรลล่า จำนวน 5 กรัม (10 เม็ด) ต่อวัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ และตรวจสอบการทำงาน ของภูมิคุ้มกัน พบว่า หลังจากผ่านไป 8 สัปดาห์แล้ว พบว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ของกลุ่มผู้ได้รับ อาหารเสริมคลอเรลล่า ทำงานดีขึ้น ประมาณ 2 เท่า (จากวิธีการวัด NK Cell Activity) ของค่าเดิม


เพิ่มเติม!!!
ภูมิคุ้มกัน (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการทำงานของเม็ดเลือดขาวทั้งโดยการสร้างสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดีและการฆ่าเชื้อโรคโดยตรง) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคและการทุเลาบรรเทาบางเบาของโรค ๔ กลุ่มโรค ดังนี้


ขอบคุณรูปจาก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=cartoonthai&date=02-04-2013&group=14&gblog=501

โรคติดเชื้อ ทั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา
โรคมะเร็งต่างๆ
โรคภูมิแพ้ เช่น แพ้อากาศ (หวัดภูมิแพ้) โรคหืด ลมพิษ เป็นต้น
โรคภูมิต้านตนเอง เช่น แผลร้อนใน (แผลแอฟทัสในช่องปาก) โรคปวดข้อรูมาตอยด์ คอพอกเป็นพิษ เป็นต้น

จากบทความต้นฉบับ http://www.doctor.or.th/article/detail/11018
s
#7
รู้หรือไม่ !!!!การเริ่มต้นด้วย เหตุผล ตรรกะที่ ถูกต้อง จะทำให้การทานอาหารเสริมของเราที่ผ่านมาครบถ้วน และ สมบูรณ์และการ "สะสางสารพิษ ที่สะสม ก่อนจะเริ่มทานสารอาหารไปเสริม" เป็นเหตุผลตรรกะ ที่ถูกต้อง ในการเริ่มทาน อาหารเสริม ทั้งผู้ที่เริ่มต้นทานอาหารเสริม และ ทานอาหารเสริมมานานแล้วก็ใช้เหตุผลตรรกะพื้นฐานที่สำคัญนี้เช่นกันตรรกะและเหตุผลที่ถูกต้อง "สะสางสารพิษ ที่สะสม ก่อนจะเริ่มทานสารอาหารไปเสริม" นี้นอกจาก จะทำให้คุณประหยัดและปลอดภัย แล้วการสะสางสารพิษ จะทำให้ร่างกายใช้สารอาหารที่เราเสริมเข้าไปได้ง่ายขึ้น และโดยเฉพาะการสะสางสารพิษที่ติดค้างในระบบลำไส้ ที่ใช้สำหรับการดูดกลืนสารอาหารนั้น สำคัญมากเพราะจะทำให้ เรามั่นใจ ได้ว่าร่างกายของเรา ตอนดูดกลืนสารอหารในช่วงของระบบลำไส้ ไม่ดูดกลืน สารพิษ เข้ามาการทำงาน เพื่อช่วยให้ระบบลำไส้ทำงานได้สมบูรณ์ ได้ดีตั้งแต่ครั้งแรกในการทาน เป็นอีกหนึ่ง คุณสมบัติหนึ่ง ของ “Super Food” ORGANIC CHLORELLA และ ยังมีโปรตีนอีกกลุ่ม ที่เรียกว่า Metal Binding Protein (โปรตีน ที่สามารถจับโลหะหนักได้) ซึ่ง โปรตีนกลุ่มนี้ จะเปรียบเหมือนกาว ที่สามารถจับโลหะหนัก และ อนุพันธ์ ของโลหะหนัก (อย่างเช่น กลุ่มยาฆ่าแมลง ยาปราปศัตรูพืช ฯลฯ) ไม่ให้ไปรบกวนการทำงานของร่างกาย จนถูกขับออกจากร่างกายในที่สุดคุณสมบัติการป้องกัน ร่างกาย "ได้รับสารพิษ" ในแบบนี้ เป็นคุณสมบัติ ที่คลอเรลล่ามี ที่ยังไม่เคยพบ ในอาหารเสริมตัวอื่นมาก่อน!!!นอกเหนือจาก การป้องกัน และ กำจัดพิษ จากโลหะหนักแล้ว คลอเรลล่า ยังมี สารพิเศษเฉพาะตัว ที่เรีกว่า "คลอเรลลิน" สารพิเศษเฉพาะตัวนี้ พอเข้ามาอยู่ในร่างกายเรา จะทำหน้าที่ ส่งเสริมแบคทีเรียที่ดีกับร่างกายให้สามารถเจริญเติบโตได้ดี ในทางกลับกัน สารนี้กลับ กำจัดแบคทีเรียที่สร้างพิษต่อร่างกายจนนักวิทยาศาสตร์ขนานนาม สารพิเศษนี้ว่า "ปฏิชีวนะตามธรรมชาติ (Natural Antibiotic)" ที่หาได้ ในคลอเรลล่าเท่านั้น!!!ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ล้างพิษดีที่สุด ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด ต้องยกให้ ORGANIC CHLORELLA
bit
#8
รู้หรือไม่??? คลอเรลล่า เป็นหนึ่งในอาหารเสริมเพียงไม่กี่ตัว ที่สามารถ ปกป้อง ฟื้นฟู ทั้งแม่ และ ทารกในครรภ์ ได้พร้อมกัน!!!


