[SIZE="6"]ขอระบายหน่อยนะคะ ค่อนข้างยาวนิดนึงค่ะ
เมื่ออาทิตย์ก่อน เรามีเรื่องกับคนข้างบ้านค่ะ
เดิมพ่อเราซื้อบ้านตึกแถวสี่ชั้นไว้เมื่อเกือบยี่สิบปีมาแล้ว
โดยที่ไม่ได้อยู่ทิ้งเอาไว้เฉยๆ แต่อยู่ที่ตึกในซอยถัดไปเดินไปมาหากันได้
ทีนี้คนที่บ้านติดกับตึกสี่ชั้นของเรา (บ้านนี้รุ่นลูกจะอายุสี่สิบกว่าทั้งนั้นค่ะ)
เค้าก็จะเอารถมาจอดหน้าและหลังบ้านเราทุกวันเป็นเวลาสิบกว่าปี
เพราะบ้านนั้นเป็นโรงงานเก็บรองเท้า มีตึกหลายห้องที่ไม่ติดกันในซอยนั้นๆ
ซึ่งมีรถเข้าออก จอดแหมะอยู่ไม่ต่ำกว่าเจ็ดถึงแปดคัน
รวมถึงรถkiaบรรทุกหกล้อใหญ่ๆด้วยค่ะ ซึ่งที่ๆเค้าเอารถไปจอด
ก็เป็นของชาวบ้านหลังอื่นๆที่เค้าไม่มีรถค่ะ
เมื่อปี41 ที่บ้านเรามีรถคันแรกก็เลยเอามาจอดเก็บในบ้านตึกสี่ชั้น
เพราะบ้านที่อยู่สองชั้น จอดรถไม่ได้
ปรากฎว่าเซ็งค่ะ พี่ชายขับมาจะเอารถไปเก็บก็เข้าบ้านไม่ได้
ข้างบ้านเอารถมาจอดปิดหน้าบ้าน แถมถนนมันเอียงเข็นก็ไม่ไป
บางทีก็ดึงเบรคมือในขณะที่บังหน้าบ้านเราไป1/3
พี่เราเลยต้องกดออดให้เค้ามาเลื่อน เค้าก็มาเลื่อนแบบไม่พอใจ
บอกบ้านอีกหลังเข็นมาเค้าไม่รู้เรื่อง วันหลังให้พี่เราเข็นกลับเองสิ
บางทีพี่กลับมาดึกๆใส่เสื้อนักศึกษาต้องมาเข็นรถฝุ่นเยอะๆ
เสื้อดำปิ๊ดปี๋ แล้วก็เอาเราไปนินทาว่ามากดออดรบกวนเค้าดึกๆ นอนผวาทุกคืน
ไอ้เราก็คิด "ขวัญอ่อนจริงนะพี่"
ต่อมาเมื่อสามปีที่แล้ว เราก็ย้ายมาอยู่ตึกสี่ชั้น ตกแต่งอย่างดีเลย
ออกแบบอย่างที่เคยคิดไว้ตอนเด็กๆ
ส่วนหลังบ้านเราก็เลยเอาต้นไม้ที่อยู่หน้าบ้านเดิมมาวางไว้
เพราะบ้านเดิมไม่มีใครอยู่ ไม่มีใครรดน้ำต้นไม้ กลัวว่าจะเฉา
หน้าบ้านตรงมิเตอร์ประปาเราก็ก่อปูนรอบๆเอาไว้
เนื่องจากตอนที่ยังไม่ได้มาอยู่ รถบ้านโกดังรองเท้าถอยมาจอดหน้าบ้านเราแล้วชนแตก
น้ำพุ่งออกมาไม่หยุด เค้าก็ไม่มาบอกเราด้วย
ต้องเป็นบ้านหลังอื่นมาบอก ซ่อมไปสองครั้ง ประตูเหล็กหน้าบ้านยุบไปสองครั้งเช่นกัน
ซ่อมไปหมื่นกว่าบาท
พอเราทำแบบนี้เค้าหาว่าเราเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจกับเพื่อนบ้าน
รถเค้าจอดยากขึ้น (ยากตรงไหน แค่ก่อออกมาสองนิ้ว)
มีปัญหากันอย่างนี้เรื่อยๆ แต่ไม่เคยฉะกันซักที
แต่เค้าฉะกับคนในซอยไปสี่หลังแล้วค่ะ ก็เรื่องที่จอดรถเนี่ยแหละ
บางบ้านก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนกับเค้าค่ะ ร้านรองเท้ายังยืนชี้หน้าด่าแม่อีกบ้านเลย
บางบ้านที่แม่เราคุยด้วยเค้าก็บ่นแบบนี้เหมือนกัน
