แต่เดิมเป็นคนที่ปฏิเสธการกินอาหาร "เสริม " อย่างแรง เพราะ มีความเชื่อว่ากินอาหารให้ครบตามปกติก็พอ และถ้ายังกินอาหารให้ครบปกติไม่ได้ ออกกำลังกายไม่ได้ พักผ่อนเพียงพอไม่ได้ ไม่รู้ว่าต้องกินอาหารเสริมเท่าไหร่จึงจะพอ เพราะ ผมต้องการแค่ให้ร่ายกายปกติ ไม่ได้มีความจำเป็นต้องแข็งแรงเว่อร์อะไร
จนกระทั่งได้ศึกษา อ่านงานวิจัย เกี่ยวกับสาหร่ายคลอเรลล่า เพื่อหาว่าทำไมสาหร่ายคลอเรลล่าจึงได้รับการยอมรับ จนขึ้นชื่อว่าเป็น “Super Food” อย่างแพร่หลายทั่วโลก
หลังศึกษาข้อมูลมาอย่างเข้มข้นสูงมาก ต้องยอมรับ สาหร่ายคลอเรลล่าตัวนี้จริงๆ เนื่องจาก ต้นกำเนิดและวิวัฒนาการที่ต้องใช้คำว่า “มหัศจรรย์ธรรมชาติ” ของมัน ทำให้มันได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถ “ล้างพิษ” ตามธรรมชาติได้ดีที่สุดในโลก โดยปริยาย
และด้วยความพิเศษนี้เอง เมื่อบริษัทชั้นนำเรื่องการวิจัยและพัฒนาอย่าง Febico นำมาเลี้ยงในสายน้ำแร่ธรรมชาติ ที่มีสิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ และมีเทคโนโลยีทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารจากสาหร่ายคลอเรลล่าได้สูงมาก ก่อนบรรจุเป็นสาหร่ายคลอเรลล่าอัดเม็ดที่ยังคงคุณค่าไว้ 100% เต็ม ทำให้ผมเลือกให้มันเป็นอาหารเสริมตัวแรก
ทำไมหน่ะหรือ ก็เพราะว่า การ "ล้างพิษ" นี้ จะทำให้ผมได้สิ่งที่ต้องการ นั่นคือ “ร่างกายที่ปกติ” (ยกเว้นอุบัติเหตุและเชื้อโรคที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้) เพราะ ร่างกายที่ปกติคือร่ายกายที่ไม่มีสิ่งไม่ปกติ และ ผมยอมรับว่าผมบังคับให้ใช้ชีวิตแบบหลีกเลี่ยงสิ่งไม่ปกติไม่ได้ ดังที่กล่าวไว้แล้วในตอนต้น ดังนั้น จากการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากๆ แล้ว ประกอบกับการศึกษา และอ่านวิจัยข้างต้น จึงได้เห็นผลการศึกษาร่ายกายที่สะสมพิษไว้มากแล้ว นำมาเปรียบเทียบกับร่ายกายตนเอง
จึงสรุปได้ว่า ยังไงอาหารเสริมตัวนี้ ก็ได้คำตอบเดียวว่า “ต้องกิน”
นอกเหนือจากนั้นแล้ว การกินอาหารเสริมของผมเองมีอุปสรรคเรื่องการจ่ายเงินเพิ่ม ที่ผ่านมาแม้ว่าสนใจอาหารเสริมบำรุงร่ายกายอยู่หลายตัว แต่ก็ไม่สามารถตัดใจซื้อได้ อันเนื่องมาจากกว่า “กลัวไม่คุ้ม” เพราะยังดูแลร่ายกายตัวเองให้ “ปกติ” ไม่ได้เลย จนกระทั่งได้เจอสาหร่ายคลอเรลล่าที่ทำให้ร่ายกาย “ปกติ” ได้ก่อน การจ่ายเงินเพื่อซื้อจึงจะคุ้ม อีกอย่างเมื่อนำราคาของอาหารเสริมตัวนี้มาหารต่อวันดูแล้ว เหลือราคา 30 กว่าบาทต่อวัน ซึ่งราคานี้เป็นราคาสำหรับอาหาร 1 มื้อ (อาหารบางมื้อ และกาแฟสดยังแพงกว่าเลย) จึงเป็นราคาที่ควรบริหารเงินให้จ่ายไหว
จากการศึกษาข้อมูลและงานวิจัย จนมีผลที่ได้รับกับตัวเองจนตระหนักว่าต้องกินอาหารเสริมตัวนี้ให้ได้ทุกวันแล้ว ยังได้ศึกษาอาการเจ็บป่วย และโรคร้าย ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ระลึกได้ถึงช่วงเวลาตอนเด็กที่คอยดูแลให้คุณตากินยา และไปเฝ้าคุณตาที่โรคพยาบาล ได้ว่าเมื่อตอนแก่ ไม่ต้องการนำเงินที่หามาได้ทั้งชีวิตของตนเอง (หรือคนที่เรารัก) ไปจ่ายให้ค่ายา และค่ารักษาตัวเอง อย่างไม่มีทางเลือก ดังนั้น จึงเลือกจ่ายเงินเพื่อซื้ออาหารเสริมที่ทำให้ร่ายกายเราปกติตอนนี้ ดีกว่า
เมื่อได้ข้อสรุปแบบไม่มีข้อสงสัยใดๆแล้ว จึงได้เริ่มกินสาหร่ายคลอเรลล่านี้ และเฝ้าสังเกตุอาการของร่ายกายว่าเป็นไปตามสรรพคุณตามข้อมูลที่ได้ศึกษาหรือเปล่า ผ่านไปประมาณ 1 เดือน พบว่าร่ายกายค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาก สำหรับตนเองแล้วสามารถแบ่งเป็นสองระยะ ได้แก่ระยะ ร่ายกายกำลังล้างพิษ และ ร่ายกายเริ่มปราศจากสารพิษ
โดยสำหรับร่ายกายผมแล้วช่วงร่ายกายกำลังล้างพิษ ช่วงแรกจะมีอาหารหิวน้ำมากกว่าเดิม ปัสสาวะบ่อยกว่าเดิม ผ่านไปได้สักอาทิตย์จะสังเกตุเห็นว่าการอุจจาระสม่ำเสมอ และรู้สึกโล่งท้องมากๆ จนเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตื่นเช้าได้ไม่ง่วง เหงา หาว นอน ไม่เพลีย และกระฉับกระเฉงกว่าแต่ก่อนเยอะมาก และร่ายกายไวต่อสารพิษ เช่น ผงชูรส หรือ อาหารที่ปนเปื้อน จึงได้รู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มปราศจากสารพิษแล้ว แม้ว่าร่ายกายดีขึ้นมากแล้วแต่ สารพิษใกล้ตัวมาก และพร้อมที่จะเข้าสู่ร่ายกายได้ตลอดเวลา จึงต้องทานเป็นประจำทุกวัน เพราะ นอกจากฟังชั่นล้างพิษแล้ว สาหร่ายคลอเรลล่า ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยซ่อมแซม และบำรุงร่างกายอีกเยอะมากด้วย ไม่ว่าจะเป็น กรดอะมิโน 20 กว่าชนิด รวมถึงวิตามินที่สำคัญๆ มากมายอีกด้วย