ขอบคุณรูปจาก http://kidshealth.org/parent/pregnancy_center/your_pregnancy/preg_health.html

ผู้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ จะต้องการสารอาหาร กรดโฟลิก แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินเอ กลุ่มวิตามินบี และ สารอาหารอื่นๆ สารอาหารที่มีในคลอเรลล่า สามารถ เติมเต็มสารอาหารที่ขาดเหล่านี้ได้ ทำให้ คลอเรลล่า เป็นสิ่งที่เหมาะสม โดสแนะนำ ต่อวัน คือ 3 กรัม (6 เม็ด) และ สามารถแบ่งรับประทานได้


สารอาหาร และ แร่ธาตุ (ที่ไม่ใช่กรดอะมิโน) ที่พบในคอลเรลล่า
จากหนังสือ
Chlorella, Jewel of the Far East (คลอเรลล่า อัญมณีแห่งตะวันออกไกล) โดย Dr. Bernard Jensen, Ph.D., D.O.


มีการวิจัยในญี่ปุ่น ระบุว่า แม่ที่ทาน 6 กรัมต่อวัน (ปริมาณการทานปกติ 3 กรัมต่อวัน) มีสาร dioxin ที่เป็นสารพิษในปริมาณน้ำนม ลดลงได้ 40% และ ยังศึกษาพบว่า มีการเพิ่มสารภูมิคุ้มกัน sIGA ในน้ำนม นั่นหมายถึง นอกจากมีปริมาณ dioxin น้อยลงแล้ว การให้นมลูก จะทำให้ลูกมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น

บทความต้นฉบับ https://healthymamainfo.wordpress.com/tag/nutrition-for-pregnancy/

ทำให้การรับประทานคลอเรลล่า ในขณะตั้งครรภ์นั้น ส่งผลดี ทั้งแม่ ทั้ง ลูก ถือเป็น อีกหนึ่งความ พิเศษ เฉพาะ ของคลอเรลล่า!!!

ต้องรู้!!!
จากการศึกษาสัตว์ทดลองตัวเมียและผลการศึกษาทางระบาดวิทยาของคนที่ประเทศญี่ปุ่นและไต้หวันพบว่า สาร dioxin มีความเป็นพิษต่อการพัฒนาตัวอ่อนหรือทารกซึ่ง มีผลกระทบอยู่ 3 รูปแบบ คือ

- ทำให้ตัวอ่อน/ทารกผิดปกติและตายก่อนครบกำหนด
- ทำให้ทารกมีโครงสร้างผิดปกติ
- ทำให้การทำงานขออวัยวะและเนื้อเยื่อบางชนิดผิดปกติได้


ขอบคุณรูปจาก http://tunza.eco-generation.org/resourcesView.jsp?boardID=air&viewID=22