บอกทะเลาะกับบ้านรองเท้าทีไร พี่แกมีคนงานผู้ชายตามหลังมาเป็นพรวน
ประมาณล้อมกรอบเค้าเลย บอกบ้านเราถ้ามีเรื่องก็ให้ระวังตัวด้วย
แถมมีคนนึงอยู่ในซอยข้างในเป็นร้านทำผม
ไม่รู้จักกันแต่เค้าเดินมาทักแม่เราตอนที่มีคนเอาเกลือมาใส่กระถางต้นไม้หลังบ้านเรา
แม่เราก็เขี่ยเกลือออกมา คนนั้นก็มาทักว่า เจ๊ ทำไรคะ
แม่เราก็เล่าให้ฟังว่ามีคนแกล้ง เค้าบอกว่าใจร้ายจังนะ
เค้าก็เล่าว่าแต่ก่อนเค้าอยู่ตรงข้ามบ้านเรากะบ้านรองเท้า
แล้วโดนบ้านรองเท้าแกล้งประจำ โดนด่าอีก
เพราะสะใภ้บ้านรองเท้าขึ้นชื่อว่าปากร้ายมาก ด่าเป็นชุด
ตัวเจ้าของบ้านรองเท้าเค้าก็แกล้งเอาของมาวางเกะกะให้เราเอารถเข้าออกยาก
(เนื่องบ้านขณะนี้เค้ากว้านซื้อบ้านอีกข้างขนาบเราไปแล้วค่ะ
ตรงข้ามก็ไปจอดปิดบ้านคนอื่นอีก เท่ากับว่าเราอยู่ตรงกลางพอดี เฮ้อ!)
บางทีคนงานเค้าก็ช่วยเอาของออกให้เราถอยได้ แม่เรากะเราก็ยิ้มขอบคุณให้
จนมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตัวเขยบ้านรองเท้าอายุต้องมีจะสี่สิบมาด่าเราตอนเราขับรถผ่านหน้าโกดังค่ะ บอกว่าวันหลังเลื่อนของออกเอง ไม่ต้องเรียกคนงานคนอื่นให้ช่วยนะเว้ย
พอเราหยุดรถถามว่ามีอะไรคะ แต่ในใจก็โมโหนะ ปรากฎว่าเค้าเดินเข้ามา
เมีย กะพี่เมียก็เสริมอยู่ด้านหลัง โห ด่าเราเป็นชุด แล้งน้ำใจ ด่าเราหยาบๆด้วย
เราก็บอกด่าคนอื่นดูตัวเองก่อนนะ ยิ่งด่าตามหลังเป็นขบวน
ตะโกนท้าให้เราลงมาจากรถ แต่พอดีมีรถมีร่าตามหลังมา
แถมบีบแตรด้วย เราเลยต้องออกรถไป
หลังจากนั้นสองวัน ก็มีคนเอาน้ำมันเหนียวๆมาเทใส่อ่างปลาหางนกยูงที่เลี้ยงไว้หลังบ้าน(นอกบ้าน)
แม่ก็ต้องมาตักออกอยู่นานกว่าจะหมด
วันต่อมาแม่เราไปเจอคนที่เป็นแม่ของบ้านรองเท้าอายุต้องมีเจ็ดสิบ
เค้ามาบอกแม่เราว่าลูกสาวลื้ออ่ะ นิสัยไม่ดี ร้ายมาก
มาด่าคนงานเค้าทั้งๆที่คนงานมาช่วยยกของออกให้เอารถออกง่ายๆ
ว่าเสือกยกออกให้เองไม่ได้ขอร้องซักหน่อย
แถมยังกลั่นแกล้งลูกเค้าที่แก่กว่าเราสิบกว่าปีว่า ว่าเรานั่งอยู่ในรถแท้ๆ
แต่ไม่ยอมเลื่อนรถให้ทั้งๆที่ลูกเค้าอุ้มเด็กตัวเล็กๆมาเข็นรถเราเพื่อที่เค้าจะได้เอารถออก
แถมอีกข้อหาคือขับรถแล้วทำอวดรวยชูคอขับรถ
(ไม่ได้อวดเลยค่ะ สูงไม่ถึง160 ก็ต้องยืดคอมองทาง
เพราะเค้าชอบเอากล่องรองเท้ากับรถเข็นมาวางไว้ริมทางก็เท่านั้น)
รี่ฟังแม่เล่าแล้วน้ำตาไหลเลย คือแค้นมาก ชั้นไม่ได้ทำซักอย่างเลย
ไม่ได้ทำเลยจริงๆ มีแต่โดนบ้านนั้นเอาเปรียบมาตลอด
เค้ายัดข้อหาแบบจริงจังมากๆ คือบอกว่าให้เอาคนงานเค้ามายืนยันได้เลย