การศึกษาในมารดา พบว่า การได้รับสาร dioxin/ฟิวแรน ที่ปนเปื้อนในนำมันรำข้าวที่ประเทศจีนทำให้มีอัตราการตายของทารกในช่วงตั้งครรภ์สูง ทารกมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ ซึ่งแสดงถึงการเจริญเติบโตที่ช้ากว่าปกติของทารก ทารกบางรายเกิดมามีรูปร่างผิดปกติ

บทความต้นฉบับจาก http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=70313



bit
#9
รู้หรือไม่??? คลอเรลล่า ช่วยให้ ทุกๆการออกกำลังกายของคุณ ได้ผล สมบูรณ์

ออกกำลังกาย คุมอาหาร แทบตาย #แต่ไม่เฟิร์มสักที บางทีอาจเพราะ #กลไกการเผาผลาญของคุณไม่สมบูรณ์

ค้นพบโดยนักวิจัย จากทั้ง ญี่ปุ่น และ เกาหลี

1. คลอเรลล่า จะซ่อมกลไกการเผาผลาญระดับเซลล์ ของคุณ ให้สมบูรณ์

ไขมัน และ น้ำตาล ที่ร่างกายรับเข้าไป จะถูกใช้งานอย่างเต็มที่ หยุดการสะสม ไขมัน และ น้ำตาล แบบผิดปกติ ของร่างกาย

จากงานวิจัยของญี่ปุ่น http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/?term=chlorella+kyoto+Japan+2008

2. คลอเรลล่า จะซ่อมกลไกการดึงไขมันออกมาเผาผลาญ ของคุณ ให้สมบูรณ์

ร่างกายจะสามารถดึงไขมัน ออกมาใช้เมื่อต้องการได้เต็มที่ ส่งผลสุดท้าย ให้ไขมันลดลง หยุดการต้อง กิน น้ำตาล และ ไขมัน เพื่อเพิ่มพลังงาน แบบผิดปกติ

จากงานวิจัยของเกาหลี http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19723054

การที่กลไกระดับเซลล์ ถูกซ่อม ให้เผาผลาญได้สมบูรณ์ และ ดึงไขมันออกมาใช้ได้สมบูรณ์ ส่งผลให้
#ทุกๆการออกกำลังกาย #เผาผลาญไขมันได้สมบูรณ์



3. หลังจากการเผาผลาญไขมันอย่างสมบูรณ์แล้ว ร่างกาย ของคุณ จะได้รับ สุดยอด Single Cell Protein จากคลอเรลล่า มาใช้ #สร้างระบบและกล้ามเนื้อ ที่ยังไม่แข็งแรง

เมื่อทานคลอเรลล่า และ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไขมันที่เคยมีการสะสมแบบผิดปกติจะถูกกำจัด ระบบและกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรงก็จะถูกเสริมสร้าง ด้วย สุดยอด Single Cell Protein ของคลอเรลล่า

รูปร่างจะกระชับขึ้น #ไขมันจะลดลง #กล้ามเนื้อจะเพิ่มขึ้น จากสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ คือ #การกระชับรูปร่างที่แท้จริง เราจะได้รับจากคลอเรลล่า #แบบตัวเดียวจบ!!!

และ ไม่ใช่!!! การลดน้ำหนัก แบบทำลายสุขภาพ ที่เน้นทำลายกล้ามเนื้อและขับปัสสาวะ ที่ทำให้ ผอม แต่ เผละ และ โทรม
bit
#10
รู้หรือไม่??? คลอเรลล่า สามารถทำให้เด็กผู้ชายสูงขึ้นได้จริง!!! จากการวิจัยใน ญี่ปุ่น

หลังจากที่ได้ผ่านการวิจัยเกี่ยวกับการเจริญเติบโตมากมาย จนพบว่า ทั้ง หนู และ ไก่ ที่ได้รับ คลอเรลล่า สามารถเจริญเติบโตได้สมบูรณ์แข็งแรงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับคลอเรลล่าเสริมในอาหาร และ ทดสอบจนมั่นใจว่าเป็น การเจริญเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์แข็งแรงตามธรรมชาติ จากการที่เซลล์ได้รับสารอาหารสมบูรณ์ขึ้น ไม่มีผลข้างเคียงใด