เราคิดว่าถ้าเค้าไปเล่าให้คนอื่นฟัง เราคงดูไม่ดีไปเลย
เรื่องจริงใครจะไปกล้าด่าคนงานผู้ชายที่ช่วยเรา หน้าเค้าก็โหดมากๆด้วยอ่ะ555
คนงานเค้าเป็นผู้ชายตั้งหกเจ็ดคน เราเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบกว่าๆ ตัวเล็กจิ๊ดเดียว
ให้ไปยืนด่ากลุ่มคนงานก็ออกจะแรงไปนิด
แต่พอฟังแม่เล่าว่าเจ๊นั่นบอกว่าบ้านเราไม่มีสิทธิ์ตั้งกระถางต้นไม้ไว้หลังบ้าน
เพราะเป็นที่สาธารณะ เราอ่ะขำทั้งน้ำตาเลย
เพราะแนวเดียวกันไอ้บ้านรองเท้ามันจอดรถอยู่สามคันค่ะ
พ่อเราซึ่งใจร้อนมากๆ เค้ากลับบอกเราว่าอย่าคิดมาก ใครเป็นยังไงก็รู้อยู่แก่ใจ
ทุกวันนี้เวลาคิดก็ยังเซ็งๆอยู่ทุกครั้ง พ่อเราก็บอกว่าเค้าก็กำลังดูๆบ้านเดี่ยวใกล้ๆไว้
เพราะไปไกลมากไม่ได้ แม่ขับรถไม่เป็น พ่อก็ไม่ชอบขับรถ
เพราะหาที่จอดยากแล้วหงุดหงิดค่ะ เค้าอยากปลูกต้นไม้ตอนแก่ๆ
เราก็บอกว่าเผื่อบางทีจะเป็นทางออกที่ดีได้
แต่พ่อบอกว่าไม่เกี่ยวหรอก ตั้งใจอยู่นานแล้ว
แต่ติดที่แม่เราเป็นคนที่ชอบบ้านที่มีคนพลุกพล่านไปมาสะดวก
มีของขายเยอะๆ เค้าบอกกลัวตอนแก่จะไปไหนไม่ได้
แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้แม่ก็เริ่มจะเอนเอียงบ้างแล้ว
เรื่องที่เล่ายาวมานี่ คือไม่ได้เอาความดีใส่ตนแล้วโยนให้บ้านนั้นเค้าเลวนะคะ
แต่เจอแบบนี้เบื่อไปเลย เป็นความทุกข์ที่เห็นทุกวัน คือไม่ได้มีเรื่องทุกวัน
แต่ต้องผ่านบ้านรองเท้าทุกวันก็นึกเบื่อแล้วค่ะ
จริงๆคือไม่ได้กลัวนะคะแต่ไม่อยากให้เกิดเรื่องรุนแรง
เลยไม่ได้ออกโรงแบบจริงจัง ตั้งแต่มาอยู่ก็ไม่เคยออกไปจุ้นจ้านสร้างความรำคาญให้เพื่อนบ้าน
กลับมาจากร้านพร้อมพ่อกับแม่ ก็เอารถมาเก็บในบ้านแล้วปิดบ้าน แล้วขึ้นข้างบน เนื่องจากชั้นหนึ่งใช้เป็นที่จอดรถสองคัน แม่จะคอยเตือนว่าทำใจให้สบายๆ เอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นดีกว่านะ
เลยพยายามควบคุมจิตใจให้อย่าไปคิดค่ะ
[SIZE="7"]ขอบคุณเพื่อนๆที่รับฟังนะคะ
บ้านเป็นตึกแถวขายของเหมือนกันครับ
ไอ้เรื่องจอดรถขวางหน้าบ้านเนี่ย.............ประจำ
ขนาดคุณแม่ไปบอกข้างบ้านแล้วก็ ครับ ครับ
แล้วก็มาจอดขวางเหมือนเคย
หลังๆ โมโห เอารถมอเตอร์ไซด์ จอดปิดหน้า ปิดท้าย ล็อคคอรถด้วย
อยากเอารถยนต์ออก จัดการเอาเอง
แต่ห้ามมาชน มีเรื่อง
เหอะๆๆๆ
เหมือนกระทู้ระบายเลยอ่ะครับ
แต่น่าเห็นใจจัง คนข้างบ้านนิสัยแบบนี้
เฮ้ออออออออออออออออ.......
-*-
ทุเรศได้ใจมากเลยค่ะ จะสู้ก็กลัวปากสู้ไม่ได้ คนบ้านเค้าไม่มีคนที่มีจิตสำนึกดีๆสักคนเลยเหรอคะ?
เห็นใจจางเลยค่ะ แต่เหมือนเป็นหัญหาโลกแตก :rolleyes:
เห็นใจมากๆๆค่ะ ที่ร้านก็เหมือนกัน มีคนเดินเข้าห้องน้ำ เดินเข้าเดินออกโดยที่เห็นเรานั้งอยู่ไม่เคยขอสักคำ แถมยังเดินหน้าเชิดหน้าตาเฉย เซ็งค่ะ ทั้งๆที่ไม่ใช้ห้องน้ำสาธารณะเลย ไอเราก็ไม่เคยหวงนะค่ะ แต่ ควรที่จะขอหรือบอกกันบ้าง ก็ได้แต่ทำใจค่ะ
ขอให้คุณ จขกท ทำใจค่ะอย่าไปโกรธหรืออาฆาตเค้านะค่ะ มันจะเป็นเวรกรรมติดตัวเราค่ะ ให้อโหสิกรรมให้เค้าไปค่ะ อย่างเช่นเราขับรถผ่านหน้าบ้านเค้า เค้าด่าเรา หรือ เค้าทำขึงขังใส่เราให้เรา อโหสิกรรม ค่ะ อย่าโกรธให้นิ่งๆยิ้มๆเข้าไว้ พีเคเข้าใจนะค่ะว่ามันทำยาก แต่ต้องพยายามค่ะ เเล้วพวกเค้าจะแพ้ภัยตัวเอง ถ้าเข้าหาว่าเราโกหก สาบแช่งเราในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ (แต่เราอย่าไปสาบแช่งเค้านะ) ขอให้คุณ จขกท ยินดีน้อมรับเอาไว้ค่ะ และ พูดกลับไปว่า ในสิ่งที่จขกทเองหรือ พ่อ แม่ ครอบครัวก็ดี ไม่ได้ทำในสิ่งที่โดนกล่าวหาข้างต้น ก็ขอให้คำที่ด่าว่าสาบแช่งนั้นได้ตกไปเป็นของผู้ที่กระทำและใส่ร้ายเราค่ะ เดี๋ยวนี้เวรกรรมมันติดจรวดค่ะ ใครทำยังไงก็ได้อย่างงั้นค่ะ อย่าไปใส่ใจมาก มันจะทำให้เราเป็นทุกข์ ไม่มีความสุขกายสบายใจค่ะ ก่อนนอนสวดมนต์แผ่เมตตาให้กับเค้าหน่อย และ บอกเจ้าที่เจ้าทางที่บ้าน จขกท ให้ช่วยดูแลปกปักรักษาคุมครองบ้านและ คนในครอบครัวด้วยนะค่ะ
อย่าคิดมากนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ( สู้ๆๆๆนะ)
น่าเห็นใจนะครับ
ไปบอกตำรวจครับผมให้มาช่วยจัดการเลยครับ
อย่างนิคอะครับข้างบ้านนำหมาตัวใหม่มาเลี้ยงใหญ่มากๆๆๆ
เห่าตลอดคืน นอนไม่หลับเลยครับ
เลยโทรไปหาตำรวจเลยครับตอนนี้เงียบสนิท
แต่ก็มีเห่าบ้างแต่ไม่เหมื่อนแต่ก่อนและ
สู้ๆๆๆนะครับ
เข้าใจเลยค่ะ ปัญหาแบบนี้มันก็แปลกนะคะ อยู่ที่ไหนมันต้องมีสักบ้านที่เป็นแบบนี้ แปลกแต่จริง พี่น้ำก็เจอเหมือนกัน เอามาเล่าสู่กันฟัง นะคะ
ที่บ้านพี่น้ำที่เชียงใหม่ รอบๆบ้านเป็นสวนลำไย ชาวบ้านน่ารักมากๆ ยกเว้นข้างบ้าน
ขานี้เค๊ามีัญหาไปทั่วเหมือนกัน แล้วก็พยามหาเรื่องจามาเอาเงินที่พี่น้ำค่าโน้นค่านี่ประจำ
เช่นทางตำบลเก็บค่าลอกคู เพื่อให้น้ำไหลบ้านละ 400 ยายคนนี้ก็ไปบอกกำนันให้มาเก็บบ้านพี่ 1200 เหตุผลเพราะ อยากรวยดีนัก ดูเค๊าทำ แต่ก็ไม่มีใครจะเห็นด้วยนะคะ
ล่าสุด เอาขยะมาเผาหน้าบ้านพี่ ครั้งแรกเราก็เตือนไป ครั้งที่สอง เลยให้พี่ข้างบ้านอีกฝั่ง ที่เราจ้างเค๊าดูแลสวน ไปบอกว่าห้ามเผา หล่อนด่ากระจายบอกที่ดินนี้เป็นของหล่อน พี่เลยของขึ้นเลย เอาโฉนด พร้อมเอกสารรังวัด ไปให้กำนัน เรื่องของเรื่องเธอด่าใครก็ไม่มีใครว่างัยคะ บอกกำนันเอางัยเอากัน ชักทนไม่ไหวละ ไม่อยากมีเรื่องกะคนแก่ แต่ถ้าจามีละก็ เล่นไม่เลิกนะ
พอเราท้าให้รังวัด แกก็บอกให้มันแล้วกันไปละกัน ดู ดู หล่อนพูด กำนันเลยบอกให้เลิกสร้างปัญหาให้บ้านพี่ได้แล้ว วุ่นวายคิดแต่จาทำงัยให้ได้เงิน แต่แกก็ไม่เคยทำไรเราได้นะคะ
เที่ยวไปพูดกับบ้านโน้นบ้านนี้ ก็ไม่มีใครเค๊าเออ ออ ด้วย ตั้งแต่มีเรื่องไม่เห็นหน้าเลยค่ะ บางทีเล่นกับหมาหน้าบ้าน แกเห็นเรายังเดินไปทางอื่น ไม่กล้าแล้วล่ะค่ะ
เจอคล้ายๆกันเลยอ่าค่ะ...ประเภทเพื่อนบ้านระรานเนี่ย ของเราเปนจ๊บ้านเยื้องๆกัน
ใครไปมีเรื่องกับเจ๊มิได้ เจ๊โทรเรียกตำรวจตลอด แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ (บ้านเราขโมยขึ้น5ครั้ง ยังโทรน้อยกว่าเจ๊ -*-)
เรียกบ่อยจนตำรวจไม่มาค่ะ เซงเจ๊!!!