รูปด้านบนซ้าย ลูกไก่ที่ได้รับ คลอเรลล่า เสริม ปริมาณ 10% ของอาหาร เทียบกับ ลูกไก่ที่ไม่ได้รับ คลอเรลล่า เสริม
รูปด้านล่าง ลูกไก่ที่ได้รับ คลอเรลล่า เสริม ปริมาณ 10% ของอาหาร 5% ของอาหาร และ ไม่ได้รับคลอเรลล่าเสริม ตามลำดับ

ขอบคุณรูปจาก หนังสือ Chlorella, Jewel of the Far East (คลอเรลล่า อัญมณีแห่งตะวันออกไกล) โดย Dr. Bernard Jensen, Ph.D., D.O.

ดร. โยชิโอะ ยามากิชิ และ ทีมงาน จึงได้รับอนุญาต ให้ทดสอบ คลอเรลล่า กับ เด็กอายุ 10 ปี (ชั้น ป. 5) ในโรงเรียนประถมโอคุโนะ ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ดร. โยชิโอะ ได้แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่ง ให้ทานอาหารเสริมคลอเรลล่า วันละ 2 กรัม (4 เม็ด) (ยกเว้นวันเสาร์อาทิตย์) ประกอบด้วย เด็กผู้ชาย 22 คน เด็กผู้หญิง 18 คน

และ อีกกลุ่ม ให้ทานอาหารตามปกติ เพื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มแรก ประกอบด้วย เด็กผู้ชาย 22 คน เด็กผู้หญิง 15 คน

โดยใช้เวลาทดสอบ 112 วัน (เกือบสี่เดือน) และ วัดส่วนสูงทุกวันที่ 21 ของเดือน และ ผลปรากฏว่า

เด็กผู้ชาย
กลุ่มที่ทานอาหารปกติ มีส่วนสูงเพิ่มขึ้น 1.5 ซม. ในขณะที่ กลุ่มที่ทานคลอเรลล่า มีส่วนสูงเพิ่มขึ้นถึง 2.5 ซม.
กลุ่มที่ทานอาหารปกติ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 0.7 กิโลกรัม ในขณะที่ กลุ่มที่ทานคลอเรลล่า มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม

เด็กผู้หญิง
ทั้งสองกลุ่ม มีส่วนสูงเพิ่มขึ้นเท่ากัน คือ 2.3 ซม.
กลุ่มที่ทานอาหารปกติ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 1.2 กิโลกรัม ในขณะที่ กลุ่มที่ทานคลอเรลล่า มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 1.9 กิโลกรัม


การเจริญเติบโต ของเด็กกลุ่มที่ทานคลอเรลล่า ที่มีมากกว่าเด็กกลุ่มที่ไม่ได้ทานอย่างชัดเจน จากการทานคลอเรลล่า วันละ 2 กรัมในช่วงเวลาทดสอบไม่ถึง 4 เดือน นั้น เป็นไปตามธรรมชาติ จากความสมบูรณ์ของเซลล์ ที่ได้รับสารอาหารระดับเซลล์ที่สมบูรณ์ขึ้น

หรือ พูดง่ายๆคือ เด็กที่ทานคลอเรลล่า เจริญเติบโตสมบูรณ์ขึ้น ตามธรรมชาติของเขาเอง ไม่ถูกลดทอนด้วย การขาดสารอาหารระดับเซลล์ ที่อาหารปกติ (ของประเทศที่มีการทำงานด้านโภชนาการเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง ญี่ปุ่น) ให้ได้ไม่ครบ!!!


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง
หนังสือ Chlorella, Jewel of the Far East (คลอเรลล่า อัญมณีแห่งตะวันออกไกล) โดย Dr. Bernard Jensen, Ph.D., D.O.