แล้วระยะหลังๆมาเนี่ย เจ๊ไปซื้อบ้านตรงข้ามกับบ้านเราไว้ กำลังบูรณะกะจะขายต่อ
บ้านเราก็กำลังซ่อมเหมือนกัน แล้ววันนึงคนงานมาเล่าให้คุณแม่ฟังว่า คนงานจะเอาน้ำอะไรไม่รุ้ค่ะ
ไปเททิ้งลงท่อที่หน้าบ้านซึ่งกำลังบูรณะของเจ๊ เจ๊มาโวยวายห้ามเท เพราะเปนท่อหน้าบ้านของเจ๊!!!! ไปเทบ้านอื่น ไป๊!
เอิ่มมม มันควรจะเปนของสาธารณะพอๆกับเสาไฟรึเปล่า?? ทีเจ๊มาระรานบ้านหนู ยังไม่เคยว่าซักคำ
คนแบบนี้ปล่อยไปเถอะค่ะ ให้บ้าไปคนเดียว แล้วคนอื่นๆเค้าจะรู้เองว่าจริงๆแล้วเปนคนยังไง
อย่างเจ๊ของเราเนี่ย ไม่มีใครในหมู่บ้านอยากคุยด้วยเลยค่ะ ทุกคนรุ้ว่าเจ๊บ้า!!!!!!
สู้ๆค่ะ ^^
ข้างบ้านเป็นอย่างนี้นี่เศร้าค่ะ
นี่ละนะ เค้าบอกว่าเพื่อนบ้านซื้อไม่ได้...
ใครซื้อบ้านแล้วได้เพื่อนบ้านดีนี่เหมือนได้ของแถมชิ้นใหญ่เลยอ่ะ
เราไม่เคบเจอแบบนี้น่ะคะ อนนี้แรงไปคะ >0< ตกใจเลย
เคยแต่บ่นๆลับหลัง
คิดไว้คะ ทำดีได้ดี ทำขุ่วได้ชั่ว
พี่เข้าใจอารมณ์เลยน้องรี่ ดีแล้วที่หาทางย้ายออกมาเหอะก่อนที่จะโดนข้อหา "ฆ่าคนตายโดยประมาณ" ฮิๆๆ :D
ไอ้เรื่องเพื่อนบ้านระรานเรานี่เจอเหมือนกันเลยค่ะ เคยอยู่ตึกแถวแต่เพื่อนบ้าน่ารักมากๆ เรื่องจอดรถก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน แต่พอมาอยู่บ้านใหม่ รั้วติดกันไอ้บ้านนี่แหละเปิดเพลงดังแมร่งเกือบทุกวัน กลางคืนก็เอาด้วย เราอยากอยู่สงบๆเนี่ยไม่มี มันอยู่บ้านเป็นไม่ได้ต้องเอาวิทยุมาเปิดนอกบ้าน แล้วพอเปิดดังไอ้เสียงเบสทุ้มๆมันสั่นสะเทือนเข้ามาถึงในบ้านแม้ว่าเราจะปิดหน้าต่างประตูหมดแล้วบวกบ้านเยื้องๆประเภทเดียวกัน ขากินเหล้าเมายาเปิดเพลงร้องคาราโอเกะดังไปสามบ้านแปดบ้าน
บอกได้คำเดียวว่ารังเกียจมากๆ หน้ายังไม่อยากจะมองเลย เราเคยสุดทนเดินไปบอกตอนมันแด๊กเหล้าเม้าท์ปากหมาๆของมันนั่นแหละว่า 'ขอโทษนะคะหรี่เสียงวิทยุหน่อยเสียงมันดังรบกวนเข้าไปถึงในบ้าน' แบบเสียงสุดเหียดกรูเกลียดมรึง
มันก็แค่หรี่จริงแล้วมันก็เปิดดังๆอีก คิดแล้วอยากเอาปืนยิงข้อพับแขนขามือตีนให้พรุนแล้วเผาให้ตายวายวอดทั้งบ้านจะได้ไม่มาเปิดวิทยุเพลงห่วยแตกกระแทกโสตประสาทเราอีก แต่ก็ได้แต่คิดอะจ้า ไม่กล้าทำกลัวบาปกลัวกรรมและที่สำคัญกลัวติดคุก...เหอ เหอ
เฮ้อ! อยากร้องไห้.....อยากกลับไปอยู่บ้านเก่า แง...แง...แงหนูเกลียดไอ้บ้านเวรตะไลนี่มากๆ
โดนกันทั่วจริงๆด้วยอ่า
บ้านเอ๊ะฝั่งตรงข้ามเช้าๆชอบบบบบบบเหลือเกิน ไอ้ตะโกนคุยกันเสียงดังเนี่ย ได้ยินกันทั้งซอยอ่ะค่ะ เพราะซอยบ้านนี่เงียบมากๆ นานๆจะมีเสียงรถวิ่งผ่านซักคัน ส่วนมากตอนกลางวันออกไปทำงานกันหมด
เวลาเอ๊ะกลับไทยที อยากจะนอนสายๆก้อไม่ได้ มันต้องตะโกนคุยกันทุกเช้า เคยถามพ่อว่าเค้าทะเลาะกันเหรอ พ่อบอกว่าปล่าว แค่คุยกัน ตอนเที่ยงๆพวกคนงานลาวในบ้านนั้น คุยกันดังกว่านี้อีก ตอนเจ้านายไม่อยู่ หลังๆเลยใช้วิธีโทรเข้าไปบ้านนั้นเลยอ่ะค่ะ พูดเสยงเรียบๆ บอกไปว่า "เช้าๆอย่าตะโกนเสียงดังได้มั้ยคะ"หลังจากนั้นเบาลงเยอะเลยค่ะ คิดว่าคงรู้ตัว
บ้านข้างๆนี่ เลี้ยงลูกเล็กๆ กรี้ดเสียงดังมากกกกกกกกก แล้วเวลาร้องไห้นี่จะกรี้ดๆๆ เหมือนเด็กบ้าอ่ะค่ะ พ่อแม่ก้อไม่บอกใงยบ ปล่อยไว้จนกว่าจะเงียบไปเอง เคยโทรไปบ้านนั้น ตัวพ่อรับ เอ๊ะเลยถามว่า "ลูกเนี่ย เลี้ยงเองได้มั้ย อย่าให้ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านเค้า ถ้าเลี้ยงไม่ได้บอกมา จะโทรเรียกสถานสงเคราะห์เด็กให้" หลังจากนั้นเดือนนึง ย้ายออกไปเลยอ่ะค่ะ
ผมเคยทำมาแล้วได้ผล
คือเคยมีปัญหามากมายกับข้าร้านเพราะขายของเหมือนกัน มีแต่เรื่องกันเป็นประจำทุกวัน จนไม่รู้จะทำอย่างไง มีคนแนะนำก็เลยไปทำบุญถวายสังฆทาน แล้วอุทิศบุญให้ และทุก ๆ ครั้งที่เราทำอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นสิ่งดี ๆ หรือเป็นบุญกุศล ก็ให้นึกถึงเค้าด้วย ให้เค้าได้รับความดี หรือบุญที่เราทำด้วย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ มันก็มีเหตุให้เรื่องมันบรรเทาเบาบางลง หรือมีคนมาช่วยอะไรประมาณนี้ครับ แต่อย่างหนึ่งเวลามีเรื่องกันต้องทำเฉย ๆ ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเค้านะครับ จะได้ไม่เป็นกรรมกันต่อไป
พระท่านบอกว่า "ไม่รู้เราทำอะไรไว้กับเขา แต่ต้องเป็นสิ่งที่ไม่ดี ถึงต้องมารับวิบากในชาตินี้ ใช้กันไป อโหสิกรรมกันไป จะได้ไม่ต้องเจอกันอีก "
เข้าใจเลยค่ะ
เรื่องที่จอดรถเป็นปัญหาโลกแตกค่ะ....สู้ๆนะค่ะ
บ้านเราก็เป็นค่ะ เพิ่งย้ายมาอยู่บ้านใหม่เป็นตึกแถวเจอยายเจ๊โรคจิตอยู่ข้างบ้าน
ชนิดที่ว่าจอดรถเลยหน้าบ้านเค้าไปนิ้วนึงก็ไม่ได้ ทิ้งขยะเลยถังก็ไม่ได้
แถมที่บ้านยายเจ๊ยังเลี้ยงหมาพุดเดิ้ลปากเปราะที่เห่าทั้งวันอีก2ตัว ใบไม้ไหวพวกมัน
ก็เห่ากันแล้วอ่ะ เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเจ๊เป็นโรคประสาทชอบเรียกร้องความสนใจ
เพราะูถูกสามีทิ้งต้องเลี้ยงลูกเอง5คน ก็เลยอโหสิกรรมให้