ขอบคุณรูปจาก http://gourmetcoffeecorner.com/page/7/

ไม่ใช่แค่เรื่องสูง ประเด็นคือ เรื่องการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์!!!

การขาดโปรตีนระดับเซลล์ ในช่วงวัยเจริญเติบโต (ตั้งแต่เกิด ถึง 18 ปี) นั้น จะส่งผลให้ร่างกาย ภายนอกและภายใน มีพัฒนาการไม่สมบูรณ์ จนบางครั้ง อาจก่อให้เกิดความผิดปกติ ที่จะติดตัวเด็กคนนั้น ไปตลอดชีวิต!!! ยกตัวอย่างเช่น

1. ร่างกายเติบโตไม่เต็มที่ กระดูกสั้น ตัวเตี้ย ไม่แข็งแรง จากการขาดสารอาหารที่ต้องใช้บำรุงร่างกาย ในช่วงวัยเจริญเติบโต

2. สมอง และ ระบบประสาท พัฒนาได้ไม่เต็มที่ จากการขาดสารอาหารที่จำเป็นต้องใช้ในการพัฒนาสมองและระบบประสาท ในช่วงวัยเจริญเติบโต



ช่วงวัยเจริญเติบโตของเด็ก มีแค่ครั้งเดียว เอาคืนไม่ได้!!!

เสริมสารอาหารระดับเซลล์ ให้ลูกของคุณ ไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญ ด้วย "คลอเรลล่า เกรดพรีเมี่ยม" ที่อัดแน่นด้วยสารอาหารระดับเซลล์ สำหรับลูกคุณ


pricemint
#11
ขออภัย เนื้อหาที่คุณแนบมาดูเหมือนจะเป็นข้อมูลจากงานวิจัยทางด้านโภชนาการที่เกี่ยวกับคลอเรลล่า (Chlorella) และการศึกษาผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันในมนุษย์. ดูเหมือนว่าผลงานวิจัยที่คุณกล่าวถึงมีการตรวจสอบผลกระทบของการทานคลอเรลล่าในปริมาณ 5 กรัม (10 เม็ด) ต่อวัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ และพบว่าระบบภูมิคุ้มกันของกลุ่มทดลองที่ทานคลอเรลล่ามีการทำงานดีขึ้นประมาณ 2 เท่า ตามวิธีการวัด NK Cell Activity.

การทดลองนี้เสนอข้อมูลที่ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าคลอเรลล่าอาจมีผลกระทบที่บวกต่อระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพของ NK Cell Activity ซึ่งเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีหน้าที่สำคัญในการต่อต้านเชื้อโรค.

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและความเชื่อถือได้, ควรอ่านงานวิจัยฉบับเต็มที่มีให้ที่ลิงค์ที่คุณแนบมา. การติดตามข้อมูลทางการวิจัยจะช่วยให้คุณได้รับความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับวิธีการทดลองและผลลัพธ์ของการวิจัยนี้


(อ่านจบแล้วลบได้)
ประกาศข้อตกลงทั่วไป www.sbntown.com

www.sbntown.com ไม่ยินดี ไม่ยินยอม ไม่สนับสนน ให้มีการใช้ ระบบใดๆ ในชุมชนแห่งนี้ เพื่อการกระทำผิดต่อกฎหมายและศิลธรรมที่ดีงามของประเทศนี้ที่เราอาศัยร่วมกัน ทั้งนี้หากสมาชิกเข้ามาใช้งาน ชุมชนแห่งนี้ แสดงว่า รับรู้ เข้าใจ และยอมรับ ในประกาศนี้ และยินดี ปฎิบัติตามประกาศนี้ร่วมกัน

www.sbntown.com เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการทำผิดกฏหมายของสมาชิกคนใด และจะไม่ร่วมรับผิดชอบใดๆ กับสมาชิกผู้ที่ทำผิดกฏหมาย ในทุกกรณี

ดูกระทู้ทั้งหมดในชุมชน จาก  Downtown ดูกระทู้ในหมวด ดูกระทู้ในหมวดย่อย
กระทู้แนะนำจากการคัดเลือกอัตโนมัติ
1
2
3