เหอ เหอ อ่านแล้วนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองเลยค่า หลอนมั่กๆ ตอนเราสร้างบ้านหลังที่อยู่ปัจจุบัน ก็ไปอยู่ที่ทาวน์เฮ้าส์ของพ่อแม่เรา ก็มีบ้านหลังนึงที่อยู่ตรงข้ามแต่เยื้องๆบ้านเรา ชอบเอารถมาจอดขวางประตูหน้าบ้าน ย้ำนะคะว่าขวางประตูหน้าบ้าน พอหลายทีเข้า เราก็ทนไม่ไหว ตอนนั้นเราท้องอยู่ด้วย สามีก็กลัวว่า เกิดเราเจ็บท้องขึ้นมากลางดึกจะออกจากบ้านยังไง ก็เลยเดินไปบอกเค้าว่าช่วยขยับรถเลื่อนไปหน่อยได้ไหม โดยที่ไม่ขวางประตูบ้าน ซึ่งมันก็คือริมรั้วบ้านเราอีกน่ะแหละ เป็นไงรู้ไหมคะ ออกมากันทั้งบ้าน รวมกันประมาณ 6 คนได้ ตั้งแต่พ่อ แม่ ลูกอีก 4 คน (ไม่ใช่เด็กนะคะ แก่กว่าเราอีกอ่ะ) รุมด่าว่าสามีเราหน้าบ้านเราเลยค่ะ ว่าเห็นแำก่ตัว ไม่มีน้ำใจ ตอนนั้นงงมั่กๆ ว่าใครเห็นแก่ตัวกันแน่(วะ) จนอีกบ้านนึงต้องมาห้ามทัพ
เข็ดเลยค่ะ นึกในใจว่าชาตินี้จะไม่อยู่ทาวน์เฮ้าส์อีกเด็ดขาด อ้อ หลังบ้านก็มีคนมาจอดขวางประตูหลังอีกค่ะ แต่เราให้อภัย เพราุะไม่ค่อยได้ใช้
ทุกวันนี้สบายใจมากค่ะ เพื่อนบ้านดี ไม่มีปัญหา ไม่จิตตก
เห็นใจเจ้าของกระทู้มากค่ะ แต่คงทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ เพราะนิสัยหรือสันดานคน มันเปลี่ยนยาก แค่ผิดหรือถูกยังแยกไม่ได้เลยค่ะ ไปซื้อบ้านเดี่ยวอยู่เถอะค่ะ หาแบบที่สิ่งแวดล้อมดีๆ สงสารคุณพ่อคุณแม่ เดี๋ยวสุขภาพจิตเสียค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็น
ที่อ่านแล้วสบายใจขึ้นเยอะเลย นี่ก็คิดน้อยลงแล้วค่ะ
เห็นเพื่อนๆหลายคนก็เจอแบบนี้เหมือนกัน
ไม่งั้นอาจมีการฆาตกรรมข้างบ้านเกิดขึ้น อย่างที่พี่นีน่าบอก
ตอนนี้มัวคิดว่าจะไปปั๊มเงินที่ไหนมาซื้อกระเป๋าใบใหม่ดี 555
เข้าใจเลยค่ะ บ้านสามีที่กท. เหมือนกัน อยู่สาทร ที่ก็แพง แต่คนแล้งน้ำใจสุดๆ
บ้านเรา รถ สามคัน เลยจอดหน้าบ้าน อาแปะ และอาแปะ ก็อณุญาตแล้ว แต่พวกข้างบ้านมาบอกอาแปะว่าไม่ให้จอด
เกี่ยวอะไรกะเค้า รักษาผลประโยชน์ให้เค้ามากเหลือเกิน แล้วก็ชอบมาจอดรถปิดท้ายรถเรา
แล้วให้เราเข็นทุกที แล้วชอบมาเบ่ง มองหน้าแบบดูถูก ครอบครัวนี้เป็นหมอน่ะค่ะ โห สงสัย
คงจะเป็นหมอที่ เห้นแกตัว และเรียกค่ารักษาแพงมากๆ เพราะแค่จอดรถ ตรงข้ามแบบเฉียงๆน่ะ
บ้านเค้าเนี่ย ยังด่าเลย แถมกดออด เรียกมาด่าอีก ก็เจ้าของเค้าให้จอด แล้วเค้ามายุ่งไรอ่ะ
แล้วมองแบบดูถูก เหยียดหยามมาก โห ใครเค้ามีบ้านในนี้ เค้าไม่กระจอกหรอกค่ะ แต่ทำแบบว่า
ตัวเองนี้ ดูดี มีชาติตระกูล ฐานนะ ร่ำรวยมาก สูงส่งมาก เอาเลยค่ะ วันนั้นเราอยู่บ้าน เค้ามาด่า
แล้วจอดรถปิดเรา เราเปิดศึกเลยค่ะ อดมานาน ด่ากลับเลยค่ะ ว่าอย่าดูถูกคนอื่น อย่าอวดดี
อย่าคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น อย่าคิดว่าเจ๋ง อย่าคิดว่ารวย บ้านหลังใหญ่ แต่ก็เล็กกว่าบ้านสามี (ยัง
เบ่งได้) รถหรู ทำให้คุณดูดีหรือก็ ไม่ใช่ แล้วเราบอกให้เค้าไปแจ้งความว่าเราผิดตรงไหน ก่อนที่
จะมาปรักปรำเรา แล้วโกรธเกลียด อะไรบ้านสามีเราหนักหนา ให้ออกมาพูดกัน พ่อแม่ สามีเป็น
คนเฉยๆ ไม่ยุ่ง ไม่ด่า ไม่ว่าเค้ากลับเลย เสร็จงานนี้ ก็งานเข้าทันทีค่ะ เค้าสืบทันที ว่าเราเป็นใคร
ลูกสะใภ้ คนนี้มาจากไหน เฮ้อๆๆ พอรู้ทีหลัง วันหลัง ยิ้มปากแทบฉีก แต่ไม่คบค่ะ พวกไม่จริง
ใจ เอาใจช่วยน่ะค่ะ ไม่ไหว ก็ด่ากลับเลยค่ะ อย่าไปยอม
เล่ามั่งๆ ไม่ได้โดนระราน แต่ก็รำคาญนิดหน่อย
เราอยู่บ้านเดี่ยวค่ะ เพิ่งย้ายเข้าไปอยู่เมื่อสามสี่ปีที่แล้ว ตอนนั้นก็เพิ่งแต่งงานอ่ะแหละ บ้านก็ยังตกแต่งไม่ครบดี ประมาณว่าโล่งๆ 55
แล้วเราก็ทำห้องไว้เผื่อแม่สามี วันใดจะมาค้างอะไรเงี้ย (แต่จนบัดนี้ยังไม่เคยมา) เราก็ทำผ้าม่านแบบไม่ค่อยแพงมากเฉพาะห้องนี้ ก็มันไม่ค่อยได้ใช้ แบบว่าชอบผ้าอังกฤษ ตอนนั้นตีราคาทั้งหลังแล้วช็อก เลยทำสวยแต่ห้องที่จำเป็นไปก่อน
เราแต่งปุ๊บ เดือนต่อมาก็ท้องเลยค่ะ พอท้องเราก็หยุดตกแต่งบ้าน (แม่บอกว่าเค้าถือ) แม้กระทั่งหญ้า สามีก็ไม่เรียกคนมาตัด มันก็ยาวอ่ะนะ จนเราคลอด เราก็ไปอยู่บ้านแม่ แล้วสามีก็เวียนไปดูบ้านบ้าง
แล้วสามีก็มาบอกว่า ตอนกลับไปที่บ้าน ข้างบ้านมาคุยด้วย ประมาณว่า ค่าตัดหญ้าก็ไม่แพง ทำไมไม่ตัดสักที :confused: แล้วก้อ บ้านทำรถทัวร์เหรอ ผ้าม่านยังกะม่านรถทัวร์ :evil: :evil: อันนี้ดูหมิ่นนะฮ้า ที่เหลือน่ะผ้ามาจากอังกฤษนะฮ้า แต่ว่าเราให้เขาทำซับในไว้ด้วย ภายนอกจะเห็นเป็นสีขาว แต่ข้างในแจ่มนะฮ้า
แบบว่าเราเลยรู้สึกไม่ดีกะข้างบ้านนิดหน่อย ปากหนอปาก
ต่อมาสามีเลยเปลี่ยนผ้าม่านห้องแม่เขาค่ะ ประมาณว่าเสีย self
ตอนนี้ข้างบ้านเอารถกระบะมาจอดทุกคืนค่ะ คืนละ 3-4 คัน จอดที่แนวรั้วบ้านเขายาวมาถึงรั้วบ้านเรา เราก็ไม่ค่อยชอบแหละ แต่ขี้เกียจยุ่ง รถเราจอดในบ้าน ไม่ได้ใช้พื้นที่รั้ว เลยบริจาคให้เขาไป
ปล.บ้านตรงข้ามเราสิ ตอนนี้หญ้าขึ้นรก แถมทาสีไว้ตั้งแต่กลางปี จนตอนนี้ยังทาไม่เสร็จ :confused: ไม่รู้ทำไม นั่งร้านยังอยู่ครบ บ้านก็มีสองสีผ่ากลาง ทนได้ยังไงน้อ
อยากจะรู้ว่าข้างบ้านเราจะเม้นบ้านตรงข้ามเราว่ายังไง :p